Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2348 ภาคต่อ 5(จบ)
ตอนที่ 2348 ภาคต่อ 5(จบ)
ในชั่วพริบตา กระแสดาบฉีนับสายไม่ถ้วนก็ระเบิดเข้าใส่ชายร่างตุ้ย
นุ้ย
อีกฝ่ายไม่มีสีหน้ากังวลใจแม้แต่น้อย เขาหัวเราะหึ ๆ ขณะรับมือกับ
การโจมตีของชายทั้งกลุ่มอย่างง่ายดายราวกับฝูงผีเสื้อที่โบยบินผ่าน
มวลดอกไม้ น่าประหลาดใจที่แม้การโจมตีสักครั้งก็ไม่อาจเข้าถึงตัว
เขา
ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!
เกิดเสียงตุ้บหนัก ๆ หลายครั้ง ไม่ช้า นักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้าง
หลายสิบคนก็นอนแผ่หรากับพื้น ต่างคนต่างร้องครวญครางด้วย
ความเจ็บปวด
“ช่างเป็นทักษะการต่อสู้ที่น่าทึ่งอะไรอย่างนี้!” เทพธิดาหลิงหลง
พยักหน้าอย่างยอมรับ
ด้วยความสามารถในการหยั่งรู้ของเธอ เธอดูทิศทางการต่อสู้ออก
อย่างง่ายดาย
เมื่อมองแวบแรก ชายร่างตุ้ยนุ้ยดูจะเป็นแค่เทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้น
สูงทั่วไป แต่เพราะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการต่อสู้ จึงปกปิด
จุดอ่อนมากมายของตัวเองไว้ได้และเอาชนะเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้น
กลางทั้งกลุ่มได้อย่างง่ายดาย
ราวกับเขามองเห็นข้อบกพร่องของทุกคน ทำให้คาดเดากระบวนท่า
ของอีกฝ่ายได้ล่วงหน้าและตอบโต้ได้อย่างเหมาะสม
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มนักรบจากตระกูลชางกวนจึงไม่อาจทำอันตรายชาย
ร่างตุ้ยนุ้ยได้แม้จะล้อมอีกฝ่ายไว้ตั้งแต่แรก พวกเขาพ่ายแพ้ไปภายใน
ระยะเวลาอันสั้น
“เจ้างั่งพวกนี้…เพียงแค่คุณเอาชนะลูกน้องของผมได้ ก็อย่าลิงโลด
ไปนะ!”
เห็นลูกน้องของเขาพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดาย หัวหน้ากลุ่มหน้าดำคร่ำ
เครียด เขาก้าวออกมาก้าวหนึ่งและสำแดงกระบวนท่า เผยวรยุทธ
ระดับกึ่งราชันย์เทพเจ้าออกมา
ไม่ว่าจะเป็นวรยุทธหรือพละกำลัง หัวหน้ากลุ่มก็แข็งแกร่งกว่าชาย
ร่างตุ้ยนุ้ยมาก เท่าที่ดูจากกระบวนท่าอันสง่างามและแม่นยำของเขา
เขาน่าจะได้รับมรดกสายตรงของตระกูลชางกวน นั่นหมายความว่า
เขาคือหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของตระกูลชางกวนด้วย
ฟิ้วววว!
หัวหน้ากลุ่มปล่อยกระแสดาบฉีเป็นชุดเข้าใส่ชายร่างตุ้ยนุ้ยโดยไม่
ลังเล
แม้ชายร่างตุ้ยนุ้ยจะมีทักษะการต่อสู้ที่เหนือชั้น แต่ด้วยวรยุทธที่มี ก็
ยากจะรับมือกับกระแสดาบฉีจำนวนมากพร้อม ๆ กันได้ ลงท้ายจึง
ถูกบีบให้ถอยไปเรื่อย ๆ
“ระวังตัวด้วย” เทพธิดาหลิงหลงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
ชายร่างตุ้ยนุ้ยทำให้เธอประทับใจ เธอจึงไม่อยากเห็นเขาได้รับ
บาดเจ็บ
“ผมขอขอบคุณที่คุณเป็นห่วง แต่ผมไม่เป็นอะไรหรอก อย่างที่บอก
นั่นแหละ พวกนั้นก็แค่เจ้าพวกเหยาะแหยะกลุ่มหนึ่ง!” ชายร่างตุ้ย
นุ้ยหัวเราะหึ ๆ ขณะถอยไปหนึ่งก้าวและคว้าขาหมูที่อยู่บนโต๊ะ เขา
กัดมันเต็มคำก่อนจะจ้องหน้าหัวหน้ากลุ่มพร้อมกับแผ่รังสีของ
นักรบผู้เหี้ยมโหดออกมา “ขอผมดูหน่อยเถอะว่าคุณแข็งแกร่งแค่
ไหน!”
ทันทีที่พูดจบ ก็ใช้ร่างที่อ้วนกลมราวกับภูเขาโถมเข้าใส่
“นี่คงเป็นสิ่งที่พวกเขาเรียกกันว่า…รังสีวีรบุรุษ” เทพธิดาหลิงหลง
พึมพำด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย ขณะรู้สึกถึงความหวั่นไหวในหัวใจ
ที่เคยสงบนิ่งและเย็นชาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เธอเคยคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะได้พบชายสักคนที่เธอจะหลง
รัก แต่ใครจะไปรู้ว่าชายร่างตุ้ยนุ้ยที่ดูธรรมดา ๆ คนนี้จะเข้าตาเธอ
เขาอาจไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่มีความมั่นใจและความเชื่อมั่นใน
ตัวเองที่ทำให้ยืนหยัดไม่หวั่นไหวแม้อยู่ต่อหน้าบรรดานักรบที่
แข็งแกร่งกว่าเขามาก
นี่คือสิ่งที่ชายธรรมดาสามัญทำไม่ได้อย่างแน่นอน
หัวหน้ากลุ่มเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาครู่หนึ่งกับท่าทีของชายร่าง
ตุ้ยนุ้ย แต่สุดท้ายก็กัดฟันและพุ่งเข้าใส่
พลั่ก!
