Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2045 ไปกันเถอะ!
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2045 ไปกันเถอะ!
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2045 ไปกันเถอะ!
นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวดื่มน้ำในขวดหยกอย่างไม่ลังเล เพียงครู่เดียว อาการบาดเจ็บของมันก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง อันที่จริง ดูเหมือนมันจะมีเรี่ยวแรงมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ขอบคุณมาก นายท่าน” นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวตอบอย่างตื่นเต้น
การปล่อยลูกไฟออกจากหัวทั้ง 9 ของมันทำให้เกิดความบอบช้ำ ทั้งก่อนหน้านี้ยังเสียเลือดไปมาก ด้วยความรุนแรงของบาดแผล มันคิดว่าคงต้องใช้เวลาเยียวยาอย่างน้อย 10 ปีกว่าจะฟื้นคืนสู่สภาพเดิม ใครจะไปคิดว่าน้ำใสๆเพียงขวดเดียวจะทำให้มันหายดีได้ภายในระยะเวลาไม่นาน
เรื่องนี้ยิ่งทำให้มันมั่นใจมากขึ้นในการยอมรับชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นเจ้านาย
“เรียกหมาจิ้งจอกหูขาวมา” จางเซวียนสั่งการ
“ได้!”
มังกรอสรพิษโผขึ้นสู่กลางอากาศและคำรามกึกก้อง ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนไม่หยุด
จากนั้น ทุกคนก็เห็นมนุษย์คนหนึ่งกับ ‘มังกร’ อีกตัวปรากฏขึ้นกลางอากาศ ผู้อาวุโสหยวนยังคงขับเคลื่อนลูกมังกรทะเลเหนือไปมา เหงื่อเกาะพราวที่หน้าผากของเขา
เห็นได้ชัดว่าจนกระทั่งถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสหยวนก็ยังไม่รู้ว่า ‘มังกรอสรพิษ’ ที่เขากำลังหลอกล่ออยู่นั้นเป็นตัวปลอม
“อะ-อะไรกัน? มีมังกรอสรพิษอีกตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ผู้อาวุโสหยวนถึงกับผงะเมื่อเห็นมังกรอสรพิษตัวจริง
มังกรอสรพิษไม่แยแสความประหลาดใจของผู้อาวุโสหยวน มันพูดต่อ “หมาจิ้งจอกหูขาว พวกเราที่เหลือยอมจำนนให้นายท่านแล้ว ตอนนี้คุณจะทำอย่างไร?”
“พวกคุณยอมจำนนให้เขาแล้ว?”
หมาจิ้งจอกหูขาวถึงกับชะงัก มันกลายร่างจากมังกรอสรพิษกลับเป็นหมาจิ้งจอกสีเทาดังเดิม แม้จะมีสีเทาตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ก็มีหูสีขาวหนึ่งคู่ที่โดดเด่นสะดุดตา เป็นที่มาของชื่อของมัน
หมาจิ้งจอกหูขาวครุ่นคิดอย่างหนักครู่หนึ่งก่อนจะก้มศีรษะลงต่ำ “ผมเต็มใจยอมจำนนให้เขาเช่นกัน”
อสูรอมตะสามในสี่ตัวที่กุมอำนาจเหนือภูเขาเมฆเหินยอมจำนนแล้ว ในเมื่อมันคือตัวที่อ่อนแอที่สุด อีกทั้งภาพลวงตาที่สร้างไว้ก็ถูกเปิดเผยแล้ว จึงไม่มีทางที่มันจะรับมือกับอีกฝ่ายได้
แทนที่จะถูกฆ่าตาย ควรมอบความจงรักภักดีให้เจ้านายคนเดียวกันจะดีกว่า
ขณะที่หมาจิ้งจอกหูขาวยอมจำนนให้จางเซวียน ผู้อาวุโสหยวนก็พลันเข้าใจกระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้น เขาถึงกับจังงัง
เขาเคยคิดว่าจะทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนนได้โดยไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะเมื่อเขาได้ทุ่มเทเวลาถึง 30 ปีเต็มเพื่อเตรียมการต่างๆจนครบถ้วน แต่ใครจะไปคิดว่าหมาจิ้งจอกหูขาวเพียงตัวเดียวจะทำลายความพยายามของเขาจนหมดสิ้น…
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในระยะเวลาอันสั้น ‘เจิ้งหยาง’ คนนี้ก็ทำให้อสูรอมตะยอมจำนนได้ถึง 3 ตัว กลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภารกิจครั้งนี้
“สิ่งที่สำคัญกว่าในการดึงดูดใจอสูรที่คุณคิดจะทำให้มันยอมจำนนก็คือ ต้องทำให้มันเคารพคุณให้ได้ ลูกมังกรทะเลเหนือกับเลือดมังกรที่คุณเตรียมไว้เป็นของล้ำค่าที่มีประโยชน์ แต่หากอยากเอาชนะใจอสูรที่คุณต้องการให้มันยอมจำนนได้จริงๆล่ะก็ คุณจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตัวคุณคู่ควร” จางเซวียนพูด
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กรรมวิธีฝึกอสูรด้วยการอัดให้น่วมของเขาใช้ได้ผลครั้งแล้วครั้งเล่าก็เพราะมันพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีพละกำลังเหนือชั้น!
ทรัพย์สมบัติล้ำค่าและข้าวของทำนองนั้นเป็นแค่วัตถุ พวกมันอาจใช้เพื่อยืนยันความปรารถนาดีในการทำให้อสูรยอมจำนนได้ แต่สายสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของความปรารถนาดีเพียงอย่างเดียวนั้นถือว่าเปราะบาง ถึงที่สุดแล้ว นักฝึกอสูรผู้นั้นจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเขามีพละกำลังแข็งแกร่งพอที่จะเป็นผู้นำในความสัมพันธ์นี้ ไม่อย่างนั้น ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะควบคุมอสูรตัวหนึ่งได้ตลอดไป
“ผมเข้าใจแล้ว…น้องเจิ้ง ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ”
ผู้อาวุโสหยวนคืออัจฉริยะชั้นยอดคนหนึ่งของหอนานาอสูร ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้เข้ารับการทดสอบเพื่อจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าหอนานาอสูรตั้งแต่อายุยังน้อย คำพูดของจางเซวียนทำให้หูตาของเขาสว่างและเข้าใจความเป็นจริง
หอนานาอสูรไม่อาจแข่งขันกับสำนักดาบเมฆเหินได้ในแง่ของศิลปะและเพลงดาบ อ่อนด้อยกว่าตำหนักคว้าดาวเรื่องศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ สถานภาพทางการเงินก็สู้สำนักเจ็ดดาวไม่ได้ และศิลปะการเคลื่อนไหวก็จัดว่าพื้นๆเมื่อเทียบกับสำนักอมตะเลือนหาย…
ทั้งหมดที่หอนานาอสูรมีก็คือทักษะการฝึกอสูร ด้วยเหตุนี้ บรรดาศิษย์สายตรงจึงสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองด้วยการทำให้อสูรที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขายอมจำนน ความคิดแบบนี้ฝังรากลึกลงไปในหัวใจของพวกเขาจนไม่มีใครตั้งคำถาม
แต่เมื่อมองย้อนไป ก็ถือว่าผิดพลาดอย่างมหันต์
รากฐานของการเป็นนักฝึกอสูรไม่ใช่อสูรที่พวกเขาทำให้ยอมจำนนได้ แต่เป็นวรยุทธ อสูรเหล่านั้นเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ให้นักฝึกอสูรเท่านั้น
ผู้อาวุโสหยวนอุทิศเวลาถึง 30 ปีเพื่อเตรียมการทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนน ทรัพยากรที่เขาใช้ไปก็มากมายมหาศาลจนแทบไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าเขาใช้เวลาและทรัพยากรเหล่านี้ไปกับการฝึกฝนวรยุทธแทน ก็จะแข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้มาก ทุกอย่างจะไม่ลงเอยด้วยความสูญเปล่า
“ไปกันเถอะ!”
เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ทั้งกลุ่มก็รีบเก็บข้าวของและออกเดินทางกลับสู่หอนานาอสูร
จางเซวียนรู้สึกว่าการเดินทางของพวกเขาออกจะช้าเกินไป จึงพาทุกคนขึ้นขี่หลังมังกรอสรพิษแล้วรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
3 วันต่อมา หอนานาอสูรก็ปรากฏตรงหน้า
ในแง่ของขนาด หอนานาอสูรไม่ได้อ่อนด้อยกว่าสำนักดาบเมฆเหิน บริเวณทางเข้ามีหัวมังกรขนาดมหึมาติดตั้งไว้ ตึกรามบ้านช่องโดยทั่วไปถูกประดับประดาด้วยเกล็ดมังกร อาคารเหล่านี้กินอาณาเขตยืดยาวออกไปหลายร้อยลี้ ก่อเกิดเป็นส่วนลำตัวและส่วนหางของมังกร
เมื่อมองจากระยะไกล หอนานาอสูรดูคล้ายกับมังกรเป็นๆตัวหนึ่งที่กำลังไต่สันเขา เฝ้ารอเวลาก่อนจะโผขึ้นสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่อีกครั้ง
จางเซวียนต้องยอมรับว่านี่คืองานศิลปะที่น่าทึ่งมาก แม้ยังไม่ได้เข้าสู่หอนานาอสูร ภาพอันน่าประทับใจก็ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความยำเกรงในหัวใจแล้ว
“สง่างามจริงๆ!” จางเซวียนเปรยออกมาเมื่อมองภาพตรงหน้าจากหลังมังกรอสรพิษ
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความประทับใจแรกเมื่อได้เห็นประตูภูเขาขนาดใหญ่และดาบเล่มมหึมาที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของสำนักดาบเมฆเหิน ดูเหมือนจะไม่มีใครกล้าสร้างความวุ่นวายให้กับ 6 สำนักใหญ่นี้จริงๆ
“ว่ากันว่าผู้ก่อตั้งหอนานาอสูรเคยทำให้เผ่าพันธุ์เสมือนมังกรตัวหนึ่งยอมจำนนได้ในยุคสมัยของเขา ตึกรามบ้านช่องเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้ก่อตั้งยังมีชีวิตอยู่ มันถูกออกแบบให้คล้ายกับร่างของเผ่าพันธุ์เสมือนมังกรตัวนั้น ด้วยเหตุนี้หอนานาอสูรจึงมีอำนาจยิ่งใหญ่ตามแบบของเผ่าพันธุ์มังกร อสูรตัวไหนก็ตามที่เข้ามาใกล้หอนานาอสูรจะรู้สึกได้ถึงความยำเกรงที่หยั่งลึกในหัวใจ และไม่กล้าสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย” ผู้อาวุโสเลี่ยวอธิบายอย่างเคร่งขรึม
จางเซวียนพยักหน้ารับ
เผ่าพันธุ์มังกรคือผู้นำเหล่าอสูร ตึกรามบ้านช่องที่ถูกสร้างขึ้นเลียนแบบรูปร่างของมันย่อมดึงดูดพลังงานของมังกรให้เข้ามาสะสมไว้ตลอดเวลา ส่งผลให้อสูรตัวอื่นๆเกิดความยำเกรง
“น้องเจิ้ง ระหว่างนี้คุณพักที่นี่ก่อน ผมจะรีบไปรายงานท่านหัวหน้า” ผู้อาวุโสเลี่ยวนำจางเซวียนเข้าสู่ที่พัก ก่อนประสานมือและกล่าวอำลา
ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว จางเซวียนจึงตัดสินใจหยุดพักสักหน่อย เมื่อคนของจากหอนานาอสูรจากไป เขาก็สั่งการให้อสูรอมตะทั้ง 4 พักผ่อนอยู่ด้านนอกก่อนจะเข้าสู่บ้านพัก
จางเซวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนำน้ำเต้าตงฉู่ออกจากจุดตันเถียน
“แกรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
ตั้งแต่เจ้านี่เขมือบลูกไฟและดื่มเลือดของนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหางเข้าไป มันก็นิ่งกริบ ผ่านมา 3 วันแล้ว แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย
“ดูเหมือนเลือดจากนกตัวนั้นยังมีน้อยไปหน่อย ผมอยากได้พลังงานมากกว่านี้…” น้ำเต้าตงฉู่ถอนหายใจเฮือกอย่างจนปัญญา
“แกอยากได้พลังงานมากกว่านี้? เกิดอะไรขึ้น?” จางเซวียนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ก็อย่างที่คุณรู้นั่นแหละ ผมคืออสูรในตำนานที่ครั้งหนึ่งมี…” น้ำเต้าตงฉู่เริ่มสาธยายเรื่องเล่าเก่าแก่ของมันอีกรอบ
“พอที” จางเซวียนขัดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ฉันรู้แล้วว่าแกเคยทรงพลัง แต่ที่ฉันอยากรู้ก็คือแกถูกกักขังอยู่ในร่างปัจจุบันนี้ได้อย่างไร”
ในเมื่อเจ้านี่กลืนกินดาบระดับอมตะขั้นสูงได้ แถมเล่นงานนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวให้พ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดาย ก็ไม่ควรประมาทความสามารถของมัน
สิ่งที่ทำให้จางเซวียนยังคงสงสัยก็คือทำไมน้ำเต้าตงฉู่ถึงปรากฏตัวในทวีปแห่งปรมาจารย์ ด้วยความเก่งกาจของมัน มันน่าจะอยู่ในมิติเบื้องบนหรือแม้แต่สวรรค์
ทำไมถึงลงเอยด้วยการอยู่ในสภาพนี้?
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ความทรงจำของผมออกจะเลอะเลือนอยู่สักหน่อย ตอนที่ตื่นขึ้นมา ผมก็อยู่ในน้ำเต้าตงฉู่ใบนี้แล้ว สัญชาตญาณบอกผมว่าผมจะได้ความทรงจำกลับคืนมาก็ต่อเมื่อมีพละกำลังเต็มพิกัดดังเดิม” น้ำเต้าตงฉู่ตอบ
เมื่อเห็นว่าซักถามอะไรไปก็ล้วนแต่เสียเวลาเปล่า จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ช่างมันเถอะ แกบอกฉันมาดีกว่าว่าแกต้องการอะไร ถึงจะออกจากสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้?”
“ปริมาณพลังงานที่ผมรวบรวมได้ยังคงไม่มากพอจะทำลายเปลือกอันนี้ แต่ถ้าคุณให้ผมกินยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษอีกสักหน่อย ก็น่าจะทำได้” น้ำเต้าตงฉู่ตอบ
“ยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ? แกอยากได้สักเท่าไหร่ล่ะ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
เขาพอมียาเม็ดอมตะขั้นพิเศษอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก
จางเซวียนตั้งใจจะซื้อยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ 100 เม็ดตอนที่แวะหอนิรันดร์ของเมืองอู๋ไห่ แต่โชคร้ายที่หอนิรันดร์ไม่มีสินค้ามากพอกับความต้องการของเขา จึงทำได้แค่ซื้อเท่าที่มี แต่หอนิรันดร์ก็ให้สัญญาว่าจะรวบรวมจำนวนที่ยังขาดมาให้ได้ในอีก 2-3 วันถัดไป
แต่แล้วการลอบสังหารจากหอเทพเจ้าก็เกิดขึ้นเสียก่อน เขาถูกบีบให้ต้องรีบร้อนออกจากเมืองจนไม่มีเวลาไปรับยาส่วนที่เหลือ
ในจำนวนยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษที่เขาได้มา เขากินเองไปแล้วจำนวนหนึ่ง อีกจำนวนหนึ่งให้ไป๋เหรินชิงกับตั้นเฉี่ยวเทียนสำหรับใช้ในการฝึกฝนวรยุทธ ตอนนี้จึงเหลือเพียง 5 เม็ด
จางเซวียนตั้งใจจะใช้ยาเม็ดจำนวนนี้สำหรับการฝ่าด่านวรยุทธของจิตวิญญาณของเขา แต่ถ้าน้ำเต้าตงฉู่ต้องการ เขาก็ยินดีจะให้มันก่อน
ด้วยตราสัญลักษณ์ที่ปรมาจารย์ขงมอบให้ การรวบรวมทรัพยากรเพื่อการฝึกฝนวรยุทธจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ขอแค่มีหอนิรันดร์อยู่แถวๆนี้ เขาก็จะหาทุกสิ่งที่ต้องการได้