Legend of the mythological genes - ตอนที่ 235
ตอนที่ 235 จัดการกับต้นตอของปัญหา
เมฆตัดผ่านอากาศอย่างเร่งรีบ เฟิงหลินยืนอยู่บนนั้น เสื้อผ้าของเขา
โบกสะบัดไปตามสายลมที่พัดผ่าน ในพริบตาท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสี
ขาวก็ถูกผลักไว้ข้างหลังเขา
เมื่อเขาไปถึงจุดหมาย เขาเห็นเงาสองร่างที่คุ้นเคย พวกเธอรอมาซัก
พักแล้ว
สวบ!
เมฆเร่งตัวและเขาก็เข้ามาใกล้ทำให้สองพี่น้องตกใจ พวกเธอตื่น
ตระหนกและผ่อนคลายเมื่อเห็นเฟิงหลินบนเมฆ
นี่มันความเร็วอะไรกัน!
เฟิงหลินดูเหมือนจะมาถึงภายในเสี้ยววินาทีจากการรับรู้ของพวกเธอ
สองพี่น้องไม่ใช่คนธรรมดาและรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเขา
“นายกลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงแล้วหรอ?” เพื่อคลายความสงสัย
ของเธอ แอริสถามอย่างรีบเร่ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความ
กระวนกระวายที่ควบคุมไม่ได้
เธอรู้สึกได้ถึงพลังงานหนาแน่นและแรงกดดันที่เปล่งออกมาจากเฟิง
หลิน ซึ่งทำให้ร่างกายของเธอตึงเครียด เธออดไม่ได้ที่จะมองเขาด้วย
ความเป็นปฏิปักษ์
ก่อนหน้านี้เฟิงหลินแข็งแกร่ง แต่ในฐานะคนที่เคยภูมิใจว่าตัวเอง
เป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง เธอจึงอดรู้สึกแย่ไม่ได้
ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในกลิ่นอายของเฟิงหลิน มีความ
เป็นไปได้สูงมากที่เขาได้กลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงแล้ว นั่นเป็น
เหตุผลเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกกดดันเช่นนี้
เฟินหลินยิ้มสดใส เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ยอมรับด้วยการเงียบ ไม่มี
ทางที่เขาจะเปิดเผยความก้าวหน้าของเขาเอง
ความสามารถของผู้บ่มเพาะระดับสูงนั้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ
ลักษณะเฉพาะของผู้บ่มเพาะแต่ละคน มันเป็นความลับที่พวกเขาไม่
ควรเปิดเผยง่าย ๆ
เฟิงหลินยิ่งมีเอกลักษณ์มากขึ้น ในกรณีนี้ เส้นทางของเขาคือเส้นทาง
ในตำนานของซุนหงอคง มันเป็นเส้นทางที่ไม่มีใครรู้นอกจากเขา
นี่เป็นไพ่ตายของเขา เขาไม่สามารถเปิดเผยมันได้
เมื่อมองแอริส เขาก็ยิ้มเล็กน้อย
มีครั้งหนึ่งที่เขาตกตะลึงกับสถานะผู้บ่มเพาะระดับสูงตั้งแต่อายุยัง
น้อยของเธอ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีอะไรมากในสายตาเขา
ด้วยการประเมินของเฟิงหลิน เขาพบว่าพลังของเธอควรจะอยู่ที่
ประมาณ 270 ซึ่งน้อยกว่าของเขาเล็กน้อย
ถึงกระนั้นแอริสก็เป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงมาเป็นเวลานานแล้ว
สำหรับเฟิงหลินที่เอาชนะเธอได้ง่าย ๆ นั้นเป็นเพราะการสะสมพลัง
ตอนยังเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว เขาใช้เวลานานในการทำลายคอขวด
ของพลังเขา ดั่งที่พวกเขากล่าวว่าการเตรียมการที่ดีเป็นกุญแจสู่
ความสำเร็จ แม้ในฐานะผู้บ่มเพาะระดับสูง เขาก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้
อ่อนแอที่สุดอีกต่อไป และเป็นนักสู้ชั้นแนวหน้าในระบบสุริยะ
นอกจากนี้สิ่งที่เขาปลุกขึ้นนั้นคือยีนลิงหินวิญญาณขั้นสมบูรณ์ พลัง
ของมันเหนือกว่าทุกยีนในระดับหลุดพ้น
คำว่า “ราชาแห่งระบบสุริยะ” อยู่ในมือของเขาแล้ว
สองพี่น้องมองหน้ากันทันทีหลังได้ยินคำตอบของเฟิงหลิน ไม่ว่า
พวกเธอจะมีเหตุผลและใจเย็นแค่ไหน พวกเธอก็ยังตกตะลึงกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้พวกเธอเพียงแค่หยิบเกลือมาจิ้ม แต่เฟิงหลินมองหาโอกาส
ที่จะข้ามไปได้
เฟิงหลินติดอยู่มานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงข้ามอาณาจักรได้ทันที
หลังจากที่รู้วิธีจากเธอ ?
