Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1881
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1881
ตอนที่ 1881 ทายาทของนักปราชญ์โบราณจื่อลู่
จ้งฉิงคือทายาทคนหนึ่งของนักปราชญ์โบราณจื่อลู่ เขาทำหน้าที่
ควบคุมการทดสอบของสำนักแห่งขงจื๊อในปีนี้ และเป็นคนเดียวกัน
กับชายวัยกลางคนที่อ่านกฎกติกาของการทดสอบกลางอากาศเมื่อ
ครู่ก่อนจะเริ่มการทดสอบ
จ้งฉิงไม่ได้ทำแบบเดียวกับอาจารย์คนอื่น ๆ เขากลับไปที่ห้องของ
ตัวเองหลังจากเปิดใช้งานค่ายกลรอบภูเขา ไม่ได้อยู่รอกระบวนการ
คัดออกหรือผลการทดสอบ
มันก็แค่การทดสอบเพื่อคัดเลือกนักเรียนใหม่ รอดูผลลัพธ์ตอน
ท้ายสุดก็พอ เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรค่าพอที่เขาจะสนใจ
เขายืนอยู่ข้างโต๊ะตัวหนึ่ง คว้าพู่กันมาจุ่มหมึก จากนั้นก็ตั้งต้นเขียน
ลงบนกระดาษ กลิ่นหมึกอบอวลไปทั่วห้อง
ลายมือของเขาเป็นระเบียบเรียบร้อย ตัวหนังสือทุกตัวล้วนแต่มี
แนวคิดอยู่เบื้องหลัง แค่มองแวบเดียวก็จะรู้สึกได้ถึงภาวะสงบเย็นที่
เขาดื่มด่ำอยู่
ฟึ่บ!
ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในห้องอย่างปุบปับ เมื่อเห็นชายวัยกลางคน
กำลังเขียนตัวอักษรอย่างสบายใจ ก็เลิกคิ้วขณะอุทานว่า “พี่จ้ง มัวทำ
อะไรอยู่ที่นี่? ควรจะไปดูการทดสอบเสียหน่อยนะ มีบางอย่างแปลก ๆ
เกิดขึ้น…”
ถ้าจางเซวียนอยู่ด้วย ก็จะจดจำผู้ที่เพิ่งเข้ามาในห้องได้อย่างแม่นยำ…
หนานกงหยวนเฟิง!
“หยวนเฟิง คุณน่ะตื่นตกใจเกินกว่าเหตุอีกแล้วนะ ผมบอกคุณอยู่
เสมอว่าควรจะสงบจิตสงบใจไว้บ้าง แต่คุณก็ไม่ฟัง มันก็แค่การ
ทดสอบของพวกหนุ่มสาว มีอะไรให้ต้องตื่นเต้น? ถ้าคุณไม่พยายาม
แก้ปัญหาด้วยตัวเองล่ะก็ จะไม่มีวันยกระดับวรยุทธไปได้ไกลกว่านี้
เลย!”
แม้ยังไม่เงยหน้า จ้งฉิงก็ดูจะรู้ตัวบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขา
โต้ตอบด้วยน้ำเสียงสุขุมขณะตวัดพู่กันอย่างสง่างามต่อไป
“พี่จ้ง ผมซาบซึ้งในคำแนะนำด้วยความปรารถนาดีของคุณ แต่นี่ไม่ใช่
เวลาที่จะมามัวเยือกเย็นนะ การทดสอบแบบคัดออกน่ะกำลังเกิด
ความวุ่นวายครั้งใหญ่แล้ว!” หนานกงหยวนเฟิงอุทานอย่างร้อนใจ
“ความวุ่นวายครั้งใหญ่? วุ่นวายแบบไหน?” จ้งฉิงถามเรียบ ๆ ขณะ
ยังเขียนตัวอักษรต่อไป
“บรรดาผู้เข้าทดสอบถูกคัดออกเร็วมาก ตอนนี้หายไปเยอะแล้ว ผม
เกรงว่าการทดสอบอาจสิ้นสุด ก่อนระยะเวลา 6 ชั่วโมง อีกอย่าง…
กลุ่มผู้เข้าทดสอบที่เรามองว่าจะผ่านการทดสอบแน่ ๆ ก็ถูกคัดออก
หมด มีความเป็นไปได้ว่าผู้ที่เหลืออยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายในการทดสอบ
อาจจะไม่ใช่ผู้เข้าทดสอบ 100 คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้…”
หนานกงหยวนเฟิงอธิบายอย่างเป็นกังวล
เขาอยู่ในเหตุการณ์ จึงเห็นทุกอย่างชัดเจน
แม้แต่อัจฉริยะชั้นยอดอย่างเหยียนอี้เฉี่ยวก็ยังถูกคัดออก ส่วน
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ที่พวกเขาหมายตาไว้ก็พ่ายแพ้ไม่เป็นท่า
เหตุผลก็คือคนเหล่านั้นได้ปะทะกับทายาทของนักปราชญ์โบราณ
จื้อฉื่อ
มาถึงตอนนี้ ก็เป็นที่รู้กันโดยไม่ต้องพูดออกมาว่าใครก็ตามที่พบกับ
เหล่าทายาทของนักปราชญ์โบราณจื้อฉื่อจะต้องถูกคัดออกทุกราย
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป การทดสอบจะไม่ใช่การประลองความแข็งแกร่ง
อีกต่อไป แต่เป็นการวัดดวงว่าทำอย่างไรจะหลบเลี่ยงไม่ให้พบเจอ
กับเหล่าทายาทของนักปราชญ์โบราณจื้อฉื่อได้จนสิ้นสุดการทดสอบ!
การทดสอบที่เคร่งขรึมจริงจังกลายเป็นเรื่องเล่น ๆ ไปตั้งแต่เมื่อไหร่
แล้วจะไม่ให้เขาตื่นตระหนกได้อย่างไร?
“อ้าว? แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ?” จ้งฉิงดูจะไม่ประหลาดใจกับข่าวที่ได้
ยิน เขาจุ่มพู่กันลงในหมึกอีกครั้งแล้วเขียนตัวอักษรต่อไปก่อนจะ
หัวเราะหึ ๆ “ระดับความชาญฉลาดของเหล่าทายาทของร้อยสำนัก
แห่งนักปราชญ์นั้นไม่ได้เหลื่อมล้ำกันมากนัก สิ่งที่เราต้องทำก็คือ
บีบจำนวนของพวกเขาให้เหลือเพียง 100 คน ส่วนจะเป็นใครบ้าง
เรื่องนั้นเป็นประเด็นรอง ต่อให้ตอนนี้พวกเขาจะทรงพลังสักแค่
ไหน แต่ก็จะประสบความสำเร็จมากกว่านี้หลังจากได้เข้าเรียนที่
สำนักแห่งขงจื๊อแล้ว”
“ก็ใช่ ผมว่าที่คุณพูดก็ฟังขึ้น…” เห็นความสุขุมเยือกเย็นของจ้งฉิง
หนานกงหยวนเฟิงดูจะคลายความกังวลไปเล็กน้อย
ก็จริงที่ว่าพวกเขาสนใจแค่การบีบจำนวนผู้เข้ารับการทดสอบให้
เหลือเพียง 100 คน ส่วนคนเหล่านั้นจะเป็นใครนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เท่าไหร่
การทดสอบแบบคัดออกอาจไม่ยุติธรรมนัก แต่ในท้ายที่สุด ทุกอย่าง
ก็ขึ้นอยู่กับขีดจำกัดของพละกำลัง ใครที่มีพละกำลังไม่มากพอหรือ
ไม่รู้จักวิธีเอาตัวรอด ก็คงต้องโทษตัวเองเท่านั้น
“ถึงสิ่งที่คุณพูดมาจะฟังขึ้น แต่ผู้เข้าทดสอบส่วนใหญ่ถูกคัดออก
เพราะคนเพียงคนเดียวนะ แถมจำนวนผู้ถูกคัดออกก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนพวกเขาจะจะรวมหัวกันตั้งสมาคมประหลาด
อะไรสักอย่างขึ้นมาด้วย…” หนานกงหยวนเฟิงพูด
“พวกเขาถูกกำจัดโดยคนคนเดียว? ใครกัน? เหยียนอี้เฉี่ยว หรือต้วน
มู่เฉี่ยว?” จ้งฉิงถาม
“ไม่ใช่น่ะสิ พวกเขาถูกกำจัดโดยทายาทคนหนึ่งของนักปราชญ์
โบราณจื้อฉื่อ” หนานกงหยวนเฟิงตอบ
“ทายาทของนักปราชญ์โบราณจื้อฉื่อ?” จ้งฉิงผงะไปอย่างเห็นได้ชัด
ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้ “คุณหมายถึงฟ่ านเฉี่ยวฉู ฟ่ าน
เฉี่ยวเฟิง และฟ่านเฉี่ยวชิงใช่ไหม?”
