Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2027 หุบปากแล้วรีบออกไป!
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2027 หุบปากแล้วรีบออกไป!
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2027 หุบปากแล้วรีบออกไป!
ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งนึกได้ว่าน้ำเต้าตงฉู่เคยกลืนดาบถงซังลงไปแล้วครั้งหนึ่ง ถ้ามันกลืนดาบของกลุ่มชายเสื้อคลุมสีดำได้ สถานการณ์ก็คงพลิกผัน
“ได้ ได้สิ” น้ำเต้าตงฉู่ตอบอย่างเกียจคร้าน “แล้วจำคำพูดของคุณไว้ด้วยนะ อย่าบังคับให้ผมคายมันออกมาทีหลัง! ตกลงไหม?”
“ตามนั้นแหละ เร็วๆเข้า!”
“เดี๋ยวก่อน ขอถามให้แน่ใจอีกที คุณอยากให้ผมกินดาบของไอ้สารเลวพวกนั้นให้หมด ถูกไหม?”
“หุบปากแล้วรีบออกไป!”
จางเซวียนรู้สึกเหมือนความดันเลือดพุ่งปรี๊ดจนใกล้จะแตก โลกนี้มีตัวอะไรที่น่ารำคาญขนาดนี้ด้วยหรือ?
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขาทำแบบเดียวกับมันไม่ได้ ป่านนี้คงใช้ขวานจามน้ำเต้าตงฉู่ให้แตกเป็นเสี่ยงๆไปนานแล้ว!
“ได้ ได้…” เมื่อได้รับอนุญาตจากจางเซวียน น้ำเต้าตงฉู่มองดาบที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาตื่นเต้นก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหว
“ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้ใครที่เหยียดหยามฉัน ชดใช้ความหยิ่งผยองของแกด้วยชีวิตเสียเถอะ!”
ขณะที่จางเซวียนกำลังสื่อสารกับน้ำเต้าตงฉู่ ชายเสื้อคลุมสีดำก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเสียสมาธิ เขากัดฟันกรอดจนฟันแทบร่วงออกมา จากนั้นก็คำรามกร้าว เงื้อดาบขึ้นแล้วฟันฉับลงมาอย่างแรง
ศิลปะเพลงดาบของเขาทั้งคมกริบและก้าวร้าว ทุกการโจมตีมีพลังหนักหน่วง เป้าหมายอยู่ที่จุดเป็นจุดตาย แม้จะแตกต่างจากเคล็ดวิชาเทียบฟ้ามาก แต่ก็ไม่อาจสบประมาทได้
เป็นไปได้ว่ามันคือศิลปะเพลงดาบเฉพาะของหอเทพเจ้า
ฟึ่บ!
แต่ฟันฉับลงไปได้เพียงครึ่งทาง ภาพตรงหน้าก็พร่าเลือน ทันใดนั้น เขารู้สึกได้ถึงความว่างเปล่า ราวกับมีเวทมนตร์ ดาบที่เขาถือไว้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ฮะ?”
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ชายเสื้อคลุมสีดำเซถลาออกมาข้างหน้าเล็กน้อย แต่ก็รีบตั้งตัวและถอยกลับไป
เขาใช้ความพยายามมากมายเพื่อทำให้ดาบระดับอมตะขั้นสูงเล่มนี้ยอมจำนน และเมื่อครู่นี้มันก็ยังอยู่ในมือของเขา แล้วจู่ๆจะหายไปไหนได้?
ชายเสื้อคลุมสีดำมองไปรอบๆด้วยนัยน์ตาเบิกโพลง แต่ก็ไม่มีดาบให้เห็น
นรกอะไรกันนี่? ใครบอกเราได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น?
ดาบของผมอยู่ไหน? ดาบของผมอยู่ไหน?
“แก ไอ้สารเลว! แกใช้เวทมนตร์สกปรกอะไรกับฉัน?”
“บ้าที่สุด! แกมันรนหาที่ตายแล้ว!”
ขณะที่ชายเสื้อคลุมสีดำกำลังงมหาดาบ ก็ได้ยินเสียงตวาดก้องอยู่ไม่ห่างออกไป เขาหันขวับไปมอง เห็นดาบอีก 2 เล่มของสหายนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ทั้งสองคนของเขาหายวับไปเช่นกัน
จากนั้น เสียงพึมพำด้วยความงุนงงอย่างหนักก็ดังขึ้น
“ไม่ใช่ผมนะ ดาบของผมก็หาย!”
ดาบที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสโฉวหั่วก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
(1 จ้าง = 3.33 เมตร)
จางเซวียนโมโหจนแทบลมจับ
เขารู้ว่าน้ำเต้าตงฉู่ไว้ใจไม่ได้ แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้!
“ฉันบอกให้แกกินดาบของไอ้สารเลวพวกนั้น แล้วแกกินดาบของผู้อาวุโสโฉวหั่วลงไปด้วยทำไม?”
เขาเป็นนักดาบ ความแข็งแกร่งสูงสุดของเขาอยู่ที่ศิลปะเพลงดาบ แกคิดว่าเขาจะสู้กับพวกนั้นได้อย่างไรหากไม่มีดาบในมือ?
ขณะที่จางเซวียนกำลังครุ่นคิด นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ 2 คนที่สวมเสื้อคลุมสีดำก็เริ่มปะทะกับผู้อาวุโสโฉวหั่วอีกครั้ง
เพราะไม่มีดาบในมือ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของผู้อาวุโสโฉวหั่วจึงลดลงมาก เมื่อถูกทั้งคู่โจมตี เขาค่อยๆตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบไปทีละน้อย
เราต้องรีบจัดการหมอนี่เพื่อช่วยผู้อาวุโสโฉวหั่ว จางเซวียนคิด
รู้ดีว่าเวลาไม่คอยท่า จางเซวียนตัดสินใจไม่แยแสน้ำเต้าตงฉู่และจ่อดาบถงซังเข้าใส่ชายเสื้อคลุมสีดำที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อไม่มีดาบในมือ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของชายเสื้อคลุมสีดำถูกลดทอนลงมาก หลังจากปะทะกันหลายครั้ง ก็ปรากฏบาดแผลหลายแห่งทั่วร่างของเขา
ขณะกำลังโจมตีชายเสื้อคลุมสีดำ จางเซวียนก็คอยจับตานักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์อีกคนหนึ่งไว้ แต่หมอนั่นก็ดูไม่คิดจะเข้ามาช่วยเพื่อนเลย จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อไป
ฉึกกกก!
หลังจากผ่านไป 3 กระบวนท่า ดาบถงซังก็แทงทะลุหน้าผากของชายเสื้อคลุมสีดำ จางเซวียนบิดดาบไปด้านข้างอย่างแรง
โพละ!
ศีรษะของชายเสื้อคลุมสีดำแบะออกจากกัน ทำให้เขาตายทันที
ในตอนนั้น นักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ยังคงยืนนิ่ง ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ธุระของเขา
“พวกคนจากหอเทพเจ้านี่เลือดเย็นจริงๆ” เสียงผู้อาวุโสโฉวหั่วดังเข้าหูจางเซวียน “พวกเขาสนใจแค่การปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ส่วนชะตากรรมของมิตรสหายจะเป็นอย่างไรนั้นไม่มีความหมายเลย”
จางเซวียนพยักหน้ารับ เขารีบพุ่งเข้าใส่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้อาวุโสโฉวหั่ว
ด้วยการที่เพิ่งฝ่าด่านไปเป็นนักรบอมตะตัวจริงระดับล่างได้หมาดๆ ผนวกกับดาบถงซัง ประสิทธิภาพการต่อสู้ของจางเซวียนจึงเทียบเท่ากับนักรบอมตะขั้นสูงโดยทั่วไป เพียงครู่เดียว นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ก็หันมารับมือกับจางเซวียน
เมื่อภาระหนักหน่วงตรงหน้าบรรเทาไป ผู้อาวุโสโฉวหั่วรีบเล่นงานนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์อีกคนหนึ่งที่เหลือด้วยการใช้พลังฝ่ามือก่อนจะหันไปมองสภาพของจางเซวียน ในเมื่อเขารับมือกับทั้งสองด้วยความยากลำบาก จึงไม่แน่ใจว่าจางเซวียนจะสู้ไหวหรือไม่
“คุณทำให้ดาบถงซังยอมจำนนได้แล้วหรือ?”
