Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2284 เทพธิดาหลิงหลงสติแตก (2)
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2284 เทพธิดาหลิงหลงสติแตก (2)
“ศิษย์น้องที่ 4?”
เทพธิดาหลิงหลงถึงกับอึ้ง
เดี๋ยวนะ อะไรกัน?
ชายหนุ่มที่ชื่อเจิ้งหยางคนนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทางน่านฟ้าตะวันแผดเผาเพราะวรยุทธอันทรงพลังและศิลปะเพลงหอกที่ไม่มีใครเทียบชั้นได้ ด้วยประสิทธิภาพการต่อสู้อันน่าสะพรึง เขาเอาชนะได้แม้แต่ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติที่คร่ำหวอดการสู้รบ
แต่ตอนนี้คุณบอกว่าเจิ้งหยางคนนั้น…เป็นศิษย์น้องของคุณ?
“แปลว่าเขาเป็นศิษย์ของอาจารย์ที่คุณพูดถึงเช่นกันใช่ไหม?” เทพธิดาหลิงหลงตั้งคำถามด้วยนัยน์ตาเบิกโพลง
“ใช่!” หวังหยิ่งพยักหน้า
ท่านอาจารย์ของเธอจัดลำดับอาวุโสไว้ให้ตอนที่รับพวกเธอเป็นศิษย์สายตรงของเขา ซึ่งเจิ้งหยางรั้งอันดับ 4
“….”
เทพธิดาหลิงหลงพูดไม่ออกอยู่นาน คิดไม่ถึงว่าจะได้ฟังอะไรที่น่าตกใจขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาอยู่ภายใต้การชี้แนะของอาจารย์คนเดียวกัน…
เธอเคยคิดว่าแค่นี้ก็อัศจรรย์พออยู่แล้วที่อาจารย์ของหวังหยิ่งกับเว่ยหรูเหยียนได้ทั้งคู่เป็นศิษย์สายตรง ใครจะไปรู้ว่าเจิ้งหยางก็เป็นศิษย์สายตรงของเขาด้วย?
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่ทั้งคู่ไม่เต็มใจยอมรับเธอเป็นอาจารย์ เพราะดูเหมือนท่านอาจารย์ของพวกเธอก็ไม่เบา
แต่แล้ว…อย่างไรล่ะ?
ถึงอย่างไร เธอก็เป็นถึงจอมราชันย์อยู่ดี!
แต่ในอีกด้านหนึ่ง อาจารย์ของทั้งสองเป็นแค่นักรบระดับเทพเจ้าธรรมดา ต่อให้โชคดีขนาดได้ศิษย์ผู้ปราดเปรื่องถึง 3 คน ก็ไม่มีอะไรประชันขันแข่งกับเธอได้!
เทพธิดาหลิงหลงยังคงรู้สึกว่าตัวเธอถือไพ่เหนือกว่า
ไม่ว่าอย่างไร เธอจะต้องหว่านล้อมหวังหยิ่งกับเว่ยหรูเหยียนให้เข้าใจให้ได้ว่าตอนนี้กำลังเป็นสถานการณ์คับขัน เพราะถ้าเธอไม่สามารถถ่ายทอดเทคนิควรยุทธขั้นสูงให้ ทั้งสองก็คงไม่อาจรับมือกับราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติของน่านฟ้าอื่นๆได้
เทพธิดาหลิงหลงรีบตั้งสติก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ต่อให้เจิ้งหยางเป็นศิษย์น้องของคุณและเขาออมมือให้ แต่ก็ยังมีราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆอีกมากมายที่พวกคุณต้องจับตามองให้ดี อย่างศิษย์สายตรงที่จอมราชันย์ฟู่เหมิงนำตัวไป, จ้าวหย่า ว่ากันว่าความแข็งแกร่งของเธอเทียบเท่ากับเจิ้งหยางเลยทีเดียว น่านฟ้าทองคำแข็งกล้าตั้งอยู่ทางตะวันตกของสรวงสวรรค์ ขณะที่น่านฟ้าหลิงหลงอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ด้วยความใกล้ชิดของดินแดนของพวกเรา จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการปะทะ หากคุณไม่ขัดเกลาทักษะของตัวเองภายใต้คำชี้แนะของฉัน ก็คงรับมือกับเธอได้ยาก…”
“นั่นคือศิษย์พี่ที่ 1 ของฉัน” หวังหยิ่งตอบเรียบๆ
“….”
