Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2341 ครูบาอาจารย์ของโลกกลับมาแล้ว!
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- ตอนที่ 2341 ครูบาอาจารย์ของโลกกลับมาแล้ว!
ตอนที่ 2341 ครูบาอาจารย์ของโลกกลับมาแล้ว!
“วิธีเดียวที่จะทำให้ท่านพ่อของฉันฟื้นคืนสติก็คือการรวบรวมเศษ
เสี้ยวที่กระจัดกระจายให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ก็เพราะเหตุผล
นั้นที่ทำให้ฉันตั้งใจมุ่งมั่นว่าจะผิดพลาดไม่ได้ ฉันลงสู่ทวีปแห่ง
ปรมาจารย์เพื่อศึกษามหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง หา
วิธีที่จะเอาชนะปรมาจารย์ขง ซึ่งก่อนที่ฉันจะต่อสู้กับปรมาจารย์ขง
ก็ได้ฝากฝังเรื่องนี้ไว้กับเขา หวังว่าเขาจะช่วยชีวิตของท่านพ่อแทน
ฉันได้หากฉันแพ้ดวล” หลัวลั่วชิงอธิบาย
จางเซวียนพยักหน้า
ตั้งแต่ทั้งคู่พบกันในทวีปแห่งปรมาจารย์ได้ไม่นาน หลัวลั่วชิงก็บอก
เขาว่าเธอกำลังหาทางช่วยชีวิตญาติสนิทคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่
เคยพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย สุดท้ายจางเซวียนจึงหลงลืมไป
เท่าที่เห็น ดูเหมือนผู้ที่เธอต้องการช่วยชีวิตก็คือท่านพ่อของเธอซึ่ง
เป็นสวรรค์ของสรวงสวรรค์แห่งนี้นี่เอง
ว่าแต่…เป็นไปได้ด้วยหรือที่สวรรค์จะกลายร่างเป็นมนุษย์และให้
กำเนิดเด็กคนหนึ่งได้?
จางเซวียนรู้สึกว่าคำพูดของเธอออกจะแปลก ๆ จึงตั้งคำถาม “เมื่อครู่
นี้คุณบอกว่าคุณคือผู้ดูแลสภาวะตามธรรมชาติของสรวงสวรรค์…
นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้มีเศษเสี้ยวของสรวงสวรรค์อยู่ในตัวใช่
ไหม?”
การเป็นผู้ดูแลเศษเสี้ยวสวรรค์ย่อมต่างจากการครอบครองเศษเสี้ยว
สวรรค์ไว้เอง
“ตอนนี้ฉันแค่ควบคุมดูแลมันเท่านั้น มันไม่ได้เป็นของฉันหรอก”
หลัวลั่วชิงตอบ
ได้ยินคำนั้น จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
นั่นหมายความว่าขอแค่เขานำมลทินสวรรค์ออกจากตัวได้ ทุกอย่างก็
จะคลี่คลาย หลัวลั่วชิงไม่จำเป็นต้องสละชีวิต
แน่นอนว่าจางเซวียนไม่อยากตาย แต่ก็ไม่อยากให้สาวน้อยที่อยู่
ตรงหน้าเขาต้องเป็นอันตรายมากกว่านี้
“เพราะฉะนั้น ถ้าผมกำจัดมลทินสวรรค์ออกจากตัวได้ ท่านพ่อของ
คุณจะฟื้นและช่วยคลี่คลายวิกฤติครั้งนี้ได้ใช่ไหม?” จางเซวียนถาม
“คือ…ฉันก็ยังไม่แน่ใจ” หลัวลั่วชิงตอบอย่างลังเลขณะมองสรวง
สวรรค์รอบตัวที่กำลังพังทลาย
เธอไม่แน่ใจว่าท่านพ่อของเธอ, ในฐานะผู้เป็นสวรรค์ของสรวง
สวรรค์ จะฟื้นคืนสติได้จริงหรือไม่ในสภาพที่สรวงสวรรค์ถูก
ทำลายจนยับเยินแบบนี้ หรือต่อให้ท่านพ่อฟื้นคืนสติได้จริง…แล้ว
เขาจะมีพละกำลังมากพอที่จะเล่นงานไอ้โหดผู้ทรงพลังหรือเปล่า?
แม้เธอจะเห็นท่านพ่อเป็นความหวังสูงสุด แต่ก็ยังไม่แน่ใจ
“ดูเหมือนคุณจะยังไม่แน่ใจนะ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ผมคิดว่าเก็บเรื่องนี้
ไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายดีกว่า พึ่งพาตัวเองย่อมปลอดภัยกว่ารอ
โชคชะตา มาวางแผนด้วยกันเถอะ!” จางเซวียนพูด “มีคุณ มีผม ตัว
โคลน เก้าจอมราชันย์ และปรมาจารย์ขง…ผมไม่เชื่อหรอกว่าพวก
เราจะเอาชนะไม่ได้!”