นั่นคือดาบที่ท่านเจ้าสำนักมอบให้จางเซวียนเมื่อตอนอยู่ที่สภาผู้อาวุโส จากนั้นอีกฝ่ายก็แจ้นมาที่เมืองอู๋ไห่ทันที เมื่อมาถึงเมืองอู๋ไห่ ก็เข้าไปสำรวจหอนิรันดร์ และไม่นานหลังจากนั้นก็ไปที่ตลาดอู๋ไห่เพื่อตรวจสอบของล้ำค่าบางอย่าง…
ทั้งที่มีธุระยุ่งเหยิงขนาดนี้ เอาเวลาที่ไหนไปทำให้ดาบถงซังยอมจำนนได้? ยิ่งไปกว่านั้น ยังเข้าถึงระดับของความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างดาบกับมนุษย์ด้วย ซึ่งหมายความว่าดาบถงซังยอมรับเขาอย่างสิ้นเชิงแล้ว!
การทำให้ดาบระดับอมตะขั้นสูงยอมจำนนมันง่ายดายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมกว่าเขาจะทำให้ดาบของตัวเองยอมจำนนได้ถึงยากเย็นเหลือเกิน?
นอกจากจะเสียเลือดไปหลายลิตร ยังหมดเงินทองไปมากมายเพื่อการนี้
แค่คิดว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เขาลงทุนไปกับดาบต้องหายวับไปในชั่วพริบตา ผู้อาวุโสโฉวหั่วก็ปวดใจแล้ว เขาจ้องหน้านักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยนัยน์ตาโกรธเกรี้ยวราวกับมีเปลวเพลิงแผดเผาอยู่ภายใน
ตัวการจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าสองคนนี้! ไม่อย่างนั้น ทำไมจู่ๆดาบของเขาถึงหายไปในระหว่างการต่อสู้?
“แก ไอ้สารเลว คืนดาบของฉันมานะ!”
ผู้อาวุโสโฉวหั่วปล่อยพลังจากฝ่ามือออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความโกรธเกรี้ยว
เขาเป็นนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ หนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในมิติเบื้องบน พละกำลังเต็มพิกัดของเขาทำให้มิติลี้ลับสั่นสะท้านไม่หยุด ราวกับใกล้จะพังทลายในไม่ช้า
พลั่ก!
เมื่อถูกแรงปะทะจากพลังฝ่ามือของผู้อาวุโสโฉวหั่วเข้าอย่างจังหลายครั้ง นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ก็มีสีหน้าย่ำแย่จนแทบกระอักเลือดออกมา
คุณสมองเพี้ยนหรือไง? ผมไม่ได้เอาดาบของคุณไปสักหน่อย!
ก็ถ้าผมเอาดาบของคุณไป ทำไมดาบของผมถึงหายไปด้วย?
“คุณมันชั่วช้า คิดหรือว่าผมจะปล่อยให้คุณลอยนวลหลังจากขโมยของรักของผมไป? คืนดาบของผมมาเดี๋ยวนี้!” ผู้อาวุโสโฉวหั่วตวาดก้องราวกับคนบ้า
“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้เอาไป! คุณต่างหากที่ต้องคืนดาบให้ผม!” นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ตะโกนสวนอย่างหงุดหงิด
เขากำลังจะปลิดชีวิตของผู้อาวุโสโฉวหั่วด้วยความขุ่นเคือง ก็พอดีกับที่รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณจุดชีพจรที่ร่างกายส่วนล่าง เขาหันกลับไป และเห็นจางเซวียนที่สู้กับสหายของเขาเมื่อครู่นี้โผล่พรวดมายืนอยู่ด้านหลัง แน่นอนว่าอาการเจ็บแปลบนั้นมาจากดาบของชายหนุ่ม
“อ๊ากกกก!”
