Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2036 ทำแบบนี้จะดีหรือ?
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2036 ทำแบบนี้จะดีหรือ?
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2036 ทำแบบนี้จะดีหรือ?
นึกภาพไม่ออกเลยว่านักรบเสมือนอมตะระดับล่างคนหนึ่งจะมาเป็นเจ้าสำนักดาบเมฆเหินได้อย่างไร! ใครๆก็รู้ว่าสำนักดาบเมฆเหินคือ 1 ใน 6 สำนักใหญ่ มีพละกำลังและความแข็งแกร่งมากพอจะชี้นำโชคชะตาของทวีปที่ถูกลืมได้
นี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!
“จางเซวียนทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จ แม้เขาจะเป็นแค่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ แต่ด้วยพละกำลังเหนือชั้นในศิลปะเพลงดาบ เขาสามารถเล่นงานนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์คนหนึ่งกับนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์อีก 3 คนได้สำเร็จ และในวรยุทธระดับเดียวกัน เขาก็แข็งแกร่งพอจะเอาชนะการผนึกกำลังกันของผมกับผู้อาวุโสอีก 4 คนได้…” หานเจี้ยนชิวสร้างความชอบธรรมให้กับการตัดสินใจของเขาต่อไป
“เดี๋ยวก่อน เขาเป็นนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์หรือ?”
“ที่ผมเพิ่งได้ยินคือเขาสังหารนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ไปคนหนึ่งใช่ไหม?”
“เขาโค่นเจ้าสำนักหานกับผู้อาวุโสอีก 4 คนได้?”
เหอจิ้งชวนกับหูเฉินมองหน้ากันด้วยนัยน์ตาเบิกโพลง
หมอนั่นทรงพลังขนาดนั้นเลย? เป็นคนเดียวกันจริงๆหรือเปล่า?
ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นแค่นักรบผู้ทำลายล้างมิติโลกจารึกเมื่อวันก่อน ก็ช่างเหลือเชื่อที่เขากลายเป็นนักรบเสมือนอมตะระดับล่างได้ภายในเวลาเพียงวันเดียว…แล้วมันเรื่องบ้าบออะไรที่เจ้าสำนักหานพูดว่า ‘เขาเป็นแค่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์’?
แถมยังสังหารนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ไปคนหนึ่งด้วย เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ด้วยหรือ?
“เหตุผลที่ผมบอกเรื่องเหล่านี้กับพวกคุณก็เพื่อให้พวกคุณรู้ว่าผมตัดสินใจมอบตำแหน่งให้เขาด้วยความเต็มใจ หวังว่าพวกคุณจะสนับสนุนเขาในฐานะเจ้าสำนัก และนำพาสำนักดาบเมฆเหินของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง!”
เสียงนั้นค่อยๆจางหายไป
หูเฉินมองหน้าเหอจิ้งชวนอย่างไม่อยากเชื่อ
“ผมคิดว่าเราควรฟังคำสั่งของเจ้าสำนักหานนะ นับจากวันนี้ไป เจ้าสำนักของเราจะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจางเซวียน!”
“แต่…เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าสำนักจางหน้าตาเป็นอย่างไร อายุเท่าไหร่!”
เหอจิ้งชวนกับหูเฉินงุนงงอย่างหนัก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ถ้าคุณอยากให้พวกเราเชื่อฟังเจ้าสำนักคนใหม่ อย่างน้อยก็ควรบอกเราสักหน่อยว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร? นี่ไม่บอกข้อมูลอะไรกับเราสักนิด แล้วคาดหวังจะให้พวกเราทำอย่างไรหรือ?
…..
ที่โซนศิษย์สายตรงฝ่ายใน…
เฉาเฉิงลี่ยังนั่งอยู่บริเวณทางเข้าบ้านพัก เพ่งดูธรณีประตูอย่างเคร่งเครียด
เราใช้ขาซ้ายไม่ได้ เราใช้ขาขวาไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้เหมือนกัน…ดูเหมือนจะทำได้ก็แค่คลานเข้าออก…เฉาเฉิงลี่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
ในตอนนั้น เสียงของหานเจี้ยนชิวก็แว่วมา
“นายน้อยของเรากลายเป็นเจ้าสำนักดาบเมฆเหิน, 1 ใน 6 สำนักใหญ่ไปแล้วหรือ?” เฉาเฉิงลี่ผงะด้วยความตกใจ
เขาสะบัดหน้าอย่างแรง ราวกับพยายามจะยอมรับข้อมูลที่เพิ่งได้มา
เขารู้ตั้งแต่ที่เมืองชวนเจียงแล้วว่านายน้อยคือผู้เก่งกาจไร้เทียมทาน แต่นึกไม่ถึงเลยว่านายน้อยจะน่าทึ่งได้ขนาดนี้!
พวกเขาเพิ่งมาถึงสำนักดาบเมฆเหินได้เพียง 2 วันเท่านั้น แต่อีกฝ่ายเปลี่ยนสถานภาพจากผู้ติดตามศิษย์สายตรงฝ่ายในคนหนึ่งไปเป็นเจ้าสำนักเสียแล้ว
เขาไต่เต้ารวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?
ตั้นเฉี่ยวเทียนกับไป๋เหรินชิงที่ยังคงฝึกฝนวรยุทธอยู่ต่างก็จังงังกับสิ่งที่ได้ยิน นัยน์ตาของพวกเขาลุกโชนด้วยความกระตือรือร้น
ท่านอาจารย์กลายเป็นเจ้าสำนักดาบเมฆเหินแล้ว!
ในฐานะศิษย์สายตรงของท่านอาจารย์ จะทำให้ชื่อเสียงของเขาด่างพร้อยไม่ได้
เพราะฉะนั้น พวกเขาจะต้องตั้งใจฝึกฝนให้หนักกว่าเดิม!
ภาพแบบเดียวกันเกิดขึ้นทั่วทั้งสำนักดาบเมฆเหิน
ในเวลานี้ ศิษย์สายตรงและผู้อาวุโสทุกคนจดจำชื่อหนึ่งไว้ขึ้นใจ…จางเซวียน!
ชายหนุ่มคนนี้มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ภายในเวลาเพียง 2 วัน ก็เปลี่ยนสถานภาพจากคนธรรมดาสามัญที่ไม่มีใครรู้จักมาเป็นเจ้าสำนักผู้ทรงเกียรติได้!
ในโลกนี้คงไม่มีใครไต่เต้าได้รวดเร็วอย่างเขาอีกแล้ว
“ผู้อาวุโสหาน คิดดีแล้วหรือที่ประกาศออกไปอย่างนั้น? การทำอะไรเอิกเกริกมีแต่จะทำให้หอเทพเจ้าระแวงเจ้าสำนักจางมากขึ้นนะ” ผู้อาวุโสเหอเทียนตั้งคำถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ในเมื่อหานเจี้ยนชิวลงจากตำแหน่งเจ้าสำนักแล้ว ก็มีตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสขั้นสูงสุดโดยอัตโนมัติ
พวกเขาพยายามเต็มที่ที่จะปกปิดตัวตนของจางเซวียนเพื่อคุ้มกันอีกฝ่ายจากหอเทพเจ้า แต่จู่ๆ หานเจี้ยนชิวก็ประกาศออกไป…
ทำแบบนี้จะดีหรือ?
“ผู้อาวุโสเหอ หอเทพเจ้าเคลื่อนไหวแล้ว ต่อให้ตอนนี้เราพยายามปิดบังอะไร ก็สายเกินไปแล้วล่ะ”
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ประกาศให้รู้ทั่วกันไปเลยดีกว่า ด้วยวิธีนี้ ต่อให้หอเทพเจ้าอยากเปิดการโจมตี ก็จะต้องใคร่ครวญก่อนว่ามันคุ้มกันหรือเปล่าที่จะสังหารเจ้าสำนักดาบเมฆเหินคนใหม่และเสี่ยงกับความโกรธเกรี้ยวของทวีปที่ถูกลืม…” หานเจี้ยนชิวพูด
ถ้าจางเซวียนเป็นคนธรรมดาสามัญที่ไม่มีใครรู้จัก หอเทพเจ้าก็สามารถทำอะไรได้ตามใจ ไม่มีใครกล่าวโทษ เพราะถึงอย่างไรโลกทั้งโลกก็ไม่มีเวลาพอจะใส่ใจใครสักคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขา
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เพราะจางเซวียนกลายเป็นเจ้าสำนักดาบเมฆเหิน
ถ้าหอเทพเจ้าอยากสังหารเขา ก็ต้องเตรียมหาคำอธิบายที่ทวีปที่ถูกลืมยอมรับได้
ไม่อย่างนั้น ความตายของเจ้าสำนักใหญ่จะสร้างความตื่นตระหนกอย่างหนักไปทั่ว ถ้าหอเทพเจ้าสามารถทำกับสำนักดาบเมฆเหินได้ อีก 5 สำนักที่เหลือก็มีโอกาสเผชิญกับเหตุการณ์แบบเดียวกัน
แม้ทั้ง 6 สำนักจะแข่งขันกันอยู่ในที แต่ก็รู้ดีว่าการรวมพลังกันเพื่อต่อสู้กับศัตรูนั้นมีความสำคัญแค่ไหน ซึ่งการผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่นระหว่าง 6 สำนักใหญ่ก็ถือเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่หอเทพเจ้าไม่อยากเผชิญ
เมื่อได้ฟังคำอธิบายนั้น ผู้อาวุโสเหอตาโต
…..
ตำหนักคว้าดาว
หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูที่มีลักษณะเหมือนพระจันทร์เต็มดวง เธอสวมเสื้อคลุมสีขาว ตัดกันกับผมยาวสยายดำสนิท ราวกับน้ำหมึกที่แผ่กระจายบนแผ่นกระดาษ
เธอมักใช้เวลาไปกับการจ้องมองท้องฟ้าด้วยแววตาล้ำลึก ราวกับกำลังพยายามหยั่งถึงเจตจำนงของโลกใบนี้ และวันนี้ก็เช่นกัน
“ท่านหัวหน้า!”
สาวใช้คนหนึ่งพรวดพราดเข้ามาที่ประตูจันทร์เต็มดวง จากนั้นก็ทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าหญิงสาวเสื้อคลุมสีขาว
“มีอะไร?”
หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวหันกลับมา เผยให้เห็นความงดงามชวนตะลึงของเธอ
“พวกเราเพิ่งได้ข่าวว่าที่สำนักดาบเมฆเหิน…เจ้าสำนักหานเจี้ยนชิวลงจากตำแหน่งแล้ว!” สาวใช้รายงาน
ทั้ง 6 สำนักใหญ่มีเครือข่ายข้อมูลข่าวสารของตัวเอง ด้วยหอนิรันดร์ ข่าวสารต่างๆจะถูกส่งไปยังทุกมุมของทวีปที่ถูกลืมด้วยความรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง
“ลงจากตำแหน่ง? ตานั่นคิดอะไรอยู่?” หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวขมวดคิ้ว
เหตุผลที่สำนักดาบเมฆเหินก้าวขึ้นสู่สุดยอด 1 ใน 3 สำนักของ 6 สำนักใหญ่ได้ก็เพราะความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของหานเจี้ยนชิว ถ้าผู้เชี่ยวชาญผู้ทรงพลังระดับนั้นลงจากตำแหน่งอย่างกะทันหันโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งสำนักก็จะร่วงโรย หายนะจะเกิดตามมาแน่!
“ฉันก็ไม่แน่ใจ ตามข่าวที่เราได้มา มีการประกาศอย่างกะทันหัน ไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้าเลย” สาวใช้ตอบ
“ฉันคิดว่าผู้สืบทอดน่าจะเป็นบุคคลที่ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จ…แล้วจะมีพิธีสถาปนาเมื่อไหร่?” หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวตั้งคำถาม
เหตุผลเดียวที่หานเจี้ยนชิวทำแบบนี้ก็เพราะได้พบบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งมากกว่าตัวเขาแล้ว ซึ่งคนเดียวที่จะมีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าหานเจี้ยนชิวก็คือผู้เชี่ยวชาญที่ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จ
“ก็เป็นอย่างนั้นแหละ เจ้าสำนักหานเจี้ยนชิวกล่าวว่าเจ้าสำนักคนใหม่ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จ และชื่อของเขาคือ…” สาวใช้ทบทวนความจำครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “…จางเซวียน?”
“จางเซวียน?” หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวนัยน์ตาเบิกโพลง
ครืนนนน!
พื้นหินที่เธอยืนอยู่เริ่มแตกร้าว
อารมณ์ที่ปั่นป่วนอย่างหนักทำให้เธอควบคุมพลังงานในร่างกายไม่ได้ไประยะหนึ่ง
“ท่านหัวหน้า…”
สาวใช้รีบก้มหน้าลงอย่างพรั่นพรึง
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้…” หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวรีบปรับอารมณ์ให้กลับสู่สภาพปกติ การแตกร้าวของพื้นหินที่อยู่ใต้ร่างของเธอก็หยุดชะงักไปด้วย “แล้วสายของเราได้พบเจ้าสำนักคนใหม่หรือยัง? เรามีข้อมูลเรื่องความแข็งแกร่งของเขาไหม?”
“เจ้าสำนักคนใหม่ยังไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชน แต่เท่าที่เจ้าสำนักหานเจี้ยนชิวพูด วรยุทธของ ชายผู้นั้นเป็นแค่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ แต่เขาสามารถสังหารนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์คนหนึ่งและนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์อีก 3 คนได้” สาวใช้รายงาน
สายข่าวที่อยู่ในสำนักดาบเมฆเหินได้ถ่ายทอดคำพูดของเจ้าสำนักหานอย่างละเอียด
“เป็นแค่นักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ แต่สังหารนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ได้หรือ?” หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวตั้งข้อสังเกตด้วยสีหน้าทึ่งจัด “เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแค่ไหนแล้ว? เขาพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น…”
ครืนนนนน!
พื้นหินที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอเกิดรอยร้าวอีกครั้ง
“หัวหน้าตู้…คุณรู้จักมักคุ้นกับเจ้าสำนักจางเซวียนหรือเปล่า?” สาวใช้ตั้งคำถาม
ในความรู้สึกของเธอ หัวหน้าตำหนักคนนี้คือผู้ที่ยังคงสงบเยือกเย็นอยู่ได้แม้ฟ้าถล่ม แต่วันนี้อีกฝ่ายสูญเสียการควบคุมตัวเองถึงสองครั้งแล้ว
หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวส่ายหน้าและรีบออกจากภวังค์ เธอยิ้มแล้วตอบว่า “คงพูดไม่ได้ว่าเรารู้จักมักคุ้นกัน แต่ฉันรู้จักคนๆหนึ่งที่รู้จักมักคุ้นกับเขา เรียกหวู่เฉินเข้ามา!”
“ได้”
สาวใช้รีบออกจากห้อง ครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมเด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่ง
“คารวะหัวหน้าตู้!” เด็กชายวัยรุ่นโค้งคำนับอย่างงาม
หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวเอาสองมือไพล่หลังขณะมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเฉยเมย “เขาอยู่ที่นี่แล้ว”
มันเป็นแค่ประโยคสั้นๆ แต่เด็กชายวัยรุ่นดูจะเข้าใจทันทีว่าหญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวพูดถึงอะไร นัยน์ตาของเขาเบิกโพลงขณะประสานมือ “หัวหน้าตู้ ผมอยากตามหาเขา ผมพร้อมจะลุยน้ำลุยไฟและยอมตายแทนเขาได้ ได้โปรดอนุญาตให้ผมทำตามความปรารถนาของผมด้วย”
“คุณอยากติดตามเขา? รู้หรือว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน และมีพละกำลังมากเท่าไหร่?” หญิงสาวเสื้อคลุมสีขาวย้อนถาม
เด็กชายวัยรุ่นส่ายหน้า