“ปรมาจารย์ขง? แต่เขา…” หลัวลั่วชิงขมวดคิ้ว
“ปรมาจารย์ขงตายไปแล้ว-คุณกำลังจะพูดแบบนั้นใช่ไหม? เขายังไม่
ตายหรอก เท่าที่ผมรู้ การที่เขาเสียชีวิตตอนที่ดวลกับคุณเป็นเพียง
การปลดปล่อยตัวเขาจากข้อบังคับของสรวงสวรรค์เท่านั้น เขาอาจ
เหมือนเว่ยชางเฟิงก็เป็นได้ คือถือกำเนิดมาพร้อมกับตัวอ่อนของจิต
วิญญาณ” จางเซวียนพูด
หลังจากได้พบเว่ยชางเฟิง ในที่สุดจางเซวียนก็เข้าใจว่าปัจจัยที่จะทำ
ให้ปรมาจารย์ขงรักษาจิตใต้สำนึกเดิมไว้ได้คืออะไร ถ้าอีกฝ่ายถือ
กำเนิดมาพร้อมกับตัวอ่อนของจิตวิญญาณเช่นกัน ต่อให้ฟื้นคืนจาก
ความตายอีกครั้ง ก็จะยังไม่สูญเสียจิตใต้สำนึกเดิม
ด้วยกลวิธีต่าง ๆ ที่ปรมาจารย์ขงจัดเตรียมไว้สำหรับเรื่องนี้ ไม่ช้าไม่
นานเขาก็คงฟื้นคืนชีพ
ได้ยินคำนั้น หลัวลั่วชิงถึงกับผงะ เธอคิดไม่ถึงว่าปรมาจารย์ขงจะ
เตรียมการล่วงหน้าขนาดนี้
“ได้เห็นเมื่อไหร่ก็จะรู้เอง ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ตอนนี้เขาน่าจะกลับ
มาแล้ว ไม่อย่างนั้น บรรดาศิษย์สายตรงของเขาคงไปที่ทะเลท่วมท้น
แล้วล่ะ”
ด้วยความอลหม่านวุ่นวายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น ต่อให้นักปราชญ์โบราณ
จื่อหยวนกับคนอื่น ๆ จะมีความแข็งแกร่งไม่เท่าเหล่าจอมราชันย์ แต่
พวกเขาก็คงไปที่ทะเลท่วมท้นเพื่อยื่นมือเข้าช่วยเหลือแล้ว
การที่ทุกคนนิ่งเงียบย่อมหมายความว่ามีเรื่องบางอย่างที่สำคัญกว่าที่
พวกเขาต้องทำ ซึ่งเรื่องสำคัญเรื่องนั้นก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการกลับมา
ของปรมาจารย์ขง
“อ๋อ…” หลัวลั่วชิงตาโตเมื่อพลันเข้าใจ เธอรู้สึกว่าคำพูดของจางเซวียน
สมเหตุสมผลดี
“ไปกันเถอะ!”
จางเซวียนกระดิกนิ้ว จากนั้นก็เปิดรอยแยกแห่งมิติที่นำไปสู่บริเวณ
ที่ปรมาจารย์ขงจากไป เมื่อทะลุมิติไปถึงอีกฟาก ไม่ช้าก็เห็นชายชรา
คนหนึ่งลอยตัวอยู่กลางอากาศ
เห็นทั้งสองคนมาถึง ชายชราผู้นั้นกล่าวทักทายพร้อมกับยิ้มให้
“พวกคุณอยู่นี่เอง”
จะเป็นใครอื่นได้นอกจากปรมาจารย์ขง?
ครูบาอาจารย์ของโลกกลับมาแล้ว!
เป็นอย่างที่จางเซวียนคาดไว้ เขาฟื้นคืนชีพอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ทุก
คนกำลังวุ่นวายอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทะเลท่วมท้น
“คุณ…” หลัวลั่วชิงตาโตด้วยความอัศจรรย์ใจ
เธอพอรู้ว่าปรมาจารย์ขงเตรียมการเพื่อการฟื้นคืนชีพไว้แล้ว แต่ไม่
คิดว่าเขาจะกลับมาได้เร็วขนาดนี้!