เลือดสดๆพุ่งออกจากจุดชีพจรบริเวณร่างกายท่อนล่างของเขา
“อ้าว แย่จริง ผมพลั้งมือแทงคุณด้วยดาบเสียแล้ว” จางเซวียนตอบด้วยสีหน้าขอโทษขอโพยขณะชักดาบกลับอย่างแรง
“คุณ…”
นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์คับแค้นใจ แต่เพราะมีนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์อีกคนหนึ่งยืนขวางไว้ และรู้ดีว่านี่คือคู่ต่อสู้ที่เขาต้องรับมือด้วยในเวลานี้ จึงจำเป็นต้องปล่อยชายหนุ่มไปก่อน
เขาพุ่งเข้าโจมตีผู้อาวุโสโฉวหั่วด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง แต่หลังจากผ่านไปเพียง 2 กระบวนท่า ก็รู้สึก เจ็บแปลบที่ลำไส้
เมื่อหันกลับไป ก็เห็นสีหน้าขอโทษขอโพยของจางเซวียนอีกครั้ง
“สวรรค์โปรด ผมทำพลาดอีกแล้ว!”
“พลาดกับผีอะไร!” นักรบอมตะตัวจริงสวรรค์คำรามกร้าว
ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณด้วยซ้ำ ทำไมถึงเล่นงานผมซ้ำแล้วซ้ำอีก?
ทำพลาด? ไปตายซะ! คนเราจะทำผิดพลาดกันอย่างหน้าด้านๆแบบนี้หรือ?
ไม่ต้องสงสัยเลย คุณจงใจทำแน่!
นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ผู้นั้นกำลังคิดจะปล่อยคู่ต่อสู้ของเขาไว้ก่อนเพื่อหันกลับมาสังหารจางเซวียน ก็พอดีกับที่รู้สึกได้ว่ามีแรงกดดันมหาศาลตรงเข้าเล่นงานเขา ผู้อาวุโสโฉวหั่วเพิ่งปล่อยการโจมตีเข้าใส่อีกครั้ง
พลังฝ่ามือที่ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้เขาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้ เลือดสดๆทะลักออกจากร่าง ทางเดินพลังปราณของเขากระตุกจากแรงปะทะ และยังไม่ทันจะรู้ตัว ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว
แบบนี้ไม่ได้การ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เราต้องตายแน่ นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด
เขาเค้นหัวสมองด้วยสีหน้าย่ำแย่เพื่อหาทางออก ก็พอดีกับที่รู้สึกเจ็บแปลบอีกครั้งที่บั้นท้าย เมื่อหันกลับไป ก็เห็นสีหน้าขอโทษขอโพยของจางเซวียนอีกครั้งพร้อมการโบกมือ “มันเป็นความผิดพลาด ความผิดพลาด!”
“ผิดพลาดบ้านแกน่ะสิ!”
เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ไม่แยแสผู้อาวุโสโฉวหั่วและพุ่งเข้าเล่นงานจางเซวียน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ปล่อยการโจมตี ก็รู้สึกได้ถึงกระแสดาบฉีที่ระเบิดในร่างกายของเขาจากคมดาบของอีกฝ่าย
อวัยวะภายในทุกส่วนของเขาแหลกละเอียด ศพนั้นร่วงลงไปกองกับพื้นด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
ส่วนจางเซวียน เมื่อเห็นว่าสามารถกำจัดนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ได้อีกคนหนึ่งแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
คนจากหอเทพเจ้านี่ทรงพลังจริงๆ แม้ด้วยวรยุทธอมตะตัวจริงระดับล่างและดาบถงซังของเขา การเล่นงานคนพวกนั้นให้พ่ายแพ้ก็ต้องใช้ราว 100 กระบวนท่า
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจงใจล่อชายเสื้อคลุมสีดำคนหนึ่งออกไป และเล่นงานคนที่กำลังสู้กับผู้อาวุโสโฉวหั่ว
จางเซวียนต้องอาศัยการยั่วยุหลายครั้งกว่าจะทำให้อีกฝ่ายโมโหเดือดจนเปิดเผยจุดอ่อนได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น เขาก็เล่นงานจุดอ่อนของอีกฝ่ายทันที
ด้วยสิ่งนี้ นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ที่เหลืออีกคนหนึ่งจึงไม่ต่างอะไรกับลูกไก่ในกำมือ จางเซวียนผนึกกำลังกับผู้อาวุโสโฉวหั่วและเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย