Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1771
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1771
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1771 หลัวลั่วชิง
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแท่นหินอ่อนและกำลังจะนำมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงไปไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลัวลั่วชิงซึ่งก่อนหน้านี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย!
จางเซวียนคิดไม่ถึงว่าเธอจะฝ่าฟันมาได้จนถึงที่นี่
หากไม่มีเครื่องรางลำดับแรก ก็ไม่น่าจะเข้ามาที่นี่ได้ไม่ใช่หรือ?
แล้วเธอมาถึงก่อนเขาได้อย่างไร?
ที่สำคัญกว่านั้น…เพราะเขามีหอสมุดเทียบฟ้าอยู่ในครอบครอง จึงสามารถอ่านหนังสือจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว หรือว่าลั่วชิงก็มีความสามารถแบบนั้นเหมือนกัน?
ยังไม่ทันที่จางเซวียนจะได้ไขข้อข้องใจ การนำมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงออกจากแท่นหินอ่อนก็ทำให้วิหารแห่งขงจื๊อทั้งหลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ราวกับเสาหลักที่รับน้ำหนักของทั้งวิหารไว้ถูกเคลื่อนย้ายออกไป มิติทั้งมิติกำลังถูกฉีกกระชาก
ครืนนนน!
สิ่งแรกที่ต้องแบกรับแรงกดดันนั้นคือหอลำดับแรก คลื่นพลังงานทำลายล้างไหลบ่าเข้าสู่ห้องนั้น ทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง
แต่หลัวลั่วชิงก็ยืนอยู่ที่แท่นหินอ่อน ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับคลื่นพลังงานที่กำลังไหลบ่าเข้ามา หนังสือเล่มนั้นฉายแสงเจิดจ้า มันพยายามดิ้นรนให้พ้นจากการยึดครองของเธอ แต่ไม่ว่าจะกระเสือกกระสนสักแค่ไหน ก็ไม่อาจเป็นอิสระ
ท่ามกลางการสั่นสะท้านอย่างรุนแรงนั้น มิติโดยรอบบิดเบี้ยวไปหมด ทำให้ฉนวนของหอลำดับแรกฉีกขาด
“ในที่สุด มหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงก็ปรากฏ!”
“เร็วๆเข้า! จะต้องมีใครสักคนกำลังพยายามซึมซับมัน!”
“ใครกันที่ได้ไป? จางเซวียนหรือทายาทของผม?”
เสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วขณะที่หลายร่างพุ่งเข้าสู่หอลำดับแรก
พวกเขาคือเหล่านักปราชญ์โบราณที่พำนักอยู่บริเวณด้านนอก
ก่อนหน้านี้ พวกเขาถูกสกัดกั้นให้อยู่ด้านนอกโดยฉนวนที่ปรมาจารย์ขงติดตั้งไว้รอบหอลำดับแรก จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรอคอยอย่างอดทน แต่การที่หอลำดับแรกใกล้จะพังทลาย ก็หมายความว่ามีใครคนหนึ่งได้ครอบครองมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงแล้ว
นี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกชัดเจนว่าถึงเวลาที่พวกเขาต้องเคลื่อนไหว และผลการสู้รบในขั้นสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา
“เป็นสาวน้อยคนนั้น!”
“เธอคือ…หลัวลั่วชิง?”
เมื่อเห็นร่างที่กำลังถือมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง ทุกคนถึงกับผงะ
พวกเขาเคยคิดว่าน่าจะเป็นปรมาจารย์ที่ชื่อจางเซวียนที่ได้ครอบครองมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง แต่กลับตรงกันข้ามกับที่คิดไว้ สุดท้ายผู้ที่ได้มันไปคือสาวน้อยที่ดูไม่โดดเด่นอะไรซึ่งตามหลังจางเซวียนอยู่, หลัวลั่วชิง!
“เด็กน้อย คุณไม่อาจซึมซับมันได้หรอก ทำไมไม่มอบมันให้ผมล่ะ?”
เมื่อเห็นพลังหนักหน่วงที่แผ่ซ่านออกมาจากหนังสือ นัยน์ตาของนายใหญ่สีขาวแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น เมื่อระงับความปรารถนาไว้ไม่ได้อีกต่อไป มันก็เงื้อกรงเล็บขึ้นเพื่อจะโจมตีหลัวลั่วชิง
“ระวังด้วย!”
จางเซวียนก็งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขานึกไม่ถึงว่าฉนวนจะถูกทำลายและเรื่องจะบานปลายถึงขั้นที่แม้แต่เหล่านักปราชญ์โบราณก็มาปรากฏตัวได้
สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ปฏิกิริยาแรกของจางเซวียนคือพุ่งเข้าไปช่วยหลัวลั่วชิง แต่ขณะที่เขาทำอย่างนั้น ก็เห็นสาวน้อยเลิกคิ้วอย่างเย็นชา
บึ้มมมม!
กระแสพลังงานทำลายล้างระเบิดออกและพุ่งขึ้นสู่สวรรค์ คลื่นความสั่นสะเทือนแผ่ซ่านออกไปโดยรอบ ก่อเกิดเป็นปราการที่ปกป้องตัวเธอไว้
ฟึ่บ!
