Legend of the mythological genes - ตอนที่ 264
ตอนที่ 264 หมอผีและปีศาจ
เฟิงหลินจ้องที่หน้าจอโฮโลแกรมทั้งสอง ขณะที่เขาจมลงไปในการ
ไตร่ตรอง สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของสองพี่น้องชาวกรีก
“ทำไมนายถึงสนใจสองคนนี้” ยานาเดินเข้าไปถาม
เฟิงหลินพยักหน้า “ความสามารถของพวกเขาไม่เลวและพวกเขามี
ทักษะในรูปแบบการโจมตีระยะไกลและรูปแบบการระเบิดพลัง
ตามที่เรากำลังมองหา หากเราทำให้พวกเขามาอยู่ในทีมของเราได้
ความแข็งแกร่งโดยรวมของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
“อ๋อ” เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ยานาและแอริสก็มองตากัน ทั้งคู่รู้สึก
ตื่นเต้น
จากการตัดสินของเฟิงหลิน การวิเคราะห์ของเขาจะไม่ผิด
พวกเขายังค้นพบลักษณะเฉพาะของสองคนนี้เพิ่มเติม
ข้อแรกสำหรับชายหนุ่มที่ดูป่ าเถื่อนนั้นมีรอยสักทั่วร่างกาย เขาเท้า
เปล่าและสวมเพียงกางเกงหนังสัตว์ขาสั้นเท่านั้น เขาวิ่งบนที่ราบอย่าง
อิสระเหมือนกับเสือดาวล่าสัตว์ที่เต็มไปกลิ่นอายดั้งเดิมของป่ า
ชายหนุ่มมีธนูกระดูกขนาดใหญ่ในมือและยิงธนูออกไปอย่างรวดเร็ว
ศัตรูและสัตว์ร้ายที่ถูกลูกธนูพุ่งใส่ พวกมันจะแตกสลายจากภายใน
ราวกับว่าพวกมันถูกสาป นี่เป็นความสามารถที่แปลกประหลาดและ
น่ากลัวมาก
พลังของผู้ใช้คำสาป!
ดวงตาของเฟิงหลินเปล่งประกายในขณะที่เขาคิด
“อี้ ช่างเป็นชื่อที่แปลกจริง ๆ !” ยานาขมวดคิ้ว เธอมองหน้าด้วย
ความกังวลใจ เมื่อเห็นพลังประหลาดของธนู
รุนแรงมาก
นี่เป็นยุคของดวงดาวแล้ว แต่กลิ่นอายของบุคคลนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วย
ความดุร้ายประดุจนักรบในยุคดึกดำบรรพ์
แม้ว่าวิธีการโจมตีของเขาจะดูโบราณ แต่พลังที่เขาปล่อยออกมานั้น
น่ากลัวมาก
ยานาเป็นคนที่ใช้ลูกธนูด้วยเช่นกัน ดังนั้นเธอสามารถดูออกว่าการ
ยิงธนูของอี้นั้นแปลกประหลาดเพียงใด การโจมตีเป้าหมายอย่าง
แม่นยำในระยะ 100 ก้าวนั้นไม่แปลกเลย แต่เมื่อเสริมพลังคำสาปลง
ไป มันกลายเป็นรับมือได้ยากสุดขีด
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือความจริงที่ว่ามีกฎแปลก ๆ แทรกอยู่ในลูกธนู
เธอมีความรู้สึกเหมือนว่าตอนที่เขายิงลูกธนู ลูกธนูของเขาจะไม่
พลาดเลย ไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงลูกธนูของเขาได้
เธอใช้ทักษะแฮ็กเกอร์ของเธอเพื่อเจาะฐานข้อมูลของสมาคมการบ่ม
เพะ วิดีโอต่อสู้เหล่านี้นำมาจากนักเรียนที่เข้าร่วมในการสอบก่อน
หน้านี้ที่จัดโดยมหาวิทยาลัยเอกภพ
ศัตรูของชายหนุ่มคนนี้ล้วนเป็นผู้บ่มเพาะ
อย่างไรก็ตามภายใต้ลูกธนูของชายหนุ่มคนนี้ คนเหล่านั้นใช้วิธีการ
ทุกประเภท แต่พวกเขาไม่สามารถหลบลูกธนูได้เลยพวกเขาทั้งหมด
ตายอย่างสิ้นหวัง
มันอะไรกัน?
