Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1777
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1777
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1777 ไพ่ใบสุดท้าย
“ฮึ่ม! ถ้าพวกคุณคิดว่าผมจะยอมแพ้โดยไม่สู้ล่ะก็ คิดผิดแล้วล่ะ!”
เห็นอีกฝ่ายตั้งใจตัดความสัมพันธ์และโจมตีเขา อำมาตย์เฉินหย่งเงื้อกระบี่ขึ้น เปลวเพลิงสีดำสนิท โอบล้อมอาวุธชิ้นนั้นไว้ ราวกับเขาเพิ่งเรียกการทดสอบเปลวเพลิงสวรรค์มา
เทคนิคการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของอำมาตย์เฉินหย่ง, ลางร้ายเพลิงสวรรค์!
ประกายของกระบี่มีทั้งความคมกริบและพละกำลังทำลายล้างของเปลวเพลิงสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะต้านทานพละกำลังของมันได้
“ฮ่า!”
ราวกับจะรู้ว่าอำมาตย์เฉินหย่งจะใช้กระบวนท่านี้ อำมาตย์เฉินหลิงคำราม เขาเงื้อฝ่ามือขึ้นและปล่อยพละกำลังหนักหน่วงเข้าใส่อำมาตย์เฉินหย่ง กดดันบรรยากาศโดยรอบจนถึงขนาดที่แทบจะสัมผัสได้
ในฐานะฮ่องเต้เผ่าพันธุ์ปีศาจหมายเลขหนึ่ง อำมาตย์เฉินหย่งมีพละกำลังเหนือชั้นกว่าใคร ถึงขั้นที่ต่อให้อำมาตย์เฉินหลิงกับอำมาตย์เฉินชิงผนึกกำลังกันก็ยังทำให้เขาสะทกสะท้านไม่ได้
แต่ในตอนนั้น เพราะอำมาตย์เฉินหย่งได้รับบาดเจ็บสาหัส พละกำลังของเขาจึงเหลืออยู่ไม่ถึง 1 ใน 10 ของที่เคยมี แม้ลางร้ายเพลิงสวรรค์จะทรงพลังแค่ไหน แต่ก็ถูกบั่นทอนความรุนแรงลงไปมากเพราะร่างกายที่อ่อนแอของเขา
เมื่อพลังฝ่ามือของอำมาตย์เฉินหลิงปะทะกับกระบี่ของอำมาตย์เฉินหย่ง เปลวเพลิงนั้นก็มอดดับ กระบี่ของเขากระเด็นไปจนสุดจะเอื้อมถึง
อำมาตย์เฉินหย่งทรุดลงกระแทกกับพื้นอย่างแรงและกลิ้งไปเหมือนลูกบอล ใบหน้าของเขาซีดเผือด เลือดสดๆไหลออกจากร่าง
พูดกันตามตรง ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้แม้จะบาดเจ็บสาหัสหลังจากต่อสู้กับนักปราชญ์โบราณ 20 คน ไม่มีทางที่ในเวลานี้อำมาตย์เฉินหย่งจะรับมือกับผู้เชี่ยวชาญที่มีพละกำลังใกล้เคียงกับตัวเขาได้เลย
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เมื่อเห็นการโจมตีของตัวเองได้ผล นัยน์ตาของอำมาตย์เฉินหลิงเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “อำมาตย์เฉินหย่ง คุณถือไพ่เหนือกว่ามานานแล้ว เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าจะต้องพบจุดจบแบบนี้?”
ขณะที่พูด เขาก็เดินเข้าหาอำมาตย์เฉินหย่ง จากนั้นก็เหยียบลงบนยอดอกของอำมาตย์เฉินหย่งที่เพลี่ยงพล้ำ อำมาตย์เฉินหลิงระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
นี่คือชายผู้ขึ้นชื่อว่าไม่มีใครเทียบชั้นได้ เขาออกคำสั่งและใช้กำลังกับทุกคนที่อยู่รอบตัว ไม่มีใครที่ไม่หวาดกลัวเขา แต่ตอนนี้ก็ต้องพ่ายแพ้หมดรูปอยู่ใต้ฝ่าเท้าของอำมาตย์เฉินหลิง เผชิญหน้ากับโชคชะตาที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!
อำมาตย์เฉินหย่งที่แน่นิ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้าของอำมาตย์เฉินหลิงไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ เขาหันไปพูดกับอำมาตย์เฉินชิงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “อำมาตย์เฉินชิง ผมทำดีกับคุณมาตลอดนะ คุณแน่ใจแล้วหรือว่าอยากร่วมมือกับเขาเพื่อเล่นงานผม ถ้าเขาหักหลังผมได้ โชคชะตาแบบนี้ก็อาจเกิดขึ้นกับคุณได้สักวันหนึ่งเหมือนกัน ขอแค่คุณช่วยผมให้พ้นจากเหตุการณ์วิกฤตครั้งนี้ ผมจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้น และทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม…”
“ผม…” ได้ยินคำนั้น อำมาตย์เฉินชิงคิดหนัก
เขาวางตัวเป็นกลางมาตลอดในหมู่เผ่าพันธุ์ปีศาจ พูดกันตามตรง เขาไม่เคยคิดจะทรยศอำมาตย์เฉินหย่งหากยังมีทางเลือกอื่น
เห็นอำมาตย์เฉินชิงลังเล อำมาตย์เฉินหลิงคำรามอย่างเคืองแค้น “อำมาตย์เฉินชิง นับจากวินาทีที่เราตัดสินใจเป็นพันธมิตรกัน คุณก็ก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ถอยกลับไม่ได้แล้ว หากเขาฟื้นคืนพละกำลังได้เมื่อไหร่ล่ะก็ ทั้งคุณทั้งผมเสร็จแน่!”
อำมาตย์เฉินชิงมีทั้งความแข็งแกร่งและสติปัญญา แต่หากจะมีข้อบกพร่องสักข้อหนึ่งที่พอจะเห็นได้ก็คือความโลเลของเขา
ทั้งคู่มาไกลขนาดนี้แล้ว จะหันหลังกลับได้อย่างไร? สายไปแล้วที่จะทำอย่างนั้น!
“ผมเสียใจ, อำมาตย์เฉินหย่ง ข้อเสนอที่อำมาตย์เฉินหลิงมอบให้ผมนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ผมจะปฏิเสธ…”
เมื่อหวนนึกถึงวิธีการของอำมาตย์เฉินหลิงและข้อเสนอที่อีกฝ่ายมอบให้ อำมาตย์เฉินชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงื้อฝ่ามือขึ้นเพื่อปล่อยพลังสังหารเข้าใส่อำมาตย์เฉินหย่งที่กองอยู่กับพื้น
มันคือการโจมตีที่มีพละกำลังอันน่าทึ่ง ถ้าอำมาตย์เฉินหย่งหลบไม่พ้น ศีรษะของเขาจะต้องแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและต้องตายในทันที
พลังจากฝ่ามือของอำมาตย์เฉินชิงพุ่งเข้าใส่ศีรษะของอำมาตย์เฉินหย่งอย่างรวดเร็ว แต่อีกฝ่ายก็ดูไม่ตระหนกแม้แต่น้อย กลับตรงกันข้าม เขามีสีหน้าถอดใจและส่ายหัวด้วยความผิดหวัง
“ผมไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าคุณน่ะทรยศ แต่คุณคิดว่าผมจะประมาทเลินเล่อถึงขนาดนั้นเลยหรือ? โดยเฉพาะหลังจากที่เทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณเตือนผมเกี่ยวกับสถานการณ์ครั้งนี้แล้ว”
“อะไรนะ?”
เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย ทั้งสองอำมาตย์เกิดลางสังหรณ์เลวร้ายขึ้นมาทันที อำมาตย์เฉินหลิงตวาดก้อง “เร็วเข้า ฆ่าเขา!”
ทั้งคู่ไม่รู้ว่าอำมาตย์เฉินหย่งคิดอะไร แต่รู้ดีว่าคงโง่เง่าเต็มทีหากจะปล่อยให้อีกฝ่ายมีเวลาเหลือพอจะพลิกผันสถานการณ์
แต่ยังไม่ทันที่พลังจากฝ่ามือจะพุ่งตรงถึงเป้าหมาย ทั้งอำมาตย์เฉินชิงและอำมาตย์เฉินหลิงก็พลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พุ่งเข้าโจมตีแผงอก เมื่อลดสายตาลงมอง ก็เห็นโครงกระดูกรูปแขน 2 ข้าง แทงทะลุแผงอกของพวกเขาจากด้านหลัง
แขนของไอ้โหด!
โครงกระดูกรูปแขนทั้งสองข้างนี้ควรจะถูกชุดฟางสกัดกั้นไว้แล้วนี่! สองอำมาตย์รู้ดีว่าแขนของไอ้โหดคือไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของอำมาตย์เฉินหย่ง จึงได้เตรียมชุดฟางเอาไว้เพื่อสกัดกั้นอานุภาพของมันโดยเฉพาะ แต่ใครจะไปคิดว่าโครงกระดูกรูปแขนจะสามารถฝ่าด่านการสกัดกั้นและเข้าโจมตีหัวใจของพวกเขาได้!
“คุณ…”
เมื่อถูกโครงกระดูกรูปแขนแทงเข้าที่หัวใจ สองอำมาตย์รู้สึกได้ทันทีว่าพละกำลังของพวกเขาถดถอยลงอย่างกะทันหัน ร่างของทั้งคู่กระตุกเพราะแรงปะทะ ก่อนจะเข่าอ่อนและทรุดฮวบลงกับพื้น
ในฐานะนักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตราบใดที่ยังมีเลือดอยู่ แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลายาวนานและการสะสมพลังงานครั้งใหญ่ การที่แขนสองข้างเข้าโจมตีจุดสำคัญของพวกเขาอย่างทันท่วงทีนั้น ต่อให้ทั้งคู่เอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งนี้ไปได้ แต่ทั้งพละกำลังและอายุขัยก็จะถูกลดทอนลงมาก
“ชุดฟางคือของล้ำค่าที่ไอ้โหดทิ้งไว้ มันสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้ แล้วทำไม…” เมื่อรู้สึกว่าพลังชีวิตถูกสูบออกจากร่าง อำมาตย์เฉินหลิงแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
ชุดฟางที่ตาเฒ่าหยูนำมาควรจะมีอานุภาพควบคุมจิตใต้สำนึกในชิ้นส่วนต่างๆของร่างกายของไอ้โหด มันเป็นสิ่งที่ไอ้โหดทิ้งไว้เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าในท้ายที่สุดร่างของเขาจะกลับมาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้งและทำให้เขาฟื้นคืนชีพ
พวกเขาได้ทดสอบของล้ำค่าชิ้นนี้ และแน่ใจในอานุภาพของมันแล้ว มันควรจะควบคุมโครงกระดูกรูปแขนทั้งสองข้างไว้ได้ แล้วทำไมอำมาตย์เฉินหย่งถึงยังจัดการให้มันเคลื่อนไหวได้อีก?
อำมาตย์เฉินหย่งกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน เขาคำรามขณะหอบหายใจหนักหน่วง “จิตใต้สำนึกที่อยู่ในโครงกระดูกรูปแขนนั้นได้รับการชำระล้างจากเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ และถูกแทนที่ด้วยจิตใต้สำนึกของผมแล้ว ผมรู้ว่าคุณสองคนพยายามถ่วงเวลา และผมก็รอคอยโอกาสนี้เพื่อจะได้เล่นงานพวกคุณ…”
โดยทั่วไป ชิ้นส่วนต่างๆในร่างกายของไอ้โหดจะมีความคิดจิตใจเป็นของตัวเอง และด้วยวิถีทางของเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ จิตใต้สำนึกที่อยู่ในโครงกระดูกได้ถูกขจัดออกไปและแทนที่ด้วยจิตใต้สำนึกของเขา ดังนั้น ต่อให้ชุดฟางก็ไม่อาจควบคุมแขนสองข้างนั้นได้
ตอนที่เขาได้ยินจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ว่าพวกนั้นร่วมมือกันกับสองอำมาตย์เพื่อสังหารเขา อำมาตย์เฉินหย่งก็รู้แล้วว่าทั้งสองจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะถึงแก่ความตาย ไม่อย่างนั้น ทั้งคู่ก็คงไม่อาจอยู่อย่างสงบสุขได้
ด้วยเหตุนี้ อำมาตย์เฉินหย่งจึงจงใจทำให้ดูเหมือนว่าโครงกระดูกรูปแขนสองข้างนั้นตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชุดฟาง เพื่อให้ทั้งคู่ตายใจ แล้วเขาจะได้ปลดปล่อยการโจมตีในแบบที่พวกนั้นคาดไม่ถึง!
ตอนที่เขาขอความช่วยเหลือจากอำมาตย์เฉินชิงเมื่อครู่ก่อน อันที่จริงแล้วเขากำลังให้โอกาสอีกฝ่ายได้ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย แต่ในเมื่อหมอนั่นเลือกที่จะทรยศ เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องเกรงอกเกรงใจกันอีกต่อไป
“ไอ้สารเลว ฉันจะฆ่าแก!”
อำมาตย์เฉินหลิงนึกไม่ถึงว่าแผนการของเขาจะพังทลายหลังจากที่เตรียมการมาแล้วเนิ่นนาน เขากัดฟันกรอดด้วยโทสะเต็มเปี่ยมและรวบรวมพละกำลังทั้งหมดในร่างกาย
อำมาตย์เฉินหลิงดึงโครงกระดูกรูปแขนออกจากร่าง ก่อนจะเงื้อฝ่ามือขึ้นเพื่อปล่อยพลังโจมตีอำมาตย์เฉินหย่ง
แต่ยังไม่ทันที่พลังจากฝ่ามือของเขาจะถึงตัวอีกฝ่าย ร่างของเขาก็หายวับไป ราวกับเขาได้กระโจนเข้าสู่ทางเดินแห่งมิติ
“อำมาตย์เฉินหย่ง ผมประมาทคุณไป คราวนี้ผมอาจฆ่าคุณไม่สำเร็จ แต่ในอนาคตยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะได้ทำแบบนั้น รอดูกันไปก็แล้วกัน…” เสียงอำมาตย์เฉินหลิงค่อยๆแผ่วลงเรื่อยๆจนกระทั่งเงียบสนิท
ทุกคนคิดว่าอำมาตย์เฉินหลิงจะต้องปล่อยการโจมตี ใครจะไปคิดว่าเขาจะหนีไปแบบนี้?
“ผม…รอผมด้วย…”
เห็นเพื่อนร่วมขบวนการเตลิดหนีไปโดยไม่รอ ไม่มีทางที่อำมาตย์เฉินชิงจะกล้าอยู่ต่อ เขารีบหันหลังกลับและเผ่นหนี
เมื่อทั้งคู่จากไป ร่างของอำมาตย์เฉินหย่งโงนเงนอย่างอ่อนแรงก่อนจะร่วงลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน โครงกระดูกรูปแขนทั้งสองข้างที่เขาใช้เล่นงานสองอำมาตย์ก็ดูจะหมดเรี่ยวแรงและร่วงลงไปกองกับพื้น ในตอนนั้น เขาดูหมดสภาพอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้ก่อนหน้านี้อำมาตย์เฉินหย่งจะวางท่าน่าเกรงขาม แต่ความจริงก็คือเขาใช้พละกำลังของตัวเองไปจนหมด ถ้าสองอำมาตย์นั่นใจกล้ากว่านี้ เขาคงได้เอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่แน่!
เกิดความเงียบงันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงกับคนอื่นๆจะบินเข้ามาใกล้อำมาตย์เฉินหย่ง
“อำมาตย์เฉินหย่ง ในสภาพนี้น่ะคุณสู้กับพวกเราไม่ไหวหรอก จบชีวิตของคุณซะ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของคุณไว้!”
สองอำมาตย์อาจหนีรอดไปได้ แต่พวกเขายังคงอยู่ตรงนี้
“คุณอยากให้ผมจบชีวิตตัวเองหรือ?” เมื่อถูกรุมล้อมโดยนักปราชญ์โบราณมากมาย อำมาตย์เฉินหย่งรู้ดีว่าไม่มีทางที่เขาจะได้จากไปโดยยังมีชีวิตรอด สีหน้าของเขาดูสิ้นหวังขณะถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ใครจะคิดว่าผมจะต้องมาจบชีวิตแบบนี้?”
อำมาตย์เฉินหย่งเงื้อฝ่ามือขึ้นและพร้อมจะปล่อยพลังจากฝ่ามือเข้าใส่หน้าผากของเขา
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั้น จางเซวียนพุ่งเข้ามาและตวาดก้อง “ช้าก่อน!”