Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - ตอนที่ 506
เรื่องในบริษัททำให้ลี่จุนซินและเจียงหยุนเอ๋อยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวได้เลย ทุกอย่างอยู่ในสายตาโม่เสี่ยวฮุ่ยตลอด เมื่อเห็นว่ายังไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับลี่จุนถิง เธอก็ร้อนใจมาก ดังนั้นจึงคอยไปตรวจดูสถานการณ์ที่บริษัทอยู่เสมอ
เมื่อเห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยมาที่ห้องทำงานของตัวเองอีกแล้ว ลี่จุนซินก็เอ่ยทักทายด้วยความเหนื่อยใจแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน
เห็นท่าทางของลี่จุนซิน โม่เสี่ยวฮุ่ยก็เดินเข้าไปลูบแขนเธอด้วยความเอ็นดู เอ่ยถามอย่างเป็นกังวลว่า “จุนซิน เห็นแกเหนื่อยขนาดนี้ บริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้วงั้นเหรอ?”
ลี่จุนซินถอนหายใจเล็กน้อย แล้วเอ่ยพูดอย่างเรียบ ๆ “สถานการณ์ในปัจจุบันของบริษัทไม่ค่อยสู้ดีนัก พนักงานพวกนั้นไม่ค่อยฟังคำสั่งของหนูกับหยุนเอ๋อ อาจเป็นเพราะพวกเราไม่มีกำลังเหมือนอย่างจุนถิง แต่แม่วางใจเถอะค่ะ สถานการณ์ตอนนี้ยังถือว่าคงที่อยู่”
ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ขรึมขึ้น
“จากที่แม่ดู เห็นได้ชัดว่าไอลี่หุยนั่นแอบทำเรื่องชั่ว ๆ พวกนั้นอยู่ลับหลัง! มันกับยัยจ้าวเฟยเฟยนั่นเหมือนกันไม่มีผิด คิดไม่ซื่อ พวกแกต้องคอยระมัดระวังไว้หน่อยนะ! แม่ว่าพวกมันต้องคิดจะทำอะไรสักอย่างแน่!”
“หนูรู้ค่ะว่าลี่หุยต้องทำอะไรสักอย่างแน่ แต่ตอนนี้พวกเรายังไม่มีหลักฐาน คอยดูไปก่อนแล้วกัน ใครจะไปรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ก็แค่พยายามช่วยจุนถิงรักษาบริษัทนี้เอาไว้”
ลี่จุนซินนวดขมับ แล้วค่อย ๆ ปิดตาลง
ได้ยินเธอเอ่ยถึงลี่จุนถิง โม่เสี่ยวฮุ่ยก็รู้สึกปวดใจ “จริงด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้จุนถิงอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่เขาถึงจะกลับมา ตอนนี้เห็นหน้าพวกคางคกขึ้นวออย่างไอลี่หุยกับยัยจ้าวเฟยเฟยนั่น แม่ก็รู้สึกขยะแขยง จุนถิงเอ้ย แกรีบกลับมาเถอะนะ!”
ทั้งสองคนมองออกไปไกล ๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล ต่างก็มีเรื่องในใจให้คิด
ขณะที่โม่เสี่ยวฮุ่ยไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางได้เดินผ่านห้องประชุมพอดี เธอชำเลืองมองผ่าน ๆ ก็เห็นเจียงหยุนเอ๋ออุ้มท้องโตกำลังเปิดอ่านเอกสารที่อยู่ในมืออย่างตั้งใจ หยาดเหงื่อค่อย ๆ ไหลลงมาจากบนหัวของเธอ
ทำให้โม่เสี่ยวฮุ่ยชะงัก อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหา
“ในเมื่อเธอท้องอยู่ ก็ไม่ควรจะทำงานหนักขนาดนี้ ฉันรู้ว่าเธอทำเพื่อช่วยปกป้องบริษัทแทนจุนถิง แต่ปกติเธอก็ต้องพักผ่อนให้มาก ๆ สิ ไม่อย่างนั้นหลานชายของฉันจะทนไม่ไหวนะ”
น้ำเสียงที่เรียบง่ายดังขึ้นมาจากด้านหลังเจียงหยุนเอ๋อ เธอหันไปมองด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ก็เห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยมองตัวเองด้วยสีหน้ากังวลใจ เจียงหยุนเอ๋อที่ไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างนี้จากโม่เสี่ยวฮุ่ยมาก่อนก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
เธอนั่งเหม่ออยู่ตรงนั้นสักพักถึงเพิ่งรู้สึกตัว
“แม่คะ ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้หนูชินกับงานพวกนี้แล้ว อีกอย่างเอกสารพวกนี้ก็ล่าช้ามานานแล้ว หนูต้องรีบจัดการค่ะ ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะยิ่งทำให้คนอื่นไม่เชื่อถือ แม่วางใจเถอะค่ะ หนูจะดูแลลูกเป็นอย่างดี ไม่มีทางให้เขามีปัญหาอะไรแน่นอน”
นี่เป็นครั้งแรกที่โม่เสี่ยวฮุ่ยห่วงใยเจียงหยุนเอ๋อ ทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกปลื้มใจอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ถึงขนาดคิดว่าตัวเองหูแว่วไป ดังนั้นจึงรีบอธิบายอยู่นาน
โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นสีหน้าท่าทางของเจียงหยุนเอ๋อดูเกร็ง ๆ เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันรู้เรื่องในบริษัทที่เกิดขึ้นช่วงนี้แล้ว เรื่องที่คนพวกนั้นหน้าไหว้หลังหลอกกับพวกเธอฉันก็รู้ ทำให้เธอลำบากใจจริง ๆ ฉันก็คิดไม่ถึงว่าจุนถิงจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หลายวันมานี้ลำบากเธอแย่เลยนะ”
จู่ ๆ ก็ถูกโม่เสี่ยวฮุ่ยเอ่ยชมอย่างนี้ เจียงหยุนเอ๋อยิ่งทำหน้าเหลือเชื่อ จากนั้นเธอรีบวางเอกสารที่อยู่ในมือลง แล้วลุกขึ้นยืนเอ่ยพูดอย่างเรียบ ๆ พลางยิ้ม “แม่พูดอย่างนี้ หนูรู้สึกอายจังเลยค่ะ เมื่อก่อนหนูใช้ชีวิตโดยมีจุนถิงคอยดูแลปกป้องมาตลอด ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับเขา หนูต้องช่วยเขาจัดการทุกอย่างให้ดี เพื่อไม่ให้เขาต้องเป็นห่วงเป็นกังวล!”
