Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2186 ยาเม็ดเพิ่มความงาม
- Home
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร
- Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2186 ยาเม็ดเพิ่มความงาม
ตอนที่ 2186 ยาเม็ดเพิ่มความงาม
ตระกูลฉีมีอำนาจในเมืองหลวงก็จริง แต่เธอคือผู้แทนพิเศษที่ประจำการ ณ เมืองตะวันรอน รับมอบอำนาจโดยตรงจากจอมราชันย์ปีศาจเฉียนคุ่น ต่อให้ตระกูลฉีจะทรงพลังแค่ไหน ก็คงไม่ฉลาดนักถ้าจะท้าทายอำนาจของเธอ
ไม่มีอะไรเป็นความผิดร้ายแรงไปกว่าการลบหลู่เกียรติยศศักดิ์ศรีของจอมราชันย์
นี่คือสิ่งที่ทุกคนในสรวงสวรรค์ที่พอจะมีสามัญสำนึกต่างรู้ดี
“รับทราบ” ผู้อาวุโสพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป
เพียงครู่เดียวเขาก็กลับมาด้วยสีหน้าที่ออกจะงุนงง บ่งบอกชัดว่าเพิ่งได้ข่าวบางอย่างที่ตัวเขาก็แทบไม่อยากเชื่อ
“ผู้แทนเย่ ตอนนี้ฉีหลิงเอ๋อไม่ได้อยู่ในตลาดมืดใต้ดิน แต่อยู่ที่ตลาดตะวันรอน!”
“ตลาดตะวันรอน?” เย่โชวเยี่ยนแปลกใจกับข่าวที่ได้รับ
มันเกิดอะไรขึ้น ผู้จัดการตลาดมืดใต้ดินถึงลุกขึ้นมาเปิดตัวในตลาดที่ถูกต้องตามกฎหมายของเมืองตะวันรอน?
เธอพยายามจะล้างมือและปลดเกษียณจากโลกใต้ดินหรือ?
“เธอรวบรวมสุภาพสตรีสาวสวยในเมืองตะวันรอนมาได้จำนวนหนึ่ง และดูเหมือนกำลังจะขายของบางอย่าง…ผมคิดว่ามันคือยาเม็ดเพิ่มความงาม!” ผู้อาวุโสพูด
“ยาเม็ดเพิ่มความงาม?” เย่โชวเยี่ยนคำราม “เหลวไหล! ตอนที่อาจารย์ฟู่เจียงเฉิง, นักปรุงยาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของสรวงสวรรค์มาเยือนเมืองหลวง ฉันมีโอกาสได้พูดคุยกับเขา เขาบอกว่ารูปร่างหน้าตาของคนคนหนึ่งคือสิ่งที่สวรรค์กำหนดมา ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ยาเม็ดเพิ่มความงาม’ อยู่ในโลกนี้ ถ้ามีล่ะก็ ฉันคงไม่ปล่อยให้หน้ามีแผลเป็นจนถึงทุกวันนี้หรอก!”
ผู้อาวุโสพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง
ถ้ามีสิ่งที่เรียกว่ายาเม็ดเพิ่มความงามจริงๆ ก็คงขึ้นชื่อลือกระฉ่อนไปทั่วทั้งสรวงสวรรค์แล้ว
ยิ่งนักรบคนหนึ่งมีวรยุทธสูงขึ้นเท่าไหร่ อายุขัยของพวกเขาก็ยืนยาวขึ้น การมีอายุยืนเป็นเรื่องดี แต่คงจะดีกว่ามากหากสามารถรักษารูปลักษณ์หน้าตาที่อ่อนเยาว์ไว้ได้ด้วย
ถ้ามีของแบบนั้นอยู่ในโลกจริงๆ เหล่านักรบคงทุ่มเทเสาะแสวงหากันแล้ว!
“เราจะเข้าไปจัดการเรื่องนี้ไหม?”
“ไม่ต้องหรอก ท่านเจ้าเมืองคงจัดการเอง…” เย่โชวเยี่ยนส่ายหน้าขณะเดินกลับห้องเพื่อพักผ่อน แต่หลังจากเดินไปได้เพียงสองสามก้าว ก็เปลี่ยนใจและพูดว่า “แต่ไม่เป็นไร ไปดูที่นั่นกัน!”
เมื่อพูดจบ เธอก็รีบออกจากห้อง
…..
ตลาดตะวันรอนคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตะวันรอน มีทรัพย์สมบัติทุกชนิดวางขาย ที่นี่เป็นแหล่งดึงดูดผู้คนที่ใหญ่ที่สุด ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญและมั่งคั่งของเมืองตะวันรอน
เย่โชวเยี่ยนใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า เธอไปถึงซุ้มจัดงานบริเวณที่วางขายยาเม็ดเพิ่มความงาม ด้วยเส้นสายของเธอ ไม่ช้าก็ผ่านมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้าไปได้
ซุ้มจัดงานคลาคล่ำไปด้วยผู้คน มองแวบเดียวก็ดูออกว่าน่าจะตกราวพันคนเป็นอย่างน้อย
เกือบทั้งหมดเป็นนักรบสตรี โดยแม้ผู้ที่อ่อนด้อยที่สุดก็มีวรยุทธระดับเทพเจ้าขั้นต่ำ
“ดูเหมือนฉีหลิงเอ๋อจะมีเส้นสายในเมืองตะวันรอนไม่น้อยเลย…” เย่โชวเยี่ยนพึมพำ
เพราะเป็นผู้จัดการตลาดมืดใต้ดิน เธอจึงรวบรวมผู้คนได้มากมายภายในไม่กี่ชั่วโมง แถมยังมีนักรบที่โดดเด่นบางคนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ซึ่งคงต้องใช้วิธีการพิเศษบางอย่างถึงจะทำให้พวกเขาออกมาได้
“เธอได้ยินไหม? ดูเหมือนวันนี้จะมียาเม็ดเพิ่มความงามมาวางขายนะ!”
“ในสรวงสวรรค์มียาแบบนั้นด้วยหรือ?”
“ฉันก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ดูเหมือนจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของนักปรุงยาผู้ไร้เทียมทาน…”
“ยังเร็วไปหน่อยที่จะบอกได้ว่าใช้การได้จริงหรือไม่ ฉันแค่อยากมาร่วมงานเท่านั้น…”
บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังและความสงสัยใคร่รู้ ดูเหมือนผู้คนส่วนใหญ่มาที่นี่ด้วยความอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“คุณสุภาพสตรีทั้งหลาย ขอเวลาสักครู่ได้ไหม?”
เสียงตะโกนดังมาจากด้านหน้า จากนั้น สุภาพสตรีสาวสวยร่างสูงโปร่งก็ก้าวยาวๆขึ้นไปบนเวที
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉีหลิงเอ๋อ
เธอทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมที่อยู่บนเวที จากนั้นก็ตรงเข้าประเด็น “พวกคุณคงอยากรู้ว่าทำไมฉันถึงเชิญพวกคุณมารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้”
ความมั่นอกมั่นใจของเธอดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
“ฉันมีชีวิตอยู่กับคติพจน์ที่ว่าเวลาของทุกคนมีค่า จึงไม่อยากรบกวนพวกคุณด้วยการสนทนาสัพเพเหระ อย่างที่พวกคุณคงรู้แล้ว ทีมนักปรุงยาของฉันเพิ่งหลอมยาเม็ดชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมในการเพิ่มความงาม ฉันจึงเชิญพวกคุณทุกคนมาที่นี่ในวันนี้เพื่อสาธิตประสิทธิภาพของยาเม็ดเพิ่มความงามนั้น ถ้าพวกคุณสนใจ จบงานแล้วก็เข้ามาซื้อหาจับจองได้”
เมื่อพูดจบ ฉีหลิงเอ๋อยกมือ แล้วสุภาพสตรีคนหนึ่งที่ถือกล่องหน้าตาหรูหราก็ขึ้นมาบนเวที
กล่องนั้นทำจากหยกสีหมึกล้ำค่าซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการสกัดกั้นพลังจิตวิญญาณ มันเป็นวัสดุที่เหมาะจะใช้เก็บรักษาสมุนไพรหรือยาเม็ดล้ำค่าโดยไม่ต้องกังวลว่าประสิทธิภาพของยาจะเสื่อมไป แต่ก็หายากและมีราคาแพงเกินกว่าจะหาซื้อได้ง่ายๆ
เพียงแค่กล่องใบที่เห็นอยู่นี้ก็มีราคาอย่างน้อย 10 เหรียญสวรรค์แล้ว
ฉีหลิงเอ๋อลุกขึ้นยืนและเปิดกล่อง มียาเม็ดหนึ่งวางอยู่ภายในอย่างเรียบร้อย พลังจิตวิญญาณแผ่ซ่านออกมา
“มันก็แค่ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าธรรมดาไม่ใช่หรือ?” สุภาพสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งในหมู่ฝูงชนลุกขึ้นยืนและทักท้วง “แถมยังเป็นยาเม็ดขั้นต่ำด้วย…ถ้านั่นคือยาเม็ดเพิ่มความงามที่คุณกำลังพูดถึงล่ะก็ ฉันคงต้องบอกว่าคุณเห็นพวกเราโง่เง่าเต็มทีแล้วล่ะ!”
