Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1927
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1927
ตอนที่ 1927 พวกองค์กรทุนนิยม!
เขาได้เงินมาจำนวนหนึ่งแล้วจากการชนะดวลติดต่อกัน 7 รอบ แต่ก็
ยังไม่มากพอให้จ่ายค่ายาเม็ดตะวันสีน้ำเงิน ถ้าไม่มีใครตอบรับคำท้า
ดวลของเขา การจะหาเงินให้ได้ครบตามจำนวนก็คงลำบาก
ไม้ไผ่ยืนนิ่งบนสังเวียน ประเมินชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน
อีกฝ่ายดูธรรมดาสามัญเหลือเกิน ไม่มีอะไรเตะตาหรือเป็นที่สังเกต
หมอนี่เอาชนะศิษย์พี่ทั้งสองคนของเขาได้อย่างไร?
“นักดาบอีกคนหรือ?” จางเซวียนเปรยเมื่อเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
เขาชักดาบออกมา
ไม้ไผ่พยักหน้าขณะชักดาบออกจากฝัก เขารี่เข้าใส่โดยไม่ลังเล
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอวิ๋นเฟยหยางและหวงเทา ก็ชัดเจนว่าชาย
ที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริง เขาจึงตัดสินใจออกตัวก่อน
แต่ยังไม่ทันที่ดาบของเขาจะเข้าถึงตัวคู่ต่อสู้ ก็เกิดแสงสว่างวาบ
ตรงหน้า มันเจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์ขึ้น รังสีของมันทำให้เขาจังงัง
ไปครู่หนึ่ง
พลั่ก!
อีกร่างหนึ่งทรุดฮวบลงกับพื้น
หน้าเหลี่ยมอ้าปากค้าง
เขาเคยคิดว่าหวงเทากับอวิ๋นเฟยหยางยกยอพละกำลังของอีกฝ่ายเกิน
จริง แต่เท่าที่เห็น ที่พูดมายังน้อยไปด้วยซ้ำ!
ความสามารถในการป้องกันตัวของอวิ๋นเฟยหยางถือเป็นหนึ่งในผู้
แข็งแกร่งที่สุดบรรดาของศิษย์สายตรงฝ่ายนอก แต่ถ้าเป็นการโจมตี
ไม้ไผ่รั้งอันดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้
แตะแม้กระทั่งแขนเสื้อของอีกฝ่าย
ใช้คำว่าน่าสะพรึงก็ยังน้อยไป!
หวงเทามองหน้าเหลี่ยม “คุณจะลองไหม?”
“ผม…” หน้าเหลี่ยมส่ายหัวและพูดเสียงอ่อย “ขนาดพวกคุณสามคน
ยังสู้เขาไม่ได้ ผมก็ไม่คิดว่าผมจะทำได้ดีกว่านั้นหรอก…ผมขอผ่าน!”
เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา แต่เพราะขนาดไม้ไผ่กับอวิ๋นเฟยหยางที่เป็น
สองผู้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ายนอกก็ยังเทียบชั้นกับ
อีกฝ่ายไม่ได้ เขาคงต้องมีชะตากรรมแบบเดียวกันหากเข้าไปท้าทาย
หมอนั่น!
“ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งขนาดนี้ปรากฏตัวในเมืองแสงดาวตั้งแต่เมื่อ
ไหร่? เราต้องรายงานเรื่องนี้ให้ผู้อาวุโสลู่รับทราบ” หน้าเหลี่ยมพูด
“ถูกต้อง!”
ทุกคนพยักหน้า จากนั้นก็รีบออกจากหอนิรันดร์และหายวับไป
…..
“ในที่สุด เราก็เล่นงานคู่ต่อสู้คนที่ 8 ได้สำเร็จ…” จางเซวียนถอน
หายใจอย่างโล่งอก
เขากังวลอยู่ว่าการไม่มีคู่ต่อสู้อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการหาเงิน
ของเขา แต่โชคดีที่มีเจ้าโง่อีกคนหนึ่งกระโจนขึ้นมาในวินาทีสุดท้าย
โลกนี้มีคนใจกว้างอยู่มากมายเหลือเกิน!
