Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2018 ฝึกฝนให้ดีนะ
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2018 ฝึกฝนให้ดีนะ
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2018 ฝึกฝนให้ดีนะ
ดูเหมือนเราต้องรับเธอเป็นศิษย์เสียแล้ว! จางเซวียนถอนหายใจอย่างจนปัญญา
การที่ไป๋เหรินชิงจะได้ร่ำเรียนศิลปะเพลงดาบ 2-3 ชนิดจากเขาโดยไม่ได้ยอมรับเขาเป็นอาจารย์นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร จางเซวียนไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่อาจทำแบบเดียวกันกับเคล็ดวิชาเทียบฟ้าได้ มันเป็นหนึ่งในความลับสุดยอดของจางเซวียน และเขาจะไม่ละเลยอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับมัน
ด้วยเหตุนี้ จางเซวียนจึงตั้งใจว่าจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาเทียบฟ้าเฉพาะฉบับเรียบง่ายเท่านั้นให้กับบรรดาศิษย์สายตรงของเขา
แม้ไป๋เหรินชิงจะหุนหันพลันแล่นไปบ้างในบางครั้ง แต่เขาก็ดูออกว่าเธอเป็นคนมีน้ำใจ เธอจะไม่โอนเอนจากหลักการของตัวเอง และทันทีที่พบเป้าหมาย ก็จะพุ่งเข้าใส่และพากเพียรอย่างไม่ลดละ
ด้วยเหตุนี้ จางเซวียนจึงไม่ลำบากใจนักที่จะรับเธอเป็นศิษย์สายตรง
ในเวลานี้ เคล็ดวิชาเทียบฟ้าขั้นอมตะตัวจริงยังมีข้อบกพร่องอยู่ 7 ข้อ ถึงเราจะไม่อยากฝึกฝนอะไรแบบนี้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าสิ่งที่ไป๋เหรินชิงเคยฝึกฝนก่อนหน้านี้มาก จางเซวียนคิด
ถึงเคล็ดวิชาเทียบฟ้าของวรยุทธขั้นอมตะตัวจริงจะยังคงไม่สมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยก็เป็นเทคนิควรยุทธที่ครบถ้วน ในแง่ของคุณภาพ มันเทียบได้กับเคล็ดวิชาเทียบฟ้าฉบับเรียบง่ายที่เขาเคยถ่ายทอดให้ศิษย์สายตรงคนอื่นๆเลยทีเดียว
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะจางเซวียนไม่อยากถ่ายทอดเคล็ดวิชาเทียบฟ้าฉบับสมบูรณ์ให้เหล่าสิทธิ์สายตรงของเขา แต่เขาเป็นเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่สามารถฝึกฝนมันได้
จางเซวียนส่งโทรจิตหาไป๋เหรินชิงอย่างไม่ลังเล “ผมแก้ไขวิกฤติตอนนี้ให้คุณได้ แต่คุณจะต้องยอมรับผมเป็นอาจารย์เสียก่อน เพื่อที่ผมจะได้ถ่ายทอดเทคนิควรยุทธส่วนตัวของผมให้คุณ!”
“ศิษย์ไป๋เหรินชิงคารวะท่านอาจารย์!” ไป๋เหรินชิงรีบทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นและร้องออกมา
เธออยากรับจางเซวียนเป็นอาจารย์นานแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่เคยพูดถึงเรื่องนั้น เธอจึงไม่รู้ว่าจะหาโอกาสไถ่ถามอย่างไร
ในเมื่อสุดท้ายโอกาสก็มาอยู่ตรงหน้า เธอจึงรีบคว้าไว้อย่างไม่ลังเล
“ดี นี่คือเทคนิควรยุทธของผม ฝึกฝนให้ดีนะ!”
หลังจากยอมรับการคารวะของไป๋เหรินชิงแล้ว จางเซวียนรีบปรับเปลี่ยนเคล็ดวิชาเทียบฟ้าให้เหมาะกับสภาวะร่างกายของอีกฝ่ายก่อนจะถ่ายทอดเข้าสู่หัวสมองของเธอ ในเวลาเดียวกัน ก็นำเข็มเงินจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา ถ่ายทอดพลังปราณเทียบฟ้าเข้าไปในเข็มเหล่านั้น ก่อนจะปักมันลงไปทั่วร่างของไป๋เหรินชิง
ฟึ่บ!
พลังจิตวิญญาณที่กำลังพลุ่งพล่านสงบลงทันทีด้วยการควบคุมของพลังปราณเทียบฟ้า ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดแสนสาหัสจากพลังงานเกินขนาดที่ไป๋เหรินชิงกำลังทุกข์ทรมานอยู่
“เทคนิควรยุทธนี้…”
ไป๋เหรินชิงรีบสำรวจเทคนิควรยุทธที่เพิ่งได้รับการถ่ายทอดมาทันที เธออดไม่ได้ที่จะหรี่ตาอย่างทึ่งจัด
เทคนิควรยุทธนี้มีพื้นฐานคล้ายคลึงกับที่เธอเคยฝึกฝนที่สำนักดาบเมฆเหิน แต่ล้ำลึกและทรงพลังกว่ามาก
ถ้าพลังจิตวิญญาณที่เธอสามารถซึมซับได้หลังจากขับเคลื่อนเทคนิควรยุทธเก่าของเธอเป็นลำธารสายเล็กๆ สำหรับเทคนิควรยุทธที่ได้มาใหม่นี้ เธอก็พอคาดการณ์ได้ว่าปริมาณของมันน่าจะไม่ต่างอะไรกับแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก
รู้ดีว่าเทคนิควรยุทธที่ได้มาใหม่จะช่วยชีวิตของเธอได้ ไป๋เหรินชิงรีบหลับตาและตั้งต้นฝึกฝนมัน
วรยุทธของเธอพุ่งพรวดทันที
อมตะตัวจริง ระดับล่าง!
อมตะตัวจริง ระดับสูง!
อมตะตัวจริง ปฐพี!
6 ชั่วโมงผ่านไป วรยุทธของเธอยังคงพุ่งพรวดอย่างไม่ลดละ จนในที่สุดก็เข้าถึงวรยุทธอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์!
“ในเมื่อคุณเป็นศิษย์ของผมแล้ว นับจากนี้ไปคุณจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของผม” จางเซวียนพูดอย่างเคร่งขรึม “อีกอย่าง คุณจะต้องไม่ถ่ายทอดเทคนิควรยุทธที่ผมเพิ่งถ่ายทอดให้คุณให้กับใครทั้งนั้น รวมถึงผู้อาวุโสไป๋เย่ด้วย ทำได้ใช่ไหม?”
“ฉันทำได้!” ไป๋เหรินชิงพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น
การที่หน้าหนังสือสีทองปรากฏขึ้นก็หมายความว่าไป๋เหรินชิงมีความสำนึกในบุญคุณอย่างจริงใจต่อตัวเขาและไม่น่าจะแพร่งพรายความลับใดๆออกไป จางเซวียนจึงไม่กังวลมากนัก
แนวคิดเรื่องความเป็นอาจารย์กับศิษย์นั้นมีความสำคัญในสำนักดาบเมฆเหินเช่นกัน ลูกศิษย์ถูกคาดหวังให้ทำตามคำสั่งของอาจารย์ และบุญคุณของการที่ท่านอาจารย์อบรมสั่งสอนก็ไม่ใช่สิ่งที่จะลืมเลือนกันได้
“ดี ตอนนี้ผมจะออกไปข้างนอกสักครู่ คุณอยู่ขัดเกลาวรยุทธที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน” จางเซวียนพูด
จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป
จางเซวียนได้ยาเม็ดอมตะขั้นสูงสำหรับการยกระดับวรยุทธมาแล้ว สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือหาหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริงให้ได้มากขึ้นเพื่อประมวลขึ้นเป็นเคล็ดวิชาเทียบฟ้าฉบับสมบูรณ์
เป้าหมายของเขาในเวลานี้คือตลาดอู๋ไห่ ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะพอหาหนังสือที่ต้องการจากที่นั่นได้
แน่นอนว่าหนังสือเหล่านั้นย่อมมีราคาสูง แต่เขาไม่จำเป็นต้องซื้อ แค่ชำเลืองมองแล้วถ่ายโอนมันเข้าสู่หอสมุดเทียบฟ้าก็เป็นอันเรียบร้อย
จางเซวียนศึกษาแผนที่มาแล้ว จึงรู้ว่าตลาดอู๋ไห่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้มากนัก แม้ไม่ใช้อสูร หากเดินไปเรื่อยๆก็น่าจะกินเวลาเพียง 1 ชั่วโมง
สมกับที่เป็นตลาดของเมืองขั้น 1 ตลาดอู๋ไห่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน จางเซวียนเห็นผู้คนมากมายอยู่แถวนั้นตั้งแต่ยังเดินไปไม่ถึงตลาด
ชั้นล่างเป็นที่ทำมาหากินของพ่อค้าทั่วไป ขายของธรรมดาสามัญอย่างสมุนไพร สินแร่ล้ำค่า อาวุธ และอื่นๆ หลังจากกวาดสายตาดูโดยรอบ จางเซวียนก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
มีของปลอมอยู่เต็มไปหมด ต่อให้ไม่ใช้หอสมุดเทียบฟ้า เขาก็ดูออกอย่างง่ายดาย
อีกอย่าง ของส่วนใหญ่ยังมีวรยุทธต่ำกว่าขั้นเสมือนอมตะลงไป จึงไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย
จางเซวียนเดินเข้าไปหาพ่อค้าคนหนึ่งและยื่นเงิน 1 เหรียญสำนักดาบให้ “ไม่ทราบว่าในตลาดนี้มีที่ไหนขายหนังสือเทคนิควรยุทธบ้าง?”
