Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2145 คืนผมมานะ!
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2145 คืนผมมานะ!
ตอนที่ 2145 คืนผมมานะ!
“ใครกันที่บังอาจบุกเข้ามาที่นี่?”
จางเซวียนกำลังพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เห็นตรงหน้า ก็พอดีกับที่มีเสียงห้วนๆดังขึ้นกลางอากาศ ท่ามกลางความมืดมิดอันลึกลับที่อบอวลอยู่บริเวณนั้น ร่างหนึ่งเดินเข้ามาช้าๆ
จางเซวียนกำดาบถงซังไว้แน่นขณะมองผู้ที่กำลังตรงเข้ามาอย่างหวาดระแวง
พริบตาต่อมา โครงกระดูกสีดำก็ปรากฏต่อหน้าต่อตา
โครงกระดูกสีดำนั้นมีรูปร่างสูง สีดำสนิทเป็นประกายฉาบทั่ว มันแผ่แรงกดดันหนักหน่วงออกมา บ่งบอกถึงพละกำลังมหาศาลที่ไม่มีใครกะประมาณได้
นี่เป็นครั้งแรกที่จางเซวียนรู้สึกถูกคุกคามอย่างรุนแรง
แม้เมื่อครั้งที่เขาพบหัวใจของไอ้โหดเป็นครั้งแรกในถ้ำใต้ดิน ก็ยังไม่รู้สึกขนลุกขนพองเท่านี้เลย
“พวกเราไม่ได้จะรบกวนคุณ…” ตู้ชิงหย่วนรีบยกมือขึ้นเพื่ออธิบาย
“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกคุณควรเข้ามา แต่ในเมื่อเข้ามาแล้ว ทำไมไม่อยู่เป็นเพื่อนผมก่อน?”
โครงกระดูกสีดำลั่นกราวขณะยกมือขึ้นและชี้มาที่ทั้งคู่
พลั่ก!
พริบตาต่อมา จางเซวียนกับตู้ชิงหย่วนรู้สึกราวกับถูกโลกถล่มใส่ แรงกดดันมหาศาลถาโถมเข้าบีบพวกเขาจนทั้งร่างแทบจะแหลกเป็นผุยผง
“นี่คือความแข็งแกร่งของเทพเจ้า…” จางเซวียนนึกได้
รู้ดีว่าไม่มีเวลาให้พูดอะไร เขารีบชักดาบถงซังออกมาและสำแดงศิลปะเพลงดาบที่แข็งแกร่งที่สุด
ด้วยการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบ จางเซวียนสร้างปราการตาข่ายขึ้นล้อมรอบตัวเขากับตู้ชิงหย่วนอย่างรวดเร็วเพื่อบรรเทาแรงกดดันนั้น
เมื่อตาข่ายสัมผัสกับนิ้วของโครงกระดูกสีดำ แรงบีบที่ถาโถมเข้าใส่ก็ลดน้อยลงทันที
“ศิลปะเพลงดาบของคุณน่าทึ่งไม่เบา คุณมาจากน่านฟ้าดาบสวรรค์หรือ?” โครงกระดูกชะงักและตั้งคำถาม
แต่ครู่ต่อมา มันก็ส่ายหัวและตอบคำถามของตัวเอง “ไม่น่าใช่ เป็นไปไม่ได้หรอกที่ใครสักคนจากน่านฟ้าดาบสวรรค์จะมาอยู่ที่นี่ อีกอย่าง ศิลปะเพลงดาบของพวกนั้นก็คมกริบและดุเดือด บ่งบอกถึงความอดทนมุ่งมั่น ทำให้การโจมตีของพวกเขาหนักหน่วงและชัดเจน…”
“แต่ศิลปะเพลงดาบของคุณดูจะเปี่ยมด้วยอารมณ์และความรู้สึก เป็นธรรมชาติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับน่านฟ้าดาบสวรรค์ คุณทำความเข้าใจกระบวนท่าที่ทรงพลังขนาดนั้นได้ในพื้นที่ที่แสนจะอัตคัดพลังจิตวิญญาณ ถือว่าคุณปราดเปรื่องมาก ไม่ต่างกับคนก่อนที่ลงจากสรวงสวรรค์มาสู่ที่นี่”
“แต่ก็ตามนั้นแหละ หลุมฝังศพของนายท่านของผมไม่ใช่สถานที่ที่คนนอกจะเข้าออกได้ตามใจ แต่เห็นแก่การที่คุณต้องเหนื่อยยากมากมายกว่าจะสำเร็จวรยุทธระดับที่เป็นอยู่ ผมจะละเว้นให้และปล่อยให้คุณกลับไปเดี๋ยวนี้” โครงกระดูกโบกมือให้ทั้งคู่ออกไป
“ผู้อาวุโส เรามาที่นี่เพื่อตามหารังสีสวรรค์ที่จะทำให้เข้าถึงระดับของเทพเจ้า ผมขอวิงวอนให้คุณยอมรับคำขอร้องของพวกเราด้วย!” เมื่อเห็นว่าในที่สุดโครงกระดูกสีดำก็หยุดโจมตี จางเซวียนรีบลดทีท่าระแวดระวังลงและเอ่ยปากร้องขอ
สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นที่เดียวในทวีปที่ถูกลืมที่เขาจะตามหารังสีสวรรค์ได้ ดังนั้น ต่อให้มีอันตราย เขาก็ไม่อาจกลับไปมือเปล่า
“คุณอยากตายหรือ? ถ้าไม่อยากตายก็ไสหัวไป!” โครงกระดูกสีดำคำราม
“ผู้อาวุโส…”
จางเซวียนกำลังจะพูดต่อ แต่โครงกระดูกสีดำโบกมืออย่างหมดความอดทน ทำให้กระแสพลังงานขนาดใหญ่ระเบิดออกมาราวกับสึนามิ
จางเซวียนหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นมาทันที ดูเหมือนทุกอย่างกำลังบีบเขาให้เข้าตาจน
เขารีบนำของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ทุกชิ้นที่ได้จากขุมสมบัติของหอนิรันดร์ออกมาต้านทานแรงปะทะนั้น
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
แรงปะทะทำให้จางเซวียนกระอักเลือดออกมา เขาร่วงลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง พร้อมกันนั้น ของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ที่มีอยู่ในมือก็หมดเรี่ยวแรงและร่วงผล็อยลงกับพื้น
จางเซวียนรีบขับเคลื่อนพลังปราณเทียบฟ้าเพื่อเรียกพละกำลังกลับคืนมาขณะกัดฟันอดกลั้นความเจ็บปวดแสนสาหัสในร่างกายเอาไว้ เขากระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน
“ผมไม่ได้คิดจะทำร้ายคุณ…ผู้อาวุโส แต่พวกเราต้องการรังสีสวรรค์จริงๆ” จางเซวียนพูด
“ถึงอย่างไรก็จะเสี่ยงใช่ไหม?” โครงกระดูกสีดำคำราม
พริบตาต่อมา จางเซวียนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันหนักหน่วงอีกระลอกหนึ่งที่ถาโถมเข้าใส่เขาจากด้านบน พยายามจะเล่นงานเขาให้บี้แบน
ขณะที่จางเซวียนกำลังจะหมดความอดทน จี้สีแดงก่ำที่เขาห้อยไว้รอบลำคอก็เปล่งพลังอบอุ่นออกมา แรงกดดันมหาศาลนั้นสลายตัวไปทันที
เมื่อรู้สึกได้ว่าพลังของจี้ขจัดแรงกดดันออกไป จางเซวียนกำลังจะใช้โอกาสนี้หว่านล้อมโครงกระดูกสีดำอีกครั้ง ก็พอดีกับที่รู้สึกถึงแรงดึงที่ลำคอ
ยังไม่ทันที่เขาจะรู้ตัว จี้สีแดงก่ำก็ลอยละลิ่วเข้าสู่มือของโครงกระดูกสีดำ
“คืนผมมานะ!”
จางเซวียนตกใจ เขาพุ่งเข้าใส่โครงกระดูกสีดำเพื่อคว้าจี้คืน แต่ดูเหมือนจะมีพละกำลังบางอย่างตรึงเขาให้อยู่กับที่ ไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้
โครงกระดูกสีดำถือจี้สีแดงก่ำไว้ตรงหน้าเบ้าตาว่างเปล่าของมัน จากนั้นก็พินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโยนคืนให้จางเซวียน
ฟึ่บ!
พละกำลังที่พันธนาการร่างของเขาหายวับไป จางเซวียนอ้าปากหอบหายใจ
โครงกระดูกมองหน้าจางเซวียนและตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่หลงเหลือความเป็นปฏิปักษ์แบบเดิม “คุณบอกว่าคุณต้องการรังสีสวรรค์?”
