Legend of the mythological genes - ตอนที่ 390 รวมตัวครั้งแรก
ในวังเมฆหมอก บรรพชนเต๋าหงจุนนั่งอยู่ด้านบนและมีเบาะรองนั่งสำหรับการทำสมาธิเรียงรายอยู่ด้านล่าง
เฟิงหลินนั่งตัวตรงที่เบาะแรกนิ่งไม่ขยับ
เจ้าอ้วนได้นั่งที่สอง ตามด้วยสองพี่น้องชาวกรีกยานาและแอริส ตามด้วยยี่และซูหลี่ได้ที่นั่งที่ห้าและหกตามลำดับ
ทั้งหมดนี้เป็นสมาชิกของสมาคมยีนในตำนานปัจจุบัน
ทุกคนมารวมตัวกันครั้งแรก
ยานาและอีกสามคนจะจ้องมองเจ้าอ้วนเป็นครั้งคราว
อุปกรณ์ของผู้ชายคนนี้หรูหรามาก จนทำให้ทุกคนตาแทบบอด เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเพิกเฉยต่อเจ้าอ้วนได้
เขามีอุปกรณ์เสมือนจริงทุกประเภท
แต่ละชิ้นต้องเสียเหรียญดาราจำนวนมากมาย ไม่ใช่สิ่งที่จะหามาได้ง่ายๆ
เจ้าอ้วนดูเหมือนจะไม่สนใจพวกเขาเลย เขาเป็นใคร? เขาร่ำรวยแค่ไหน?
…
เขาไม่ขาดแคลนเงิน!
ไม่ว่ายานาและอีกสามคนจะสงบแค่ไหน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบกร่นด่าในใจ
เจ้าอ้วนยังคงภูมิใจ สำหรับเขาผู้ซึ่งมีดาวเคราะห์แห่งชีวิตเป็นของขวัญ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีค่าอะไรเลยอะไรเลย
สิ่งที่เขาแอบดีใจคือหลังจากผ่านไปหนึ่งถึงสองเดือน สมาคมยีนในตำนานได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
(นอกเหนือจากบรรพชนเต๋าหงจุน และสหายเต๋าหงอคง ฉันจู้เทียนกังถือได้ว่าเป็นอันดับสามในสมาคม)
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หัวของเขาก็ยิ่งเชิดสูงขึ้นไปอีก!
เขายื่นหัวไปด้านหน้าและถามเฟิงหลินเบา ๆ ว่า “สหายเต๋าหงอคง นายรู้ไหมว่าทำไมบรรพชนเต๋าหงจุนถึงเรียกให้เรามารวมตัวกันที่นี่ วันนี้?”
ยานาและคนอื่น ๆ ก็มองด้วยความอยากรู้อยากเห็น นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาก็อยากจะถาม
ไม่มีสัญญาณใด ๆ เลย ก่อนที่จะมีการเรียกการชุมนุมครั้งนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าเหตุผลมันคืออะไร
อย่างไรก็ตามเฟิงหลินยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับ “บรรพชนเต๋าหงจุนได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล หลังจากภัยพิบัติในสมัยโบราณจากกฎที่พังทลาย เหตุผลที่ท่านก่อตั้งสมาคมยีนในตำนานก็เพื่อที่เขาจะได้ไขความจริงที่อยู่เบื้องหลังภัยพิบัติในสมัยโบราณ ท่านต้องมีเหตุผลที่เรียกพวกเราทั้งหมดมาที่นี่อย่างแน่นอน โปรดรออย่างเงียบ ๆ รอดูเถอะ ท่านจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวังแน่นอน! “
เขาทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุนและเพิ่มสถานะของร่างโคลนบรรพชนเต๋าหงจุนเขา ทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นของทั้งกลุ่มได้สำเร็จ
ตอนนี้ร่างโคลนของบรรพชนเต่าหงจุนนั่งตัวตรงหลับตา โดยไม่พูดอะไรเป็นเวลานานมาก บรรยากาศเงียบสงบมาก
อีกห้าคนไม่ได้พูดด้วย สถานะของบรรพชนเต๋าหงจุนนั้นมีเกียรติมากเกินไป หากพวกเขาทำให้ท่านขุ่นเคืองอาจจบลงด้วยการสูญเสียโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเขาไป
ตอนนี้ทั้งห้าคนได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกภพ และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสมาคมยีนในตำนาน พวกเขาเข้าใจดีว่านี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะสามารถเข้าสู่สมาคมได้
อาคารและโครงสร้างจำนวนมากบนดาวตำนานซ่อนความลับเบื้องหลังอารยธรรมในตำนานโบราณ ซึ่งหลายแห่งสูญหายไป ตอนนี้สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดถูกนำเสนอต่อหน้าพวกเขา เพื่อศึกษาได้อย่างอิสระ
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าบรรพชนเต๋าหงจุน เข้าใจความลึกลับของการบ่มเพาะโบราณอย่างแน่นอนและเพียงแค่คิด มันทำให้พวกเขาหวาดกลัวอย่างมาก
หากเขานำสิ่งต่าง ๆ ไปสู่การปฏิบัติจริง ๆ จะมีผู้บ่มเพาะพลังระหว่างดวงดาวมากมายถือกำเนิดขึ้น!
