Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1812
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1812
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1812 แล้วเลือดมังกรก็…
1812 : แล้วเลือดมังกรก็…
“จัดการเลย!”
เห็นผู้อาวุโสยับยั้งหอกสวรรค์กระดูกมังกรไว้ จางเซวียนหน้าดำคร่ำเครียด ในตอนนั้นเขาไม่อาจปกปิดตัวตนไว้ได้อีกต่อไป จางเซวียนชักกระบี่เปลวเพลิงสีดำออกมา จากนั้นก็ยืดแขนออกไปเพื่อฟาดฟันใส่ปราการ
แม้ผู้อาวุโสจะเป็นนักปราชญ์โบราณขั้น 2 บรมครูนักปราชญ์ แต่ก็ใช้เรี่ยวแรงไปมากระหว่างการชำระเลือดมังกร พละกำลังของเขาจึงอ่อนด้อยกว่าเดิมหลายเท่า ใช้เวลาเพียงพริบตาเดียว กระบี่เปลวเพลิงสีดำก็ฉีกกระชากปราการได้สำเร็จ
“พลั่ก!”
ผู้อาวุโสกระอักเลือดออกจากปาก แต่ก็ยังทรงตัวไหว นัยน์ตาของเขาแดงก่ำขณะเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง
เขาปลดปล่อยพลังปราณปริมาณมหาศาลเพื่อยับยั้งหอกสวรรค์กระดูกมังกรไม่ให้เข้าถึงเลือดมังกร แม้ตัวเองจะอยู่ในสภาวะอ่อนแรง แต่ความพยายามครั้งสุดท้ายก็ได้ผล ในตอนนั้น เขายับยั้งหอกสวรรค์กระดูกมังกรไว้ได้อีกครั้ง
“ไอ้สารเลวดื้อด้าน!”
นึกไม่ถึงว่าผู้อาวุโสจะยังคงดื้อดึงขนาดนั้นทั้งที่ร่างกายอ่อนแรงจนแทบไม่ไหว จางเซวียนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธขณะกวัดแกว่งกระบี่เปลวเพลิงสีดำอีกครั้ง
ขอแค่เขาสังหารผู้อาวุโสได้ ปราการที่อีกฝ่ายใช้สกัดกั้นหอกสวรรค์กระดูกมังกรก็จะเสื่อมสลายไป
“ฮึ่มมม!” รู้ดีว่าจางเซวียนจะต้องเปิดการโจมตีแน่ ผู้อาวุโสปล่อยพลังจากฝ่ามือออกมา
บางสิ่งที่เหมือนกับผืนผ้าไหมสะบัดพรืดและตีวงล้อมกระบี่เปลวเพลิงสีดำไว้
มันคือของล้ำค่าชิ้นหนึ่ง-ของล้ำค่าระดับกึ่งนักปราชญ์โบราณ แม้จะไม่ใช่ของล้ำค่าระดับนักปราชญ์โบราณตัวจริง แต่ก็ถูกออกแบบมาอย่างดีสำหรับการสะกดจิตและสกัดกั้น ด้วยเหตุนี้ จางเซวียนจึงพลันรู้สึกว่าพลังปราณในร่างกายของเขาไหลช้าลง ราวกับมีบางอย่างปิดกั้นไว้ แม้แต่การปลดปล่อยพลังปราณก็ยังทำได้ยาก
ฟึ่บ!
เผ่าพันธุ์ปีศาจที่เป็นนักปราชญ์โบราณตัวหนึ่งปรากฏตัวตรงหน้าจางเซวียนและขวางผืนผ้าไหมนั้นไว้ มันยืดแขนออกไปก่อนจะปล่อยหมัดอันทรงพลังเข้าใส่ผืนผ้าไหม
ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศพนักปราชญ์โบราณเผ่าพันธุ์ปีศาจที่จางเซวียนเคยหลอมไว้ก่อนหน้านี้!
แม้จะเป็นศพ แต่ก็มีร่างกายที่มีประสิทธิภาพเหนือชั้นตามแบบของหุ่นโลหะไร้วิญญาณ เพียงหมัดเดียวก็ทำให้มิติที่ขวางทางมันพังทลาย ผ้าไหมสีแดงก่ำนั้นถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
พลั่ก!
ผู้อาวุโสกระอักเลือดออกมาเป็นครั้งที่สอง
ตั้งแต่แรก เขาก็ไม่พร้อมจะต่อสู้อยู่แล้วเพราะสภาวะร่างกายอ่อนแอ เพราะความมุ่งมั่นและการทุ่มสุดตัวเท่านั้นที่ทำให้เขายังคงไปต่อได้ ร่างกายอ่อนแรงของเขาถูกสอยกระเด็นไปไกลจากแรงปะทะ จากนั้นก็ตกตุ้บกระแทกกับพื้นอย่างแรงท่ามกลางฝุ่นคลุ้ง เท่าที่เห็น เขาน่าจะหมดสภาพไปอีกระยะหนึ่ง
จางเซวียนกวัดแกว่งกระบี่เปลวเพลิงสีดำอย่างรวดเร็วอีกครั้งเพื่อฉีกกระชากปราการที่ถูกสร้างขึ้นก่อนตวาดก้อง “ไปเลย!”
“ได้!”
หอกสวรรค์กระดูกมังกรพุ่งพรวดออกไปราวกับสายฟ้า
ในชั่วพริบตา โครงกระดูกมังกรขนาดใหญ่ก็ไปอยู่ตรงหน้าเลือดมังกร มันอ้าปากกว้างเพื่อกลืนกินเลือดมังกรนั้น
ขณะที่เลือดมังกรกำลังจะไหลเข้าสู่ร่างของโครงกระดูกและถูกซึมซับเข้าไป การเคลื่อนไหวของมันก็ถูกยับยั้งไปในทันที ดูเป็นภาพพิสดารพันลึกมาก โครงกระดูกที่นิ่งงันไม่ไหวติง กับเลือดมังกรหยดหนึ่งที่ลอยนิ่งอยู่กลางปากของมัน
“เวรละ!” จางเซวียนหรี่ตาด้วยความตกใจ
เขารีบเงยหน้าขึ้น และเห็นร่างหนึ่งอยู่เหนือศีรษะของเขา ร่างนั้นชี้นิ้วมาที่โครงกระดูกมังกร
แน่นอนว่าเขาคือผู้ที่ทำให้มิติโดยรอบแข็งทื่อเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของหอกสวรรค์กระดูกมังกร
อำมาตย์เฉินหลิง!
ลงท้าย พวกเขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง
ในตอนนั้น สีหน้าของอำมาตย์เฉินหลิงดูซีดเผือดเล็กน้อย บ่งบอกว่าเขายังไม่หายดี แต่ถึงอย่างนั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือนักรบที่มีวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด ซึ่งหอกสวรรค์กระดูกมังกรไม่มีทางเทียบชั้นกับเขาได้เลย
หลังจากสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของหอกสวรรค์กระดูกมังกรแล้ว อำมาตย์เฉินหลิงก็หันมาจ้องหน้าจางเซวียน นัยน์ตาของเขาฉายความโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรงที่แผดเผาอยู่ภายใน ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ทุกอย่างที่อยู่ในบริเวณนั้นคงจะแตกสลายไปหมดแล้วในชั่วพริบตา
“คุณคือจางเซวียนใช่ไหม? ไม่นึกเลยว่าคุณจะกล้าถึงขนาดลักลอบเข้ามาในวังของผม และสังหารลูกน้องที่ผมไว้ใจด้วย ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!”
หอกสวรรค์กระดูกมังกรและกระบี่เปลวเพลิงสีดำเป็นของล้ำค่าเฉพาะตัวของจางเซวียน ต่อให้การปลอมตัวเป็นนักปราชญ์โบราณหลันหยาของเขาจะแนบเนียนสักแค่ไหน แต่ของล้ำค่าเหล่านี้ก็เปิดเผยความจริงอยู่ดี
“ไอ้โหด!”
เมื่อรู้สึกได้ถึงอันตรายใหญ่หลวงจากร่างที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา จางเซวียนรีบนำไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาโดยไม่ลังเล
หนังสือเทียบฟ้าปรากฏขึ้น แขนข้างหนึ่งของไอ้โหดโผล่ออกมาจากหนังสือและกระดิกนิ้ว
ฟิ้วววว!
มิติที่สกัดกั้นอยู่โดยรอบเริ่มไหลเวียนตามปกติอีกครั้ง ปากที่อ้ากว้างของโครงกระดูกมังกรหุบลงทันที
กรึ่บบบ!
เสียงหุบปากของโครงกระดูกมังกรได้ยินชัดไปทั่วทั้งห้อง แต่โครงกระดูกมังกรก็ไม่ได้รับรู้ถึงพละกำลังมหาศาลเมื่อครู่ เพราะร่างของมันถูกสกัดกั้นไว้
“มนุษย์เข้ามาถึงที่นี่ได้เลยหรือ?” เสียงเยาะเย้ยของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในห้อง “ อำมาตย์เฉินหลิง ดูเหมือนวังของคุณจะไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คุณคิดแล้วนะ…”
จากนั้น หญิงสาวคนหนึ่งที่มีเรือนร่างยั่วยวนก็ปรากฏตัวในห้อง สิ่งที่หมุนอย่างช้าๆอยู่ที่ปลายนิ้วของเธอคือเลือดมังกรหยดนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอขโมยเลือดมังกรไปจากปากของโครงกระดูกมังกร ขณะที่มันกำลังพยายามกลืนกิน
สาวน้อยคนนี้ดูจะมีอายุราว 30 ต้นๆ เมื่อมองแวบแรก ไม่อาจกะระดับวรยุทธของเธอได้ ให้ความรู้สึกคล้ายกับผู้อาวุโสที่เพิ่งดำเนินพิธีกรรมเมื่อครู่ หรือพูดอีกอย่างก็คือ เธอน่าจะเป็นนักปราชญ์โบราณขั้น 2 บรมครูนักปราชญ์เช่นกัน
จางเซวียนเลิกคิ้วด้วยความอัศจรรย์ใจ
เขารู้ดีว่ามีนักปราชญ์โบราณหลายคนให้การอารักขาอยู่ที่หอนอนของอำมาตย์เฉินหลิง แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะมาถึงเร็วขนาดนี้
“เอาเลือดมังกรกลับมานะ!”
รู้ดีว่าอันตรายอาจรุนแรงไปกว่านี้ในทุกวินาทีที่ผ่านไป จางเซวียนรีบสั่งการกับไอ้โหด
ฟึ่บ!
แขนที่โผล่ออกมาจากหนังสือเทียบฟ้าพุ่งเข้าใส่สาวน้อยที่มีวรยุทธขั้นบรมครูนักปราชญ์ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า อีกฝ่ายไม่ทันระมัดระวังตัวเพราะความว่องไวอย่างน่าทึ่งของแขนนั้น ก่อนที่เธอจะรู้ตัว มิติที่อยู่โดยรอบก็ถูกสกัดกั้น ทำให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้
พลั่ก!
พลังฝ่ามือพุ่งเข้าใส่แผงอกของเธออย่างจัง อีกฝ่ายถูกสอยกระเด็นไปไกลทันที
“เอามันมา!”
รู้ดีว่าเธอคงไม่อาจได้เลือดมังกรกลับคืนมาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูทรงพลังขนาดนี้ สาวน้อยรีบส่งเลือดมังกรให้อำมาตย์เฉินหลิง
อำมาตย์เฉินหลิงรับเลือดมังกรไว้ได้อย่างแม่นยำ แต่แขนที่อยู่ในหนังสือเทียบฟ้าก็ไม่ช้า สองผู้ยิ่งใหญ่จึงปะทะกันอย่างดุเดือด เกิดคลื่นความสั่นสะเทือนที่มีอานุภาพทำลายล้างแผ่ซ่านออกไปทั่วบริเวณ ภายใต้พละกำลังมหาศาลนั้น ค่ายกลที่อยู่ในพื้นที่ถึงขีดสุดแห่งความทนทานของมันและแตกกระจาย
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
“ดูเหมือนอำมาตย์เฉินหลิงจะกำลังสู้กับใครสักคน…”
การพังทลายของค่ายกลหมายความว่าพวกเขาไม่ได้สู้กันในสภาพแวดล้อมที่ถูกแยกตัวออกมาอีกต่อไป เมื่อได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครม นักปราชญ์โบราณอีก 2 คนก็รีบบินเข้ามาตรวจสอบสถานการณ์
ก็เหมือนกับสาวน้อยเมื่อครู่ พวกเขาเป็นนักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นบรมครูนักปราชญ์ หากอยู่ตามลำพังก็ไม่ครนามือไอ้โหด แต่เมื่อผนึกกำลังกัน ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาคือพละกำลังที่รับมือด้วยได้ยาก
เพราะอาการบาดเจ็บของอำมาตย์เฉินหลิง ไอ้โหดจึงถือไพ่เหนือกว่าในการปะทะ เขาเกือบจะได้หยกเลือดมังกรมาแล้ว แต่เมื่อมีนักปราชญ์โบราณอีก 2 คนเข้ามาร่วมวงและช่วยอำมาตย์เฉินหลิง สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ไอ้โหดพบว่าตัวเองไม่สามารถก้าวออกไปได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว ไม่ว่าจะออกแรงสักแค่ไหน ราวกับถูกใครบางคนตรึงร่างของเขาไว้กับที่
แม้ไอ้โหดจะเข้าไม่ถึงเลือดมังกร แต่ก็สามารถกีดกันไม่ให้คนอื่นเข้าถึงได้เช่นกัน อำมาตย์เฉินหลิงกัดฟันกรอดแล้วตวาดก้อง “เปิดใช้งานค่ายกล!”
หึ่งงงง!
ค่ายกลทั้งหมดที่ถูกติดตั้งไว้รอบหอนอนของอำมาตย์เฉินหลิงส่งเสียงหึ่งเพื่อแสดงการทำงาน แสงเจิดจ้าปรากฏขึ้นทั่วทั้งบริเวณ ตรงเข้าเล่นงานไอ้โหดทันที
อำมาตย์เฉินหลิงได้ใช้เวลานานนับปีไม่ถ้วนจารึกตัวอักษรและติดตั้งค่ายกลไว้ในห้องนอนของเขา เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะมีไม้ตายไว้รับมือกับอำมาตย์เฉินหย่งหากต้องปะทะกัน
แม้ไอ้โหดจะได้วรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดโลกจารึกกลับมาแล้ว แต่การทำลายค่ายกลอย่างรวดเร็วก็ยังอยู่เหนือความสามารถของมัน
เห็นไอ้โหดติดกับอยู่ในค่ายกล อำมาตย์เฉินหลิงถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ผมเสียอะไรไปมากมายเพื่อขัดเกลาเลือดมังกรหยดนี้ จะปล่อยให้คนนอกอย่างคุณมาฉกฉวยมันไปได้อย่างไร?” อำมาตย์เฉินหลิงคำราม
เขาแบมือ แล้วเลือดมังกรก็หยดลงสู่มือของเขา แผ่พลังงานเดือดพล่านออกมา
อำมาตย์เฉินหลิงเคาะนิ้วลงบนหยดเลือดเบาๆ แล้วร่างมังกรที่อยู่ในนั้นก็เปล่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดโหยหวนออกมา ราวกับใครบางคนเพิ่งทำลายเจตจำนงของมัน
อำมาตย์เฉินหลิงอ้าปาก เตรียมจะกลืนเลือดมังกรลงไปอย่างไม่ลังเล
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในระดับที่สั่นคลอนรากฐานวรยุทธของเขา และไม่ช้าไม่นานจะต้องเสียชีวิตแน่ วิธีเดียวที่จะฟื้นคืนพละกำลังก็คือการบ่มเพาะด้วยเลือดมังกรที่ผ่านการขัดเกลาแล้ว
“ไม่นะ! มันเป็นของผม”
เห็นโอกาสหายากในการจะได้ฝ่าด่านวรยุทธกำลังจะลื่นหลุดจากมือ หอกสวรรค์กระดูกมังกร คำรามลั่น มันพุ่งเข้าใส่อำมาตย์เฉินหลิงอย่างไม่ลังเล ตั้งใจจะคว้าเลือดมังกรมาให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม
หอกสวรรค์กระดูกมังกรพุ่งเข้ากระแทกร่างของอำมาตย์เฉินหลิงอย่างแรง ทำให้เขาถึงกับเซ เลือดมังกรลื่นจากนิ้วของอำมาตย์เฉินหลิงและร่วงลงกับพื้น
“แกรนหาที่ตายแล้ว!” อำมาตย์เฉินหลิงคำรามขณะปล่อยพลังฝ่ามือเข้าใส่หอกสวรรค์กระดูกมังกร
พลั่ก!
หอกสวรรค์กระดูกมังกรจะต้านทานการโจมตีของนักรบที่มีวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดได้อย่างไร? มันพุ่งลงปักพื้นดิน เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
“ฮึ่มมม!”
หลังจากเล่นงานหอกสวรรค์กระดูกมังกรแล้ว อำมาตย์เฉินหลิงเงื้อมือขึ้นอีกครั้งและเรียกเลือดมังกรกลับมาหาตัวเอง จากนั้นเขาก็ยื่นมือเข้าปาก เตรียมจะดื่มเลือดมังกร ก็พอดีกับที่รู้สึกเย็นเยือกที่ปลายนิ้วราวกับมีลมพัด
ยังไม่ทันจะรู้ตัว เลือดมังกรก็หายวับไปจากปลายนิ้วของเขาอีกครั้ง
“อะไรกัน?”
อำมาตย์เฉินหลิงรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด เขารีบหันไปมองว่าลมนั้นพัดไปทางไหน และก็ได้พบกับน้ำเต้าลูกหนึ่งที่ลอยอยู่ ร่างของน้ำเต้านั้นยุบลงไปข้างใน เกิดเป็นหลุมยุบที่เลือดมังกรถูกดูดเข้าไปในหลุมและซึมซับเข้าสู่ร่างของอีกฝ่าย
เลือดมังกรถูกกลืนกินไปด้วยวิธีนี้