“น่ากลัว น่ากลัวมาก!”
จากนั้นยานาสูดหายใจเข้าลึก แล้วหันมามองหน้าจอโฮโลแกรมที่
สอง
ชายหนุ่มสวมหน้ากากสุนัขจิ้งจอกมีรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของ
เขา ร่างของเขาส่องแสงวูบวาบราวกับว่าเขาสามารถหลอมรวมเป็น
เงา ปราณสีดำปล่อยออกมาจากเขา
ร่างของเขาสง่างามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่แปลกประหลาด
ศัตรูทั้งหมดของเขาดูเหมือนจะถูกสะกดจิต การเคลื่อนไหวของ
พวกเขาช้าลงและสายตาของทุกคนมองดูด้วยความงุนงง
หลังจากนั้น เพลิงปีศาจดำก็ปะทุขึ้น มันเพิกเฉยต่อตรรกะทั้งหมด
และเย็นมาก มันแช่แข็งศัตรูของเขาให้กลายเป็นผลึกน้ำแข็ง
ดวงตาของยานาเปล่งประกายแสงสีทอง อย่างไรก็ตาม เธอก็ฟื้นสติ
และสีหน้าก็ดูราวกับเพิ่งเห็นผี
เธอเป็นผู้หญิง แต่เธอกลับหลงเสน่ห์ของชายคนนั้นถึงสองครั้งผ่าน
วีดิโอ?
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
ที่จริงแล้วเธอเริ่มสงสัยตัวเอง
เธอเป็นผู้หญิงแต่เสน่ห์ของเธอไม่สามารถเทียบกับผู้ชายคนนี้ได้?
แปลกประหลาด น่ากลัว!
…
สองสาวมีสีหน้าหนักใจ ในที่สุดก็ทำความเข้าใจกับแง่มุมที่น่ากลัว
ของผู้สมัครทั้งสองคนนี้
“ตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา ตรวจว่าพวกเขาเข้าทีม
อื่นหรือยัง” เฟิงหลินพูด
ยานาพยักหน้า นิ้วของเธอแตะที่ไมโครชิปและไม่นานเธอก็ได้รับ
ข้อมูล “ทั้งสองชอบอยู่คนเดียวและพวกเขายังไม่ได้เข้าร่วมทีมอื่น
เลย แต่อย่างไรก็ตาม … “
เมื่อพูดครึ่งทางเธอก็หยุด
“อะไร?” เฟิงหลินถามด้วยความอยากรู้
“มีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับพวกเขา” ยานาพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ
“สำหรับอี้ข้อมูลดังกล่าวระบุว่ามีทีมนับไม่ถ้วนเชิญชวนเขามาก่อน
แต่ถูกปฏิเสธทั้งหมด ฉันสงสัยว่าเขากำลังมองหาบางสิ่งที่เฉพาะ
เจาะจงหรือเขาแค่ชอบอยู่คนเดียว “
ช่วงเวลาพักผ่อนคือการอนุญาตให้ผู้สมัครสอบพักฟื้น รวมถึงให้
เวลาพวกเขาในการจัดตั้งทีม
อี้แข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสี่ถึงห้าวัน เขาก็ยัง
ไม่ได้เข้าร่วมทีมใด ๆ ควรมีเหตุผลจากสิ่งนี้
เฟิงหลินไม่สามารถเดาเหตุผลของพวกเขาได้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
เช่นกัน
สำหรับผู้บ่มเพาะ การบ่มเพาะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เขารู้ว่าความรู้ของเขาเป็นสิ่งล่อใจที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่เดินไปใน
เส้นทางหมอผีฮั่วเซียน ไม่มีรางวัลอื่นใดที่น่าดึงดูดยิ่งไปกว่านี้
เขากำลังจะบอกแผนของเขาและไม่กลัวว่าอี้จะปฏิเสธเขา
เฟิงหลินยิ้มด้วยความมั่นใจ
“แล้วคนที่สองล่ะ?” เขาถามอีกครั้ง
ใบหน้าของยานาเย็นชา “ซูลี่คนนี้ … ไม่มีใครเชิญเขาเลย เขาเป็นคน
โชคร้าย ตามข้อมูลที่ฉันมี ผู้ที่ต้องการรวมทีมกับเขาทุกคนเสียชีวิต
อย่างลึกลับเนื่องจากสถานการณ์เลวร้าย เขาคือศูนย์รวมของปัญหา”
โอ้?
ดวงตาของเฟิงหลินหรี่แคบลงเล็กน้อย น่าสนใจ!
แม้ว่าผู้สมัครสองคนนี้จะมีจุดที่แปลกมากมาย แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้
หากเขาเดาไม่ผิดทั้งสองน่าจะเดินบนเส้นทางหมอผีและเส้นทาง
ปีศาจ ศักยภาพของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่ หากเขาสามารถรับทั้งสอง
คนมาร่วมทีมได้ พวกเขาจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้มาก ทีม
ของพวกเขาจะเป็นเสือติดปีก
จากเทคนิคที่พวกเขาใช้ เฟิงหลินคิดว่าพวกเขาเดินอยู่บนเส้นทาง
ตำนานของโฮ่วอี้และเส้นทางในตำนานจิ้งจอกเก้าหาง สองคนนี้
แข็งแกร่งที่สุดในเส้นทางหมอผีและประเภทปีศาจ
หมอผีและปีศาจในเทพนิยาย และในตำนาน ทั้งสองกลุ่มเป็นศัตรู
กันโดยธรรมชาติ ความสามารถของพวกเขาแตกต่างกันมาก แต่
เพราะเป็นกรณีนี้ แหล่งที่มาของความสามารถทั้งสองจึงทำงาน
ร่วมกันได้ดีมาก มันเป็นเหมือนส่วนผสมที่ลงตัว
หมอผีอี้เป็นนักธนูอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเขาใช้อาวุธเย็น ธนูของ
เขาช่างน่ากลัวและมีความสามารถที่แปลกประหลาด ความสามารถ
ในการโจมตีระยะไกลของเขานั้นทรงพลังมาก
สำหรับปีศาจนั้น เขาแตกต่างกัน หางหนึ่งจากเขาสามารถสร้างเพลิง
ปีศาจได้ หมายความว่าเขาสามารถใช้พลังงานได้สามประเภท เขา
เป็นสายทำลายแน่นอน
พวกเขาสองคนสามารถเสริมทีมของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
“ให้ฉันลองสื่อสาร ฉันจะเชิญพวกเขาเป็นการส่วนตัว” เฟิงหลิน
ตัดสินใจ
“นายอยากเชิญพวกเขาหรอ? ต้นกำเนิดของพวกเขาแปลกไปหน่อย
ถ้านายเชิญพวกเขามาโดยไม่พิจารณาอย่างถี่ถ้วน เราอาจไม่รู้จัก
ตัวตนของพวกเขาดีพอ” ยานาแนะนำ
“ไม่ต้องกังวล ฉันมั่นใจ ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน ตราบใดที่
พวกเขามาร่วมทีมของเรา พวกเขาจะไม่กล้าทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม”
เฟิงหลินยิ้มเบา ๆ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจมาก
หลังจากทราบข้อมูลการติดต่อจากยานา เขาไม่เสียเวลาและเปิดใช้
งานไมโครชิพของเขาทันทีและส่งข้อความถึงทั้งสองคน
ความมั่นใจของเฟิงหลินมาจากไหน?
พวกเธอทั้งสองคนรู้สึกงงงวย
มีหลายคนที่พยายามเชิญชวนอี้ แต่อี้ยังไม่สนใจ
ทีมเล็ก ๆ ของพวกเขามีคุณสมบัติอะไรที่จะทำให้อี้ยอมมาร่วมด้วย?
ไม่ต้องพูดถึงซูลี่เลย เขาเป็นคนโชคร้ายที่นำความโชคร้ายมาให้คน
รอบข้าง
เฟิงหลินต้องการที่จะรับสมัครทั้งสองคนนี้ มันเป็นไปไม่ได้
พวกเธอสองคนไม่คิดว่าเฟิงหลินจะโชคดี พวกเธอรู้สึกว่าเขาจะ
ล้มเหลวอย่างแน่นอน
เฟิงหลินไม่ได้สนใจมากนัก เขายังคงเรียกดูข้อมูลของผู้สมัครคนอื่น ๆ
จากนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น
ผู้สมัครเหล่านี้เป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ซ่อนตัวจากสายตาของเฟิงหลิน
ส่วนเขาคือนักขุดทอง
ผู้ที่สามารถมีส่วนร่วมในการสอบของมหาวิทยาลัยเอกภพได้ย่อม
ไม่ใช่พวกกระจอก พวกเขาต้องผ่านการทดสอบมากมายเพื่อมาที่นี่
แต่ละคนล้วนมีศักยภาพสูง
อีกไม่นานเฟิงหลินก็พบผู้สมัครที่มีศักยภาพอีกคน
—–
ชื่อ : ตูกุยเหยา
อายุ : 18
ภูมิหลัง : สาธารณรัฐดาวฮั่วเซีย, ดาวเคราะห์ดินเหลือง
สถานะพลัง : 592
——
หน้าจอโฮโลแกรมแสดงภาพชายหนุ่มกล้ามโตที่มีผิวแข็งราวกับ
ก้อนหิน กล้ามเนื้อของเขาฟิตปั๊งและสูงกว่าสามเมตรคล้ายกับยักษ์
หิน หมัดของเขาต่อยออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน
อย่างรุนแรง
“พื้นดินกำลังสั่น อืม เขามีพลังแรงโน้มถ่วงและสามารถควบคุมดิน
และหินได้ในระดับหนึ่ง…” ดวงตาของเฟิงหลินเป็นประกาย วิดีโอ
สั้น ๆ นี้ทำให้เขาวิเคราะห์ความสามารถของยักษ์ตัวนี้ได้ ร่างกาย
ของเขาถูกหุ้มด้วยเปลือกหินที่มีความแข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ยัง
ช่วยให้เขาขุดอุโมงค์ผ่านพื้นดินได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่ง
โดยรวมของชายคนนี้ไม่เลวเลย
“ปู่ดิน? หรือตูซิงซุน” เฟิงหลินคาดเดาบางอย่าง ความสามารถไม่เลว
แต่ศักยภาพของเส้นทางในตำนานของเขาดูเหมือนจะต่ำกว่าเส้นทาง
ในตำนานของคนอื่น ๆ ไม่สามารถเทียบกับเส้นทางตำนานของโฮ่วอี้
หรือเส้นทางของจิ้งจอกเก้าหางในแง่ของคุณภาพได้
ถ้าเป็นเช่นนี้ในอดีต เขาอาจให้ความสนใจกับชายคนนี้ แต่ตอนนี้
เนื่องจากเขามีผู้สมัครที่ดีกว่าถึงสองคน เขาจึงไม่สนใจอะไรเกี่ยวกับ
ตูกุยเหยาผู้นี้มาก
สิ่งที่สำคัญคือความจริงที่ว่ายักษ์หินต้องใช้การโจมตีโดยตรง เส้นทาง
ดุร้ายและความรุนแรงซึ่งซ้อนทับกับความสามารถของแอริส
เฟิงหลินยังคงดูข้อมูลไปเรื่อย ๆ
มีอัจฉริยะที่มีความสามารถหลากหลายชนิดมากมาย
นอกจากนี้ในแง่ของเทพนิยายและตำนาน ระบบฮั่วเซียเป็นหนึ่งใน
สิ่งที่ซับซ้อนที่สุดในตำนานของมนุษยชาติ ระบบฮั่วเซียสามารถ
แบ่งออกเป็นนักเวทย์ เต๋า, เทพ, ภูตผีและปีศาจ …
แต่ละชนิดย่อยเหล่านี้มีความสามารถที่แตกต่างกันและมียีนทุก
ประเภทที่แยกออกจากแต่ละชนิด
ด้วยความสามารถในด้านเทพนิยายของเฟิงหลิน เขาสามารถเข้าใจ
ความสามารถของผู้สมัครเหล่านี้ได้อย่างคร่าว ๆ อย่างไรก็ตามเขา
ไม่สามารถได้รับข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้นอกจากเขาจะมี
ปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาเป็นการส่วนตัว
แต่ถึงกระนั้นเส้นทางในตำนานทั่วไปของพวกเขาก็ยังคงชัดเจน ไม่
ว่าในกรณีใดไม่มีผู้สมัครคนอื่นเทียบได้กับสองคนแรกที่เขาเลือก
ก่อนหน้า
เมื่อเขากำลังสืบหาเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมาจากข้างนอกและใกล้พวกเขา
มากขึ้นเรื่อย ๆ
“ใคร?” สองสาวรู้สึกงุนงง พวกเขาสามคนไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับ
คนอื่น ใครจะมองหาพวกเขา?
แต่เฟิงหลินรู้สึกอะไรบางอย่าง รอยยิ้มลึกลับปรากฏบนใบหน้าของ
เขา
พูดถึงปีศาจ ปีศาจก็มา!
แอริสเดินไปเปิดประตู และเขาก็เข้ามาอย่างไร้มารยาท
ชายคนนี้สวมเสื้อคลุมสีดำรอบตัว เขาเป็นชายร่างผอมแห้งและสูง
มากกว่าสองเมตร แขนของเขาที่เปิดเผยออกมาเผยให้เห็นผิวสี
บรอนซ์ที่มีรอยสัก ร่างกายของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลัง หลัง
โค้งงอราวกับว่าเขากำลังแบบกของบางอย่างอยู่ในเสื้อคลุม
“นายเป็นใคร?” ดวงตาของแอริสเต็มไปด้วยการต่อต้าน สัญชาตญาณ
การต่อสู้ของเธอทำให้เธอรู้สึกถึงการคุกคามที่รุนแรงจากชายผู้นี้
เธอเป็นเหมือนเสือตัวเมียที่พองขน
เขาตอบด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “เธอไม่ใช่คนที่เชิญฉันมาที่นี่หรือไง?”
ยานาขมวดคิ้วเธอส่งพลังจิตของเธอออกไป แต่ก็มีอุปสรรคบางอย่าง
ที่สร้างขึ้นโดยชายเสื้อคลุมดำ ทำให้เธอไม่สามารถอ่านความคิดของ
เขาได้
เธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เธอเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงและพลังจิต
ของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่เธอกลับล้มเหลวหรอ?
(คน ๆ นี้เป็นใคร?)
สองพี่น้องจ้องที่ชายหนุ่ม บรรยากาศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นทำลายความตึงเครียด
เฟิงหลินเดินเข้ามา “ไม่ต้องกังวลนี่เป็นแขกผู้มีเกียรติที่ฉันเชิญมา”
เขาไม่ได้สนใจท่าทางตกใจของสองพี่น้อง เขาเปิดเผยตัวตนของชาย
คนนี้โดยตรง “ถ้าฉันเดาไม่ผิด นายน่าจะเป็นอี้ใช่มั้ย?”