“ใช่ มันคือยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าจริงๆ!”
“ตระกูลของเราผลิตยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้ามาหลายทศวรรษแล้ว ฉันไม่มีทางเข้าใจผิดแน่!”
“ถึงฉันจะรู้ว่ามันออกจะเป็นการโฆษณาเกินจริง แต่ก็มาด้วยความคาดหวังบางอย่าง แล้วแม่สาวคนนั้นพยายามจะปั่นหัวพวกเราด้วยยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้า? เห็นเราเป็นไอ้บ้านนอกหรือไง?”
ฝูงชนที่เหลือรู้สึกได้ถึงความไม่ถูกต้อง เสียงบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดดังไปทั่ว
เห็นภาพนั้น เย่โชวเยี่ยนขมวดคิ้ว
ในฐานะอดีตเทพเจ้าสวรรค์สร้างจากเมืองหลวง เธอมีสายตาเฉียบคม ซึ่งไม่ว่าจะมองอย่างไร สิ่งที่อยู่ในกล่องใบนั้นก็คือยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นต่ำ ไม่มีความพิเศษสักนิด
ฉีหลิงเอ๋อเป็นคนฉลาด เห็นได้จากความสำเร็จที่ผ่านมาของเธอ จึงยากจะเชื่อว่าคนอย่างเธอจะทำผิดพลาดมหันต์แบบนี้
นักรบสตรีคนหนึ่งลุกขึ้นยืนและโพล่งออกมาพร้อมกับเลิกคิ้ว “เท่าที่ฉันรู้ แม้แต่บรรดานักปรุงยาในเมืองหลวงก็ไม่อาจผลิตสิ่งที่ใกล้เคียงกับยาเม็ดเพิ่มความงามได้ คุณฉี, คุณคงไม่ได้เชิญพวกเราทุกคนมาที่นี่เพียงเพื่อให้ดูยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าเม็ดเดียวหรอกนะ ฉันหวังว่าคุณคงมีคำอธิบายที่น่าพอใจสำหรับเรื่องนี้”
นักรบสตรีคนนั้นมีวรยุทธระดับเทพเจ้าขั้นสูง ถึงจะเพิ่งสำเร็จวรยุทธได้ไม่นาน แต่การเป็นเทพเจ้าขั้นสูงก็เกินพอจะทำให้เธอได้ขยับสถานภาพขึ้นเป็นชนชั้นนำของเมืองตะวันรอน
เพราะถึงอย่างไร แม้แต่อาจารย์ใหญ่ของสถาบันตะวันรอนก็เป็นแค่นักรบระดับเทพเจ้าขั้นสูงเช่นกัน
“อย่างที่คุณพูดเมื่อครู่นี้นั่นแหละ เวลาของพวกเรามีค่า คุณควรมีเหตุผลที่ดีกว่านี้หน่อยนะ!”
ฝูงชนออกความเห็นเซ็งแซ่
“เงียบก่อนเถอะ! พวกคุณคิดว่าตัวฉัน, ฉีหลิงเอ๋อ จะเชิญพวกคุณมาที่นี่เพียงเพื่อให้ดูยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าเม็ดเดียวหรือ?” น้ำเสียงทรงอำนาจของฉีหลิงเอ๋อระงับความวุ่นวายบริเวณนั้นได้อย่างสิ้นเชิง
“วางใจน่ะ ฉันไม่คิดจะทำให้ชื่อเสียงของตัวเองด่างพร้อยหรอก พวกเรา!”
เธอยกมือขึ้นและร้องเรียกเหล่าบริวารที่อยู่ด้านล่างเวที
ฟึ่บ!
บริวารเหล่านั้นรีบนำอสูรสวรรค์ตัวหนึ่งขึ้นมา
เมื่อเห็นอสูรสวรรค์ตัวนั้น ทุกคนถึงกับตกตะลึง
“มันคืออสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าขั้นสูง งูเหลือมลาวา!”
“อสูรสวรรค์ตัวนี้อาศัยอยู่ในลาวา ร่างกายของมันจึงทนทานความร้อนได้สูงอย่างน่าทึ่ง ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือด้วยได้ยากมากเพราะความสามารถในการพ่นไฟของมัน!”