ได้ยินที่เจียงหยุนเอ๋อพูด โม่เสี่ยวฮุ่ยก็พยักหน้าอย่างพอใจ “เธอคิดได้อย่างนี้ฉันก็เป็นปลื้ม ดูท่าฉันจะมองเธอผิดไปแล้ว เมื่อก่อนคิดว่าเธอไม่มีความสามารถอะไรเอาแต่คอยหาเรื่องให้จุนถิง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น เธอพยายามต่อไปเถอะ ลำบากตรงไหนก็พูดออกมาได้เลย ฉันจะพยายามช่วยเธอเอง”
“คุณแม่วางใจเถอะค่ะ ถึงแม้ตอนนี้ทุกคนไม่ได้เชื่อใจหนูเท่าไหร่ แต่หนูจะพยายาม และหนูจะคอยรักษาเอาไว้ จนกว่าจุนถิงจะกลับมา!” ได้รับการสนับสนุนจากโม่เสี่ยวฮุ่ย เจียงหยุนเอ๋อจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ถ้าหากเธอรู้ว่าลี่หุยแอบเรื่องไม่ดีลับหลัง ไม่ต้องลังเลนะ รีบมาบอกฉันได้เลย ฉันไม่มีทางให้มันรังแกพวกเธอแน่นอน เข้าใจไหม?”
อาจเป็นเพราะไม่วางใจ โม่เสี่ยวฮุ่ยจึงขมวดคิ้ว เอ่ยพูดอย่างเรียบ ๆ
“หนูทราบแล้วค่ะ จะคอยระวังลี่หุยเอาไว้ ไม่มีทางให้แผนชั่วของเขาสำเร็จได้แน่นอน!”
……
ในห้องทำงานที่กว้างขวางและสว่างไสว เคธี่มองหลี่เคที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าอ้อนวอน เอ่ยพูดอย่างรีบร้อน “พ่อคะ จุนถิงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวอะไรเลย จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ! เขา เขาคงไม่ได้เกิดอุบัติเหตุหรอกนะ!”
เมื่อถึงเรื่องอุบัติเหตุ เคธี่ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว ใบหน้าดูหวาดกลัวขึ้นมา เธอดึงชายเสื้อของหลี่เคอย่างตื่นตระหนก แววตาเต็มไปด้วยความกลัวและไม่สบายใจ
“พ่อก็ไม่รู้ว่าลี่จุนถิงนั่นไปอยู่ที่ไหน ตระกูลลี่ส่งคนมากมายไปตามหาเขา แต่ก็ยังหาไม่พบ จากที่พ่อดู เกรงว่าจะเกิดเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดีนะ! แก แกทำใจไว้หน่อยเถอะ ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปพัวพัน ก็รีบถอยห่างออกมาเถอะ!”
หลี่เคขมวดคิ้ว ตบหลังมือเคธี่เบา ๆ เอ่ยพูดอย่างเรียบ ๆ ก่อนหน้านี้เขาไม่ขัดขวางเรื่องที่เคธี่ชอบลี่จุนถิง เพราะเขาก็พึงพอใจในตัวลี่จุนถิง จึงหลับหูหลับตาเรื่องพฤติกรรมของเคธี่ไปบ้าง แต่ตอนนี้ สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ได้ฟังที่หลี่เคพูด เคธี่ก็หน้าซีด เมื่อตั้งสติได้ก็รีบปฏิเสธ “พ่อคะ กำลังพูดอะไรน่ะ! พ่อก็รู้เรื่องที่หนูชอบลี่จุนถิง ถึงแม้ตอนนี้เขาจะเกิดเรื่อง แต่หนูก็ยังรักเขา ทำไมพ่อถึงได้ให้หนูเปลี่ยนใจ ทิ้งคนที่หนูรักมาตั้งนานอย่างนี้ล่ะ!”
เห็นสีหน้าเด็ดเดี่ยวของเคธี่ หลี่เคก็ไม่พอใจขึ้นมา เขาขมวดคิ้ว “พ่อก็หวังดีกับแกไง! ตอนนี้ลี่จุนถิงจะเป็นตายยังไงก็ไม่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่ ยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว ทำไมแกต้องเอาช่วงวัยสาวของตัวเองไปเสียเวลาอยู่กับคนที่ไม่มีหวังคนหนึ่งล่ะ!”
“หนูไม่สน! เอาเป็นว่านอกจากจุนถิง หนูไม่มีทางรักคนอื่นอีก! หนูหลงเสน่ห์ลี่จุนถิงที่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเขาแล้ว หลังจากนั้นก็ยากที่จะถอนตัว ในฐานะที่พ่อเป็นพ่อของหนู ควรสนับสนุนหนูให้ไล่ตามความรักของตัวเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้ให้หนูไปรักคนอื่นล่ะ!”
เคธี่ตะโกนออกมาอย่างลืมตัว สีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก