Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 727 ขี้โกงได้ยังไง
แถวบริษัทหลี่ซื่อกรุ๊ปมีร้านอาหารถานจี้ที่มีชื่อเสียง โด่งดังด้านอาหารอร่อยราคาถูก สิ่งแวดล้อมหรูหรา
ลี่จุนถิง “ฟืดฟืดฟืด” ใช้เวลาเขียนเมนูไม่นาน จบการสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นพูดขึ้น “รบกวนทำอาหารเร็วๆหน่อยนะครับ” แล้วยื่นเมนูอาหารให้กับพนักงาน
เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้ามองนาฬิกา ใกล้จะเจ็ดโมงแล้ว ถึงว่ากระเพาะเริ่มร้องแล้ว
เม้มปาก เจียงหยุนเอ๋อดื่มน้ำชาข้าวบาร์เลย์ติดต่อกันหลายแก้ว ดื่มน้ำรองเท้าก่อนอาหารจะมา!
“คุณหิวน้ำมากเหรอครับ?” ลี่จุนถิงเอามือประสานวางไว้บนโต๊ะ จับจ้องไปที่เธอ
“ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ ฉันหิวน้ำมาก คุณไม่ปล่อยให้ฉันมีโอกาสดื่มน้ำเลย”
“ได้! ผมจำเอาไว้แล้ว คราวหน้า……จะให้คุณดื่มน้ำจนอิ่มก่อน” พูดจบ คุณชายลี่พยักหน้าด้วยความจริงจัง เพื่อแสดงว่าเขาจดจำใส่ใจแล้ว
คราวหน้า? คราวหน้าอะไรกัน?
เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย หนึ่งวินาทีหลังจากนั้น เธอหวนคิดถึงภาพตอนที่ตนมักจะถูกใครบางคนกดไว้กับผนัง สิ่งที่เขาพูดคงไม่ใช่เรื่องนี้รึเปล่า?
หลังจากนั้น เธอดื่มน้ำจนสำลัก
ตอนที่พนักงานเสิร์ฟอาหารจานที่สาม เจียงหยุนเอ๋อวางตะเกียบ รู้สึกสงสัย “ทำไมถึงเป็นเต้าหู้หมดเลย?”
อาหารบนโต๊ะได้แก่เต้าหูสี่มงคล ไข่กุ้งผัดฟองเต้าหู้ เต้าหู้กุ้ง ซุปปลาดุกเต้าหู้……ทำไมอาหารทุกอย่างถึงเกี่ยวกับเต้าหู้?
“คุณบอกว่าอยากจะกินเต้าหู้ไม่ใช่เหรอครับ?” ลี่จุนถิงตักปลาเต้าหู้แล้ววางลงในถ้วยของเจียงหยุนเอ๋อ “ว่ากันว่าบำรุงผิวพรรณ คุณกินเยอะๆนะ”
ชะงักไปพักหนึ่ง เจียงหยุนเอ๋อเริ่มหวนคิด……
วันนี้เธอพูดถึงเต้าหู้แค่ครั้งเดียวก็คือตอนที่เขาลงไปเอารถที่ลงจอดรถชั้นใต้ดิน อีกทั้งตอนที่ตนพูดนั้น……
ไม่ต้องคิดต่อ เจียงหยุนเอ๋อก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว ที่แท้เขาได้ยินสิ่งที่เธอพูด!
ใช้ตะเกียบแทงปลาเต้าหู้ เจียงหยุนเอ๋อบี้เต้าหู้จนเละ แก้แค้น เขาใช้งานเลี้ยงเต้าหู้มาแก้แค้นเธอ!
หลังจากบี้ไปนานพักใหญ่ เจียงหยุนเอ๋อกินจนหมดภายใต้การจับจ้องของลี่จุนถิง หลังจากนั้น ใบหน้าและหูของเธอแดงระเรื่อร่างกายของเธอหมดเรี่ยวแรงอีกครั้ง
เจียงหยุนเอ๋อด่าตนเองในใจว่าไม่เอาไหน ก็แค่กินเต้าหู้ไม่ใช่เหรอ ใช่ว่าเมื่อก่อนไม่เคยกินสักหน่อย ถึงขั้นต้องหน้าแดงด้วยเหรอ? ด้วยเหตุนี้ เธอยื่นมือออกไป ตักเองหนึ่งก้อน ทว่าใครจะไปคิดตะเกียบของเธอชนกับตะเกียบของลี่จุนถิง
ตอนเงยหน้าขึ้น ลี่จุนถิงส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ “หยุนเอ๋อ คุณกำลังเขินเหรอครับ?”