กรงเล็บของนายใหญ่สีขาวปะทะกับปราการนั้น แต่ไม่อาจทิ้งร่องรอยใดๆได้เลย
“นี่คือ…พละกำลังของนักปราชญ์โบราณ?” จางเซวียนหรี่ตาด้วยความตกตะลึง
พละกำลังที่หลัวลั่วชิงกำลังสำแดงออกมานั้นอยู่ในระดับที่มีแต่นักปราชญ์โบราณที่จะทำได้ แถมเธอยังแข็งแกร่งกว่านายใหญ่สีขาวเสียอีก!
ขณะที่หลัวลั่วชิงสำแดงพละกำลังของนักปราชญ์โบราณออกมา การต่อสู้เพื่อแย่งชิงมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงก็ค่อยๆอ่อนแรงลงทีละน้อย
“แบบนี้ไม่ดีแน่ เธอกำลังจะซึมซับมันอยู่แล้ว เราจะปล่อยให้เธอทำสำเร็จไม่ได้นะ!” นักปราชญ์เหยียนชิงคำรามอย่างพรั่นพรึง
พริบตาต่อมา ง้าวขนาดใหญ่ก็พุ่งแหวกอากาศไปเพื่อเล่นงานหลัวลั่วชิง
พละกำลังของมันทะลุผ่านพื้นที่ของมิติและกาลเวลา ทำให้ทุกอย่างดูจะหยุดชะงัก รอยแยกของมิติขนาดมหึมาถูกฉีกกระชาก มันขยายตัวออกไป กินระยะทางกว่า 10,000 ลี้
นั่นคือการโจมตีจากนักปราชญ์โบราณขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เพียงแค่โบกมือ ก็สามารถสร้างการทำลายล้างอย่างรุนแรงได้
ยังไม่ทันที่พละกำลังนั้นจะเข้าประชิดตัว จางเซวียนซึ่งอยู่ใกล้กับหลัวลั่วชิงก็รู้สึกเหมือนกระดูกกระเดี้ยวในร่างของเขาใกล้แหลกสลาย กายเนื้อของเขาซึ่งได้รับการบ่มเพาะจากเปลวเพลิงสวรรค์ขั้นสูงสุดดูจะอ่อนแอไม่ต่างอะไรกับของเด็กเล่น
เขารู้สึกว่าชีวิตใกล้จะหลุดลอย ก็พอดีกับที่หลัวลั่วชิงยกมือขึ้น
แสงนวลตาโอบล้อมร่างของเขาไว้และพาจางเซวียนออกนอกสนามรบ
ฟิ้ววว!
จากนั้น ง้าวเล่มใหญ่ก็พุ่งเข้าใส่หลัวลั่วชิง
สีหน้าของเธอไม่แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อย หลัวลั่วชิงถือมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงเอาไว้มั่น ขณะยกมือที่เหลืออีกข้างหนึ่งขึ้นเพื่อรับมือกับง้าว
เธอชี้นิ้วไปยังอาวุธทำลายล้างชิ้นนั้นและเคาะเบาๆ
วิ้งงงง!
ง้าวหยุดกึก นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงหน้าแดงก่ำขณะที่ง้าวกระเด็นหลุดจากมือ เขากระอักเลือดออกมากองใหญ่และถอยกรูดไป
“เอ่อ…” จางเซวียนหรี่ตา
ที่ผ่านมา เขาเคยคิดว่าหลัวลั่วชิงมีระดับวรยุทธใกล้เคียงกับเขา ไม่นึกเลยว่าแท้ที่จริงแล้วเธอคือนักปราชญ์โบราณ นักรบผู้ทรงพลังอย่างน่าทึ่ง!
เพียงแค่การเคาะนิ้วเบาๆ เธอก็สามารถเล่นงานนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นนักปราชญ์โบราณที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคสมัยปัจจุบันให้กระเด็นไปได้ หรือว่าเธอสำเร็จวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดแล้ว และก้าวเข้าสู่ขั้นการทำลายล้างความว่างเปล่าซึ่งมีน้อยคนที่จะรู้จัก?
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง…แล้วเธอมีภูมิหลังอย่างไร?
ครืดดดด!
ขณะที่จางเซวียนกำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น มิติที่อยู่ด้านหลังหลัวลั่วชิงก็ถูกเปิดออกคล้ายกับการฉีกกระดาษ เผยให้เห็นหลุมดำขนาดใหญ่
“เธอกำลังจะหนี! ถ้าเรายับยั้งเธอไม่ได้ มหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงจะต้องตกเป็นของเธอแน่!” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงตะโกนอย่างร้อนใจ
ยังมีนักปราชญ์โบราณอีกจำนวนหนึ่งในบริเวณนั้นที่เกิดความลังเลหลังจากที่เห็นว่าหลัวลั่วชิงยับยั้งการโจมตีของนายใหญ่สีขาวได้อย่างง่ายดาย แต่ก็รู้ดีว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงไปแน่หากไม่ลงมือทำอะไร จึงรีบเข้าร่วมวงการต่อสู้นั้น
ฟึ่บ!