พวกเธอคิดว่าเฟิงหลินติดอยู่นานจนเขาอดใจไม่ไหวแล้วลองดู ตอนนี้
เขาควรยังอยู่ในช่วงการประเมินสภาพ เวลาเพิ่งผ่านไปไม่นาน แล้ว
เขาจะประสบความสำเร็จได้ยังไง?
ความล้มเหลวยังเป็นไปได้มากกว่า!
แต่ …
เฟิงหลินกลับประสบความสำเร็จ มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
แม้ว่าจิตใจของยานาจะละเอียด แต่ตอนนี้เธอกลับดูว่างเปล่า สิ่งนี้
เกินความคาดหมายของเธอโดยสิ้นเชิง
เฟิงหลินยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อยานาได้สติ เธอก็ปรับความคิดอย่างรวดเร็ว “มาตามล่าหาราชินี
สัตว์ผิดปกติกันต่อเถอะ! ฉันเลือกสถานที่มานานแล้ว มันเป็นรังเล็ก ๆ
ในระยะ 500 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือ! คราวนี้เราจะ…”
“เดี๋ยวก่อน!” เฟิงหลินเข้ามาแทรกแซง ตัดคำพูดของเธอ
ยานาอ้าปากค้างเล็กน้อย ด้วยความไร้เดียงสามันทำให้เธอดูบอบบาง
“นายจะคืนคำหรอ?” แอริสตะคอก เธอคิดว่าเฟิงหลินกำลังใช้
โอกาสนี้ทิ้งพวกเธอหลังจากเขากลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง
“เธอเข้าใจผิดแล้ว” เฟิงหลินมองผ่านความคิดของเธอและยิ้มอย่าง
ขำขัน
“แล้วนายหมายถึงอะไร?” ยานาถามเบา ๆ
“ฉันแค่คิดว่าสิ่งนี้ไม่ได้ผล” เฟิงหลินกล่าวอย่างชัดเจนและเธอก็อด
ไม่ได้ที่จะเห็นด้วย
“นายหมายถึง?”
“ใช่แล้ว!” เฟิงหลินพยักหน้ายืนยันความคิดของเธอ “ฉันเป็นผู้บ่ม
เพาะระดับสูงแล้ว และพลังการต่อสู้ของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก การ
ล่าราชินีรังขนาดเล็กจะไม่มีความท้าทายอะไรอีก! นอกจากนี้มันจะ
เป็นเรื่องง่ายสำหรับคนอื่น ๆ ที่จะได้คะแนนเท่าเราถ้าเขาทำเหมือน
เรา เราควรไปล่าราชินีขนาดกลาง!”
ราชินีขนาดกลางนั้นเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะระดับสูงขั้นกลางที่มีพลัง
อย่างน้อย 300 มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูความมุ่งมั่นของเฟิงหลิน พวกเธอก็กลัวว่า
หากพวกเธอไม่เห็นด้วยเขาจะถือว่าพวกเธอเป็นภาระที่รั้งเขาไว้
“ก็ได้!” ยานาอาจอ่อนแอ แต่เธอมีนิสัยที่เด็ดขาด เธอเห็นด้วยทันที
“พี่…” แอริสตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง
รังแม่ขนาดกลางนั้นอันตรายมากกว่ารังขนาดเล็ก มันไม่ง่ายอย่างที่
คิดหรอก
ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนเช่นนี้ เธอไม่มีความมั่นใจในการรักษา
ความปลอดภัยให้พี่สาวของเธอ
เมื่อเข้าใจสถานการณ์ เฟิงหลินก็ยิ้มเบา ๆ “ไม่ต้องกังวล!”
