Legend of the mythological genes - ตอนที่ 311 คนร้ายตัวจริง
Legend of the mythological genes – ตอนที่ 311 คนร้ายตัวจริง
เมื่อการตรวจสอบวิญญาณถูกนำมากล่าวถึง ปฏิกิริยาของผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับเฟิงหลินเขาไม่รู้สึกกลัวเลย แต่เฟอร็อตเห็นได้ชัดเลยว่าตื่นตระหนก
“ ด้วยความเคารพท่านผู้พิพากษาและสมาชิกคณะลูกขุน ทุกท่านต้องไม่เชื่อคนทรยศคนนี้!เขาพยายามใส่ร้ายผมเพราะเขาต้องการให้ผมตาย!”เฟอร็อตตะโกน
“เงียบ!” ผู้พิพากษาไม่ต้องการได้ยินเรื่องไร้สาระอีกต่อไป ดวงตาของเขาเย็นชา ขณะที่เขาจ้องมองที่เฟอร็อตในขณะนี้พลังวิญญาณของเขาแทรกซึมในพื้นที่ ทำให้แรงกดดันต่อเฟอร็อตเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกต่อไป
“กฎหมายความเป็นธรรมควบคุมศาลทหาร คนดีจะไม่เป็นคนผิดและคนผิดจะไม่อาจลอยนวล! ตอนนี้คุณไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการตรวจสอบวิญญาณ เราจะสามารถค้นหาความจริงได้ เนื่องจากมีคนทรยศ เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นจะไม่ไว้ใจมนุษย์ง่ายๆ พวกมันอาจทำอะไรบางอย่างไว้กับร่างกายของคุณอย่างแน่นอน แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการตรวจวิญญาณจะสูง แต่ตราบใดที่เราสามารถหาผู้กระทำความผิดได้ มันก็ถือว่าคุ้มค่า “เสียงของผู้พิพากษาดังออกมาดังก้องกังวานในศาล
เฟอร็อตรู้สึกว่าร่างกายของเขาอ่อนนุ่มเหมือนเขาทำมาจากโคลน เขาทำอะไรไม่ถูกเพื่อจะขัดขวางการตัดสินใจครั้งนี้
รอยยิ้มเย็นปรากฏบนใบหน้าของเฟิงหลิน
(ตอนนี้เราสองคนเป็นผู้ต้องสงสัย แต่แกยังต้องการที่จะใส่ร้ายฉันให้ได้?)
(คำพูดของแกไม่ใช่ปัจจัยในการโน้มน้าวใจมานานแล้ว แกแค่ต้องรอเวลาตาย!)
ผู้พิพากษาสั่ง “นำกระจกสามชีวิตมา” ในไม่ช้าประตูของศาลก็เปิดออก ทหารสองคนที่ดูแกร่งกล้านำกระจกโบราณเข้ามา กระจกสูงเท่ากับมนุษย์นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทหารอีกกลุ่มหนึ่งข้างหลังพวกเขา เมื่อเห็นมาตรการรักษาความปลอดภัยในการนำกระจกนี้มาที่นี่ ใครก็บอกได้ว่านี่ไม่ใช่วัตถุธรรมดา
“เอ๊ะ?” เฟิงหลินรู้สึกสับสนในใจ จริงๆแล้วเขาสามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายโบราณจากกระจกนี้ราวกับว่ามันมีชีวิตมานานหลายปี มันมีร่องรอยของเวลา
นอกจากนี้เขายังรู้สึกถึงกลิ่นอายที่คล้ายกันจากกระบองทองของเขา กระจกนี้เป็นสมบัติในตำนานโบราณอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตามกระจกนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักดูเหมือนว่ามันจะพัง
จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ มันมีความลับที่ไร้ขอบเขตและไม่มีที่สิ้นสุด
จากข้อเท็จจริงที่ว่ามนุษย์ระหว่างดวงดาวเพิ่งเริ่มการบ่มเพาะใหม่ พวกเขาจึงไม่มีทางที่จะสำรวจความลึกล้ำของจิตวิญญาณมนุษย์ได้
เทคนิคการตรวจสอบวิญญาณเป็นสิ่งที่เฟิงหลินไม่เคยได้ยินมาก่อน มันต้องเป็นหนึ่งในความสามารถของกระจกสามชีวิตนี้ ไม่น่าแปลกใจว่ามันจะไม่สามารถใช้งานได้ง่าย
เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่ากระจกนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หากศาลใช้มันบ่อยครั้งมันอาจแตกเป็นเสี่ยง ๆ
“เปิดใช้งานกระจกสามชีวิต!” ผู้พิพากษาสั่ง
“ครับ!” ทหารเหล่านั้นขานรับอย่างพร้อมเพรียง หลังจากนั้นพวกเขาก็ปลดผนึกและส่งพลังงานทางพันธุกรรมของพวกเขาออกมา ครู่ต่อมาลำแสงในอากาศปรากฏเป็นรูปแบบพลังที่ไหลเข้าหากระจก
เสียงก้องดังขึ้นราวกับกระจกกำลังตื่นจากการนอนหลับ แสงสลัวเปล่งออกมาห่อหุ้มเฟิงหลินและเฟอร์ร็อต
แสงนี้ไม่สว่างนัก แต่เฟิงหลินรู้สึกถึงความเย็นที่ไหลเวียนในร่างกายของเขา มันให้ความรู้สึกเหมือนการมีอยู่ของเขาในตอนนี้และช่วงชีวิตที่ผ่านมาถูกตรวจสอบ ไม่มีความลับใดซ่อนกระจกได้
จากแสงสลัวรูปร่างของวิญญาณมนุษย์สองคนค่อยๆปรากฏขึ้นเป็นรูปแบบทางกายภาพ
แสงสลัวยังคงปกคลุมพวกเขา ส่องเข้าไปในจิตวิญญาณของพวกเขา วิญญาณมนุษย์ที่มีรูปร่างค่อยๆเปลี่ยนจากผู้ใหญ่เป็นวัยรุ่นเป็นเด็กและกลายเป็นผงธุลีของแสงไฟที่ค่อยๆหลอมรวมเป็นลูกบอลแสง
ลูกบอลแห่งแสงนี้เป็นแหล่งกำเนิดของวิญญาณมนุษย์!
สำหรับเฟอร็อต สามารถมองเห็นการดิ้นรนบนใบหน้าของเขาได้ เขากำลังต่อต้านมันอย่างชัดเจน
โฮก!
อากาศสั่นสะเทือนและเกิดเสียงคำรามทำลายความเงียบสงบ เต็มไปด้วยความปราถนาที่จะทำลาย
“นี่มันอะไรกัน?”
“เป็นสิ่งมีชีวิตวิญญาณใช่หรือไม่?”
“นี่อาจเป็นรูปแบบของวิญญาณที่ต้องอาศัยอยู่ในร่างมนุษย์เหมือนกาฝาก”
…
เสียงอุทานดังขึ้นในศาล
ภายในลูกฤอลแสงจากจิตวิญญาณของเฟิงหลิน ลิงคลั่งดวงตาสีทองค่อยๆก่อตัวขึ้น เปลี่ยนจากลูกบอลแสง มันทุบหน้าอกของมันและยิงแสงสีทองออกจากตามัน
“นั่นไง! ทุกคนดูเร็ว เฟิงหลินเป็นคนทรยศ! นี่ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตวิญญาณแบบใหม่ … !” เฟอร็อตยังคงต่อต้านการตรวจสอบวิญญาณ เขาตะโกนเสียงดังเมื่อเขาเห็นโอกาส
อย่างไรก็ตามผู้คนจำนวนมากในศาลล้วนเป็นผู้อาวุโสหรือผู้ที่มีตำแหน่งสูงในมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพง ขอบเขตความคิดของพวกเขาย่อมไม่ตื้นตามธรรมชาติ พวกเขาไม่เคยเห็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวมาก่อนเลยหรือไง?ไม่มีทางที่พวกเขาจะเชื่อเพียงแค่คำพูดเดียวของเฟอร็อต
“ มีบางอย่างผิดปกติลิงคลั่งตนนี้อาจเผยความโหดเหี้ยมและเผด็จการ แต่มันก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพที่มีร่างกายที่ทรงพลังมาก มันไม่คล้ายกับรูปแบบวิญญาณ ซึ่งไม่มีตัวตน ไม่มีรูปแบบร่างกายเลยสักนิด! “
“นั่นจริง ฉันมักจะต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากเผ่าวิญญาณมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และฉันไม่เคยเห็นวิญญาณแบบนี้มาก่อน”
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องดูกันต่อไป ต้องมีความลับบางอย่างในตัวเฟิงหลินนี้”
…
แสงสลัวยังคงซึมลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของเฟิงหลินและภาพของลิงคลั่งก็ค่อยๆหายไป
“ดูสิมีความปั่นป่วนอีกอย่าง!” มีคนร้องอุทาน
ร่างวิญญาณของเฟิงหลินหวนกลับสู่แสงวิญญาณ ในช่วงเวลาต่อมามันกลับกลายเป็นความโกลาหลอีกครั้งภายในความโกลาหลสัญลักษณ์แปดเหลี่ยมปรากฏขึ้นและมนุษย์ที่มีหางงูก็ปรากฎออกมา ดวงตามันกำลังสำรวจทุกสิ่งในสวรรค์และโลก ร่างถูกปกคลุมด้วยเกล็ดมังกร”
“ภาพของฝูซี!” เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความตกใจดังออกมา
ฝูซีเป็นเผ่าพันธุ์จีนและได้รับการยอมรับว่าเป็นบรรพชนของตระกูลเฟิง เส้นทางในตำนานของพวกเขาได้รับการฟื้นฟูกว่า 50%
แต่พวกเขาเห็นภาพของฝูซีในตัวเฟิงหลิน จริงๆแล้วสิ่งนี้หมายความว่ายังไงกัน?