จางเซวียนรีรออยู่บนสังเวียนประลองอีกครู่หนึ่ง แต่ไม่มีใครอยาก
ดวลกับเขาในรอบที่ 9 จึงจำใจต้องลงจากสังเวียนอย่างผิดหวัง
เขากลับไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า และเมื่อพบเจ้าหน้าที่ชายคนนั้นอีก
ครั้ง ทีท่าของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ด้วยวีรกรรมอันโด่งดังของจางเซวียนในสังเวียนประลอง เจ้าหน้าที่
ชายจึงรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
เขาเคยคิดว่าหมอนี่เป็นแค่เจ้าหนุ่มจนกรอบที่ยกหางตัวเอง แต่กลับ
กลายเป็นว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริง!
เหงื่อเย็น ๆ ผุดออกจากหน้าผากของเจ้าหน้าที่ชาย เกรงว่าลูกค้าจะ
เอาคืนเรื่องกิริยามารยาทอันไม่สุภาพของเขาที่ทำไปเมื่อครู่ แต่เมื่อ
เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนไม่ได้คิดจะตำหนิเขาแต่
อย่างใด ก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ผู้อาวุโสเจ้าโลก คุณยังเหลือเงินอยู่ 105,500 เหรียญนิรันดร์นะ
หลังจากจ่ายค่ายาเม็ดตะวันสีน้ำเงินแล้ว” เจ้าหน้าที่ชายพูดหลังจาก
เสร็จสิ้นกระบวนการซื้อขาย
“ผมยังเหลือเงินมากกว่า 100,000 เหรียญนิรันดร์หรือ?” จางเซวียน
ชะงัก
สำหรับค่าตอบแทนจากการดวลเมื่อครู่ รวมแล้วก็น่าจะตกราว
25,000 เหรียญนิรันดร์ ด้วยเหตุนี้ เขาก็ควรเหลือเงินเพียง 5,500
เหรียญนิรันดร์เท่านั้น แล้วอีก 100,000 เหรียญมาจากไหน?
“ผู้อาวุโส, คู่ต่อสู้ในรอบที่ 5 และรอบที่ 6 ของคุณใช้อาวุธที่พวกเขา
ซื้อหามาเป็นพิเศษ เพราะทั้งคู่เสียชีวิต ดาบนั้นจึงถูกส่งคืนกลับสู่หอ
นิรันดร์ ซึ่งแต่ละเล่มมีมูลค่า 50,000 เหรียญนิรันดร์ ในเมื่อคุณคือผู้
สังหารพวกเขา เงินนั้นจึงเข้าบัญชีของคุณ ทำให้คุณมีเงินเพิ่มมาอีก
100,000 เหรียญ” เจ้าหน้าที่ชายอธิบาย
“พวกเขาซื้อดาบ แต่คุณสมบัติของดาบนั่นไม่ต่างกับดาบที่จัดไว้บน
สังเวียนประลองเลยนะ…”
ดาบของพวกเขาไม่ได้คมกว่าหรือมีอานุภาพพิเศษกว่า ทำไมถึงแพง
นัก?
“แม้ดาบทุกเล่มจะมีองค์ประกอบพื้นฐานเหมือนกัน แต่ดาบของพวก
เขาถูกจารึกและออกแบบมาเป็นพิเศษ สีของด้ามจับก็ไม่เหมือนกัน
ลำพังแค่การออกแบบก็ทำให้มีมูลค่าเล่มละ 50,000 เหรียญนิรันดร์
แล้ว…”
จางเซวียนอ้าปากค้าง
เพราะฉะนั้น ซื้อ ‘ความมีหน้ามีตา’ ก็ได้ แถมราคาไม่ถูกด้วย
พวกองค์กรทุนนิยม!
ก็อีกนั่นแหละ มีคนแบบนี้อยู่มากมายทั่วโลก คนที่มีเงินเยอะก็มักทำ
ตัวให้โดดเด่นแตกต่างจากคนทั่วไป ถึงจะไม่อาจปรับเปลี่ยนวรยุทธ
และองค์ประกอบของข้าวของที่ใช้ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำตัวให้แตกต่าง
ได้ด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์และอาวุธ
“ผมจะนำยาเม็ดที่ผมซื้อออกไปได้อย่างไร?” จางเซวียนถาม
“ผู้อาวุโสเจ้าโลก คุณก็แค่ใช้โทรจิตสื่อสารกับตราสัญลักษณ์นิรันดร์
กาลของคุณก่อนจะออกจากหอนิรันดร์ และเปิดใช้ค่ายกลทะลุมิติ
แล้วของที่คุณซื้อจะถูกส่งถึงคุณทันที” เจ้าหน้าที่ชายตอบ
“ก็สะดวกสบายดีนะ!”
นึกไม่ถึงว่าจะได้รับบริการดี ๆ แบบนี้ จางเซวียนพยักหน้าอย่างพอใจ
เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็รีบออกจากหอนิรันดร์และกลับสู่ห้อง
เงียบห้องนั้น
จางเซวียนทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิ เขาวางตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล
ไว้ตรงหน้าและใช้โทรจิตสื่อสารกับมัน
เกิดเสียงหึ่งเบา ๆ ขวดหยกใบหนึ่งปรากฏตรงหน้า ในขวดหยกใบ
นั้นคือยาเม็ดตะวันสีน้ำเงิน
เราคงจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากกินยานี้ จางเซวียนคิดขณะ
เปิดจุกขวดแล้วเทยาเม็ดลงบนฝ่ามือ
เขากำลังจะกลืนมันเข้าไป ก็พอดีกับที่รู้สึกถึงความเย็นเยือกบนฝ่า
มือ น้ำเต้าลูกหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันแล้วกินยาเข้าไปทั้ง
เม็ด
“เวรละ…” จางเซวียนหน้าแดงก่ำ
น้ำเต้าลูกนี้คือน้ำเต้าตงฉู่ที่เข้าไปเกลือกกลิ้งอยู่ในจุดตันเถียนของเขา
อย่างหน้าไม่อาย และไม่ยอมออกมาด้วย ล่าสุด มันกระโจนออกมา
กลืนกินเลือดมังกรที่เขาได้จากอำมาตย์เฉินหลิง และคราวนี้เหตุการณ์
แบบเดิมก็เกิดซ้ำอีก…
มีเวลาให้ปรากฏตัวตั้งมากมาย ทำไมต้องโผล่มาตอนนี้ แถมขโมย
กินยาเม็ดฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เขากำลังต้องการมาก?
ชาติก่อนฉันทำร้ายแกไว้หรือไง?
มันเรื่องอะไรฉันถึงต้องมาติดแหงกอยู่กับไอ้ตัวหน้าไม่อายอย่างแก
ด้วย?
จางเซวียนตัวสั่นจนหยุดไม่ได้ เขาคำรามลอดไรฟัน “อ้วกมันออกมา
เดี๋ยวนี้! เร็ว ๆ เข้า!”
เขาคว้าตัวน้ำเต้าไว้แน่นและปล่อยพละกำลังออกมาด้วยความโมโห
แต่โชคร้ายที่พละกำลังที่จางเซวียนสำแดงถูกจำกัดไว้ด้วยอาการ
บาดเจ็บของเขา
“ก็กลืนลงไปแล้วนี่ แต่ผมอึมันออกมาได้นะถ้าคุณต้องการ” น้ำเต้า
ตงฉู่ส่ายก้นอย่างเบิกบานใจ
“อึบ้านแกสิ!” จางเซวียนทุ่มน้ำเต้าตงฉู่ลงกับพื้นแล้วกระทืบมันสอง
หนด้วยความโมโหเดือด ก่อนที่ความโกรธจะทุเลาลงเล็กน้อย “ฉัน
ขอเตือนแกนะ ถ้าแกกล้ารบกวนการฟื้นฟูสภาพร่างกายของฉันอีก
หนเดียว ฉันจะโยนแกลงในบ่อเกรอะ!”