มันเป็นเพียงราชินีระดับกลาง มีพลังที่ไม่สามารถเทียบกับเขาได้ มี
อะไรที่ต้องกลัว?
ยานาหายใจเข้าลึก และตัดสินใจที่จะไม่ถอย ด้วยความมั่นใจจาก
คำพูดของเฟิงหลิน มันทำให้เธอทำได้เพียงไว้ใจเขาเท่านั้น
เมื่ออ่านท่าทางวิตกกังวลของสองพี่น้อง เฟิงหลินก็อดหัวเราะไม่ได้
แต่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่นาน ยานาก็ยืนยันตำแหน่งของรังแม่ขนาดกลางได้
“ไปกันเถอะ!” เฟิงหลินเริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเล พร้อมกับผู้หญิง
สองคนบนเมฆ ผลักไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนถึงปลายทาง
ลมพัดกระหน่ำแหลมคมราวกับมีดมาฟันหน้า
ความเร็วที่ทั้งสามเคลื่อนไหวเกินกว่าจินตนาการ สร้างสิ่งกีดขวางที่
เหมือนกระสวยอวกาศในอากาศ มันเร็วมาก แต่เงียบจนไม่มีเสียง
นี่เป็นตัวอย่างของความเร็วเหนือเสียง
สองพี่น้องมองหน้ากัน พวกเธอรู้สึกทึ่ง แต่ก็ยังคงนิ่งเงียบ
ไม่นานนักถ้ำยักษ์ก็ปรากฏตรงหน้า มันดูเหมือนหลุมขนาดใหญ่
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ตกลงไปจะไม่มีทางออกมาได้ มันให้กลิ่นอายน่า
ขนลุกทำให้ผู้อื่นกลัวเพียงแค่เข้ามาใกล้
หวืออ!
เสียงหวีดของลมหนาวก็แผดเสียงโหยหวนจากภายในหลุมอย่าง
ต่อเนื่อง
พวกเขาสามคนเข้ามาใกล้ถ้ำและเห็นกลุ่มสัตว์ผิดปกติที่เดินออกมา
ทันที พวกมันมีกันสี่ตัวดูอันตราย
มันเป็นกลุ่มสัตว์ผิดปกติ แต่ละตัวมีรูปแบบและเติมเต็มซึ่งกันและ
กัน ดูมีอำนาจการต่อสู้ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง
ดูจากหน่วยลาดตระเวนประจำวันนี้ สามารถบอกได้ว่ารังแม่กลาง
นั้นแตกต่างอย่างมากกับรังแม่ขนาดเล็ก ๆ ความปลอดภัยของมัน
แน่นหนามาก
โดยสัญชาตญาณ พวกเขารีบซ่อนตัว เฟิงหลินประเมินสัตว์ผิดปกติ
ด้วยแสงแปลก ๆ
“การรักษาความปลอดภัยของรังแม่ขนาดกลางนี้แน่นหนาเกินไป!
มันยากสำหรับเราที่จะแทรกซึมเข้าไป ดูจากสัตว์ผิดปกตินี้ เราสามารถ
บอกได้ว่าพวกมันแข็งแกร่ง ถ้าเราต่อสู้และสร้างความโกลาหลมาก
เกินไป ฉันกลัวว่ารังแม่จะพบความผิดปกติก่อนเราสามารถจัดการ
กับพวกมันได้ จากนั้นเราอาจถูกคลื่นพวกมันโถมใส่…” แอริสพูด
ด้วยเสียงต่ำรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ชักไม่เข้าท่า เธอมีประสบการณ์
มากมายในการต่อสู้และสามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้
ยานาขมวดคิ้วเช่นกัน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้แม้จะไตร่ตรอง
อย่างลึกซึ้ง เธอมองเฟิงหลิน
เนื่องจากเขาเป็นผู้ตัดสินใจมา เขาจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง?
พวกเขาควรดื้อดึงไปต่อ เสี่ยงต่อความสิ้นหวังหรือถอยกลับ?
…
แต่เฟิงหลินกลับหัวเราะเบา ๆ “เข้าไปข้างในกันเถอะ!”
“เข้าไป?” แอริสตกใจ “นายบ้าหรือเปล่า?”
“มันจะยากขนาดไหนกัน?” เฟิงหลินหัวเราะเบา ๆ ทันใดนั้นดวงตา
ของเขาก็ส่องประกายในขณะที่เขาบัญชา “แปลงร่าง!”
นิ้วมือส่งพลังงานลึกลับที่มองไม่เห็น แต่ปกคลุมไปด้วยพลัง
พี่น้องชาวกรีกกำลังจะคัดค้านแต่รูปร่างหน้าตาของพวกเธอกลับ
เปลี่ยนไปก่อน พวกเธอจ้องมองการเปลี่ยนแปลงของกันและกัน
พวกเธอกลายเป็นสัตว์ผิดปกติน่าเกลียดสองตัว
“เกิดอะไรขึ้น?” ปกติพวกเธอมักจะสงบและไม่ถาม แต่ครั้งนี้พวก
เธออดไม่ได้ที่จะถามด้วยความตกใจ
พลังการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดนี้ พวกเธอไม่เคยได้ยินมา
ก่อน
ถึงอย่างนั้นเฟิงหลินก็ไม่คิดตอบคำถามเหล่านั้น
สัตว์ผิดปกติได้ยินเสียงชัดเจนมาก และเสียงของพวกเขาก็ดึงดูด
ความสนใจของพวกมัน สายตาสองคู่จ้องมองกวาดไปทั่ว และจมูก
ดำของพวกมันก็ส่งเสียงฟุดฟิดสูดดมราวกับว่าพยายามที่จะจับกลิ่น
แปลกปลอมในอากาศ รูปร่างหน้าตาของพวกมันดุร้ายและไม่เป็น
มิตร ขณะที่พวกมันสำรวจไปทุกทิศทุกทาง
“ชู่ว!” เฟิงหลินทำท่าทางให้เงียบ ผู้หญิงสองคนเปลี่ยนร่างเป็น
หน่วยลาดตระเวนปกติ
“ตามฉันมา!” เขาสั่งเสียงต่ำแล้วเดินนำออกไปก่อน สองสาวไม่รู้ว่า
เขากำลังวางแผนอะไร แต่พวกเธอก็ติดตามเขาไปด้วยความสับสน
(นี่มันบ้าชัด ๆ ! ทำไมเราถึงร่วมมือกับคนบ้าแบบนี้ด้วย)
…
สัตว์ผิดปกติมองพวกเขาที่เดินเข้าไปใกล้
แต่เฟิงหลินก็ไม่เกรงกลัว เขากลับเดินหน้าต่อไป
หน่วยลาดตระเวนมองพวกเขาและสูดดมกลิ่น
เฟิงหลินขมวดคิ้ว เปิดปากที่น่าสยดสยองเต็มไปด้วยฟันคมกริบและ
ปล่อยเสียงแหลมรุนแรง กรงเล็บทั้งสองของเขากระแทกกับเกราะที่
หน้าอกของพวกมัน การกระทำของเขาดูคล้ายกันมากกับสัตว์ผิดปกติ
ทำให้ยากที่จะแยกแยะระหว่างของจริงหรือของปลอม
นี่เป็นเสียงร้องแสบแก้วหูและลักษณะที่น่าประทับใจของสัตว์ผิดปกติ
ระดับสูง
เมื่อได้ยินเสียงของมัน สัตว์ผิดปกติทั้งสองก็รีบหมอบคลาน
เฟิงหลินเตะสัตว์ผิดปกติทั้งสองที่อยู่ใกล้ที่สุดกับเขาอย่างไร้ความ
ปราณี ส่งพวกมันลอยก่อนที่จะเดินหน้า
สองสาวทำหน้าประหลาดใจและเดินตามเขาต่อด้วยความหวาดกลัว
ในไม่ช้าพวกเธอก็พบเส้นทางสู่รังแม่ หลังพบกับเฟิงหลินแล้ว สัตว์
ผิดปกติเหล่านั้นดูเหมือนจะมองว่าเขาเป็นนักล่าและตัวสั่นเมื่อเห็น
เขา ไม่มีใครกล้าหยุดยั้งเฟิงหลินและสองพี่น้อง
รังแม่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอันตรายเหมือนสระมังกรและถ้ำเสือในสายตา
ของสองสาว ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นภัยคุกคามที่ว่างเปล่า
เมื่อเทียบกับความสับสนของแอริสและความตื่นตระหนก ยานากลับ
หายหวาดกลัวชั่วคราวและเริ่มไตร่ตรอง
นี่เป็นภาพลวงตาที่เขาพยายามสร้างด้วยความสามารถในการเปลี่ยน
ร่างหรือเปล่า?