พวกเขาต้องคว้าโอกาสดีๆนี้ไว้ให้แน่นหนา
จู้เทียนกัง ยานาและอีกสามคนไม่มีเส้นทางที่จะพัฒนา หรือมรดกที่สืบทอดมาได้สูญหายไป ดวงตาของพวกเขาทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างมาก
ด้วยความเข้าใจตำนานเท่านั้น พวกเขาถึงจะสามารถก้าวไปสู่เส้นทางการบ่มเพาะได้มากขึ้น
ความรู้มีค่าและความรู้ในตำนานก็ยิ่งมีค่ามากขึ้น นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอวกาศระหว่างดวงดาว และยังพบได้ในสมาคมยีนในตำนาน
ทุกคนต่างเก็บงำความคิดที่แตกต่างกัน ในที่สุดบรรพชนเต๋าหงจุนก็พูดขึ้น เขาเหลือบไปมองเฟิงหลินและอีกห้าคน
ทุกคนนั่งตัวตรง
“พวกเธอทั้งหกคนได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกภพแล้ว ฉันมีแบบทดสอบให้พวกเธอ พวกเธอแต่ละคนจะต้องจัดตั้งชมรมสะสมตำนานในมหาวิทยาลัยของแต่ละคน เพื่อช่วยฉันรวบรวมวัตถุในตำนานต่างๆ ฉันจะประเมินคุณค่าของวัตถุโบราณและให้ความรู้เกี่ยวกับตำนานที่เกี่ยวข้องกับพวกเธอหรือเปิดโอกาสให้พวกเธอถามคำถามเกี่ยวกับการบ่มเพาะของแต่ละคน… ยิ่งพวกเธอได้รับโบราณวัตถุในตำนานมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้สิ่งตอบแทนมากขึ้นอย่างเท่าเทียมกัน พวกเธอจะได้รับรางวัลอย่างดี!”
(ตั้งชมรมสะสมตำนาน?)
เจ้าอ้วน ยานาและอีกสามคนสบตากันและคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งพวกเขาไตร่ตรองมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าชื่อนี้มีความหมายลึกซึ้งมากขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกก็คือหลังจากบรรพชนเต๋าหงจุนพูดจบ เขาก็พูดอีกอย่างกับเฟิงหลิน”หงอคง เธอช่วยรับช่วงต่อและอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับชมรมสะสมตำนานให้พวกเขาฟังที!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากจุดที่เขานั่งอยู่
“สหายเต๋าหงอคงเกิดอะไรขึ้น? บรรพชนเต๋าหงจุนมีความหมายลึกซึ้งอะไรถึงต้องทำแบบนี้? ” เจ้าอ้วนถามอย่างใจจดใจจ่อ “ชมรมสะสมตำนานนี้มีประโยชน์อะไรบ้าง?”
“เฟิงหลินจุดประสงค์ของสิ่งนี้คืออะไร?” ยานาป็นตัวแทนของอีกสี่คนและถาม
(เฟิงหลิน?)
(ตัวจริงของสหายเต๋าหงอคงคือเฟิงหลิน!)