“นายคือเฟิงหลิน? นายรู้จักฉันมาก่อนหรือ?” เขาถอดเสื้อคลุมออก
เผยให้เห็นผิวสีบรอนซ์ ดวงตาของเขาเย็นชาและสายตาเขาก็เหมือน
เหยี่ยว แหลมคมเหมือนจะแทงเฟิงหลิน
มันเป็นอี้จริง ๆ
เฟิงหลินเชิญเขามาได้ยังไง?
จากข้อมูลที่เธอเห็น อี้ไม่เคยตอบรับคำเชิญของทีมอื่น ๆ เลย
สองสาวชาวกรีกมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเธอจะมีปฏิสัมพันธ์กับ
เฟิงหลินมานาน แต่พวกเธอก็ยังรู้สึกว่าเขาเต็มไปด้วยความลึกลับ
“ฉันไม่รู้จักนาย แต่ฉันรู้เส้นทางในตำนานของนาย” เฟิงหลินตอบ
คำถามของอี้
“… ” หลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง อี้ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ฉันจะไว้ใจนายได้ยังไง?”
“ฉันบอกไว้อย่างชัดเจนในอีเมล์ นายไม่เชื่อฉันเหรอ? ถ้าฉันเดาไม่
ผิด เส้นทางในตำนานของนายยังไม่สมบูรณ์ใช่มั้ย? ความรู้ที่นายมี
ยังไม่ถูกต้อง ถ้าฉันสามารถบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเส้นทางในตำนาน
ของนายได้ละ?” เฟิงหลินยิ้ม
พวกเขาทั้งสองประเมินกันและกัน
แอริสมีสีหน้าสับสน
ยานาดูเหมือนจะคิดบางอย่างออก ท่าทางของเธอเปลี่ยนไป
เธอคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอเจอเฟิงหลินเป็นครั้งแรก
เขาสามารถเดาเส้นทางในตำนานของเธอสองคนได้ในทันที
เป็นไปได้ไหมว่าเฟิงหลินนี้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องตำนานของยุค
โลกโบราณ
แม้ว่าเฟิงหลินจะพูดเปรยมากมาย แต่อี้ก็ไม่ตอบกลับทันที เขาขมวด
คิ้วก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันไม่เชื่อนาย แม้แต่เผ่าของ
ฉันก็ยังไม่มีบันทึกที่สมบูรณ์สำหรับเส้นทางในตำนานของฉัน ช่าง
มันเถอะ ไม่ว่าในกรณีใด คำพูดของนายจะจริงหรือไม่ฉันจะรู้ทันที
ที่เราต่อสู้กัน ถ้านายไม่สามารถเอาชนะฉันได้ มันจะเป็นไปได้ยังไง
ที่นายจะรู้เส้นทางในตำนานที่สมบูรณ์?”
ความปรารถนาที่จะต่อสู้ของเขาเผยให้เห็นบนใบหน้า เปล่งกลิ่นอาย
ความดุร้าย
(ท้ายที่สุดเขาต้องการต่อสู้กับฉัน?)
เฟิงหลินถอนหายใจเบา ๆ
อัจฉริยะเหล่านี้มีความภาคภูมิใจสูงส่ง มันไม่ง่ายเลยที่จะโน้มน้าว
พวกเขา แม้ว่าเฟิงหลินจะมีความรู้ที่มีค่าเกี่ยวกับตำนาน แต่ทุกอย่าง
ไร้ประโยชน์หากไม่มีใครเชื่อเขา
ระหว่างผู้บ่มเพาะ ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งเดียวที่วัดได้
หากไม่มีพลัง พวกเขาจะไม่มีสิทธ์ิพูด
เขาเชื่อว่าอี้จะไม่ต่อต้านเขาอีก หลังจากต่อสู้กัน
“ไม่มีปัญหา แต่รอก่อน” เฟิงหลินกล่าว
ยี่รู้สึกงุนงง “ทำไม?”