“แล้วเธอนำอสูรแบบนั้นขึ้นมาบนเวทีทำไม? เป็นเรื่องแน่หากมีใครถูกเปลวไฟของมันแผดเผา…”
“เพื่อนสนิทของฉันมีแผลไหม้ที่แขนข้างหนึ่งเพราะเจ้างูนั่น ฉันใช้ยาสมุนไพรทุกชนิดเพื่อพยายามรักษาแผลเป็นของเธอ แต่ผ่านมา 20 ปีแล้ว แผลเป็นของเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะหาย”
งูเหลือมลาวาที่ถูกนำเข้ามาเป็นอสูรที่ขึ้นชื่อลือชาในเมืองตะวันรอน เป็นหนึ่งในอสูรที่มีองค์ประกอบของไฟที่รับมือด้วยได้ยากที่สุด
“เท่าที่ดูจากท่าทีของพวกคุณ ฉันคงไม่ต้องอธิบายความสามารถของอสูรสวรรค์ตัวนี้แล้ว มีใครในหมู่พวกคุณอยากสู้กับมันไหม?” ฉีหลิงเอ๋อถามยิ้มๆ
ฝูงชนพากันขมวดคิ้ว
เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าอสูรสวรรค์จะแข็งแกร่งกว่านักรบในวรยุทธระดับเดียวกันมาก ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามคืออสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าขั้นสูง ก็ไม่น่าจะมีใครในซุ้มจัดงานแห่งนี้ที่เก่งกาจพอจะรับมือกับมันตัวต่อตัวได้
“ถ้าไม่มีใครอาสา ฉันก็จะใช้คนของฉัน พวกคุณคงไม่มองว่าเป็นการจัดฉากนะ” ฉีหลิงเอ๋อพูด
นักรบสตรีที่พูดขึ้นก่อนหน้านี้บ่นพึม “ผู้คนมากมายจับจ้องคุณอยู่ ต่อให้คุณอยากเล่นตุกติก มันก็ไม่ง่ายหรอก เร็วเข้าเถอะ จะทำอะไรก็รีบทำ อย่าให้พวกเราต้องเสียเวลา!”
“ในเมื่อคุณเฉินพูดอย่างนั้น ฉันก็จะไม่รีรอแล้วนะ!”
ฉีหลิงเอ๋อยกมือขึ้นและร้องเรียก
สาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้าหางูเหลือมลาวา ร่างของเธอสั่นสะท้าน แต่ก็สูดหายใจลึกและพยายามบังคับตัวเองให้ยืนนิ่ง
“เริ่มได้!” ฉีหลิงเอ๋อสั่งการ
“ฟ่ออออ!”
งูเหลือมลาวาส่งเสียงขู่ฟ่ออย่างดุร้ายและอ้าปากใหญ่โตของมัน เปลวเพลิงแผดเผากองใหญ่พวยพุ่งออกจากปาก เผาร่างของสาวน้อยคนนั้น
ครู่ต่อมา เมื่อเพลิงมอดดับไป ร่างของสาวน้อยก็ไหม้เกรียม เธอทรุดฮวบลงกับพื้นเพราะอาการบาดเจ็บสาหัส ผิวพรรณอ่อนนุ่มของเธอยับเยินเพราะเปลวไฟ ทำให้ดูน่าสะพรึงไม่น้อย
“ฉีหลิงเอ๋อ คุณทำบ้าอะไรอยู่นี่?” เย่โชวเยี่ยนคำรามกร้าว
ผู้หญิงคนนั้นกำลังเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา!
ไม่ว่าสาวน้อยคนนั้นจะเป็นบริวารของเธอหรือไม่ หรือทั้งคู่ทำข้อตกลงใดๆกันไว้ก็ตาม ฉีหลิงเอ๋อก็ทำเกินไปที่ใช้อสูรสวรรค์ตัวหนึ่งทำลายชีวิตคนแบบนั้น นั่นถือเป็นการฝ่าฝืนกฎของสรวงสวรรค์และเมืองตะวันรอนอย่างร้ายแรง!
ลำพังแค่พฤติกรรมนี้ก็รุนแรงพอจะทำให้ฉีหลิงเอ๋อถูกจับกุมและถูกพิพากษาให้รับการลงโทษอย่างหนักแล้ว!
เห็นสีหน้าซีดเผือดของทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น ฉีหลิงเอ๋อโบกมือและพูดต่อ “ทุกคนกรุณาสงบสติอารมณ์ก่อน ฉันไม่คิดจะทำร้ายใคร ในเมื่อฉันทำให้เธอถูกเปลวไฟของงูเหลือมลาวาแผดเผา ก็แน่นอนว่าฉันย่อมมีวิธีรักษาเธอให้หาย คุณเฉิน, คุณมาจากตระกูลนักปรุงยา และสามีของคุณ, เฉินอี้ฉง ก็เป็นนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองตะวันรอน ไม่ทราบว่าคุณรู้วิธีรักษาสาวน้อยคนนี้ไหม?”