เจ้าอ้วนฉลาดมาก เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายทันที ราวกับว่าเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาเริ่มประเมินเฟิงหลิน
(แค่นั้นแหละ!)
(นี่ไม่ใช่เฟิงหลินหัวกะทิหน้าใหม่ในมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพง?)
(ถึงขนาดแซงตงหวงไท่ชูและออกัสตัส ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาเด็กใหม่!)
(สหายเต๋าหงอคงเป็นคนที่คอยช่วยเหลือบรรพชนเต๋าหงจุน ดังนั้นเขาต้องเป็นศิษย์โดยตรงของบรรพชนเต๋าหงจุน ไม่เช่นนั้นเขาจะออกมาจากระบบสุริยะอันแห้งแล้งได้ยังไง?)
โลกของระบบสุริยะเป็นต้นกำเนิดของตำนาน เนื่องจากบรรพชนเต๋าหงจุนได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลมาตั้งแต่สมัยโบราณ ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือเขาปรากฏตัวจากที่นั่น!
…
ความคิดมากมายผ่านเข้ามาในจิตใจของเจ้าอ้วน และดูเหมือนว่าเขาจะต้นเจอความจริงที่ซ่อนอยู่มากมาย แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยสิ่งเหล่านี้
เฟิงหลินไม่สนใจตัวตนของเขาที่เปิดเผยต่อหน้าเจ้าอ้วน
บัญชีหงอคงของเขาเป็นเพียงบัญชีที่เขาต้องแสดงให้คนภายนอกเห็น
การสวมหน้ากากเพียงอย่างเดียว คนเหล่านี้จะไม่สามารถบอกได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือบรรพชนเต๋าหงจุน
ดวงตาห้าคู่จ้องไปที่เฟิงหลิน รอการตอบกลับจากเขา
ยานาและคนอื่น ๆ เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นสมาชิกของสมาคมยีนในตำนาน แต่เฟิงหลินก็เป็นคนสำคัญเพียงคนเดียว เป็นไปได้มากว่าเขาเป็นศิษย์โดยตรงของบรรพชนเต๋าหงจุน เป็นคนที่มีสถานะดีและไม่เต็มใจที่จะพูดอะไรมาก
พวกเขาสามารถถามเฟิงหลินเกี่ยวกับรายละเอียดได้เท่านั้น
เฟิงหลินเป็นคนที่เรียกพวกเขามาและรู้โดยธรรมชาติว่าพวกเขาจะถามเรื่องนี้ เขาไม่ได้ทำให้คนอื่นสงสัยและยิ้มอย่างใจเย็น “ นี่คือภารกิจการประเมิน!”
“ภารกิจการประเมิน?เพื่ออะไร?” แอริสถามอย่างอดไม่ได้
เฟิงหลินตอบอย่างใจเย็น “ทุกอย่างในสมาคมยีนในตำนานจะต้องแลกเปลี่ยนโดยใช้แต้มสะสม หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจะมีการมอบแต้มสะสมให้ ทุกคนสามารถใช้เพื่อยกระดับการเป็นสมาชิกและได้รับสิทธิ์ที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแลกกับสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการบ่มเพาะ ยกตัวอย่างเช่นอาจเป็นยาเม็ดจากสมัยโบราณที่สามารถเพิ่มฐานการบ่มเพาะของพวกนาย ความรู้ในตำนานต่างๆหรือแม้แต่สมบัติโบราณ ทุกอย่างเป็นไปได้! “
“ยา?นายหมายถึงยาวิเศษในยุคตำนานที่ยาเม็ดเดียวสามารถทำให้มนุษย์บินได้หรือแม้กระทั่งนำพวกเขากลับมาจากความตายใช่ไหม?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที
“พวกมันไม่ได้เกินจริงขนาดนั้น! อย่างไรก็ตาม มันยังสามารถเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะได้สามถึงห้าเท่า!” เฟิงหลินเคยมีประสบการณ์นี้เป็นการส่วนตัวและมั่นใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทันทีที่เขาพูดสิ่งนี้ดวงตาของยานา แอริส ซูหลี่และยี่ก็เปล่งประกาย