Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1709
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1709
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1709 อารักขาทางออก
“หัวหน้าของพวกเรา…ยอมรับเขาเป็นเจ้านายแล้วหรือ?”
ความเงียบครอบงำไปทั่วบริเวณ
ทั้งนกฟีนิกซ์ไฟสวรรค์ อสูรนรกลวงตาและเต่าดำนรกต่างอึ้งตะลึงงัน พวกมันยืนรากงอกอยู่ตรงนั้น หัวสมองว่างเปล่าไปหมด
มันรู้ดีว่างูเขียวไม้สวรรค์มีนิสัยดื้อดึงมากแค่ไหน แต่เพียงแค่คำคำเดียวที่อีกฝ่ายส่งออกไป งูเขียวไม้สวรรค์ก็ทรุดฮวบลงกับพื้นและยอมจำนนโดยไม่แยแสศักดิ์ศรีของตัวเองเลย แถมทุกอย่างยังเลวร้ายลงไปอีก เพราะนัยน์ตาของงูเขียวเปล่งประกายของความปรารถนาด้วย
สวรรค์ช่วยบอกทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ในเวลาเดียวกัน หวูชางผิงก็แทบเสียสติ
เพื่อจะทำให้เสือเมฆวิญญาณทองยอมจำนน เขาต้องเตรียมการมากมาย ต้องมอบของล้ำค่าจำนวนมากให้สมาชิกทั้ง 7 คนในกลุ่มเพื่อให้คนเหล่านั้นยินยอมช่วยเขาปฏิบัติภารกิจ และยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องใช้ของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เพื่อการนี้ด้วย แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จสักอย่าง แถมยังถูกจับเสียอีก
ส่วนชายหนุ่มกลับทำให้เสือเมฆวิญญาณทองยอมจำนนได้ภายในเวลาเพียง 2-3 นาที ด้วยคำเพียงคำเดียว เขาทำให้งูเขียวไม้สวรรค์ยอมศิโรราบ ไม่กล้าแสดงความกระด้างกระเดื่องแม้แต่น้อย
เรื่องนี้เหลวไหลสิ้นดี!
“ทำสัญญา!” จางเซวียนสั่งการ
สำหรับอสูรที่มีสายเลือดมังกร ไม่มีอาวุธใดทรงพลังไปกว่าแปดโน้ตมังกรสวรรค์
ไม่ว่างูเขียวไม้สวรรค์จะเป็นอสูรที่ระดับขั้นสูงสักแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจต้านทานข้อจำกัดของสายเลือดได้ เป็นเพราะจางเซวียนรู้ความจริงข้อนี้ เขาจึงจงใจวางเดิมพันกับมัน และก็เป็นไปตามคาด อีกฝ่ายยอมตกลงอย่างง่ายดาย
ไม่ใช่เพราะพวกมันโง่ แต่เป็นเพราะมันนึกไม่ถึงว่ามนุษย์อย่างเขาจะสามารถพูดภาษาของสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ได้
ไม่มีใครคาดคิดว่านักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติอย่างเขาจะมีกลยุทธซ่อนไว้มากมาย จนแม้แต่อสูรขั้นชั่วกัลปาวสานอย่างพวกมันก็ยังไม่ทันระมัดระวังตัว และเพลี่ยงพล้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้งูเขียวไม้สวรรค์ออกจะไม่เต็มใจยอมสละอิสรภาพของมัน แต่ด้วยแรงกดดันจากแปดโน้ตมังกรสวรรค์ มันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมอบหยดเลือดให้
หลังจากทำสัญญากันแล้ว จางเซวียนหันไปพูดกับอสูรอีก 3 ตัว “คราวนี้ถึงตาพวกคุณแล้วนะ ในเมื่อผมทำให้งูเขียวมังกรสวรรค์ยอมจำนนได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ก็ถือว่าผมชนะ แต่แน่นอนว่านั่นเป็นแค่เดิมพัน ยังไม่มีการปฏิญาณใดๆ และไม่มีอะไรผูกมัดคุณไว้กับคำพูดเหล่านั้นด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่เต็มใจจะทำตามเดิมพัน…”
“เหลวไหล! อสูรสวรรค์อย่างพวกเรามีสายเลือดโบราณไหลพล่านอยู่ทั่วร่าง จะผิดคำสัญญาได้อย่างไร?”