เขาได้อ่านรายชื่อของตระกูลต่าง ๆ แล้ว และจดจำชื่อของผู้เข้าทดสอบ
ทุกคนได้
“ถูกต้อง” หนานกงหยวนเฟิงตอบหนักแน่น
“ทายาทของนักปราชญ์โบราณจื้อฉื่อไม่เคยทำผลงานได้โดดเด่นใน
การทดสอบเลย การที่พวกเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำของการทดสอบได้บ่ง
บอกว่าพวกเขาได้หมั่นเพียรฝึกฝนอย่างหนัก ซึ่งก็ไม่เป็นไรนี่ ปล่อย
ให้พวกเขาทำตามใจ ทุกคนมีขีดจำกัดของตัวเอง การที่พวกเขาขึ้นมา
เป็นผู้นำในตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้นำไปได้จนกระทั่ง
สิ้นสุดการทดสอบ ในฐานะกรรมการ บทบาทของเราคือเฝ้าดูและ
ประเมิน ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว!” จ้งฉิงตอบอย่างสุขุมขณะ
เขียนตัวอักษรต่อไป
“ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ผมก็คงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว…” เห็นความ
เยือกเย็นของจ้งฉิง หนานกงหยวนเฟิงยักไหล่ เขากำลังจะหันหลัง
กลับแล้วออกจากห้อง ก็พอดีกับที่นึกได้ “อ้อ ผมลืมบอกคุณ หัวหน้า
สมาคมผู้เข้าทดสอบที่ถูกคัดออกโดยทายาทของนักปราชญ์โบราณจื้
อฉื่อนั่นน่ะ ดูเหมือน จะเป็นหลานชายของคุณนะ, จ้งจื้อชุน!”
ฟึ่บ!
พู่กันสะบัดหมึกสีดำสนิทลงบนกระดาษสีขาวขณะที่จ้งฉิงเงยหน้า
ขึ้นอย่างประหลาดใจ
เขารู้ว่าหลานชายของเขาเข้าทดสอบด้วย และคิดว่าคงจะเอาตัวรอด
ไปได้จนถึงสิ้นสุดการทดสอบ แต่แล้วก็กลับกลายมาเป็นหัวหน้า
ของสมาคมอะไรสักอย่างที่ถูกคัดออก นี่มันบ้าบออะไร?
“รอก่อน คุณกำลังบอกผมว่าจื้อชุนถูกคัดออกหรือ?” แม้จ้งฉิงจะไม่
อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็พยายามรักษาความสุขุมและอดทนอด
กลั้นไว้
“ใช่แล้ว เขาภาคภูมิใจมากที่ถูกคัดออกเป็นคนแรก ๆ และการที่เขา
รับตำแหน่งหัวหน้าสมาคมก็หมายความว่าทุกคนย่อมเชื่อฟังคำพูด
ของเขา!” หนานกงหยวนเฟิงพูด
“เจ้าสารเลว!” จ้งฉิงกำหมัดแน่น
ในตระกูลของเขามีคนงี่เง่าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่เพียงแต่จะไม่อับอายที่ถูกคัดออก ยังรู้สึกเป็นเกียรติด้วย…
เขาต้องสั่งสอนบทเรียนเจ้านั่นให้ได้!
“ช่างเถอะ ปล่อยเขาไป!” จ้งฉิงสูดหายใจลึก พยายามระงับความ
โมโหก่อนจะส่ายหน้า “ถึงอย่างไรผมก็มีทายาทถึง 8 คนที่เข้าร่วม
การทดสอบครั้งนี้ เป็นเพราะผมตามใจจื้อชุนมาตั้งแต่เขายังเล็ก เขา
จึงทำอะไรไม่เหมาะไม่ควรออกไป เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับคน
อื่น ๆ หรอก…”
“คนอื่น ๆ ?” หนานกงหยวนเฟิงเงียบกริบ เขานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อน
จะตั้งคำถาม “คุณหมายถึง จ้งจื่อเฟิง จ้งจื่ออี้ จ้งจื่อชวน และคนอื่น ๆ
ใช่ไหม?”