“ผมปกปิ ดบางอย่างไว้จากสรวงสวรรค์” ปรมาจารย์ขงพูดยิ้ม ๆ
“อย่างแรก ผมทิ้งรอยประทับของจิตวิญญาณไว้ที่สระบาดาลตั้งแต่
หลายสิบปีก่อนเพื่อสะสมกระแสจิตปรารถนา ทั้งหมดก็เพื่อช่วงเวลา
นี้นี่แหละ ตอนที่เราดวลกัน ผมถือโอกาสจากการตายของผมปลด
ปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากข้อบังคับของสรวงสวรรค์ แต่ผลจาก
การทำแบบนั้นก็คือทั้งกายเนื้อและจิตวิญญาณของผมถูกทำลาย ใช้
เวลาหลายวันเหมือนกันกว่าจะฟื้นคืนสภาพเดิมได้”
ด้วยความเชี่ยวชาญในการควบคุมกฎเกณฑ์ของกาลเวลา แม้ใน
สรวงสวรรค์จะเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่ในความเป็นจริง เวลา
ของปรมาจารย์ขงอาจผ่านไปแล้วถึงหลายสิบปี
เมื่อหายตกตะลึงกับการฟื้นคืนชีพของปรมาจารย์ขง หลัวลั่วชิงส่าย
หน้า “พวกเราแข็งแกร่งทรงพลังก็จริง แต่ฉันคิดว่าถึงอย่างไรการ
เอาชนะไอ้โหดก็ไม่ง่าย…”
ก่อนหน้านี้ ทุกคนผนึกกำลังกันแล้ว แต่ก็ยับยั้งไอ้โหดไม่ได้ ต่อให้
มีปรมาจารย์ขงมาเสริม ก็จะทำให้เกิดความแตกต่างได้จริงหรือ?
ทุกอย่างน่าจะเหมือนเดิมมากกว่า!
“ผมเห็นด้วยกับที่คุณพูด ต่อให้เราผนึกกำลังกัน ก็ไม่น่าจะเทียบชั้น
กับอีกฝ่ายได้อยู่ดี แต่ถ้าถ่ายทอดพละกำลังของพวกเราทุกคนให้กับ
คนคนหนึ่งล่ะ?” ปรมาจารย์ขงถามยิ้ม ๆ
“ถ่ายทอดพละกำลังของพวกเราทุกคนให้กับคนคนหนึ่ง?”
ทั้งหลัวลั่วชิงและจางเซวียนสับสนเล็กน้อยกับข้อเสนอของ
ปรมาจารย์ขง
“ฝ่ามือจากเมื่อ 50 ปีที่แล้วน่ะสามารถฉีกกระชากสรวงสวรรค์และ
ทำลายทุกอย่างจนสิ้นซาก” ปรมาจารย์ขงพูด “จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า
มันมีพละกำลังมหาศาล ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเราจะรับมือไหว แต่
ไอ้โหดซึมซับพลังเหล่านั้นเข้าไปทั้งหมด รวมทั้งพลังจิตวิญญาณที่
มีอยู่ในสรวงสวรรค์ตลอด 50 ปีที่ผ่านมาด้วย หากเราสู้กับเขาด้วย
วิธีการธรรมดา ไม่มีทางเอาชนะเขาได้แน่”
“แต่หากพวกเราถ่ายทอดพละกำลังทั้งหมดที่มีเข้าสู่ร่างของใครคน
หนึ่ง ก็อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้!”
“แล้วเราจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?” หลัวลั่วชิงถาม
สำหรับเรื่องแบบนี้ การพูดย่อมง่ายกว่าลงมือทำมาก
เหล่าจอมราชันย์คือบุคคลผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้ว ซึ่งหากการ
ซึมซับพละกำลังของคนอื่นมันง่ายดายแบบนั้น วรยุทธของเธอคงไม่
ชะงักงันตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“ที่ผมคิดไว้น่ะง่ายนิดเดียว พวกเราจะถ่ายทอดพละกำลังทั้งหมดที่มี
ให้กับจางเซวียนและทำให้เขาแข็งแกร่งเกินขีดจำกัดของความเป็น
จอมราชันย์ ซึ่งหากทำสำเร็จ เขาก็จะช่วยชีวิตสรวงสวรรค์ได้”
ปรมาจารย์ขงพูด
“ผม?” จางเซวียนผงะ “ทำไมต้องเป็นผมด้วย?”
“จอมราชันย์หลินชีฝึกฝนวรยุทธที่มีแนวคิดของความเป็นอิสระ,
สภาวะที่อยู่เหนือธรรมชาติและความปรารถนาทั้งปวง แต่เธอก็ยัง
ถูกผูกมัดไว้ด้วยท่านพ่อของเธอและสรวงสวรรค์ ทั้งยังมีใครบางคน
ที่เธอปรารถนา ดังนั้นจึงไม่อาจพัฒนาวรยุทธให้เหนือชั้นไปกว่านี้
ได้แล้ว” ปรมาจารย์ขงอธิบาย
เขาหันไปถามหลัวลั่วชิง “ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ระหว่างที่เราดวลกัน
บนดวงจันทร์ คุณเคยคิดจะละทิ้งทุกอย่างและยอมตายด้วยน้ำมือ
ของผมใช่ไหม?”