เฟิงหลินคนนี้มีนามสกุลเฟิง เขาเป็นทายาทของตระกูล?
มรดกที่แท้จริงไม่ใช่สิ่งที่เรียบง่ายจนสามารถถ่ายทอดได้ด้วยสายเลือด มันจะทิ้งรอยประทับไว้ที่วิญญาณของลูกหลาน!
ด้วยภาพของฝูซี ผู้ซึ่งดำรงอยู่ระดับสูงสุดในตำนานฮั่วเซียคอยปกป้องวิญญาณของเขา มันย่อมไม่มีผีร้ายหรือวิญญาณใดที่จะสามารถบุกรุกเฟิงหลินได้
จากจุดนี้เพียงอย่างเดียว มันเป็นไปไม่ได้ที่เฟิงหลินจะเป็นคนทรยศ
“เฟิงหลินกลับเป็นลูกหลานของฝูซี ดูเหมือนว่าเขาไม่ใช่คนทรยศแน่ๆ คนทรยศอาจเป็นเฟอร็อต ถ้าไม่ทำไมเขาถึงใส่ความเฟิงหลินซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ว่าฉันจะคิดยังไงเฟอร็อตก็ดูจะน่าสงสัยอย่างมาก “ความคิดของทุกคนที่นี่เปลี่ยนไป
เฟิงหลินมองภาพของฝูซีด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน
เขามีความเป็นอิสระอยู่เสมอ แม้ในชีวิตนี้เขาจะสืบเชื้อสายมาจากตระกูลบรรพชนเฟิง เขาก็ไม่เคยคิดที่จะพึ่งพาสิ่งใด
เขาไม่ได้คาดหวังว่าในท้ายที่สุดมันจะเป็นภาพของฝูซีที่ตราตรึงอยู่ในจิตวิญญาณของเขา ซึ่งทำให้ทุกคนลบข้อสงสัยในตัวเขาไป
สายตาที่แหลมคมหลายคู่กลายเป็นดาบหันไปหาเฟอร็อตราวกับว่าพวกเขาต้องการเจาะทะลุเขาให้ได้
“อะไรกัน?” เฟอร็อตรู้สึกว่าหัวใจของเขาสั่นเทา วิญญาณของเขาสั่นเทาและเขาไม่สามารถต้านทานพลังของการตรวจสอบวิญญาณได้อีกต่อไป
ชั้นของหมอกค่อยๆแตกจากภายในลูกบอลแสง สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายปลาหมึกยักษ์ปรากฏขึ้นและลอยไปรอบๆ เมื่อเห็นมนุษย์จำนวนมากจ้องมองมัน ปลาหมึกก็เปิดปาก
ปลาหมึกยักษ์นี้มีขนาดเท่าฝ่ามือของมนุษย์ แต่มันไม่มีรูปร่างและไม่มีสสารใดๆ เพียงแค่มองดูมันจะรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่แผ่ออกมา
“วิญญาณปรสิต!”
“เฟอร็อตป็นคนทรยศจริงๆ!”
“ช่างน่าสมเพช เราเกือบถูกเขาหลอกและอาจฆ่าอัจฉริยะที่แท้จริงของมนุษยชาติโดยไม่ตั้งใจ!”
…
ความโกลาหลเกิดขึ้นในศาลทหาร อารมณ์ของฝูงชนเป็นเหมือนเปลวไฟที่ต้องการเผาเฟอร็อตผู้ทรยศให้เป็นเถ้าถ่าน
เฟอร็อตหน้าซีดทันที เขาเป็นเหมือนปลาตาย
สายตาของผู้พิพากษาเปล่งประกาย เสียงของเขาดังเหมือนเสียงฟ้าร้อง
“เฟอร็อต แกปกปิดตัวเองได้ดี แต่แกคือทรยศที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ แกบังอาจสมรู้ร่วมคิดกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวมาทำร้ายอัจฉริยะของมนุษยชาติ!”