Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1962
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1962
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1962 20 เหรียญสำนักดาบ?
“คือ…ผม…” เฉาเฉิงลี่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนสุดขีด
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของเฉาเฉิงลี่ จางเซวียนถึงกับพูดไม่ออก
ลงท้าย เฉาเฉิงลี่ก็ยังมีนิสัยแบบจอมโจร โดยขณะที่พยายามหาข่าว ก็ไปพบกับสาวสวยคนหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์สายตรงระดับล่างและพยายามจีบเธอ
สุดท้ายก็เกือบถูกฆ่าตาย
“เฉาเฉิงลี่ ผมละเว้นให้คุณแล้วนะด้วยการพาคุณมาที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเคยเป็นอะไรมาก่อน ผมก็หวังว่าคุณจะทำตัวอยู่ในระเบียบกฎเกณฑ์ตราบใดที่คุณยังอยู่ภายใต้คำสั่งของผม ผมไม่ต้องการคนกระด้างกระเดื่อง” จางเซวียนพูดอย่างเคร่งขรึม
เฉาเฉิงลี่ช่างกล้านัก!
บรรดาศิษย์สายตรงระดับล่างของสำนักดาบเมฆเหินล้วนแต่เป็นนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 เป็นอย่างน้อย หมอนี่กล้าจีบคนพวกนั้นทั้งที่ตัวเองก็มีวรยุทธเท่านี้…รนหาที่ตายแท้ๆ!
ถ้าใครๆไม่รู้ว่าเขาเป็นคนรับใช้ของตั้นเฉี่ยวเทียน คงได้กลายเป็นผีไม่มีญาติ
“แต่นายน้อย คุณก็รู้ว่าผมก็ยับยั้งชั่งใจมากว่า 10 วันแล้ว ไม่ได้แตะต้องเธอเลยด้วยซ้ำ! ผมแค่ถามเธออย่างสุภาพว่า…” เฉาเฉิงลี่หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย
เขาเคยเป็นชายผู้ขาดความยับยั้งชั่งใจและชอบใช้กำลัง วีรกรรมของเขาในการพาผู้หญิงเข้าโรงเตี๊ยมพร้อมกันถึง 7 คนก็บ่งบอกอะไรเกี่ยวกับตัวเขาได้มากอยู่แล้ว การที่เขาต้องยั้งใจไว้กว่า 10 วันจึงถือเป็นเรื่องยากเย็นมาก
เฉาเฉิงลี่คิดว่าด้วยรูปร่างหน้าตาอันโดดเด่นของตัวเอง อย่างน้อยก็น่าจะดึงดูดใจศิษย์สายตรงระดับล่างให้ตกลงปลงใจกับเขาได้สักคน แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาจะถูกซ้อมยับเยินทันทีที่เอ่ยปาก?
เห็นเฉาเฉิงลี่ยังยืนกรานความคิดของตัวเอง จางเซวียนเอามือกุมหัว
ตั้นเฉี่ยวเทียนพูดถูก เขาไม่ควรรับหมอนี่ไว้เลย
จางเซวียนรู้สึกว่าชื่อเสียงของเขาจะต้องถูกเฉาเฉิงลี่ทำให้แปดเปื้อนด่างพร้อยไปทีละน้อย!
“พอที! ผมไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เข้าใจไหม? แล้วเรื่องที่ผมมอบหมายคุณไป ได้ความว่าอย่างไรบ้าง?”
เมื่อเห็นว่าตัวเองทำให้นายน้อยโมโหเดือด เฉาเฉิงลี่ไม่กล้าพล่ามต่อ เขารีบโค้งคำนับและรายงาน “นายน้อย ผมไปสืบข่าวเรื่องนั้นแล้ว ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของสำนักดาบเมฆเหินมีขายที่ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ายใน อันหนึ่งมีสนนราคาอยู่ที่ 20 เหรียญสำนักดาบ!”
“20 เหรียญสำนักดาบ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
ฟังดูเหมือนเป็นเงินไม่มากนัก แต่เขาไม่รู้ว่าอำนาจการใช้สอยของเหรียญสำนักดาบเป็นอย่างไร
“สำหรับที่นี่ ยาเม็ดอมตะขั้นต้นเม็ด 1 มีราคากี่เหรียญสำนักดาบ?” จางเซวียนตั้งคำถาม
“เอ่อ…ผมไม่ได้สอบถามเรื่องนั้น” เฉาเฉิงลี่ตอบหน้าเจื่อน
“แล้วตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ายในอยู่ที่ไหน?”