เห็นโครงกระดูกสีดำเปลี่ยนทีท่าไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากได้เห็นจี้ จางเซวียนรู้ทันทีว่าโอกาสที่เขาจะทำสำเร็จมาถึงแล้ว จึงรีบประสานมือและตอบว่า “ใช่แล้ว ผู้อาวุโส และผมหวังว่าผู้อาวุโสจะยอมรับคำขอร้องของผม!”
“ผมไม่มีรังสีสวรรค์หรอก แต่สิ่งนี้ใช้แทนกันได้”
โครงกระดูกกำมือ จากนั้นบรรยากาศเสื่อมถอยก็มารวมตัวกันรอบตัวมัน ภายใต้พละกำลังบางอย่างที่มีความหนักหน่วงรุนแรง บรรยากาศเสื่อมถอยถูกบีบอัดเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นกระแสสีดำที่ล้อมรอบโครงกระดูกไว้
ภาพนั้นทำให้จางเซวียนชะงัก
เขารู้สึกได้ว่ากระแสสีดำนั้นบริสุทธิ์และได้รับการขัดเกลาอย่างดียิ่งกว่าบรรยากาศการเสื่อมถอย อันที่จริง มันแผ่แรงกดดันที่ไม่อาจต้านทานได้ออกมา ไม่ต่างจากรังสีสวรรค์ที่เขาเคยพบ
ความแตกต่างเดียวคือรังสีสวรรค์มีสีทองและไม่มีคุณสมบัติของการเสื่อมถอย ถ้าจางเซวียนได้รับกระแสสีดำนั้นแม้เพียงเสี้ยวเดียว ต่อให้มีซุปไก่ของไก่น้อย เขาก็น่าจะถูกกัดกร่อนจนเหลือแต่โครงกระดูก
“ผมไม่คิดว่าผมจะใช้รังสีสวรรค์ที่คุณนำออกมาได้หรอก…” จางเซวียนเอ่ยอย่างลังเล
ถ้าเขาบังอาจซึมซับมัน ก็มีโอกาสที่จะตายเสียก่อนที่จะได้ยกระดับวรยุทธ
“ผมรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร โดยปกติรังสีสวรรค์เป็นสีทอง แต่มันจะมีลักษณะแตกต่างออกไปเมื่ออยู่ในโลกใบนี้” โครงกระดูกสีดำพูด
“ลักษณะแตกต่างออกไป?” จางเซวียนงง
“พลังจิตวิญญาณในโลกใบนี้ขุ่นข้นและไม่บริสุทธิ์ เมื่อเวลาผ่านไป รังสีสวรรค์ก็ถูกปนเปื้อนจนสูญเสียประกายสีทองของมัน” โครงกระดูกสีดำอธิบายพร้อมกับส่ายหน้า
ก็เหมือนกับการที่พลังจิตวิญญาณในมิติเบื้องบนมีความบริสุทธิ์และละเอียดกว่าพลังจิตวิญญาณในทวีปแห่งปรมาจารย์มาก สถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับสรวงสวรรค์และมิติเบื้องบนเช่นกัน รังสีสวรรค์มีความบริสุทธิ์อย่างน่าทึ่ง แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีสิ่งปนเปื้อน สุดท้ายก็จะเปลี่ยนสภาพไป กลายเป็นบรรยากาศของการเสื่อมถอย
จางเซวียนมีสีหน้าไม่สู้ดี
เขาคิดว่าเมื่อมาที่นี่ ก็จะได้พบรังสีสวรรค์ที่มีความบริสุทธิ์ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นบรรยากาศของการเสื่อมถอย ต่อให้ได้มาก็ไร้ประโยชน์
เขาไม่มีทางซึมซับมันได้ นับประสาอะไรกับการฝ่าด่านวรยุทธ!