ตาเฒ่าหยูรวบรวมพลังปราณและสร้างภาพลวงตาของมือคู่หนึ่งขึ้นกลางอากาศ มือคู่นั้นโบกเข้าใส่หลัวลั่วชิงอย่างดุเดือด
นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงหยิบง้าวของเขาขึ้นมาอีกครั้ง เขาควงมันด้วยพละกำลังหนักหน่วง จากนั้นก็ขว้างออกไปด้วยแรงโน้มถ่วงอันน่าอัศจรรย์
นัยน์ตาของนายใหญ่สีขาวเป็นประกายเย็นวาบขณะที่มันปลดปล่อยพละกำลังทำลายล้างทั้งหมดออกมา ในตอนนั้น เวลาดูเหมือนจะหยุดชะงักไป
นักปราชญ์โบราณทั้งหมดจากสามกลุ่มอำนาจใหญ่เปิดการโจมตีพร้อมกันเพื่อยับยั้งหลัวลั่วชิง ในเวลานั้น ดูเหมือนโลกจะย้อนกลับไปสู่ภาวะวิกฤตอย่างในสมัยก่อน ลำแสงเจิดจ้าที่เกิดจากพลังงานเข้มข้นที่รวมตัวกันอยู่ในบริเวณนั้นบิดเบี้ยวไป ทำให้ทั่วทั้งวิหารแห่งขงจื๊อตกอยู่ในความมืดมิด
นักปราชญ์โบราณคือนักรบผู้ทรงพลังที่สุดในโลก และตอนนี้นักปราชญ์โบราณกว่า 12 คนกำลังเปิดการโจมตีพร้อมๆกัน นี่คือพละกำลังที่สามารถกวาดล้างได้แม้แต่ทวีปแห่งปรมาจารย์ทั้งทวีป!
“คุณทำแบบนี้ ถามผมหรือยัง?”เสียงตะโกนเกรี้ยวกราดดังขึ้น
จากนั้น กระแสดาบฉีก็พุ่งเข้าใส่อย่างไม่ลดละ ขัดขวางการเคลื่อนไหวของเหล่านักปราชญ์โบราณ
“จางหงเทียน อย่าโง่หน่อยเลย เธอไม่ได้มาจากสภาปรมาจารย์นะ!” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงตะโกนด้วยความเคืองแค้นก่อนจะกวัดแกว่งง้าวเพื่อปัดป้องคลื่นกระแสดาบฉี
ง้าวปะทะกับปลายดาบของจางหงเทียน จางหงเทียนถูกบีบให้ล่าถอยไปหลายก้าว ใบหน้าของเขาซีดเผือด
โชคไม่ดีที่เขายังคงมีพละกำลังอ่อนด้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์
“เธอคือคนที่ทายาทของผมรัก และนั่นทำให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลจางของเรา!” จางหงเทียนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะเงื้อดาบขึ้นอีกครั้ง ตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะปกป้องหลัวลั่วชิง
แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางรับมือกับการผนึกกำลังกันของนักปราชญ์โบราณจำนวนมากได้ โดยเฉพาะเมื่อลำพังนักปราชญ์โบราณเหยียนชิงเพียงคนเดียวก็แข็งแกร่งกว่าเขามากแล้ว
ฟิ้ววววว!
การผนึกกำลังกันของเหล่านักปราชญ์โบราณยังคงพุ่งเข้าใส่หลัวลั่วชิงอย่างไม่ลดละ ทั้งหมดที่จางหงเทียนทำได้ก็คือยื้อเวลาออกไปเล็กน้อยเท่านั้น
ตอนนี้ หลัวลั่วชิงยังคงถือมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงเอาไว้มั่น และดูเหมือนพยายามจะซึมซับมัน แต่สถานการณ์ก็ไม่เข้าข้างเธอ เพราะต่อให้เธอทรงพลังขนาดไหน ก็ไม่มีทางเอาชีวิตรอดจากการรุมโจมตีของนักปราชญ์โบราณจำนวนมากได้
“ลั่วชิง…”
เมื่อรู้แล้วว่าสาวน้อยตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงแค่ไหน จางเซวียนคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เขาเรียกศพของนักปราชญ์โบราณ กระบี่เปลวเพลิงสีดำ และไอ้โหดให้มาช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันจะได้เคลื่อนไหว กระแสกระบี่ฉีก็ระเบิดออกมาจากระยะไกล
กระแสกระบี่ฉีนั้นสะท้อนแสงเจิดจ้าของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มันคือฟางเส้นสุดท้ายที่ส่งผลให้มิติโดยรอบถูกทำลายจนราบคาบ
“นายหญิง ผมจัดการเรื่องนั้นสำเร็จแล้ว ตอนนี้ผมจะช่วยคุณ!”
ฟึ่บ!
หวู่เฉินที่หายตัวไปปรากฏตัวต่อหน้าต่อตาทุกคน