เทพธิดาหลิงหลงกระพริบตาปริบๆเมื่อได้ยินคำตอบนั้น เธอตั้งคำถามต่อโดยไม่อาจเก็บกิริยาได้อีก “แล้วราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติลู่ชงของน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนล่ะ เขาคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณนะ ใช่ไหม? เขาเก่งกาจทรงพลังมากทีเดียว…”
“นั่นคือศิษย์น้องที่ 6 ของฉัน”
“….”
สีหน้าของเทพธิดาหลิงหลงเริ่มปั่นป่วนจนเกินบรรยาย “แล้วราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติหลิวหยาง ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติจางจิ่วเซี่ยว และราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติขงซือเหยาของน่านฟ้ามังกรเมฆล่ะ? คุณคงไม่มีทางเกี่ยวข้องกับพวกเขาแน่”
“พวกนั้นคือศิษย์น้องที่ 3, ศิษย์น้องที่ 8 และศิษย์น้องที่ 9 ของฉัน”
หวังหยิ่งโล่งอกไม่น้อยที่ได้รู้ว่าบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องของเธอประสบความสำเร็จในสรวงสวรรค์
เทพธิดาหลิงหลงดูจะใกล้คลุ้มคลั่งเต็มที “แล้วราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติของน่านฟ้านรกโลกันต์ หยวนเทา ตั้นเฉี่ยวเทียน และไป๋เหรินชิงล่ะ?”
“พวกเขาคือศิษย์น้องที่ 5, ศิษย์น้องที่ 10 และศิษย์น้องที่ 11 ของฉัน”
พลั่ก!
เทพธิดาหลิงหลงทนไม่ไหว เธอกระอักเลือดออกมากองใหญ่
เธอจำได้แม่นว่าเหล่าจอมราชันย์ดีอกดีใจแค่ไหนที่ได้พบผู้สืบทอดของตัวเอง ทุกคนมั่นใจว่าพวกเขาจะได้ทรัพยากรสำหรับรับมือกับการไหลบ่าของพลังจิตวิญญาณได้มากกว่าน่านฟ้าอื่นๆ แต่ลงท้าย ก็กลับกลายเป็นว่าผู้สืบทอดทุกคนล้วนมีอาจารย์คนเดียวกัน
พวกเขาเป็นศิษย์สายเดียวกัน!
ยังพอมองได้ว่าเป็นความโชคดีหากอาจารย์คนหนึ่งมีโอกาสรับนักรบผู้ปราดเปรื่อง 2 หรือ 3 คนเป็นศิษย์สายตรง แต่มีศิษย์สายตรงผู้ปราดเปรื่องถึง 11 คนแบบนี้…อาศัยดวงดีอย่างเดียวคงไม่ได้!
“ท่านอาจารย์ของคุณเป็นแค่นักรบระดับเทพเจ้าจริงๆหรือ?” เทพธิดาหลิงหลงถาม
“ใช่ ตอนที่พวกเราเข้าสู่ภูเขาสวรรค์สร้าง ท่านอาจารย์ยังเป็นแค่นักรบระดับเทพเจ้า…”
นักรบระดับเทพเจ้าโดยทั่วไปไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ทรัพยากรสำหรับการฝึกฝนวรยุทธที่มากพอ ไม่มีโอกาสใช้กระจกเงาแห่งมิติและเวลาด้วย ดังนั้น เขาคงยังไม่ได้เป็นเทพเจ้าสวรรค์สร้างหรอก แต่คนแบบนั้นกลับมีราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติมากมายเป็นศิษย์สายตรง…
เทพธิดาหลิงหลงแทบรับไม่ได้กับความจริงข้อนี้ หมอนั่นจะน่าสะพรึงไปหน่อยไหม?
ไม่สิ เดี๋ยวก่อน ในเมื่อท่านอาจารย์ของพวกเขายังไม่ได้เตะตาจอมราชันย์คนไหน ถ้าเธอพบตัวเขาก่อนและหว่านล้อมให้เขายอมจำนนให้เธอได้ ก็น่าจะหมายความว่าเธอสามารถควบคุมราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติทั้งหมดได้เช่นกัน จริงไหม?