“โดยปกติ หนังสือเทคนิควรยุทธจะเปิดขายเพื่อการประมูล” พ่อค้าตอบขณะรับเหรียญสำนักดาบไว้ด้วยความยินดี เพียงหนึ่งเหรียญสำนักดาบก็มากพอจะทำให้เขาอยู่สบายไปหนึ่งเดือนแล้ว!
“ไม่ต้องเป็นหนังสือเทคนิควรยุทธที่ลึกซึ้งนักก็ได้ แบบธรรมดาก็ใช้ได้เหมือนกัน” จางเซวียนเสริม
หนังสือเทคนิควรยุทธที่มีไว้เพื่อการประมูลน่าจะเป็นของล้ำค่า แต่สำหรับเขา ไม่ว่าเทคนิควรยุทธนั้นจะเป็นขั้นสูงหรือหายากขนาดไหนก็ไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ
แน่นอนว่าเทคนิควรยุทธที่มีคุณภาพสูงกว่าย่อมมีข้อบกพร่องน้อยกว่า ซึ่งนั่นหมายความว่าจะสามารถประมวลขึ้นเป็นเคล็ดวิชาเทียบฟ้าที่สมบูรณ์แบบได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาก็คือจำนวนเทคนิคระดับนั้นมีน้อยเกินไป ไม่ควรค่าแก่การต้องเสียเวลาเสาะหา แถมราคาก็สูงลิ่วจนน่าสะพรึง
“เทคนิควรยุทธแบบธรรมดาก็ได้หรือ? ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ที่คลังความรู้ไร้ขีดจำกัดมีหนังสือพวกนั้นอยู่เยอะแยะ จ่ายแค่ 1 เหรียญสำนักดาบ คุณก็สามารถอ่านหนังสือทุกเล่มที่ต้องการได้ที่นั่น แต่หนังสือเทคนิควรยุทธในนั้นค่อนข้างจะธรรมดา แม้แต่ผมก็ยังไม่อยากฝึกฝนมัน พวกเราส่วนใหญ่ไปที่นั่นเพื่ออ่านหนังสือทำนองนั้นมากกว่า” พ่อค้าตอบด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
ในเมื่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาสามารถให้ทิปเป็นเงิน 1 เหรียญสำนักดาบได้ง่ายๆ อีกฝ่ายก็น่าจะเป็นศิษย์สายตรงฝ่ายใน หรือแม้แต่ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด!
เพราะฉะนั้น ความคาดหวังเรื่องเทคนิควรยุทธของเขาจึงน่าจะค่อนข้างสูง และในเมื่อหนังสือเทคนิควรยุทธที่อยู่ในคลังความรู้ไร้ขีดจำกัดไม่อาจดึงดูดใจได้แม้แต่กับพ่อค้าขายยาปลอมแบบเขา ก็ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะสนใจแน่
เป็นไปได้ว่า ‘เทคนิควรยุทธ’ ที่ชายหนุ่มพูดถึงอาจหมายถึงอย่างอื่น
จางเซวียนงงกับรอยยิ้มมีเลศนัยของพ่อค้า แต่ก็โบกมือและพูดว่า “พาผมไปดูที!”
“ได้สิ” พ่อค้าหัวเราะหึๆและรีบนำทางไป
ไม่ช้าทั้งคู่ก็มาถึงร้านหนังสือร้านหนึ่ง พ่อค้าชี้นิ้วไปและพูดว่า “เรามาถึงแล้ว!”