“……”
คุณจงใจทำให้ฉันอาหารไม่ย่อยใช่ไหม! เจียงหยุนเอ๋อมองค้อนกลับไป เพื่อเป็นการตักเตือน
ลี่จุนถิงเห็นว่าพอประมาณแล้วจึงหยุดแกล้ง คีบเต้าหู้สองสามก้อน จากนั้นเปลี่ยนเป็นพูดเรื่องจริงจัง “ถ้าฤดูร้อนปีนี้คุณยังไม่ได้ใบขับขี่ น่าจะหมดอายุแล้วต้องสอบใหม่แล้วมั้งครับ?”
ตอนที่ใครบางคนกำลังพูดอยู่นั้น เจียงหยุนเอ๋อกำลังเอาก้างปลาออกด้วยความตั้งใจ ตอบกลับด้วยความเบาหวิว “ไม่ได้ก็ไม่ได้สิคะ อย่างมากในอนาคตก็แค่ไม่ต้องขับรถ!”
“ดังนั้น ต่อไปนี้คุณคิดจะให้ผมคอยรับส่งคุณเหรอ?”
“ทำไมคะ? ไม่พอใจหรือไง?”
วางตะเกียบลง เจียงหยุนเอ๋อกินไม่ลงแล้ว—
เธอ อิ่มมากแล้ว
ตามที่ทั้งสองพูดคุยกันก่อนหน้านี้ เย็นวันเสาร์ ลี่จุนถิงพาเจียงหยุนเอ๋อไปขับรถรับลมแถวชานเมือง
หลังจากจอดเทียบข้างทาง ลี่จุนถิงพูดขึ้นอย่างผ่อนคลาย “ต่อไปนี้คุณเป็นคนขับ ขับกลับตามทางที่มา”
“คะ?”
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตนไม่เคยอ้าปากกว้างขนาดนี้มาก่อน เหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว พาเธอออกมาฝึกขับรถโดยไม่ให้เธอเตรียมใจเลยเนี่ยนะ? ใครบางคนยิ่งอยู่ยิ่งเอาตัวเองเป็นใหญ่แล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ตนไม่ได้แตะพวงมาลัยของรถยนต์มานานเกือบหนึ่งปีแล้ว แทบจะแยกคลัทช์และคันเร่งไม่ออกแล้ว
เขา เขากลับ ให้เธอ ขับกลับบ้าน?
ส่ายหน้าติดต่อกันเหมือนเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะพูดยังไงเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ยอมเปลี่ยนที่นั่ง
“จุนถิง วันจันทร์หน้าฉันไปฝึกที่โรงเรียนสอนขับรถแล้ว ไม่จำเป็นต้องใจร้อนแบบนี้ อีกยอ่าง ขับแบบนี้ อันตรายเกินไปแล้วอ่า……อ่า จริงด้วย การทำแบบนี้ผิดกฎจราจรร้ายแรง!ภายใต้สถานการณ์ที่นักเรียนไม่มีอาจารย์อยู่ด้วย ห้ามขับรถตามอำเภอใจ!”
ในที่สุด เจียงหยุนเอ๋อโล่งอก ถึงยังไงก็ต้องเคารพกฎจราจรรึเปล่า? ไม่มีใบขับขี่ คนที่ร่วมเดินทางถ้าขืนถูกจับได้ต้องถูกยึดใบขับขี่เชียวนะ!
“ตอนนี้ตำรวจจราจรเลิกงานแล้ว!” ลี่จุนถิงเปิดประตูข้างคนขับ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “อีกอย่าง ตำรวจเห็นผม ก็ไม่มีทางพูดอะไร”
จากนั้นเปลี่ยนน้ำเสียง ที่แทบจะกลายเป็นคำสั่ง “ขยับไปนั่งตรงโน้น เร็วเข้า”
จากนั้นก็เอาตัวเองยัดเข้ามา
ลี่จุนถิงกำลังจะทับตนเองแล้ว เจียงหยุนเอ๋อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน รีบคลานไปทันที ห้ามให้โอกาสอะไรกับเขาอีก
“รัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย จากนั้นเอาเบรกมือลง หมุนกุญแจสตาร์ทรถ เปิดไฟเลี้ยว……” ลี่จุนถิงบอกทีละอย่างด้วยความอดทน มองเจียงหยุนเอ๋อเป็นมือใหม่
ทางด้านนี้ เจียงหยุนเอ๋อแปลกใจ ทำไมคุณถึงเหมือนอาจารย์ของพวกเราเลยคะ? คิดก็ส่วนคิด หลังจากลังเลสองสามวินาที เจียงหยุนเอ๋อทำตามที่ลี่จุนถิงสั่ง ค่อยๆรู้สึกเคยชิน
ตอนเลี้ยว “อาจารย์ลี่คะ” พูดขึ้นอีกครั้ง “ลดความเร็ว เปลี่ยนเป็นเกียร์สอง เปิดไฟเลี้ยวซ้าย”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า เปลี่ยนเป็นเกียร์สองก็คือต้องลดความเร็ว
หลังจากนั้น เท้าขวาเหยียบเบรกอย่างแรง “เอี๊ยด—” รถดับทันที
แลบลิ้นด้วยความประหม่า เจียงหยุนเอ๋อกลัวเหลือเกินว่า “อาจารย์” ที่อยู่ข้างๆจะตำหนิ รีบอธิบาย “ไม่ทันระวังเหยียบแรงเกินไป คราวหน้าจะไม่ทำแล้วค่ะ รับปากว่าจะไม่ทำแล้ว!”
น่าจะเป็นเพราะรู้สึกว่าสีหน้าของลี่จุนถิงนิ่งสงบเกินไป เจียงหยุนเอ๋อยอมรับความผิดและครั้งนี้รับประกันด้วยความรวดเร็ว
“ได้ เชื่อคุณอีกครั้ง ถ้ายังทำความผิดเดิมๆอีก กลับไป—”
“อย่างมากฉันกลับไปปรนนิบัติคุณก็ได้” เจียงหยุนเอ๋อสตาร์ทรถ ตอบด้วยความมั่นใจ
“ในฐานะที่คุณเป็นภรรยาของผม ต้องปรนนิบัติผมอยู่แล้ว” มุมปากของลี่จุนถิงยกขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อได้ฟัง รีบโต้เถียงทันที “ฉันเป็นภรรยาของคุณ คุณบอกแล้วว่าจะไม่ทำให้ฉันเหนื่อย คุณสัญญาแล้ว ขี้โกงได้ยังไงคะ?”
“พูดอย่างเดียวไม่มีหลักฐาน ไม่ทราบว่าคุณเจียงมีเอกสารพิสูจน์ไหมครับ?” ดวงตาลี่จุนถิงเป็นประกาย จากนั้นหันหน้าช้าๆ ถามด้วยความมั่นใจและสุภาพ
“ไม่มีค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อจับพวงมาลัย หมดอาลัยในชีวิต
ว่ากันว่าบัณฑิตเจอทหาร มีเหตุผลก็พูดกันไม่กระจ่าง แต่คนที่เธอเจอนั้นมีความสามารถยิ่งกว่าบัณฑิต แล้วทำไมถึงยิ่งไม่มีเหตุผลให้พูดด้วยล่ะ?
ลอบฝึกเป็นการส่วนตัวติดต่อกันหลายวัน เป็นธรรมดาที่เจียงหยุนเอ๋อจะถูกดุด่าไม่น้อย
แต่ว่าด่าก็ส่วนด่า ลี่จุนถิงไม่ได้เอา “งานเลี้ยงเต้าหู้” มาแกล้งเธอ ตอนกลางวันฝึกขับรถจนเหนื่อยแล้ว เขามักจะเปลี่ยนที่แล้วพาเธอกับลูกไปกินอาหารข้างนอก ทั้งยังตั้งชื่อได้เพราะมากว่า “สงครามที่ยาวนาน”
ทุกครั้งที่ถึงเวลานี้ เจียงหยุนเอ๋ออดสงสัยไม่ได้——ฉันโง่ขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่าคุณสอนไม่เป็นกันแน่?