หลังจากแลกเปลี่ยนกันไป 2-3 กระบวนท่า ชายร่างตุ้ยนุ้ยผู้มั่นอก
มั่นใจก็ถูกหัวหน้ากลุ่มสอยกระเด็น
ลำพังความมั่นใจของเขาไม่เพียงพอจะชดเชยพละกำลังที่ยังอ่อน
ด้อย
“บังอาจ! คุณกล้าแตะต้องผมได้อย่างไร! รู้หรือเปล่าว่าผมเป็นใคร?”
ชายร่างตุ้ยนุ้ยตวาดก้องด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวราวกับราชสีห์
“คุณเป็นใครล่ะ?” หัวหน้ากลุ่มย้อนถามด้วยอาการชะงักเล็กน้อย
ชายผู้นี้พูดจาวางโตเสียจนแม้ตัวเขาซึ่งมีตระกูลชางกวนหนุนหลังก็
ยังอดหวั่นใจไม่ได้
ตระกูลชางกวนทรงพลังก็จริง แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่พวกเขาไม่
กล้ามีเรื่องด้วย อย่างสมัยที่ไป๋ เย่ฉิงหงยังอยู่ หากพูดจากับเธออย่าง
ไม่ระวังปาก แม่ผู้หญิงโหดเหี้ยมคนนั้นจะต้องทำให้ตระกูลชางกวน
เดือดร้อนแน่
“ผมคือพ่อบ้านของสรวงสวรรค์!” ชายร่างตุ้ยนุ้ยประกาศก้องขณะ
ลดสายตาลงมองหัวหน้ากลุ่ม ราวกับไม่มีใครอีกแล้วที่จะมีคุณสมบัติ
เพียงพอจะยืนทัดเทียมกับเขา “คุณกล้าแตะต้องผม ก็แปลว่าบังอาจ
แตะต้องสรวงสวรรค์ด้วย คิดจะเป็นกบฏต่อสรวงสวรรค์หรือไง?
รนหาที่ตายแล้ว!”
ฟึ่บ!
ชายร่างตุ้ยนุ้ยสะบัดข้อมือ เขานำตราสัญลักษณ์ออกมาอันหนึ่งและ
กำไว้แน่น แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ตรานั้นก็ดูจะแบกรับน้ำหนักของ
สรวงสวรรค์ไว้ ใครก็ตามที่กล้าทำตัวนอกลู่นอกทางจะต้องเผชิญ
กับการลงทัณฑ์อย่างรุนแรงจากสรวงสวรรค์
“นี่มัน…รังสีของอำมาตย์จางเซวียน?” เทพธิดาหลิงหลงผงะ เธอ
รู้สึกคุ้นเคยกับรังสีที่แผ่ออกมาจากตราหยกอันนั้น
หรือว่าชายร่างตุ้ยนุ้ยที่ทำให้เธอหวั่นไหวมีความเกี่ยวข้องกับจาง
เซวียน?
ขณะที่เทพธิดาหลิงหลงยังคงขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ชายร่างตุ้ยนุ้ย
ก็ฉวยโอกาสจากการนำตราหยกออกมาตรงเข้าเล่นงานหัวหน้ากลุ่ม
จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างผิดหวังขณะเปรย “ก็แค่คู่ต่อสู้อีกคนหนึ่งที่ไม่
คู่ควร…”
เขาวางขาหมู เอาสองมือไพล่หลังไว้ก่อนจะเดินจากไปอย่างสบายใจ
ทำเหมือนเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“สหาย ช้าก่อน!”
เป็นครั้งแรกที่เทพธิดาหลิงหลงได้พบใครสักคนที่ทำตัวเป็นธรรมชาติ
แบบนี้ เธออดใจไม่ไหว จึงรีบลุกขึ้นแล้วร้องเรียกอีกฝ่าย “ฉันขอ
ทราบชื่อเสียงเรียงนามของคุณได้ไหม?”
“ผมชื่อ…” ชายร่างตุ้ยนุ้ยเชิดหน้า แววตาเปล่งประกายของความ
มั่นใจ “ซุนฉาง!”
“ซุนฉาง?” เทพธิดาหลิงหลงจดจำชื่อนั้นไว้แล้วยิ้มให้ เธอชี้นิ้วไปที่
โต๊ะและถามว่า “ขาหมูของคุณ…”
ซุนฉางหันกลับมามองแล้วตอบง่าย ๆ “ตอนนี้มันเป็นขาหมูของคุณ
แล้ว…”
เทพธิดาหลิงหลงหน้าแดงก่ำ
…..
1 ปีให้หลัง งานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ของเทพธิดาหลิงหลงกับซุนฉาง
ก็ถูกจัดขึ้น
และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา เทพธิดาหลิงหลงก็ไม่ต้องทุกข์ทรมาน
กับอาการนอนไม่หลับอีกเลย