“คือ…” เฉาเฉิงลี่โคลงศีรษะขณะย้อนถาม “ผมต้องรู้เรื่องนั้นด้วยหรือ?”
“ถ้าอย่างนั้นคุณรู้อะไรบ้าง!” จางเซวียนหน้าตายู่ยี่ขึ้นเรื่อยๆ
“สาวน้อยที่ซ้อมผมก่อนหน้านี้เป็นลูกน้องของศิษย์สายตรงฝ่ายในคนหนึ่งที่ชื่อหลิวลู่จี่ เธอสูง 1.7 เมตร สัดส่วน 85, 74, 88 เรียวขาของเธอยาวมาก ทั้งขาวทั้งเนียน มีสัดส่วนสมบูรณ์แบบราวกับพระเจ้าปั้นมาเลยทีเดียว…นายน้อย ผมขอบอกคุณเลยว่าชั่วชีวิตนี้ผมเจอผู้หญิงมามากมาย แต่แม่สาวคนนี้กินขาด” เฉาเฉิงลี่ตาโตด้วยความตื่นเต้น
“พอได้แล้ว!” จางเซวียนโบกมือด้วยอาการเดือดจัด
นี่มันบ้าบออะไร?
แทนที่จะทำงานที่เขามอบหมายให้สำเร็จ หมอนี่กลับใช้เวลาไปกับเรื่องไร้สาระ
คุณจัดลำดับความสำคัญเป็นไหม?
จำใส่หัวไว้ด้วยว่าคุณมีหน้าที่ทำอะไร! คุณมาที่นี่เพื่อรับใช้พวกเรา ไม่ใช่มัวแต่จีบสาว!
“เอาล่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ไปหามาให้ได้ว่าตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ายในอยู่ที่ไหน ถ้ากล้ากลับมาโดยไม่ได้ข้อมูลล่ะก็ ผมจะตอนคุณซะ!” จางเซวียนคำราม
ด้วยการกระดิกนิ้ว กระแสดาบฉีสายหนึ่งก็มารวมตัวกันอยู่เหนือร่างของจางเซวียน มันคำรามลั่นราวกับพร้อมจะทำลายล้างทุกอย่าง
“ดะ-ได้!”
รู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่หว่างขา เฉาเฉิงลี่หน้าซีดขณะหุบขาแน่นด้วยความหวาดหวั่น
“แล้วถ้าคืนนี้ยังไม่ได้เรื่องล่ะก็…ผมจะเทียมพ่อพันธุ์ม้าตัวหนึ่งให้มันไปไหนมาไหนกับคุณด้วย!” จางเซวียนขู่ซ้ำ
เฉาเฉิงลี่กุมก้นทั้งสองข้างไว้แน่นด้วยความพรั่นพรึง
เขาเคยคิดว่าเจ้านายคนใหม่ของเขาจะเป็นคนสุภาพนุ่มนวล ใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความคิดโหดเหี้ยมแบบนี้?
ถึงกับคิดจะเทียมพ่อพันธุ์ม้าตัวหนึ่งให้มาเล่นงานเขา…
ในตอนนั้น เฉาเฉิงลี่พลันนึกได้ถึงม้าที่สำแดงศิลปะการต่อสู้ออกมาในยามค่ำคืนและเสิร์ฟน้ำชาให้จางเซวียน ถ้านายท่านของเขาคิดจะทำแบบนั้น ก็คงทำได้แน่!
ไม่ได้ เราจะปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นไม่ได้ คงมองหน้าใครๆในฐานะผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้อีก!
“ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เฉาเฉิงลี่ไม่กล้าพูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว เขาเผ่นพรวดออกจากห้องราวกับกำลังหนีปีศาจ
คราวนี้ ด้วยคำขู่ของจางเซวียน ไม่ช้าเฉาเฉิงลี่ก็กลับมาพร้อมกับข้อมูลที่จำเป็น
“นายน้อย ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ายในอยู่ที่ตีนเขาแห่งนี้เอง และผมไปตรวจสอบราคาของยาเม็ดอมตะขั้นต้นแล้ว เม็ดหนึ่งมีสนนราคาอยู่ที่ 2 เหรียญสำนักดาบ!” เฉาเฉิงลี่รายงานอย่างเป็นทางการ
“ยาเม็ดอมตะขั้นต้น 1 เม็ดมีราคา 2 เหรียญสำนักดาบ ขณะที่ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลอันหนึ่งมีราคาถึง 20 เหรียญสำนักดาบ…ทำไมราคาถึงต่างกันขนาดนี้?” จางเซวียนชะงัก
เมื่อตอนอยู่ที่หอนิรันดร์ในเมืองแสงดาว ยาเม็ดอมตะขั้นต้นเม็ดหนึ่งมีราคาถึง 100,000 เหรียญนิรันดร์ ขณะที่ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลหนึ่งอันมีราคาเพียง 20,000 เหรียญนิรันดร์เท่านั้น!
แต่เมื่อเป็นที่นี่ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลมีราคาสูงกว่ายาเม็ดอมตะขั้นต้นถึง 10 เท่า
ภาวะเงินเฟ้อนี่น่าสะพรึงเสียจริง!
“ผมเองก็ไม่แน่ใจในรายละเอียด แต่นี่คือสนนราคาที่ผมได้มา” เฉาเฉิงลี่อธิบายขณะหุบขาแน่นอีกครั้ง กลัวว่าจางเซวียนจะบันดาลโทสะและเล่นงานเขา
“พาผมไปที่ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ายใน ผมอยากเห็นกับตา!”
รู้ดีว่ารอช้าก็ไม่มีประโยชน์ จางเซวียนลุกพรวดและเดินออกจากห้อง
ตลาดของศิษย์สายตรงฝ่ายในคือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนซื้อขายอย่างไม่เป็นทางการที่บริหารโดยศิษย์สายตรงฝ่ายในเป็นส่วนใหญ่ มันคือสถานที่ที่พวกเขาจะมาแลกเปลี่ยนซื้อขายข้าวของที่มีอยู่ในครอบครอง
ภายใต้การนำทางของเฉาเฉิงลี่ ไม่ช้าทั้งคู่ก็ไปถึงที่หมาย
ตลาดนั้นดูไม่เป็นเรื่องเป็นราวสักเท่าไหร่ อันที่จริงมันเป็นแค่ลานขนาดเล็กแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณตีนเขา หลังจากยื่นตราสัญลักษณ์แล้ว จางเซวียนกับเฉาเฉิงลี่ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตลาด
ทันทีที่เข้าไป ทั้งสองก็เห็นพ่อค้าแม่ขายจำนวนหนึ่งอยู่รายรอบพร้อมกับสินค้าที่อยู่ตรงหน้า
มีทั้งดาบ หนังสือเทคนิควรยุทธ ยาสมุนไพร ยาเม็ด อสูร…ล้วนแต่เป็นข้าวของจำเป็นขั้นพื้นฐานที่นักรบคนหนึ่งต้องการ
สินค้าส่วนใหญ่ที่วางขายไม่ได้มาจากสำนักดาบเมฆเหิน แต่เป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่บรรดาศิษย์สายตรงได้มาระหว่างการปฏิบัติภารกิจหรือนำมาจากตระกูลของตัวเอง
“เรารับเฉพาะเหรียญสำนักดาบเท่านั้น ไม่รับยาเม็ดอมตะขั้นต้น!”
นี่คือคำตอบที่จางเซวียนได้รับจากเหล่าพ่อค้าแม่ขายที่เขาพยายามจะเจรจาซื้อขายด้วย
เหตุผลหลักที่พวกเขามาขายสินค้ากันที่นี่ก็เพื่อหาเหรียญสำนักดาบให้ได้จำนวนมากพอที่จะได้เข้าสู่หอภูมิปัญญาเพลงดาบและหอดวลดาบ นั่นคือสถานที่ที่บรรดาศิษย์สายตรงมักจะเข้าไปอยู่เนืองๆ เพื่อพัฒนาเส้นทางและวิถีทางเพลงดาบของตัวเอง
แล้วคราวนี้เราจะทำอย่างไร? จางเซวียนท้อใจ
เขาคิดว่าจะแลกเปลี่ยนยาเม็ดอมตะขั้นต้นที่ได้จากเฉาเฉิงลี่เป็นเงินได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าไม่มีพ่อค้าแม่ขายคนไหนยอมรับสิ่งนั้นสักคน!
สิ่งที่ได้รับการยกย่องสูงสุดในสำนักดาบเมฆเหินไม่ใช่วรยุทธ แต่เป็นความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบ มีแต่ศิลปะเพลงดาบอันเหนือชั้นเท่านั้นที่จะทำให้ศิษย์สายตรงคนหนึ่งโดดเด่นจากเพื่อนร่วมรุ่นของตัวเองและถูกมองเป็นทรัพยากรล้ำค่าของสำนัก ซึ่งทางสำนักก็จะมอบทรัพยากรให้ตามที่เขาต้องการ เพื่อให้อีกฝ่ายได้ยกระดับวรยุทธ
ด้วยเหตุนี้ ทรัพยากรเพื่อการฝึกฝนวรยุทธอย่างยาเม็ดอมตะขั้นต้นจึงมีค่าไม่มากนักสำหรับที่นี่
“นายน้อย หรือว่าเราควรจะลองขโมยดู? ผมเห็นคน 2-3 คนอยู่ตรงนั้น พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนคุณ ขอแค่เราล่อพวกนั้นเข้ามุมและสังหารพวกเขาได้ ก็จะได้ทุกอย่างที่เราต้องการ…” เห็นสีหน้าท้อใจของจางเซวียน เฉาเฉิงลี่เข้ามายื่นข้อเสนอ
“คุณบ้าไปแล้วหรือไง!” จางเซวียนแทบลมจับด้วยความโมโห
พูดอะไรออกมานี่…ใช้สามัญสำนึกบ้างไหม?
เราอยู่ในสำนักดาบเมฆเหินนะ! ถ้าอยากตายล่ะก็ ลองไปขโมยอะไรสักอย่างดู!
ล่อพวกนั้นเข้ามุม? คุณคิดว่าพวกศิษย์สายตรงนี่งี่เง่าหรือไง?
บรรดานักรบที่มาถึงที่นี่ได้ล้วนแต่มีทักษะพอตัวทั้งนั้น คุณก็รู้! พวกเขาไม่พยายามฉกฉวยอะไรไปจากคุณก็บุญแล้ว!
“ถ้าทำแบบนั้นไม่ได้ล่ะก็ ทำไมไม่ลองให้ผมหว่านเสน่ห์แม่ค้าสักคนล่ะ? เมื่อครู่นี้ ผมเห็นศิษย์สายตรงฝ่ายในหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งกำลังขายของอยู่ตรงนั้น…” เฉาเฉิงลี่ยังเสนอวิธีแก้ปัญหาต่อ
จางเซวียนตบหน้าอีกฝ่ายดังเพียะ ตอนนี้เขาอยากจะเตะเฉาเฉิงลี่ออกไปให้พ้นทาง
“ไปเลย! ไปทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่อย่าได้พูดออกไปสักคำนะว่าคุณมีความเกี่ยวข้องกับผม และถ้าเจอปัญหา ก็อย่ามาตามหาผมด้วย!” จางเซวียนโบกมืออย่างหมดความอดทนขณะมุ่งหน้าไปตามถนนต่อไป
หลังจากพูดคุยกับพ่อค้า 2-3 คน เขาพบว่าราคาของตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลเป็นมาตรฐาน ทุกที่ล้วนแต่มีมูลค่า 20 เหรียญสำนักดาบ ส่วนยาเม็ดอมตะขั้นต้นก็มีราคาเพียงเม็ดละ 2 เหรียญสำนักดาบเท่านั้น
พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้ขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มี จางเซวียนก็ยังได้เงินไม่มากพอจะซื้อตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลสักอันหนึ่ง
“ทำไมราคาของตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลถึงสูงกว่ายาเม็ดอมตะขั้นต้นมากนัก?” จางเซวียนถามศิษย์สายตรงคนหนึ่งที่กำลังขายของอยู่
“อ้อ คุณคงคุ้นชินกับราคาของตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลในดินแดนห่างไกลล่ะสิ ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลพวกนั้นมีวรยุทธเทียบเท่ากับนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 1 เท่านั้น ราคาจึงต่ำกว่า แต่ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ขายกันในสำนักของเรามีวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1จึงแน่นอนว่าต้องมีมูลค่ามากกว่า”
“ถ้าคุณแปลกใจกับราคานี้ ก็ลองไปดูตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลที่ใช้กันในหมู่ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของพวกเขามีวรยุทธขั้นเสมือนอมตะ ราคาจะสูงกว่านี้อีกมาก” ศิษย์สายตรงคนนั้นอธิบาย
“ผมเข้าใจแล้ว” จางเซวียนพยักหน้า
พูดกันตามตรง เขาไม่คิดว่าคำตอบจะง่ายดายแบบนี้