Legend of the mythological genes - ตอนที่ 374 สะกดข่มทุกคน
ในอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาว
พื้นที่ข้างหน้าว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ไม่มีรูปแบบวิญญาณอยู่ในสายตา ได้ยินเสียงหายใจโล่งอกภายในกระสวยอวกาศ
“โชคดีมาก”
“ในที่สุดเราก็หนีรอด!”
“พวกเราปลอดภัยแล้ว!”
…
ภายในกระสวยอวกาศภูเขาผลไม้ ทุกคนเริ่มพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น พวกเขาทั้งหมดดีใจที่รอดพ้นจากภัยพิบัติ
รูปแบบวิญญาณเหล่านั้นก่อนหน้านี้เป็นเหมือนทะเลขนาดมหึมาที่ต้องการกลืนกินทุกอย่าง จำนวนของพวกมันทำให้ในใจของทุกคนสิ้นหวัง
สุดท้ายพวกเขาเห็นโอกาสที่จะหนีและมีชีวิตรอด
สายตาจำนวนมากหันไปมองร่างที่อยู่ข้างหน้า สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความประทับใจ
หากไม่ใช่เพราะเฟิงหลินเด็ดขาดพอ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหลบหนี พวกเขาอาจเสียชีวิตที่นั่นจริงๆ
เมื่อคิดย้อนกลับไปพวกเขาทุกคนก็รู้สึกหวาดกลัว
เฟิงหลินไม่ได้ผ่อนคลายมากนัก เขาชี้ไปที่ด้านหลังของกระสวยอวกาศ “อย่าเพิ่งดีใจไป ดูข้างหลังเราสิ”
ทุกคนหันหลังกลับไปมองและครู่ต่อมาคลื่นแห่งความตกใจก็เข้ามาในหัวใจของพวกเขาอีกครั้ง สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันก่อตัวเป็นคลื่นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
จากระยะไกลวิญญาณหลุมดำนั้นเป็นเหมือนหลุมลึก จริงๆมันยังคงแบ่งตัวเพื่อสร้างวิญญาณเพื่อไล่ตามพวกเขา
ด้านหลังกระสวยอวกาศมีรูปแบบวิญญาณก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสลัดมันออกไป
“เร็ว เร็ว รีบหนีเร็ว!” เด็กใหม่ตะโกนด้วยความตกใจ พวกเขากลัวที่จะถูกล้อมรอบด้วยวิญญาณอีกครั้ง
แต่ความจริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย
เฟิงหลินเตรียมการมานานแล้ว “ปัญญาประดิษฐ์ เข้ารูหนอน”
“ค่ะ กัปตัน!” ปัญญาตอบทันที พลังงานในกระสวยอวกาศถูกใช้ไปกว่า 20% ทันทีที่บินเข้าไปในรูหนอน
พื้นที่โดยรอบบิดเบี้ยว ขณะที่ดวงดาวนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา
“เยี่ยมไปเลย เราสามารถกลับไปที่มหาวิทยาลัยได้ภายในสามชั่วโมง”
“ หลังจากเข้าไปในรูหนอน รูปแบบวิญญาณเหล่านั้นจะไม่สามารถตามจับเราได้อีกต่อไป”
“ เราหนีรอดแล้วจริงๆ!”
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในรูหนอน วิญญาณเหล่านั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสลัดพวกมันออกไปได้สำเร็จ
และด้วยความที่จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่วิญญาณจะพบพวกเขาอีก พวกเขาจะสามารถกลับไปที่มหาวิทยาลัยได้ในอีกสามชั่วโมง
และไม่ว่าเผ่าพันธุ์วิญญาณจะดุร้ายแค่ไหน พวกมันก็ไม่กล้าเข้าใกล้มหาวิทยาลัย
แม้แต่วิญญาณหลุมดำที่น่ากลัวซึ่งกลืนกินผู้สอนไป หากมันกล้าเข้าใกล้มหาวิทยาลัย ก็จะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที
“ขอบคุณมากเฟิงหลิน ถ้าไม่ใช่เพราะนายวันนี้เราคงไม่สามารถหนีมาได้”
“หลังจากกลับไปที่มหาวิทยาลัย เราจะต้องตอบแทนนายแน่!”
“ในอดีตตอนที่นายเป็นหัวหน้าทีม ฉันไม่มีความเชื่อมั่นเลย แต่ตอนนี้ฉันเชื่อมั่นอย่างแท้จริงแล้ว”
“โชคดีที่นายเป็นหัวหน้าของพวกเรา ไม่งั้นเราอาจจะตายไปแล้ว!”
…
บรรดานักศึกษาต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ก่อนหน้านี้แม้ว่าเฟิงหลินจะเป็นที่หนึ่งในหัวหน้าทีม แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อในตัวเขา
แต่ตอนนี้ไม่มีคำถามใดสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของเขาอีก
ความจริงอยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว
เขาเป็นหัวหน้าและสังหารวิญญาณอย่างรอบคอบ เขาคิดแผนระเบิดกระสวยอวกาศเพื่อคว้าโอกาสในการหลบหนี
ความเด็ดขาดดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถทำได้
ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าทำไมเฟิงหลินถึงเป็นที่หนึ่งมาตลอด แม้แต่ตงหวงไท่ชูและออกัสตัสก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเจอกับคำขอบคุณของเพื่อนร่วมรุ่น เฟิงหลินก็ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้พูดอะไร แต่จู่ๆรอยยิ้มแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “เราหนีได้แล้วงั้นหรอ?”
ดูเหมือนเขาจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างและพูดต่อ “กระสวยอวกาศ ออกจากรูหนอนเดี๋ยวนี้!”
“อะไรนะ? ออกจากรูหนอน!”
“นายกำลังพยายามทำอะไร?นายพยายามที่จะฆ่าพวกเราทั้งหมดหรือไง?”
“ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”
…
ทันทีที่เฟิงหลินพูดจบ เสียงคัดค้านก็ดังขึ้น
สีหน้าของเด็กใหม่เปลี่ยนไปมาก
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจ
กระสวยอวกาศนี้เป็นของเฟิงหลิน
“ไม่มีเวลามาสนทนา นี่เป็นคำสั่ง” เฟิงหลินไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขา “ปัญญาประดิษฐ์ออกจากรูหนอน!”
“ ไม่…” คนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา ต้องการหยุดเขา
อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆก็สายเกินไป ปัญญาประดิษฐ์รับคำสั่งแล้ว
“รูหนอนเปิดแล้ว กำลังจะออก!”
มีอุโมงค์ปรากฏขึ้นในรูหนอนข้างหน้า สามารถมองเห็นแม่น้ำดวงดาวของจักรวาลภายนอก
“เฟิงหลินพวกเราอยู่ในรูหนอนเพียงไม่ถึงสิบนาที นายคิดทำอะไร?”
“ถ้าวิญญาณเหล่านั้นตามทัน กระสวยอวกาศนี้ก็จะถูกทำลายเช่นกัน!”
“นายมีแผนการชั่วร้ายอะไรในใจกันแน่?”
…
เด็กใหม่ทุกคนงงงวยไปหมด
เฟิงหลินอาจจะเป็นคนทรยศหรือไม่?
แต่ไม่ควรเป็นเช่นนั้น หากเขาเป็นคนทรยศก็ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องเสนอคำแนะนำให้ระเบิดกระสวย เพื่อช่วยชีวิตนักเรียนคนอื่น ๆ
มีความลับมากมายที่ทำให้งงงวยมากเกินไป ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้
เฟิงหลินไม่ได้อธิบาย เพราะคำตอบนั้นอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
รูหนอนเปิดออกและเมื่อกระสวยอวกาศกำลังจะออกไป พื้นที่โดยรอบก็สั่นสะท้าน
ฮึ่ม!
คลื่นพลังงานพุ่งเข้ามาและพายุอนุภาคก็ปรากฏขึ้นในทันที
เด็กใหม่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ทันใดนั้นในส่วนลึกของรูหนอนตรงหน้าพวกเขา วาฬวิญญาณขนาดมหึมาก็ปรากฏตัวขึ้น มันร้องโหยหวนและพุ่งตรงมาหาพวกเขา
“ไม่ดีแล้ว เพิ่มความเร็วและออกจากรูหนอนทันที!” เฟิงหลินตะโกน เปลวไฟขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากด้านหลังของกระสวยอวกาศ ขณะที่ความเร็วของมันเพิ่มขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังช้าไปหน่อย
วาฬวิญญาณขนาดมหึมาเอาหัวของมันฟาดอย่างไร้ความปรานี ส่งผลทำให้เฟิงหลินและคนอื่น ๆ รู้สึกว่าโลกของพวกเขาหมุน
เสียงคำรามด้วยความไม่พอใจดังขึ้นเมื่อพวกเขาสามารถออกจากรูหนอนได้ในที่สุด
นอกจากนี้ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในรูหนอนเป็นเวลาสิบนาที พวกเขาจึงสามารถย่นระยะทางไปมหาวิทยาลัยได้ประมาณสิบปีแสง
ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ว่าอะไรจะเร็วแค่ไหนก็ไม่มีอะไรที่จะเหนือกว่าความเร็วแสง
หากวิญญาณเหล่านั้นต้องการค้นหาพวกเขา พวกมันจะต้องใช้เวลามากมายอย่างไม่ต้องสงสัยในการทำเช่นนั้น
“กระสวยอวกาศเสียหาย 32.2%”
ในที่สุดกระสวยอวกาศก็สามารถทรงตัวได้เองและรายงานความเสียหาย
“ส่งหุ่นยนต์ไปซ่อม!” เฟิงหลินสั่ง เขาหันไปมองนักเรียนเหล่านั้น ที่เพิ่งสามารถยืนด้วยเท้าของพวกเขาได้หลังจากการกระแทก เขาพูดต่ออย่างใจเย็น “ตอนนี้พวกนายทุกคนรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องออกจากรูหนอน? “
“ นั่น…” เด็กใหม่หลายคนยังคงรู้สึกกลัว
อันตรายมาก!
