Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่714 แค่ดื่มเป็นเพื่อนเท่านั้น
เจียงหยุนเอ๋อนั้นนอนอยู่บนตัวของลี่จุนถิง ลี่จุนถิงเลยบีบเนื้อที่ตัวของเธอ
“ที่รักของฉันอ้วนเหมือนหมูแล้ว” ลี่จุนถิงยิ้มพลางพูด
เจียงหยุนเอ๋อรีบเบี่ยงหัวของเขาออก ก่อนจะพูดอย่างมั่นใจ: “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันคือหมีโคอาลา”
เมื่อพูดจบก็ซบอกของเขา ก่อนจะมีเสียงอู้อี้ดังขึ้น:
“เห้อ……ถ้าเกิดฉันเป็นหมีโคอาลาจริงๆ จะดีขนาดไหนนะ ฉันจะได้นอนยี่สิบชั่วโมงต่อวันเลยนะ”
“ดีเลย งั้นรีบไปไปทำสัญลักษณ์บนต้นไม้เร็ว”
ตามที่เข้าใจกัน ในโลกของหมีโคอาล่ามี “ขอบเขตของต้นไม้” อยู่ สามารถทำเป็นสัญลักษณ์ว่าต้นไหนเป็นของหมีโคอาล่าตัวไหนได้
สำหรับคนนั้น การทำสัญลักษณ์นั้น เห็นได้ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่สำหรับหมีโคอาล่า กลับสามารถมองเห็นได้ทันทีว่าต้นไม้นั้นเป็นของตัวเองหรือหมีโคอาล่า
“อ๋อ หมีโคอาล่าของฉัน อีกครั้งสี่ชั่วโมงถึงจะถึงช่วงบ่ายเลยนะ?” ลี่จุนถิงพยายามทำให้หมีโคอาล่ามีความสุขด้วยการป้อนใบไม้ด้วยความเมตตา
“กินใบไม้สองชั่วโมง แล้วก็นั่งเหม่อลอยสองชั่วโมง” จากนั้นก็ชะงักไป พลางตั้งใจตอบเขา: “ฉันไม่กินหรอก แต่เหม่อลอยแบบนั้นยังพอไหวอยู่”
ลี่จุนถิงที่เอามือจับอยู่ที่บริเวณเอวของเธอในตอนแรกนั้น ก็ค่อยๆ ขยับ พลางเลิกคิ้ว: “ดูแล้วเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องอะไรกับฉันแล้วใช่ไหม?”
จู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อก็เหมือนจะรู้ตัวขึ้น เลยลุกออกจากตัวของเขา “คุณจะทำอะไรเหรอ?พวกเรายังต้องออกไปช่วงบ่ายอีกนะ”
ลี่จุนถิงยิ้มอย่างไม่มีความเมตตา
ก่อนที่จะมาฝรั่งเศส เรื่องที่ลี่จุนถิงจัดการนั้นไม่ใช่เรื่องของการทำงานเลย แต่เป็นการให้คนของพวกเขามารายงานกับซู่จี้งยี้
“ประธานลี่ หากู้เฟยหลินเจอแล้วนะ”
ที่แท้ ในคืนนั้น คนที่ลี่หุยเห็นอย่าคุ้นตาที่แม่น้ำเซนก็คือกู้เฟยหลิน
หลังจากที่กู้เฟยหลินหนีออกจากบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป จากนั้นก็เอาเงินที่อลันเป็นคนให้มานั้นหนีไปที่เมืองเล็กๆ ใกล้ๆ กับเมืองจิ่งเฉิง เธอไม่กล้าไปไหนไกล เพราะแม่ของเธอนั้นยังอยู่ที่เมืองจิ่งเฉิง
ตอนแรกที่เธอกลับมาทำธุระให้อลันนั้น เพราะแม่ของเธอเป็นมะเร็ง และอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว เธอต้องการเงินจำนวนมากเพื่อมารักษาแม่ของเธอ
กู้เฟยหลินอยากจะเอาทุกอย่างที่มีเพื่อมาช่วยแม่ของเธอ เพราะเธออยู่กับแม่ตั้งแต่ยังเด็ก พ่อของเธอนั้นหย่ากับแม่ของเธอไป ตั้งแต่เธอยังเด็ก
หลังจากที่แม่ของเธอแต่งงานก็เป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงานอะไร หลังจากที่หย่ามาได้สักพัก กู้เฟยหลินก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมาโดยตลอด
ยังดีที่ แม่ของเธอนั้นเรียกเก่งมาก เลยหางานได้อย่างรวดเร็ว เลยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้มาตลอด
จากนั้น เมื่อเธอไปเรียนที่ต่างประเทศ ปีปีหนึ่งกลับมาเพียงไม่กี่ครั้ง จากนั้นเธอก็อยู่ที่ต่างประเทศคนเดียว เลยไม่ค่อยได้เจอกับแม่ของเธอสักเท่าไหร่
ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ว่าทั้งสองคนก็วิดีโอหากันทุกวัน ดังนั้นเลยมีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด
จากนั้นวันหนึ่ง ที่เธอโทรหาแม่ของเธอ ก็โทรไม่ติดเลย เลยร้อนใจเป็นอย่างมาก จากนั้นเลยรีบซื้อตั๋วบินกลับไป เมื่อกลับไปเห็น ก็พบว่าแม่ของเธอนั้นเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว
เพราะเป็นแบบนี้ กู้เฟยหลินเลยลาออกจากบริษัทต่างประเทศ เลยยอมรับข้อตกลงของอลัน เพื่อกลับมาช่วยเขา แล้วจะได้ดูแลแม่ของเธอไปด้วย
ตอนที่เธอหนีไปนั้น แม่ของเธอกำลังอยู่ในช่วงการฉีดคีโม เธอกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแม่อีก เลยไม่ได้หนีไปไกลมาก จึงหลบอยู่ที่เมืองเล็กๆ ใกล้ๆ นี้
เพราะลี่จุนถิงมีการลงบันทึกประจำวันกับทางสถานีตำรวจเอาไว้ ดังนั้นเธอเลยไม่กล้าไปหางานอย่างเป็นทางการ เลยต้องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล แล้วก็ไปทำงานพาร์ทไทม์ แต่ว่าเงินเหล่านี้ ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธออยู่รอดและรักษาแม่ของเธอได้
ยังดี ที่อลันให้เงินเธอในภายหลังมามากพอสมควร เลยสามารถยืดเวลาต่อไปได้อีกสักช่วงหนึ่ง
เธอถูกประกาศจับแล้ว เลยขึ้นรถไฟไม่ได้ ดังนั้นทุกครั้งที่เธอกลับมาที่เมืองจิ่งเฉิงก็ต้องนั่งรถบัส แต่ว่ารถบัสนั้นไม่ค่อยมีคนนั่งเท่าไหร่ ดังนั้นรถบัสเลยแพงกว่ารถไฟมาก
หลังจากที่ไปมาๆ หลายๆ ครั้ง กู้เฟยหลินก็พบว่าค่าเดินทางนั้นมันแพงมาก หลังจากนั้นเลยไม่ค่อยได้กลับไปเท่าไหร่ เพื่อประหยัดค่าเดินทาง
แต่จากนั้น แม่ของเธอป่วยหนักมา เธอเลยต้องกลับมาที่เมืองจิ่งเฉิง
หลังจากที่กลับมา เธอก็ยังหางานทำไม่ได้สักที เธอไปหาเพื่อนที่เคยช่วยเธอ แต่ตอนนี้เพื่อนๆ กลับไม่ช่วยเธอแล้ว หนึ่งเพราะไม่อยากมีเรื่องกับลี่จุนถิง ส่วนอีกอย่าง ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้เห็นกู้เฟยหลินเป็นเพื่อน
ตอนแรก เพราะเห็นว่าเธอสวย และเป็นคนของอลัน เลยมาเชื่อมสัมพันธ์กับเธอ พูดให้ชัดเจนก็คือคนเหล่านั้นเป็นเพียงเพื่อนกินของกู้เฟยหลิน
ตอนแรกกู้เฟยหลิน คิดว่าพวกเขาแค่กลัวในอิทธิพลของลี่จุนถิง ดังนั้นเลยไม่กล้าช่วยเธอ
จนกระทั่ง เพื่อนชายของเธอบอกว่าจะเลี้ยงเธอเอาไว้ก็ได้ เธอเลยเข้าใจจริงๆ ว่าคนเหล่านั้นไม่ได้เห็นเธอเป็นเพื่อนตั้งแต่แรก แต่เห็นเธอเป็นของเล่น กู้เฟยหลินเลยรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาในใจ
สุดท้าย ก็ถูกบังคับจนไร้หนทาง เธอทำได้เพียงใช้ตัวตนที่อยู่ในเมืองเล็กๆ นั้น ไปเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์ที่แม่น้ำเซน แต่ว่านั่งดื่มด้วยเฉยๆ ไม่ได้เป็นโสเภณี
ทุกคืนเธอนั่งดื่มอยู่ที่แม่น้ำเซน ตอนกลางวันก็มาที่โรงพยาบาลเพื่ออยู่เป็นเพื่อนแม่ของเธอ เมื่อมีเธออยู่ด้วย แม่ของเธอถึงจะอาการดีขึ้นมาก
ทุกครั้งที่อยู่ที่แม่น้ำเซน เธอจะแต่งหน้าจัดมาก เลยไม่มีใครจำเธอได้
จนเมื่อได้เจอลี่หุย ยังไม่ต้องพูดถึงว่าความสามารถของลี่หุยในแวดวงธุรกิจนั้นเป็นอย่างไร แต่ว่าในซ่องแบบนี้ ความสามารถในการจำคนได้นั้นถือว่าเก่งเป็นอย่างมาก
ในคืนนั้น ตอนที่กู้เฟยหลินเห็นลี่หุย ใจก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ว่าเธอยังคาดหวัง ว่ามีคนตั้งมากมายที่จำเธอไม่ได้ก่อนหน้านี้ ลี่หุยเองก็น่าจะจำไม่ได้เหมือนกัน
อีกอย่าง ลี่หุยยังเรียกคนมากมายไปด้วย เลยยิ่งไม่น่าจะสังเกตเห็นเธอ
แต่ว่า กู้เฟยหลินมองความสามารถของลี่หุยต่ำไป ก่อนที่จะมาร่วมงานกัน ลี่หุยนั้นจับตามองเธอเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อเธอปรากฏตัว ถึงเธอจะแต่งหน้าหนา แต่เขาก็ยังจำเธอได้
หลังจากที่ลี่หุยพบเธอ ก็ไล่คนอื่นๆ ออกไปทั้งหมด จนเหลือเธออยู่เพียงคนเดียว
“โอ๊ะ นี่ใช่กู้เฟยหลินหรือเปล่า ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ทำไมเราสองคนมีพรหมลิขิตขนาดนี้นะ ถึงมาเจอกันที่นี่ได้”
ลี่หุยมีท่าทีหรี่ตาลง เพื่อมองกู้เฟยหลินไม่หยุด
กู้เฟยหลินยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับ และก็ไม่พูดอะไร เลยเอาแต่จ้องเขา
เมื่อลี่หุยเห็นว่าเธอไม่สนใจเขา ก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไร ก่อนจะลุกขึ้นมาต่อหน้าเธอ พลางยื่นนิ้วมาเชยหน้าของกู้เฟยหลินขึ้นเบาๆ แต่ว่าเธอรีบหลบได้ทัน
เมื่อลี่หุยเห็นว่าเธอเป็นแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คุณหนูกู้ยังเอาแต่ในเหมือนเดิมเลยนะ ฉันชอบ”
“เอาอย่างนี้ วันนี้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันคืนหนึ่ง ฉันจะให้คุณแสนหนึ่ง”
“เหอะ คุณคิดเอาไว้สวยงามเหลือเกินนะ ถึงวันนี้ฉันจะถูกไล่ออกจากที่นี่ ฉันก็ไม่มีทางไปอยู่เป็นเพื่อนคุณหรอก” กู้เฟยหลินหัวเราะเสียงเย็นชา เมื่อพูดจบ ก็เดินออกไป
ลี่หุยมองเธอเดินจากไปด้วยความนึกสนุก แต่ก็ไม่ได้ไปแจ้งเรื่องกับหัวหน้าของเธอ เพียงแต่อยากจะเรียกหญิงสาวเมื่อสักครู่กลับมา
เขาคิดว่าอนาคตยังอีกยาวไกล ยังมีโอกาสในการจับเธอเอาไว้ได้อีก ดังนั้นเลยไม่ได้สนใจเธอมากเท่าไหร่
แต่ว่า ความคิดของเขานั้นคงต้องปล่อยไปแล้ว