เฟิงหลินไม่เคยแสดงทักษะการเปลี่ยนร่างเหนือธรรมชาติเช่นนี้มา
ก่อน นี่เป็นความสามารถที่เขาปลุกขึ้นมาหลังจากกลายเป็นผู้บ่ม
เพาะระดับสูงหรือเปล่า?
ด้วยระยะเวลาสั้น ๆ ในการสังเกตและด้วยความฉลาดของยานา เธอ
สามารถเดาความสามารถที่เพิ่มขึ้นของเฟิงหลินได้
เฟิงหลินไม่สนใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เช่นกัน
แม้ว่าเขาจะพัฒนาเป็นลิงหัวใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ยีนวิญญาณของ
เขาไร้ประโยชน์
เมื่อปลุกขึ้นมาแล้วยีนจะคงอยู่ตลอดไป และไม่มีใครสามารถกำจัด
ความสามารถได้
เขากระจายแรงวิญญาณของเขาไปรอบ ๆ เพื่อค้นหาโครงสร้างของ
รังแม่ขนาดกลางและได้ตำแหน่งที่แม่นยำของราชินี
เมื่อเทียบกับรังแม่ขนาดเล็กก่อนหน้านี้ โครงสร้างภายในของที่นี่มี
ความซับซ้อนมากขึ้นและใหญ่กว่ามาก แม้จะมีพลังวิญญาณของเฟิง
หลินในการกำหนดขอบเขตพื้นที่ เขาก็ไม่สามารถเข้าใจตำแหน่งที่
ถูกต้องได้ในเวลาอันสั้น
“ตามฉันมา!” เฟิงหลินใช้พลังจิตของเขาเพื่อชี้ทาง พุ่งไปข้างหน้า
เงียบ ๆ
สองสาวรีบตามไป
เป็นไปได้ไหมว่าเขาต้องการที่จะ…
เมื่อเห็นท่าทีของเฟิงหลินที่เดินไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ ยานา
สามารถเดาแผนของเขาได้แล้ว
สิ่งที่ทำให้ยากสำหรับเธอที่จะยอมรับก็คือเธอรู้ว่าเฟิงหลินสามารถ
ควบคุมการเคลื่อนไหวของพวกเธอได้อย่างเต็มที่หลังจากที่เขา
กลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง
สถานะของพวกเธอลดลงอย่างมาก กลายเป็นเพียงผู้ติดตาม
ดูเหมือนว่าเฟิงหลินจะไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปตามกลิ่นอายในอากาศ
พุ่งเข้าหาส่วนลึกสุดของรัง
สิ่งที่ยานาคิดนั้นถูกต้อง พวกเขากำลังจะจัดการกับรากเหง้าของปัญหา
โดยใช้กลยุทธ์ความแปลกใจและความเร็วในการลอบสังหารราชินี
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในปลายสุดของรังแม่ ภายในนั้นมี
สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอยู่ในถ้ำ มันมีรูปร่างเหมือนแมงมุมปีศาจและดู
เหมือนจะใหญ่กว่า 20 เมตร
“ฆ่ามัน!” เมื่อเห็นเป้าหมาย เฟิงหลินก็ไม่เสียเวลาลังเล ด้วยกระบอง
เหล็กในมือของเขา เขาหวนกลับคืนสู่รูปแบบดั้งเดิมของเขาและ
กระโจนไปข้างหน้า
บูม!