กระสวยอวกาศแทบแตกเป็นชิ้น ๆ
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วถึงการตัดสินใจของเฟิงหลิน
“ สมาชิกของเผ่าพันธุ์วิญญาณเป็นรูปแบบชีวิตที่มีพลังงาน เมื่อพวกมันเติบโตเป็นอสูรขนาดมหึมา พวกมันจะมีความสามารถในการเข้าไปในรูหนอน และโจมตีเป้าหมายของพวกมัน เมื่อเข้าไปในรูหนอน เราทำได้แค่หนีจากปลาหมึกวิญญาณเหล่านั้นได้เท่านั้น แต่ถ้าเวลาที่เราใช้นานเกินไป อสูรวิญญาณก็จะไล่ตามอย่างแน่นอน เราสามารถเข้าไปในรูหนอนได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และออกมาเรื่อย ๆ โดยเร่งการเดินทางทีละนิด เราไม่สามารถที่จะอยู่ในรูหนอนได้นานเกินไป อาจจะมากที่สุดสิบนาที มิฉะนั้นเส้นทางของเราจะถูกอสูรวิญญาณค้นพบ ครั้งต่อไปเราอาจจะไม่โชคดีแบบนี้อีก” เฟิงหลินพูดอย่างเย็นชา
เป็นเช่นนั้นเอง!
ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว หากไม่ใช่เพราะเฟิงหลิน พวกเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาคงจะเดินทางต่อไปในรูหนอนและจุดจบของพวกเขาก็คงจะเลวร้ายอย่างไม่อาจคาดเดาได้
“เราควรทำยังไงต่อไป?” ทุกคนไม่กล้าสงสัยเฟิงหลินอีกต่อไป
“ฉันหวังว่าจะไม่มีใครขัดคำสั่งของฉัน ในอนาคตหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ฉันจะขอให้คนนั้นออกจากกระสวยของฉัน และเอาตัวเองรอดในอวกาศเอง” น้ำเสียงของเขาคมกริบราวกับดาบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของทุกคนก็ไม่ค่อยพอใจนัก
พวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะในหมู่เพื่อนๆของตัวเอง ตอนนี้พวกเขากลับถูกใครบางคนดูถูก พวกเขาย่อมรู้สึกหงุดหงิดเป็นธรรมดา
แต่เมื่อพวกเขานึกถึงผลที่น่ากลัวของการไม่เชื่อฟัง หัวใจของพวกเขาทั้งหมดก็สั่นสะท้านด้วยความกลัว หากไม่มีเฟิงหลินคอยคาดการณ์ สถานการณ์ของพวกเขาก็จะยิ่งอันตรายมากกว่านี้ พวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้ยังไง?พวกเขาจะเดินทางในจักรวาลได้ยังไง?
พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!
แม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่ก็ไม่มีใครบ่นหรือคัดค้าน
เฟิงหลินพยักหน้าเงียบ ๆ เมื่อเขาเห็นฉากนี้ เขารู้ว่าการที่เด็กเหล่านี้ไม่ได้คัดค้านนั่นหมายความว่าพวกเขายอมรับเรื่องนี้อย่างเงียบ ๆ
ในสถานการณ์ที่รุนแรง เราต้องใช้วิธีที่รุนแรงเท่านั้น!
เส้นทางในอนาคตยังอีกยาวไกล หากหัวใจของพวกเขาไม่เป็นปึกแผ่น และไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา นั่นจะทำให้ทุกคนตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น
“มีที่ว่างมากมายในกระสวยอวกาศ หาที่ของตัวเองเพื่อเตรียมตัวและพักผ่อน ยังมีเส้นทางอีกยาวไกลข้างหน้า
เราจะต้องพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับสถานะที่เหมาะสมที่สุด “หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก็ปล่อยให้ปัญญาประดิษ์นำพวกเขาไปหาห้องพัก
หลังจากที่ภูเขาผลไม้เสียหาย เฟิงหลินได้ทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ทั้งภายในและภายนอก ตอนนี้มันแตกต่างจากเมื่อก่อน
จากนั้นเฟิงหลินก็กลับไปที่ห้องควบคุมและเริ่มไตร่ตรองสถานการณ์
นับตั้งแต่ที่เขามาที่มหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงมา เขาไม่เคยใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเลยแม้แต่วันเดียว มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นทุกวัน
ถ้าเป็นครั้งเดียวหรือสองครั้งก็ดี แต่มันมีอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดมากมาย?นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่!
เฟิงหลินสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรง ราวกับว่าเขามีลางสังหรณ์ว่าอันตรายใหญ่หลวงจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ความรู้สึกนี้ให้ความรู้สึกเหมือนลาวาและหินหนืดของภูเขาไฟ กำลังรวบรวมความแข็งแกร่งเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะครั้งใหญ่ เมื่อมันปะทุขึ้นความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงทั้งหมดและอาจรวมถึงจักรวาลด้วย
สำหรับผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอ แค่การกวาดผ่านของหายนะก็อาจทำให้พวกเขาตายได้แล้ว
หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลและเขาต้องเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้า!