“ผู้อาวุโส มีวิธีชำระล้างรังสีสวรรค์ที่ปนเปื้อนไหม?” จางเซวียนตั้งคำถาม
เขาต้องหาวิธีทำสิ่งที่ตั้งใจจนสำเร็จให้ได้
ไม่อย่างนั้น ไม่เพียงแต่จะไม่ได้พบหลัวลั่วชิง ปรมาจารย์ขงตัวปลอมอาจฉีกกระชากหอสมุดเทียบฟ้าออกจากร่างของเขาด้วย ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงความตาย
และจางเซวียนก็รู้ดีว่าเหยื่อรายต่อไปถัดจากเขาจะต้องเป็นเหล่าศิษย์สายตรงและเจ้าสำนักที่เหลือ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มียุทธวิธีอื่นๆ แต่ทุกอย่างคือการรับมือในขั้นสุดท้าย มันจะเป็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเพื่อดิ้นรนเอาชีวิตรอด
เพื่อไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแบบนั้น เขาจะต้องกลายเป็นเทพเจ้าให้ได้
“ก็พอมีวิธี แต่ไม่ง่ายนะ” โครงกระดูกสีดำตอบ
เมื่อได้ยินว่ามีวิธี จางเซวียนแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่และรีบพูดต่อ “ผู้อาวุโส ขอวิงวอนให้คุณชี้แนะด้วย”
“พิธีกรรมที่ใช้พละกำลังของจิตวิญญาณสามารถชำระรังสีสวรรค์ที่ปนเปื้อนได้ แต่จะต้องใช้เจตจำนงจำนวนมากมายที่รวมกันเป็นหนึ่งในคราวเดียวเพื่อตั้งความปรารถนาอย่างจริงใจให้ทุกอย่างสำเร็จ ถ้ามีเจตจำนงแม้แต่ดวงเดียวที่ไม่ยอมร่วมมือกับดวงอื่นๆที่เหลือ พิธีกรรมก็จะล้มเหลว” โครงกระดูกสีดำพูด
“ผู้อาวุโส ได้โปรดถ่ายทอดวิธีการประกอบพิธีกรรมให้ผมด้วยเถอะ” จางเซวียนพูดขณะถอนหายใจอย่างโล่งอก
ฟึ่บ!
โครงกระดูกสีดำยกนิ้วขึ้นและเคาะตรงหน้าเบาๆ เจตจำนงเสี้ยวหนึ่งของมันถูกถ่ายทอดเข้าสู่หัวสมองของจางเซวียนกับตู้ชิงหย่วน
“เอ่อ…”
จางเซวียนเลิกคิ้วเมื่อเห็นรายละเอียด
เป็นอย่างที่โครงกระดูกสีดำพูดไว้ พิธีกรรมนี้ต้องใช้ผู้คนมากมายที่ยอมรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโอกาสที่จะเกิดการบูชายัญด้วย
“การชำระรังสีสวรรค์คือขั้นตอนที่จำเป็นในการก้าวสู่ความเป็นเทพเจ้า ขั้นตอนนี้ไม่ยากเย็นอะไรหากอยู่บนสรวงสวรรค์ แต่เมื่อเป็นที่นี่ ก็ไม่ต่างอะไรกับความพยายามก้าวข้ามอำนาจสวรรค์ จึงเป็นธรรมดาที่ใครสักคนจะต้องยอมเป็นเครื่องบรรณาการ…ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ ก็ลองดู เพราะผมก็ไม่มีวิธีอื่นให้คุณแล้วเหมือนกัน” โครงกระดูกสีดำพูด
มันเคาะนิ้วเบาๆ จากนั้นก็ปล่อยลูกทรงกลมที่ก่อตัวขึ้นจากพลังงานสีดำเข้าหาจางเซวียน
จางเซวียนใช้พลังปราณรับลูกทรงกลมนั้นไว้อย่างระมัดระวังก่อนจะเก็บไว้ในขวดหยก
“ผมมีให้คุณเท่านี้แหละ อย่ารบกวนการพักผ่อนของผมอีก ผมไม่สนหรอกว่าคุณมาจากน่านฟ้าดาบสวรรค์หรือน่านฟ้าเสรี แต่ถ้าคุณกล้าเหยียบย่างเข้ามาที่นี่อีกครั้งล่ะก็ อย่าหวังว่าผมจะปรานี!”
โครงกระดูกสีดำทรุดตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจะสงบนิ่ง
จางเซวียนเก็บขวดหยกไว้ในแหวนเก็บสมบัติ จากนั้นก็โค้งคำนับอย่างงามให้โครงกระดูกสีดำ “ขอบคุณมาก ผู้อาวุโส”
แม้อีกฝ่ายจะไม่มีรังสีสวรรค์สีทองอย่างที่เขาต้องการ แต่ก็ให้ความหวังและบอกแนวทางที่ชัดเจน
ขอแค่เขาทำตามที่โครงกระดูกพูด ก็มีโอกาสที่ทุกอย่างจะสำเร็จ
“ผมขอกินโครงกระดูกสีดำนั่นทั้งตัวได้ไหม?”
ขณะที่จางเซวียนกับตู้ชิงหย่วนกำลังจะออกไป ไก่น้อยที่อยู่ในกระสอบอสูรก็โพล่งออกมา
“อย่าพูดไร้สาระน่ะ!” จางเซวียนเกือบลมจับเมื่อได้ยินคำพูดนั้น