ในเสี้ยววินาที กระบองเหล็กก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นทวีคูณ มันกระแทก
ใส่ราชินีที่ไม่ทันตั้งตัว
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว เกราะที่แข็งแกร่งของราชินีแตกสลาย หลังจาก
ถูกจู่โจมด้วยกระบองเหล็กและเลือดก็เริ่มไหล
ราชินีขนาดกลางได้รับบาดเจ็บสาหัสและเริ่มส่งเสียงคำราม มัน
สะท้อนกับอุโมงค์ของรังแม่และไม่หยุดเป็นเวลานาน ราวกับว่าเธอ
กำลังเรียกอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้น รังแม่ขนาดใหญ่ก็เริ่มสั่นสะเทือน
ฝูงสัตว์ผิดปกติจำนวนมากเริ่มโจมตี จำนวนของพวกมันเพิ่มขึ้นเป็น
หมื่น สายตาของพวกพุ่งมาทำให้กระดูกสันหลังเย็นวูบ
“คุ้มกันฉัน!” เฟิงหลินสั่ง
ในขณะนั้นสองพี่น้องดูเหมือนจะเชื่อมต่อกระแสจิตกับเฟิงหลิน ทิ้ง
ความคิดอื่นทั้งหมดไป พวกเธอพลันลงมือ
รูปปั้นกลิ่นอายทรราช!
พลังกดขี่ของแอริสดูเหมือนจะรวมกันเป็นรูปปั้นครึ่งตัว ปล่อยแรง
กดดันหนักหน่วงออกมา
กำปั้นของเธอใหญ่เท่ากับภูเขาในขณะที่เธอโจมตีอย่างไม่ลดละ
ภายใต้การโจมตีที่ทรงพลัง สัตว์ผิดปกติถูกบดให้เป็นฝุ่นละเอียด
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ดวงตาของยานาทอประกาย แขนสีทองเรียวปรากฏขึ้นในอากาศ
อย่างเงียบ ๆ ยิงลูกศรออกไป ศัตรูล้วนถูกตัดเหมือนหญ้า ล้มลงกับ
พื้น
เฟิงหลินฉวยโอกาสและเริ่มกระหน่ำโจมตี เขาไม่ให้เวลาราชินีได้
พักหายใจ กวัดแกว่งกระบองเหล็ก สร้างเป็นวงแหวนของการโจมตี
ทำลายทุกสิ่งที่สัมผัสกับมันและไม่ปล่อยให้อะไรเล็ดรอดออกไป
ราชินีต่อสู้สุดชีวิต อวัยวะสืบพันธุ์ในกระเพาะอาหารของเธอสั่น
อย่างไม่หยุดหย่อน โดยหวังว่าจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอีกสัก
หนึ่งตัวและฉีกเฟิงหลินให้ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินจะมอบโอกาสนั้นได้ยังไง? ในชั่วพริบตา
กระบองเหล็กนับร้อยก็รวมเป็นหนึ่งขณะบดขยี้ใส่อวัยวะสืบพันธ์
ของราชินี มันร้องโหยหวนไม่หยุดและสิ่งมีชีวิตภายในก็ตายก่อนจะ
ได้เกิด
เฟิงหลินดีดตัวขึ้นอากาศ รวมพลังในชั่วพริบตาและเสยราชินีขึ้น
“ยืด!”
กระบองเหล็กยืดยาวไปตามทิศทางลมและทะลุผ่านยอดเขาพร้อม
กับร่างใหญ่ของราชินี ภายใต้การสัมผัสของดวงอาทิตย์ที่แผดเผามัน
แห้งและไม่นานก็กลายเป็นศพแห้ง
สัตว์ผิดปกติอื่น ๆ ในรังแม่ก็ถูกกำจัดเช่นกันเหมือนสายลมในฤดู
ใบไม้ร่วงที่กวาดใบไม้ร่วงหล่นลงมา
สัตว์ผิดปกติทุกตัวจะถูกนำไปนับเป็นคะแนน!
เฟิงหลินและสองสาวได้คะแนนทั้งหมด 176,800 คะแนนมาอย่าง
ง่ายดาย