จ้งฉิงพยักหน้า “พวกนั้นน่าจะไว้ใจได้มากกว่าเจ้างี่เง่าจ้งจื้อชุน…”
“เอ่อ พวกนั้นถูกคัดออกแล้วเหมือนกัน และเป็นกลุ่มแรกที่เข้าร่วม
สมาคม ถ้าไม่ใช่เพราะการออกเสียงของพวกเขา จ้งจื้อชุนจะได้เป็น
หัวหน้าสมาคมได้อย่างไร?”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ หนานกงหยวนเฟิงอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ “ผม
ต้องขอบอกว่าเชื้อสายตระกูลของคุณนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
จริง ๆ ขณะที่คนอื่น ๆ เสียอกเสียใจกับความพ่ายแพ้ แต่เหล่าเชื้อ
สายตระกูลของคุณได้พยายามก่อตั้งสมาคมขึ้น บอกเลยว่าผมยำ
เกรงกับวิธีการที่พวกเขารับมือกับความพ่ายแพ้ได้อย่างสุขุมเยือก
เย็น…”
ป๊อกกก!
เกิดเสียงหักดังป๊อกขณะที่พู่กันในมือของจ้งฉิงหักเป็นสองท่อน เขา
คำรามลั่นด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ ราวกับทุ่งหญ้า “เจ้าพวกโง่เง่า ผมจะ
ฆ่าพวกมันให้หมดเดี๋ยวนี้!”
ฟึ่บ!
ร่างของจ้งฉิงหายวับไปจากห้องทันที
เห็นชายที่เพิ่งสุขุมเยือกเย็นอยู่เมื่อครู่เกิดอาการของขึ้น หนานกง
หยวนเฟิงเกาหัวและพูดอะไรไม่ออก
ลงท้าย ที่จ้งฉิงบอกให้ทำใจเย็นก็เพราะเรื่องพวกนั้นไม่เกี่ยวข้องกับ
เขา พอมีสมาชิกในตระกูลของเขาเข้ามาพัวพัน เขาก็เป็นฟืนเป็นไฟ
ราวกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้…
แต่ก็นั่นแหละ เขาต้องยอมรับว่าฟ่านเฉี่ยวฉู ฟ่านเฉี่ยวเฟิง และฟ่าน
เฉี่ยวชิงเป็นนักรบที่น่าทึ่ง
สามารถกำจัดผู้เข้าทดสอบทั้ง 8 คนที่มาจากเชื้อสายของตระกูล
นักปราชญ์โบราณจื่อลู่ได้พร้อมกันในคราวเดียว ช่างไร้ความปรานี
เสียเหลือเกิน!
เท่านั้นยังไม่หมด ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สนใจว่าใครคอยหนุนหลัง
ผู้เข้าทดสอบเหล่านั้นด้วย ใครก็ตามที่เผชิญหน้ากับพวกเขาจะถูก
กำจัดในทันที ราวกับว่าหัวจิตหัวใจของทั้งสามไม่มีคำว่าเมตตา
ปรานีอยู่เลย
พวกเขาสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนจำนวนมากมายขนาดนี้ภายใน
ระยะเวลาอันสั้น ไม่กลัวว่าใครต่อใครจะทำให้พวกเขาลำบากบ้าง
หรือเมื่อได้เข้าสู่สำนักแห่งขงจื๊อแล้ว?
ใครก็รู้ว่าแม้สำนักขงจื๊อจะก่อตั้งขึ้นด้วยการลงทุนลงแรงของ 72
นักปราชญ์ และเหล่าทายาทของ 72 นักปราชญ์ก็ล้วนแต่มีส่วนใน
การบริหารองค์กร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเหลื่อม
ล้ำของอำนาจระหว่างแต่ละตระกูล
อย่าว่าแต่เรื่องอื่น ลำพังเชื้อสายของนักปราชญ์โบราณจื่อลู่ที่จ้งฉิง
เป็นคนหนึ่งในตระกูลนั้นก็มีบทบาทและมีสิทธ์ิมีเสียงมากมายใน
สำนักแห่งขงจื๊อแล้ว เพราะจำนวนผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ภายใต้สังกัดของ
พวกเขา
การปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา ตอนนี้
อาจดูน่าตื่นเต้น แต่ความซับซ้อนยุ่งเหยิงจะต้องติดตามมาในอีกไม่
นาน
แต่ก็นั่นแหละ สามคนนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้ตัวเองทำผิดพลาด
ในอนาคตอันใกล้ สำนักแห่งขงจื๊อคงมีอะไรสนุก ๆ ให้เห็นอีกมากมาย
แน่!