LEON! ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะขอกำหนดทางเดินเอง! - ตอนที่ 4 คนที่จะตัดสินว่ามันเหมาะสม
- Home
- LEON! ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะขอกำหนดทางเดินเอง!
- ตอนที่ 4 คนที่จะตัดสินว่ามันเหมาะสม
ฟีโอค่อยๆเปิดตาขึ้นช้าๆ ด้วยความงวงเงีย อากาศที่เย็นสบายทำให้เธออยากจะงีบหลับไปอีกสักรอบแต่เด็กสาวก็ต้องดีดตัวขึ้นมานั่งตัวตรงด้วยความสับสนปนประหลาดใจเพราะตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่บนเตียงที่ไม่คุ้นเคย มันทั้งอุ่น กว้างแล้วก็นุ่มกว่าเตียงของเธอมากนัก
หลังจากฟีโอเริ่มจะสร่างหายจากอาการงวยเงียแล้วเธอจึงกวาดสายตาสำรวจมองไปรอบๆห้องและสิ่งที่เธอได้พบคือเจ้านายของเธอที่กำลังนั่งอ่านข้อความบางอย่างบนกระดาษปึกหนาในมือของเขาอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ท่านลีออนคะ”
“ฟีโอฟื้นแล้วเหรอ จะนอนต่อก็ได้นะยังมืดอยู่เลย”
ลีออนละสายตาจากเอกสารในมือหันมามองที่ฟีโอพร้อมกับส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้กับเธอ เด็กหนุ่มในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในชุดนอนเปื้อนเลือดตัวเดิม แต่เขาเปลี่ยนไปอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำที่ถูกใส่อย่างลวกๆเผยให้เห็นร่างกายที่ผอมลงอย่างเห็นได้ชัดจากการโดนวางยาพิษ
“จะ..ทำอย่างนั้นได้ยังไงคะ ดิฉันเสียมารยาทนอนบนเตียงท่านลีออนนานกว่านี้ไม่ได้หรอกค่ะ”
ฟีโอเลิกผ้าห่มขึ้นเตรียมจะลุกจากเตียงแต่ก็ต้องชะงักไปเพราะกลายเป็นว่าตอนนี้เธอกำลังเผยร่างบางของเธอที่กำลังสวมแค่เพียงชุดชั้นในสีขาวตัวน้อยต่อหน้าลีออน
“เอ๊ะ!..หวาา..ว้ายย!!”
ฟีโอที่หน้าแดงจนถึงใบหูรีบเอาผ้าห่มคลุมตัวเองอีกครั้งในทันทีเพื่อปกปิดร่างกายของเธอแต่เธอหารู้ไม่ว่าคนที่ทำให้เธอมาอยู่ในสภาพนี้ก็คือผู้ชายตรงหน้าเธอที่หวังดี(?)ไม่อยากให้เธอใส่ชุดสาวใช้เปื้อนเลือดจึงจัดการถอดออกให้เสร็จสรรพ
“นอนพักไปก่อนเถอะเดี๋ยวผมป้อนซุปอุ่นๆให้นะตั้งแต่เที่ยง ฟีโอยังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่นา”
พูดจบลีออนก็หยิบหม้อใบเล็กที่ตั้งอยู่ข้างเตียงขึ้นมาแล้วเปิดฝาตักซุปใส่ถ้วยที่อยู่ดีๆก็โผล่ขึ้นมาบนมือของเด็กหนุ่มแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยราวกับนักมายากล โดยที่ไม่ได้สนใจเด็กสาวที่กำลังเขินอายจนหน้าแดงเป็นมะเขือเทศเลยสักนิดเดียว
ถึงแม้ตอนนี้เด็กหนุ่มจะไม่ได้แสดงออกชัดเจน แต่ลีออนไม่ได้ด้านชา เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ในห้องนอนหรือแม้แต่ตอนนี้เขาก็มีความรู้สึกตื่นเต้นต่อสาวน้อยตรงหน้าไม่น้อยเลย อาจจะเพราะด้วยร่างกายของวัยรุ่นถึงแม้ลีออนจะมีความทรงจำและประสบการณ์ใช้ชีวิตของกรรณมากมายขนาดไหนก็ไม่ช่วยระงับอารมณ์ที่พุ่งพล่านได้สนิท
“ทะ..ท่านลีออน คือว่าชุดของดิฉัน”
“อ้อมันเปื้อนเลือดน่ะผมคิดว่าซักไม่น่าออกเลยเผาไปแล้ว”
ลีออนตอบกลับฟีโอไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าคาดเดาเอาไว้อยู่ว่าแล้วเธอจะต้องถามออกมาแน่ๆ ที่การกระทำของเขาอาจจะเกินกว่าเหตุส่วนนึงเป็นเพราะความเป็นเด็กในตัวตนนี้ผสานเข้ากับความต้องการชั่วร้ายเล็กๆที่จะแอบสำรวจร่างกายของสาวน้อยตรงหน้า
“เลือดเหรอคะ?..”
เมื่อเด็กสาวได้ฟังคำตอบจากเจ้านายของเธอ ภาพสยองขวัญจากการสังหารหมู่คนครัวก่อนที่เธอจะสลบไปก็ย้อนกลับมาในหัวทันที
“อุ๊บบ!”
มันทำให้เธอเกิดอาการคลื่นไส้จนเกือบจะอาเจียนคายของเก่าออกมาเสียตรงนี้ แต่โชคยังดีที่ท้องของเธอนั้นยังคงว่างเปล่าเตียงของลีออนจึงรอดพ้นจากการเปื้อนอ้วกของเด็กสาวไปได้
“ขะ..ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ”
ฟีโอที่หน้าซีดเผือกรีบกล่าวขอโทษในทันที เมื่อเห็นว่าตนกระทำการเสียมารยาทต่อหน้าเจ้านายที่เพิ่งจะสังหารหมู่คนครัวไปเมื่อครู่ โดยหารู้ไม่ว่าในระหว่างที่ตนหลับอยู่นั้นเด็กหนุ่มตรงหน้าของเธอได้ไล่สังหารคนงานทุกคนรวมถึงหมอประจำตระกูลไปจนหมดแล้ว
ลีออนไม่ไว้ใจใครก็ตามในคฤหาสน์หลังนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ในห้องครัวเด็กหนุ่มก็เริ่มสืบเครือข่ายคนใช้ของอาของเขาที่แทรกซึมคฤหาสน์นี้ด้วยความรุนแรงผลคือเกือบทุกคนโดนซื้อไปหมดแล้วแผนการฆ่าเขานี้ถูกเตรียมมานานและทุกคนที่เหลืออยู่ที่นี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่าเขาตายสนิท
เมื่อรู้ดังนั้นลีออนก็จัดการตัดไฟแต่ต้นลมสังหารหมู่คนใช้ทุกคนทิ้ง แม้ว่าพ่อบ้านและทหารยามบางคนจะมีฝีมืออยู่บ้างแต่ลีออนก็อาศัยความได้เปรียบชิงลงมือลอบโจมตีก่อน รวมถึงใช้เทคนิคและการวางกับดัก ช่วงชิงชีวิตของข้ารับใช้ในคฤหาสน์คนแล้วคนเล่าอย่างง่ายดาย
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ถ้ายังรู้สึกไม่ดีขึ้นจะมาซบอกพี่ชายคนนี้ก็ได้นะ”
ลีออนหยอกล้อฟีโอด้วยน้ำเสียงขบขัน ในตอนแรกเขาคิดว่าเด็กสาวจะหวาดกลัวเขาแล้วเสียอีก หลังจากที่เธอได้เห็นความโหดเหี้ยมอมหิตของเขาไป
แต่จากที่เขาได้สังเกตเธอดูแล้วเธอก็ยังดูไม่ค่อยกลัวเสียเท่าไหร่ ไม่สิในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายจากสัตว์อสูรและเวทย์มนต์เช่นนี้ ชนชั้นอย่างสามัญชนก็มีอัตราการตายที่สูงอยู่แล้ว
เธอไม่ได้ไม่กลัวเขาเพียงแต่เธอกลัวเขาเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยจากที่เคยกลัวเกรงในฐานะเจ้านายอยู่แล้วแค่นั้นเอง
“แบบนั้นคงจะ…ไม่เหมาะสม..มั้งคะ”
เมื่อลีออนได้ยินประโยคนี้อีกครั้งก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและหัวเสียถึงแม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าเด็กสาวจะต้องพูดออกมา บางทีเขาคงใจร้อนไปเสียหน่อยหากต้องการให้เธอเปิดใจให้เขาสักนิด