เมื่อคิดได้ เทพธิดาหลิงหลงตาโตขณะถามต่อ “ท่านอาจารย์ของคุณยังอยู่ในน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนหรือเปล่า? มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกคุณไหม?”
หวังหยิ่งครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ท่านอาจารย์ของเราเก็บเนื้อเก็บตัวเงียบอยู่เสมอ ขอแค่พวกเราไปได้ดีและเจริญก้าวหน้า เขาก็พอใจแล้ว ฉันคิดว่าเขาคงไม่ได้บอกเรื่องความสัมพันธ์นี้กับใคร ส่วนเขาจะยังอยู่ในน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อนหรือไม่นั้น พวกเราไม่ได้ติดต่อเขามากว่า 1 เดือนแล้ว จึงระบุแน่ชัดไม่ได้…”
หากจะมีใครรู้จักจางเซวียนดีที่สุด ก็ต้องเป็นบรรดาศิษย์สายตรงของเขา
มีน้ำใจ ถ่อมตัว ชอบเก็บเนื้อเก็บตัวเงียบ-ท่านอาจารย์ของพวกเขาคือบุคคลผู้คู่ควรกับคำเหล่านี้
แม้จะเดินทางมาด้วยกันแล้วถึงสามโลก พวกเขาก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครเหนือชั้นไปกว่าท่านอาจารย์ได้เลย
ถ้าพวกเขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย ท่านอาจารย์ก็คงไม่ปรากฏตัวต่อหน้าจอมราชันย์คนไหนทั้งนั้น
ในเวลานี้ บรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องของเธอต่างก็ไปได้ดี ทั้งยังได้เป็นราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติแล้ว ตามความเข้าใจของเธอที่มีต่อท่านอาจารย์ เขาคงพยายามรักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี…” เทพธิดาหลิงหลงถอนหายใจอย่างโล่งอก
การที่ตัวตนของผู้นั้นยังไม่ถูกเปิดเผย ย่อมหมายความว่าจอมราชันย์คนอื่นๆยังไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวเขาก่อนหน้าเธอ เทพธิดาหลิงหลงถามต่อขณะพยายามระงับความตื่นเต้น “ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์ของพวกคุณชื่ออะไร? และหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร?”
ขั้นแรก เธอจะต้องใช้ชื่อและรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายหาตัวเขาให้พบก่อน แล้วค่อยหาทางสานสัมพันธ์อีกที
“ท่านอาจารย์ของเราเป็นคนนอบน้อมและถ่อมเนื้อถ่อมตัว เขาคงไม่พอใจแน่หากรู้ว่าพวกเราเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับบุคคลอื่น ฝ่าบาท, ฉันขอร้องให้คุณเข้าใจเรื่องนี้ด้วย” หวังหยิ่งโค้งคำนับอย่างงาม
ในฐานะศิษย์สายตรง เธอให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของท่านอาจารย์เป็นอันดับแรก
“ฉันเข้าใจว่าคุณเป็นห่วง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ความสัมพันธ์ของพวกคุณกับจ้าวหย่า เจิ้งหยาง หยวนเทา และคนอื่นๆแพร่งพรายออกไปจนผู้คนรู้กันทั่ว ก็แน่นอนว่าจะต้องมีคนพยายามสืบเสาะเรื่องนี้ให้ละเอียดกว่าเดิม ต่อให้ท่านอาจารย์ของคุณจะเก็บเนื้อเก็บตัวแค่ไหน ไม่ช้าไม่นานก็จะต้องมีใครสักคนเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกคุณจนได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น เขาอาจต้องเจอปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะจากจอมราชันย์คนอื่นๆ คุณควรจะเข้าใจนะว่าฉันไม่ได้พยายามทำให้คุณหรือท่านอาจารย์ของคุณต้องลำบากกว่าเดิม ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากช่วยคุณปกป้องท่านอาจารย์ของคุณด้วยซ้ำ เพื่อที่คุณจะได้สบายใจ” เทพธิดาหลิงหลงอธิบาย
หวังหยิ่งกับเว่ยหรูเหยียนมองหน้ากันอย่างลังเล ไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร
สิ่งที่เทพธิดาหลิงหลงพูดมาก็มีส่วนจริง
ด้วยชื่อเสียงของพวกเธอที่ขจรขจายไปทั่วสรวงสวรรค์แล้ว จะต้องมีพวกอยากรู้อยากเห็นพยายามขุดคุ้ยภูมิหลังของพวกเธอแน่ แต่ท่านอาจารย์ไม่มีโอกาสได้รับคำชี้แนะของจอมราชันย์ ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากของล้ำค่าที่แสนทรงพลังอย่างกระจกเงาแห่งมิติและเวลา ทรัพยากรสำหรับการฝึกฝนวรยุทธก็ไม่มี หากใครคิดร้ายต่อเขา เขาคงปกป้องตัวเองได้ยาก!
ด้วยเหตุนี้ จึงน่าจะดีหากเทพธิดาหลิงหลงอยากปกป้องท่านอาจารย์ของพวกเธอด้วยความจริงใจ สิ่งนี้จะทำให้พวกเธอสบายใจขึ้นมาก
“วางใจเถอะ ฉันเป็นผู้หญิงที่รักษาคำพูด ฉันอยากรู้ตัวตนของเขาก็เพื่อจะได้ปกป้องเขาเท่านั้น ไม่คิดจะสร้างปัญหาใดๆ ในฐานะจอมราชันย์ ฉันไม่ลดตัวลงไปถึงขนาดจะโกหกพวกคุณหรอก” เทพธิดาหลิงหลงยืนยัน
“ฝ่าบาท พวกเราไว้ใจคุณ”
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้มีอำนาจและทรงพลังระดับจอมราชันย์จะปั่นหัวพวกเธอ
เมื่อแน่ใจแล้วว่าเทพธิดาหลิงหลงมีเจตนาดี หวังหยิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริม “ถ้าคุณพบตัวท่านอาจารย์ล่ะก็ หวังว่าคุณจะพาพวกเราไปหาเขาด้วย พวกเราจะได้ไปคารวะ…”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา” เทพธิดาหลิงหลงตอบ
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ แต่ฝ่าบาทคงไม่เคยได้ยินชื่อท่านอาจารย์ของเราหรอก เขาคือนักรบผู้ถ่อมตัวที่ใช้ชื่อว่า ‘จางเซวียน!’
พลั่ก!
เทพธิดาหลิงหลงลื่นไถล เธอทรุดลงไปกองกับพื้น
เทพธิดาหลิงหลงประหลาดใจสุดขีดที่พบว่า ‘จางเซวียน’ ที่พวกเธอกำลังพูดถึงเป็นคนเดียวกันกับ ‘จางเซวียน’ ที่เธอรู้จัก
ตลอดการพูดคุย หวังหยิ่งกับเว่ยหรูเหยียนย้ำแล้วย้ำอีกว่าท่านอาจารย์ของพวกเธอเป็นคนนอบน้อมและเก็บเนื้อเก็บตัวขนาดไหน ซึ่งเธอก็เชื่อสนิท แถมเขายังเป็นผู้บ่มเพาะอัจฉริยะผู้ปราดเปรื่องมากมายโดยไม่ได้พยายามเปิดเผยตัวให้ใครๆรู้จัก
แต่แล้ว ท่านอาจารย์ของทั้งสองกลับเป็น…จางเซวียน!
คุณบอกว่าเขาเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว?
เก็บเนื้อเก็บตัวกับผีอะไร!
คุณบอกว่าเขาเป็นนักรบระดับเทพเจ้าทั่วไป
‘ทั่วไป’ เขาเป็นแบบนี้กันหรือ?
แทบไม่มีนักรบคนไหนไม่รู้จักชื่อจางเซวียนหลังจากที่เขาเปิดตัวยาเม็ดเพิ่มความงามกับยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธที่น่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน และไม่เพียงเท่านั้น เมื่อ 2-3 ชั่วโมงก่อน หมอนั่นยังมาที่น่านฟ้าหลิงหลงและสังหารราชันย์เทพเจ้าคนหนึ่งของเธอไป, กลืนกินเจตจำนงของเธอ, นำเครื่องเก็บงำมิติไปกับเขาด้วย…