“แพ้ก็คือแพ้ ในเมื่อหัวหน้าของพวกเราเลือกที่จะยอมจำนนให้คุณแล้ว ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะยอมรับคุณเป็นเจ้านายของผมเช่นกัน…”
“ผมแค่หวังว่าคุณจะไม่บังคับเราให้ทำอะไรที่ขัดแย้งกับหลักการที่เรายึดถืออยู่…”
…..
ทั้งอสูรนรกลวงตา นกฟีนิกซ์ไฟสวรรค์ และเต่าดำนรกต่างก็รู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกมันเย่อหยิ่งและภาคภูมิใจในตัวเองเกินกว่าจะผิดคำสัญญา ทั้งสามตัวพยักหน้าและมอบหยดเลือดให้จางเซวียน
ถึงอย่างไร ในเมื่ออีกฝ่ายทำให้หัวหน้าของพวกมันยอมจำนนได้ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายเกินไปที่พวกมันจะยอมรับเขา เป็นสิ่งเดียวที่พวกมันทำได้ในตอนนี้
“นั่นทำให้ผมทุ่นเวลาและปัญหาไปได้มากทีเดียว…” เห็นอสูรอีก 3 ตัวยอมทำตามสัญญา จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
เหตุผลที่จางเซวียนเสนอเดิมพันก็เพื่อจะทำให้อสูรสวรรค์ทั้ง 3 ตัวยอมจำนน และแน่นอนว่าเมื่องูเขียวไม้สวรรค์กับเสือเมฆวิญญาณทองอยู่ข้างเดียวกับเขาแล้ว สุดท้าย เขาก็ย่อมทำให้อสูรที่เหลือยอมจำนนได้ และน่าจะทำให้เขาลดความยุ่งยากไปได้มาก
“ในเมื่อพวกคุณยอมจำนนให้ผมแล้ว ในฐานะเจ้านาย อย่างน้อยผมก็ควรตอบแทนความจงรักภักดีของคุณสักหน่อย”
หลังจากที่อสูรสวรรค์ทั้ง 5 ตัวยอมจำนน จางเซวียนก็มองหน้าพวกมันก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“เสือเมฆวิญญาณทอง ในฐานะอสูรที่มีองค์ประกอบของโลหะ คุณมีความสามารถเหนือชั้นในการโจมตี แต่การป้องกันตัวของคุณนั้นยังออกจะอ่อนด้อยอยู่สักหน่อย ที่สำคัญกว่านั้น แม้คุณจะมีพละกำลังมาก แต่ก็ไม่อาจควบคุมมันได้อย่างแม่นยำ ทำให้คุณเปิดจุดอ่อนมากมายที่ผมสามารถเล่นงานได้ ผมจะชี้ข้อบกพร่องใหญ่ๆ 2-3 ข้อให้คุณรับรู้นะ และหากคุณแก้ไขมันตามที่ผมบอก ก็จะยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ขึ้นได้อีกมาก!”
จางเซวียนร่ายยาวถึงข้อบกพร่อง 2-3 ข้อของเสือเมฆวิญญาณทอง รวมทั้งวิธีแก้ไข
ตอนที่เขาต่อสู้กับอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้ หอสมุดเทียบฟ้าได้เปิดเผยข้อบกพร่องของเสือเมฆวิญญาณทอง ประกอบกับความรู้ของเขาในฐานะนักฝึกอสูร จางเซวียนจึงสามารถหาวิธีแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
เมื่อฝึกฝนวรยุทธตามคำชี้แนะที่จางเซวียนถ่ายทอดให้ เสือเมฆวิญญาณทองยินดีปรีดาอย่างมากกับประสิทธิภาพการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น นัยน์ตาของมันเป็นประกายขณะทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นอีกครั้ง คราวนี้มันแสดงความเคารพจางเซวียนด้วยความจริงใจ
หากก่อนหน้านี้มันยอมจำนนให้ชายหนุ่มเพราะความหวาดกลัวและความคาดหวังในผลประโยชน์ที่จะได้ แต่คราวนี้มันคารวะเขาด้วยความเคารพจริงๆ
จากนั้น จางเซวียนก็ให้คำชี้แนะในการฝึกวรยุทธกับเหล่าอสูรสวรรค์ที่เหลือ ทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกมันเพิ่มขึ้นอีกมาก ด้วยความตื่นเต้นกับพละกำลังที่ได้มาใหม่ พวกมันรีบโค้งคำนับให้จางเซวียนด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณ
เพราะสำเร็จวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสาน โลกจารึกแล้ว พวกมันจึงคิดว่าการจะยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ให้เพิ่มสูงขึ้นอีกคงเป็นเรื่องยากมาก เว้นเสียแต่จะเกิดวิวัฒนาการครั้งใหญ่ในสายเลือดของพวกมัน ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ายังมีโอกาสพัฒนาประสิทธิภาพการต่อสู้ขึ้นได้อีก
ถ้าพวกมันฝึกฝนตามวิธีที่จางเซวียนแนะนำ ในอนาคตก็อาจฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์โบราณได้
สำหรับพวกมัน เรื่องนี้ดึงดูดใจเสียยิ่งกว่าการได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของป่าแห่งนี้และมีอำนาจเหนืออสูรทั้งปวง
“นายท่าน เราจะทำอย่างไรกับเจ้าพวกนี้?” งูเขียวไม้สวรรค์ชี้นิ้วไปที่หวูชางผิงกับคนอื่นๆ
“พวกเขาทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ทั้งยังทำร้ายเสือเมฆวิญญาณทอง แต่การกระทำของพวกเขาก็ไม่ได้มุ่งหมายจะให้พวกเราถึงแก่ชีวิต ก็ควรให้พวกเขาชดใช้ และปล่อยตัวเขาไปเสีย” จางเซวียนพูดพร้อมกับโบกมือ
อันที่จริง เขานึกดีใจที่ทั้ง 8 คนมาก่อนหน้า เพราะหากเขาพรวดพราดเข้าไปในถ้ำ ก็คงจะถูกอสูรทั้ง 5 ตีวงล้อมเอาไว้ บางทีเขาอาจไม่มีโอกาสได้สู้กับพวกมันตัวต่อตัว และทุกอย่างก็คงไม่จบลงอย่างราบรื่นเหมือนตอนนี้
แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าคนทั้ง 8 มีเจตนาร้ายต่อเขา แถมยังโจมตีเสือเมฆวิญญาณทองด้วย และในเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายเป็นอสูรของเขาแล้ว เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนทั้ง 8 จากไปโดยไม่ชดเชยด้วยอะไรบางอย่างที่มีมูลค่าสูงเสียก่อน
“ได้เลยนายท่าน!”
เมื่อเห็นว่านายท่านของมันไม่ใช่คนที่จะปรานีต่อมนุษย์ที่ทำความผิด เหล่าอสูรต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก
ดูเหมือนพวกมันไม่ได้ถูกเอาเปรียบ
ด้วยความดุร้ายของอสูรสวรรค์ทั้ง 5 หวูชางผิงกับพรรคพวกจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมจำนน พวกเขายอมมอบทรัพย์สมบัติมากมายที่สะสมมาเป็นเวลานาน รวมทั้งยาเม็ดเกรด 9 ของล้ำค่า และข้าวของอื่นอีกมากมาย ก่อนที่สุดท้ายจะได้รับการปล่อยตัว
“เก็บทรัพย์สมบัติพวกนี้ไว้ ผมมอบให้พวกคุณไปตัดสินใจกันเองว่าจะแบ่งสรรปันส่วนกันอย่างไร และพวกคุณก็แน่ใจได้เลยว่าความจงรักภักดีของพวกคุณจะไม่สูญเปล่า หากตั้งใจทำงานให้ผม ผมก็ไม่ขัดข้องที่จะมอบของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของผมให้พวกคุณ!” จางเซวียนพูด
ของล้ำค่าที่หวูชางผิงกับพรรคพวกมอบให้เหล่าอสูรนั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของจางเซวียนแม้แต่น้อย เขาจึงมอบให้อสูรสวรรค์ทั้ง 5 จัดการกันเอง และให้ความหวังกับพวกมันไปด้วยพร้อมๆกัน
การทำให้อสูร 1 ตัวยอมจำนนก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการดูแลบริวาร นอกจากต้องใช้ทั้งพระเดชพระคุณแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือสร้างความคาดหวังในแง่ดีให้กับพวกมัน เพื่อให้มองเห็นอนาคต
ด้วยการแก้ไขข้อบกพร่องเรื่องวรยุทธและคำสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สมบัติอันล้ำค่า เมื่อมีผลประโยชน์อันล่อตาล่อใจแบบนี้ อสูรสวรรค์ทั้ง 5 ก็พร้อมยอมจำนนให้เขาทั้งกายและใจ
เป็นไปตามคาด หลังจากได้ยินคำพูดของจางเซวียน อสูรสวรรค์ทั้ง 5 มีสีหน้าท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาทันที เท่าที่เห็น ดูเหมือนจางเซวียนจะได้รับความจงรักภักดีจากพวกมันแล้ว อย่างน้อยก็ในเวลานี้
หลังจากหวูชางผิงกับพรรคพวกจากไป สุดท้ายจางเซวียนก็ได้โอกาสเปิดเผยข้อสงสัยที่ค้างคาในใจของเขา “พวกคุณควรจะกระจายตัวกันอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงไปรวมตัวกันอยู่ในถ้ำเสือเมฆวิญญาณทอง?”
ตามข้อมูลที่เขาได้รับจากเสือขาวหน้าผากแดง ผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 ต่างมีอาณาเขตของตัวเองในผืนป่าแห่งนี้ และแทบไม่เคยยุ่งเกี่ยวกัน แล้วทำไมพวกมันถึงมารวมตัวกันอยู่ในถ้ำ?
“วันที่พวกเรารู้ว่ามิติถูกเปิดออกและมวลมนุษย์ต่างกรูกันเข้ามา พวกเราก็มารวมตัวกันที่นี่ทันที ตอนแรก พวกเราตั้งใจจะหามาตรการตอบโต้เพื่อยับยั้งการคุกคามของมวลมนุษย์ และหลังจากนั้น พวกเราก็จะอารักขาทางออกไว้และป้องกันไม่ให้ใครผ่านเข้าไปได้” งูเขียวไม้สวรรค์อธิบาย
“ทางออก?” จางเซวียนตาโตเมื่อได้ยิน “หรือว่า…ทางออกที่นำไปสู่วิหารแห่งขงจื้ออยู่ในถ้ำ?”
ในเมื่ออสูรสวรรค์ทั้ง 5 ออกมาจากถ้ำ เป็นไปได้หรือไม่ว่า ‘ทางออก’ จะอยู่ที่นั่น?
“ใช่แล้ว!” งูเขียวไม้สวรรค์พยักหน้า “ก่อนหน้านี้ ปรมาจารย์ขงนำตัวพวกเรามาที่นี่ มอบหมายความรับผิดชอบให้พวกเราอารักขาทางออกไว้และป้องกันไม่ให้ใครหามันเจอ ผมคิดว่านั่นคือบททดสอบที่เขาตั้งใจฝากมันไว้กับพวกเรา!”
เมื่อได้ยินคำนั้น จางเซวียนขมวดคิ้วด้วยความสับสน “คุณพูดว่าปรมาจารย์ขงจับตัวพวกคุณไว้ แปลว่าพวกคุณเคยพบปรมาจารย์ขงหรือ?”
ปรมาจารย์ขงจากทวีปแห่งปรมาจารย์ไปหลายหมื่นปีแล้ว แม้อสูรสวรรค์เหล่านี้จะมีอายุขัยยืนยาวกว่ามนุษย์ แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่อยู่ได้นานขนาดนั้น ไม่อย่างนั้น ด้วยจำนวนของพวกมันที่สะสมกันมาหลายรุ่น ป่านนี้พวกมันคงยึดครองทวีปแห่งปรมาจารย์และมีอำนาจยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้ไปแล้ว
ไม่มีทางที่อสูรสวรรค์ทั้ง 5 จะมีอายุยืนยาวได้หลายหมื่นปี แล้วการที่พวกมันพูดว่าถูกปรมาจารย์ขงจับตัวไว้นั้น หมายความว่าอย่างไร?