ในความทรงจำของเด็กหนุ่มโลกใบนี้มันช่างแสนน่าเบื่อและไม่มีใครที่รักเขาอย่างแท้จริง ลีออนคิดว่าแม้แต่พ่อของเขาเองก็ยังเห็นแก่อำนาจไม่ต่างกัน แล้วคนที่รักเขามากที่สุดเท่าที่นึกออกก็คงไม่พ้นแม่ของเขาดัชเชสซิลเวอร์เรีย
แต่ทว่าความสัมพันธ์ภายในตระกูลซิลเวอร์เรียของลีออนยึดหลักการแบ่งชนชั้นเคร่งครัดมาก ความเป็นขุนนางของทุกคนและการวางตัวเช่นนี้ก็ทำให้สายสัมพันธ์ภายในตระกูลไม่ได้แน่นแฟ้นอะไรนักแม้แต่ดัสเชสผู้เป็นแม่แท้ๆของลีออนแม้จะรักเขามากเพียงใดก็ยังเว้นระยะห่างและทำตามทุกสิ่งอย่างที่ผู้นำตระกูลอย่างพ่อของเขาสั่ง
เดิมทีลีออนก็วางตัวและปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนของตระกูลเป็นขุนนางชั้นสูงทุกกริยาบทเฉกเช่นเดียวกันกับแม่ของเขาแต่ในตอนนี้ราวกับว่ามีเปลวไฟร้อนระอุคลุกกรุ่นอยู่ภายในจิตใจของเด็กหนุ่ม เขามีเจตจำนงที่แรงกล้าที่จะทำตามใจตนเองละทิ้งกฏเกณฑ์และชีวิตที่ผ่านมา
อาจจะเป็นเพราะตัวตนของกรรณก็เป็นได้ที่ทำให้เด็กผู้ชายคนนึงได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ที่แสนคับแคบและได้รู้จักสิ่งต่างๆมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าตอนนี้ในร่างของลีออนจะเป็นใครก็ตามแต่ตัวเขาก็เทใจหลงไหลชีวิตประจำวัน ธรรมดาๆที่มีน้องสาวสุดน่ารักรอเขากลับไปอยู่ด้วยไปซะแล้ว
หลังจากที่ลีออนสังหารหมู่คนรับใช้ไปเขาก็ได้พบกับจดหมายเวียนของแอนเดอร์สันซึ่งเป็นอาแท้ๆของเขา
บอกตามตรงลีออนคิดว่าแอนเดอร์สันเป็นคนที่วางแผนทำการใหญ่ที่ไม่ได้เรื่องและมีข้อผิดพลาดมากที่ใช้หมากที่ไร้การศึกษาและควบคุมได้ยากอย่างคนใช้ในคฤหาสน์
พวกเธอไม่ได้เผาจดหมายเวียนตามที่ระบุไว้ในข้อความมีความเป็นไปได้ว่าคนที่อ่านจดหมายออกจะมีน้อยจนต้องวนอ่านกันอยู่หลายวันทำให้ลีออนได้หลักฐานมาไว้ในมือแต่ถึงยังไงโอกาสที่แอนเดอร์สันจะได้รับสืบทอดตำแหน่งดยุกมันก็เป็นศูนย์มาตั้งแต่แรกแล้ว
เหตุการณ์สังหารหมู่ยึดคฤหาสน์ครั้งนี้ทำให้ลีออนได้มีโอกาสไปค้นห้องทำงานของพ่อของเขาเป็นครั้งแรกแล้วสิ่งที่เขาได้พบคือแผนสำรองในกรณีที่ลีออนตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สมกับเป็นท่านดยุกผู้ที่อำนาจไม่เคยขาดมือแอนเดอร์สันทำได้ก็แค่เพียงเต้นอยู่บนฝ่ามือของเขาเท่านั้นหลังจากที่ได้อ่านเอกสารไปบางส่วนลีออนก็ยิ่งมีความมั่นใจในความคิดของตัวเองที่อยากจะทิ้งที่นี่ไป
ขนาดตัวลีออนเองยังไม่แน่ใจเลยว่าพ่อของเขารักแม่ของเขาที่เป็นคู่ชีวิตของตนจริง เด็กหนุ่มคาดว่าที่คนทั้งคู่แต่งงานกันคงเพียงเพราะพ่อของเขาต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลฝ่ายของแม่เพียงเท่านั้น ขุนนางมันก็เป็นเสียอย่างนี้ยิ่งเป็นถึงระดับดยุกด้วยแล้ว
“อ่า..เออคือว่า..แล้วดิฉันก็อายุเยอะกว่าท่านลีออนด้วยค่ะ”
ฟีโอที่คาดว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ๆนิ่งไปอาจจะเพราะไม่พอใจในคำตอบของตนก็เลยพยายามที่จะชวนเจ้านายของตนคุยเผื่อว่าจะสามารถคลายบรรยากาศตึงเครียดรอบตัวของเด็กหนุ่มลงและดูเหมือนว่ามันจะได้ผลเสียด้วย
เมื่อลีออนได้ยินประโยคที่ฟีโอพึมพัมพูดออกมาเขาก็หลุดออกจากภวังความคิด ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างนึกสนุกอีกครั้งหวังแหย่สาวใช้ที่น่ารักตรงหน้าของเขาให้จนมุม
“เห..อย่างงั้นเหรอผมนึกว่าฟีโออายุเท่ากันเสียอีก”
ลีออนยื่นใบหน้าเขาไปชิดกับใบหน้าของฟีโอจนเธอชะงักถอยเอนตัวไปข้างหลังจนเกือบล้มลงนอนบนเตียงอีกครั้งแต่ไม่ทันที่แผ่นหลังของเธอจะได้สัมผัสเตียงก็ถูกหยุดเอาไว้ก่อนด้วยอ้อมแขนของลีออน
“หึหึ”
ลีออนหัวเราะเบาๆจ้องมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเด็กสาวที่อย่ในอ้อมแขน ฟีโอมีดวงตาที่กลมโตกับสันจมูกที่สวยได้รูปถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังเด็กแต่คาดว่าถ้าโตขึ้นอีกนิดและแต่งหน้าอีกสักหน่อยคงจะงดงามไม่แพ้ใครในเมืองแห่งนี้เป็นแน่
ส่วนสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของลีออนก็เขินจนหน้าแดงเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ ด้วยความที่ว่าลีออนก็ถือเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนนึงเลยถึงแม้ในตอนนี้เขาจะซูบผอมไปบ้างก็ตาม
เด็กสาวทำได้เพียงแอบบ่นในใจเงียบๆว่า เจ้านายของเธอหลังจากหายป่วยช่างเปลี่ยนไปเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียเหลือเกิน
“ทะ..ท่านลีออนปล่อยฉันได้แล้วค่ะ”
“ไม่ปล่อย”
“มันมะ..”
ก่อนที่ฟีโอจะได้พูดอะไรออกมานิ้วชี้ของลีออนก็จรดลงบนริมฝีปากของเธอในนัยยะว่าห้ามพูดประโยคนั้นออกมาเด็กสาวตอนนี้จึงทำได้แต่นิ่งเงียบอยู่ในอ้อมแขนของลีออนเพียงเท่านั้น
“คนที่จะตัดสินว่ามันเหมาะสมรึเปล่าไม่ใช่เธอแต่เป็นผมต่างหาก”