เฟิงหลินพูดต่อไปอย่างสงบ “เพราะมีอีกคนหนึ่งถูกเชิญมาด้วย
เช่นกัน”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นทันที
กลิ่นแปลก ๆ แทรกซึมอยู่ในอากาศเหมือนกับดอกไม้นับร้อยดอก
ทำให้วิญญาณถูกสะกดจิต
“มนุษย์กึ่งปีศาจ?” เสียงของอี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทำให้ทุก
คนตื่นจากสภาวะที่ชวนหลงใหล
“นักรบเวทย์?” เสียงที่มีเสน่ห์ราวกับเสียงระฆังดังขึ้น
ร่างที่สง่างามและอ่อนหวานพร้อมหน้ากากจิ้งจอกปรากฏขึ้นต่อ
หน้าทุกคน หางทั้งสามของเขาปรากฏขึ้นกระจายออกไปในอากาศ
ในขณะที่เขาจ้องตรงไปที่อี้
ความเกลียดชังระหว่างหมอผีและปีศาจมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ความ
เกลียดชังเกี่ยวกับยีนที่พวกเขาปลุกขึ้นหรือเปล่านะ?
ดูเหมือนว่ายีนในตำนานยังคงซ่อนความลับบางอย่างที่เฟิงหลินไม่รู้
นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้เจอกัน แต่บรรยากาศตอนนี้เย็นชามาก
ราวกับว่าพวกเขาทั้งสองต้องการต่อสู้กันจนตาย
อย่างไรก็ตามพวกเขารู้ว่าการสอบจะเริ่มในไม่ช้า และนี่ไม่ใช่เวลาที่
พวกเขาที่จะต่อสู้กัน พวกเขารู้ว่าอะไรสำคัญหากพวกเขามัวมาต่อสู้
กันแลกชีวิต และบาดเจ็บก่อนการสอบนั่นจะเป็นเรื่องที่โง่ที่สุด
“นายบอกว่านายสามารถพาฉันไปตามเส้นทางในตำนานของฉันได้
นี่เป็นเรื่องจริงหรอ?” ชายสุนัขจิ้งจอกพูดอย่างเฉยเมย โดยไม่สนใจ
อี้ เขาหันไปหาเฟิงหลิน
“จริง” เฟิงหลินพยักหน้า “ตอนนี้ ฉันจะย้ำสิ่งที่ฉันพูดในอีเมล์ ตราบ
ใดที่พวกนายสองคนเข้าร่วมทีมของเรา หลังจากการสอบสิ้นสุดลง
ฉันจะบอกเส้นทางในตำนานที่สมบูรณ์ เราสามารถเซ็นสัญญากันได้”
ชายที่สวมหน้ากากจิ้งจอกเงียบลง
“ถ้าทุกอย่างเป็นความจริงการเซ็นต์สัญญาไม่ใช่ปัญหา” ชายหนุ่มพูด
ด้วยความเย่อหยิ่ง”อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นต้องมีก็คือนายต้องพิสูจน์
ว่านายสามารถเอาชนะฉันได้ หากไม่ได้ ทุกสิ่งที่นายพูดนั้นก็เป็นแค่
เรื่องไร้สาระ”
“ฉันรู้ว่านายจะพูดอย่างนั้น” เฟิงหลินถอนหายใจอีกครั้ง “นายสอง
คนตามฉันมา”
เขาพาพวกเขาทั้งสองไปที่ห้องบ่มเพาะขนาดใหญ่ เขาหันหาทั้งสอง
คนอย่างสงบและยื่นมือด้วยท่าทางที่เชื้อเชิญ “คนไหนจะเป็นคน
แรก”
“ฉัน”
เมื่อเสียงของเขาค่อย ๆ เบาลง ลูกธนูพลันพุ่งทะลุผ่านอากาศ
กลิ่นอายแหลมคมนั้นจับบนหน้าผากของเฟิงหลินทันที ไม่อนุญาต
ให้เขาหลบเลี่ยง
นี่คือลูกศรที่มีอัตราความแม่นยำ 100%!
หมายเหตุ : โฮ่ว อี้เป็นตัวละครโบราณในตำนานจีน ผู้ที่ยิงตะวันเก้า
ดวง