หลัวลั่วชิงพูดไม่ออก
ความคิดแบบนั้นเคยแวบเข้ามาในหัวสมองของเธอระหว่างที่ทั้งคู่
ดวลกันอยู่ ก็เพราะเหตุผลนั้นที่ทำให้ทั้งตัวเธอและปรมาจารย์ขงยั้ง
มือโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นการดวลธรรมดาสามัญแทนที่จะเป็นการ
ดวลแบบชี้เป็นชี้ตาย
“ผู้ที่ไม่อาจก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปได้ก็จะไม่มีวันได้อยู่เหนือ
ธรรมชาติ คุณไม่อาจก้าวพ้นขีดจำกัดของจอมราชันย์ได้หรอก ต่อ
ให้ซึมซับพลังจิตวิญญาณมากแค่ไหนก็ตาม ส่วนผม…”
ปรมาจารย์ขงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ผมคือคนทะเยอทะยานและ
ละโมบโลภมาก ผมอยากมอบแสงสว่างให้กับโลกใบนี้ แต่ไม่
ต้องการให้ใครสละชีวิตเพื่อผมในระหว่างกระบวนการนั้น ผมมี
ความเมตตากรุณามากมายเกินไป และนั่นคือข้อบกพร่อง ถ้าผมใจ
แข็งกว่านี้สักหน่อยและขุดรากถอนโคนเผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่น
ให้สิ้นซาก เราคงไม่ต้องเผชิญกับวิกฤติอย่างในตอนนี้”
ในครั้งนั้น ถ้าเขาสังหารไอ้โหดเสีย เผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่นก็ก็จะ
ล่มสลาย แต่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั้น เขากลับเลือกไว้ชีวิต
พวกมันเพราะความเมตตากรุณาที่มีอยู่ในหัวใจ
หากตอนนั้นเขาใจแข็งสักหน่อยและปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วง
ทุกคนก็จะไม่ต้องเจอกับสถานการณ์อย่างในเวลานี้
“เพราะฉะนั้น ตัวผมน่ะไม่เหมาะสมหรอก ส่วนจางเซวียน, เทคนิค
วรยุทธของคุณเชื่อมโยงกับเจตจำนงและความตั้งใจที่คุณมีอยู่ ซึ่งผม
มองไม่เห็นข้อบกพร่องในนั้น คุณเสาะแสวงหาการใช้ชีวิตแบบ
เต็มที่กับมัน แม้ต้องแลกด้วยความตาย แต่ขอแค่คุณได้ใช้ชีวิตและ
ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง คุณก็พร้อมจะเดินหน้าไปอย่างกล้า
หาญและฝ่าฟันทุกอุปสรรคให้ได้ คนแบบนี้มีความยืดหยุ่นและ
พร้อมที่จะพัฒนามากกว่า นั่นคือเหตุผลที่คุณสามารถก้าวไปอยู่ใน
จุดที่สูงกว่าเราทั้งคู่!” ปรมาจารย์ขงพูด
“คือ…” จางเซวียนขมวดคิ้ว
เขาไม่คิดว่าปรมาจารย์ขงจะประเมินตัวเขากับหลัวลั่วชิงแบบนี้ ซึ่ง
ขณะที่จางเซวียนกำลังจะอ้าปาก ปรมาจารย์ขงก็โบกมือ “คุณไม่ต้อง
รู้สึกแย่เพราะเรื่องนี้หรอก ตอนนี้เราไม่มีเวลาบ่มเพาะคนอื่นแล้ว
หรือต่อให้ทำได้ ผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่าคุณ”
“จอมราชันย์หลินชีไม่ได้ครอบครองเศษเสี้ยวสวรรค์ก็จริง แต่เวลา
เนิ่นนานหลายปีที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลภาวะตามธรรมชาติของ
สรวงสวรรค์ก็ทำให้เธอมีความเข้าใจในสรวงสวรรค์อย่างลึกซึ้ง ส่วน
ตัวผมมีลิขิตสวรรค์ หากเราสองคนมอบอำนาจที่เรามีอยู่ให้คุณ คุณ
ก็จะมีอำนาจของสรวงสวรรค์อย่างสมบูรณ์แบบ และเมื่อมีตัวโคลน
ซึ่งเป็นดอกบัวทองคำดึกดำบรรพ์แห่ง 9 น่านฟ้าคอยช่วยเหลือ…คุณ
จะต้องรักษาความมั่นคงของสรวงสวรรค์ไว้ได้แน่, เปลี่ยนทิศทาง
ของกระแสน้ำ และกำจัดผู้บุกรุก!”