จางเซวียนกวาดสายตามอง ในนั้นมีหนังสือมากมายเรียงรายอัดแน่นอยู่ ทั้งหนังสือเทคนิควรยุทธ หนังสือเทคนิคการต่อสู้ หนังสือพิมพ์และนิตยสารเก่า สมุดจด และไดอารี่…
แน่นอนว่ามีของจำพวกที่พ่อค้าพูดถึงด้วย ทำให้จางเซวียนเข้าใจทันทีว่ารอยยิ้มมีเลศนัยก่อนหน้านี้ของอีกฝ่ายหมายถึงอะไร ปกหนังสือเหล่านั้นดูสะดุดตามากจนแทบจะกระโจนเข้าใส่ผู้ที่ผ่านไปมาหน้าร้านหนังสือ
จางเซวียนจ่ายเงิน 1 เหรียญสำนักดาบและเดินเข้าไป
เขากวาดสายตาดูหนังสือที่อยู่บนชั้นอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าก็ถ่ายโอนหนังสือเทคนิควรยุทธไว้ได้ทั้งหมด
ครู่ต่อมา จางเซวียนได้แต่ส่ายหน้าและยิ้มเจื่อนๆ
มีหนังสือเทคนิควรยุทธอยู่มากมายก็จริง แต่ทุกเล่มล้วนเป็นวรยุทธขั้นเสมือนอมตะลงไป ไม่มีหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริงเลยสักเล่ม ดังนั้น หนังสือเหล่านี้จึงไม่อาจช่วยแก้ไขข้อบกพร่องในเคล็ดวิชาเทียบฟ้าของเขาได้
จางเซวียนออกจากร้านหนังสือมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก
“เป็นอย่างไรบ้าง? เทคนิควรยุทธพวกนั้นน่ะไม่ได้เรื่องใช่ไหม?” พ่อค้าที่ยังแกร่วรออยู่ตรงนั้นตั้งคำถาม “ถ้าคุณอยากได้เทคนิควรยุทธขั้นสูงกว่านี้ล่ะก็ มีเพียงทางเดียวที่จะได้มันมา”
“ฮะ?”
“ไม่นานมานี้ หอประมูลของตลาดอู๋ไห่ได้ของล้ำค่ามาชิ้นหนึ่ง พวกเขาเชิญนักตรวจสอบสมบัติมามากมาย แต่ไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจนว่ามันคืออะไร เพราะฉะนั้น ถ้าใครสามารถตรวจสอบมันได้อย่างถูกต้องและระบุชัดเจนได้ว่าสมบัติชิ้นนั้นคืออะไรล่ะก็ เขาจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่คลังสมบัติของหอประมูลและเลือกหนังสือเทคนิควรยุทธเล่มไหนก็ได้ตามที่ต้องการ” พ่อค้ากระซิบกระซาบ
“สมบัติ?” จางเซวียนชะงัก
นั่นทำให้เขานึกถึงภารกิจที่รับมาก่อนจะเดินทางมายังเมืองอู๋ไห่ ถ้าเขารู้ว่ามีโอกาสดีๆแบบนี้อยู่ คงมาเสียนานแล้ว!
แต่ถึงอย่างไรก็ย่อมดีกว่าที่จะศึกษารายละเอียดเสียก่อน แม้จะต้องผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ตาม จางเซวียนถามต่อ “ดูเหมือนหอประมูลจะมีหนังสือเทคนิควรยุทธที่น่าสนใจอยู่มากนะ คุณรู้หรือเปล่าว่าพวกเขามีหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริงอยู่บ้างไหม?”
“มีอยู่แล้ว! หอประมูลของตลาดอู๋ไห่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี และผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดที่ทางหอประมูลจ้างมาอารักขาทรัพย์สมบัติก็เป็นนักรบกึ่งอมตะขั้นสูง พวกเขาน่าจะมีหนังสือเทคนิควรยุทธระดับอมตะขั้นสูงอยู่ไม่น้อย” พ่อค้าสำทับอย่างหนักแน่น
จากนั้น เขาก็เหลียวซ้ายแลขวาก่อนจะลดเสียงให้เบาลงอีก “บ่อยครั้งที่หนังสือเทคนิควรยุทธถูกขายไปในการประมูล ซึ่งจากการคาดเดาของผม ผมเชื่อว่าหอประมูลของตลาดอู๋ไห่น่าจะแอบทำสำเนาของหนังสือเหล่านั้นไว้…”