“คุณได้รับบาดเจ็บจากคลื่นความสั่นสะเทือนของมิติและเวลา
พละกำลังทำลายล้างของมันยังตกค้างอยู่ในร่างกายนะ แล้วคุณรู้
หรือเปล่าว่าการกินยาเม็ดนั่นน่ะจะทำให้คุณต้องใช้เวลาฟื้นฟูสภาพ
ร่างกายนานแค่ไหน?” น้ำเต้าพรั่งพรูอย่างหมดความอดทน
“แกกำลังจะบอกฉันว่ายาเม็ดตะวันสีน้ำเงินไม่ดีพอจะเยียวยาอาการ
บาดเจ็บของฉันหรือ?”
จางเซวียนไม่อาจใช้หอสมุดเทียบฟ้าตรวจสอบสภาพสภาพร่างกาย
ของเขา อีกทั้งขับเคลื่อนพลังปราณเพื่อสำรวจอาการของอวัยวะ
ภายในก็ไม่ได้ จึงประเมินไม่ถูกว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองสาหัส
แค่ไหน
“โธ่! มันรักษาได้แค่อาการบาดเจ็บทั่วไปเท่านั้น…แต่ถ้าเป็นอาการ
บาดเจ็บที่เกิดจากคลื่นความสั่นสะเทือนของมิติและเวลาล่ะก็ ต่อให้
คุณกินยานั่นเป็นตันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก” น้ำเต้าตอบ
“ถ้าอย่างนั้น…ฉันต้องกินยาชนิดไหน?” จางเซวียนถาม
เขารู้ว่าน้ำเต้าตงฉู่จะต้องมีความพิเศษบางอย่าง คราวนี้จึงตัดสินใจ
ถามความคิดเห็นของมัน บางทีอาจได้อะไรดี ๆ ก็เป็นได้
“คุณต้องกินยาที่มีอานุภาพรักษาบาดแผลจากคลื่นความสั่นสะเทือน
ของมิติและเวลาโดยเฉพาะ แต่ยาชนิดนี้ก็หายากและแพงมาก คน
อย่างคุณน่ะไม่มีปัญญาหาได้หรอก…แต่คุณก็ยังโชคดีนะ ถ้าคุณนำ
ยาแบบเมื่อครู่นี้มาให้ผมอีกสัก 2-3 เม็ดแล้วปล่อยให้ผมกินล่ะก็ ผม
จะบอกให้ว่าคุณจะรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างไร…” น้ำเต้าคุยเขื่อง
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ จางเซวียนก็กระเสือกกระสนไปจนถึงประตู
ห้องและตะโกนเรียก “ตั้นเฉี่ยวเทียน เอาเครื่องตัดมา!”
“เครื่องตัด?”
“ผมมีน้ำเต้าอยู่ลูกหนึ่งที่ต้องผ่าครึ่ง ถ้าคุณไม่มีเครื่องตัดล่ะก็ เอา
ขวานมาก็ได้!” จางเซวียนตะโกน
ทันทีที่ขวานถึงมือ จางเซวียนเล่นงานน้ำเต้าตงฉู่ทันที เขาใช้ขวาน
จามมันอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับคนคลุ้มคลั่ง
เห็นจางเซวียนเอาจริง น้ำเต้ารีบยอมแพ้ “ก็ได้…ก็ได้! ผมจะบอกให้
ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อันที่จริง เหตุผลที่ผมอยากได้ยาเม็ดนั้นน่ะ
ไม่ใช่เพราะผมตะกละหรือโลภมากนะ แต่เป็นเพราะพลังงานของ
ผมร่อยหรอและต้องการยาเม็ดเพื่อเข้าไปฟื้นฟูสภาพของมันสัก
เล็กน้อยก่อนที่ผมจะเยียวยาบาดแผลให้คุณได้!”
“อย่าเล่นตุกติกกับฉัน…” จางเซวียนจ้องหน้าน้ำเต้าตงฉู่ขณะกดคม
ขวานลงที่ตัวน้ำเต้า
“มะ-ไม่หรอกน่ะ! ผมจะทำแบบนั้นทำไม…” น้ำเต้าตงฉู่ละล่ำละลัก
จางเซวียนส่งสายตาเชือดเฉือนใส่น้ำเต้าตงฉู่เป็นการทิ้งท้าย เขา
กลับไปที่หอนิรันดร์และใช้เงินที่เหลืออยู่ 100,000 เหรียญนิรันดร์
ซื้อยาเม็ดตะวันสีน้ำเงินมา 5 เม็ด ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง
หลังจากได้กินยาทั้ง 5 เม็ด น้ำเต้าตงฉู่เรออย่างพออกพอใจก่อนจะ
สั่งการอย่างยืดยาด “เตรียมหม้อใส่น้ำมาใบหนึ่งและนำผมลงไปต้ม
ให้เดือด…2 ชั่วโมงหลังจากนั้นให้ดื่มน้ำนั้นลงไป แล้วบาดแผลของ
คุณจะดีขึ้น”
“แกจะให้ฉันดื่มน้ำที่แกอาบหรือ?”จางเซวียนถึงกับอึ้ง
นี่มันใช่วิธีการรักษาที่ถูกที่ควรไหม?
“ใช่แล้ว!” น้ำเต้าตงฉู่พูดขณะนอนเหยียดยาวอยู่กับพื้น “เร็วเข้าเถอะ
ถ้าไม่รีบทำ ผมจะกลับไปพักผ่อนแล้วนะ…”
รู้ดีว่าเจ้าน้ำเต้าตงฉู่หน้าด้านหน้าทนนี่จะต้องทำอย่างที่พูด จางเซวียน
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่ค่อยเชื่อถือกรรมวิธีที่น้ำเต้าตงฉู่แนะนำ
แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ จึงตัดสินใจลองดู
จางเซวียนรีบสั่งการตั้นเฉี่ยวเทียนซึ่งรออยู่ด้านนอกให้นำหม้อใส่น้ำ
ใบหนึ่งเข้ามาในห้อง
ไม่ช้า ตั้นเฉี่ยวเทียนก็เข้ามาพร้อมกับหม้อใบหนึ่งที่ใส่น้ำเต็ม เขา
กำลังสงสัยว่าท่านอาจารย์จะทำอะไร…ตอนแรกท่านอาจารย์ก็เรียก
หาเครื่องตัดและขวาน มาตอนนี้ก็ต้องการหม้อใส่น้ำ…คิดจะเตรียม
ชาบูหรือ?
เมื่อคิดขึ้นได้ ตั้นเฉี่ยวเทียนผู้เอาใจใส่ก็ถามทันที “ท่านอาจารย์…
คุณอยากได้เนื้อแกะ ลูกชิ้นปลา หรืออะไรทำนองนั้นไหม? ผม
เตรียมให้ได้ตอนนี้เลยนะ!”
“….” จางเซวียน
ต้องใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะพูดจาให้ตั้นเฉี่ยวเทียนที่แสนมีน้ำใจเข้าใจ
ว่าเขาไม่ได้คิดจะกินชาบู และหลังจากส่งศิษย์สายตรงคนที่ 10 ของ
เขาออกจากห้องแล้ว จางเซวียนก็จุดไฟที่ก้นหม้อก่อนจะโยนน้ำเต้า
ตงฉู่ลงไป