Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - ตอนที่ 46
บทที่ 46 ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองมี
เมื่อได้ยินคำประกาศของพิธีกร ทั้งสนามต่างส่งเสียงดังเซ็งแซ่ เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคาดคิดนอกจากจูลี่แล้ว จะยังมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามอย่างนี้อีก
ยิ่งไปกว่านั้น ทีมนี้แม้ว่าจะเป็นทีมที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมา แต่เพราะมีเงินสนับสนุนจำนวนมาก การพัฒนาหลังจากนี้ต้องไม่เป็นปัญหาอะไรแน่นอน!
ผู้ชมจริงๆ แล้วต่างก็ตื่นเต้นกันอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าพิธีกรยังมีอะไรประกาศต่อไปอีก “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ทีมใหม่XY นี้ ทุกคนที่เข้าร่วมจะได้รับเงินสดสนับสนุนเลยเป็นจำนวนหนึ่งล้านบาท!”
เอพูดจบ พิธีกรหันไปมองยังหลี่อี้และซูอวี้ แล้วแย้มยิ้มเชิญพวกเขา “ผมขอเป็นตัวแทนคุณX เชิญพวกคุณเข้าร่วมทีมXY!”
แม้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนต่างเคารพจูลี่ แต่เมื่อเห็นที่เขาปฏิบัติต่อถวนจื่ออย่างไม่เป็นธรรมนั้น รวมกับเงื่อนไขต่างๆ อันคุ้มค่าที่วางอยู่ต่อหน้า พวกเขาต่างไม่ลังเลที่จะตอบตกลงเลยแม้แต่น้อย
“ผมขอเข้าร่วมกับทีมXY ครับ” หลี่อี้พูดก่อน
เมื่อเห็นดังนั้น ซูอวี้ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป พยักหน้าให้กับพิธีกร “ผมก็ยินดีเข้าร่วมทีม XY ครับ”
เมื่อได้ยินคำตอบของทั้งสองคน ผู้ชมด้านล่างเวทีต่างปรบมือโห่ร้องอย่างกึกก้อง แม้พวกเขาจะชื่นชมครูฝึกจูลี่อย่างมาก แต่การทิ้งถวนจื่ออย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุต่างทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนต่างเห็นความขยันของถวนจื่อเองกับตา ต่างยอมรับในความสามารถของถวนจื่อ
“พวกเธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ!”จูลี่กลับคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกตบหน้าอย่างนี้ ทันใดนั้นก็เริ่มโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ “พวกเธอทิ้งตำแหน่งทีมของฉันไปยังทีมขยะที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนน่ะหรือ?พวกเธอรู้รึเปล่า มีคนกี่คนที่พยายามคิดหัวแตกหาวิธีเข้าทีมAY ของพวกเรา?อย่าไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองมี!”
ที่จริงแล้วที่ผู้แข่งขันทั้งสองเลือกเข้าทีมXY ก็รู้สึกผิดกับครูฝึกจูลี่ อยู่ แต่เมื่อเห็นเขาพูดอะไรแบบนี้ออกมา ก็ยิ่งทำให้ไม่มีความรู้สึกดีอะไรอีกต่อไป หลี่อี้ใบหน้าเย็นเยียบ พลางเอ่ยกับ ครูฝึกจูลี่ “ครูฝึกจูลี่ ขอขอบพระคุณในความหวังดีของครู แต่อย่างไรผมก็ขอเลือกทีม XY”
ทันใดนั้น ครูฝึกจูลี่ก็ราวกับพูดไม่ออก ใบหน้าทั้งหน้าเริ่มเป็นสีแดงเพราะความโกรธ ชี้นิ้วไปยังผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนโพล่งคำด่าออกมา “พวกเราทีมAY ต่างมีคะแนนที่ดีอยู่แล้ว แต่ละคนที่ออกไปต่างมีชื่อเสียงทั้งนั้น!ทีมXY ที่เพิ่งออกมานี้ก็เป็นแค่คนรวยคนหนึ่งคิดอยากจะตั้งทีมก็ตั้งขึ้นมา พวกเธออย่าได้คิดว่าหลังจากนี้จะมีผลอะไรดีขึ้นมาได้!”
แม้จูลี่จะพ่นคำพูดร้ายกาจออกมายาวยืด แต่ตอนนี้ต่างไม่มีใครฟังเขาอีกต่อไป
จริงๆ ตอนนี้จูลี่รู้ดี หากยังอยู่ที่นี่ต่อไปก็เพียงแค่ยิ่งทำให้ตัวหมดเป็นที่สนใจ ท้ายสุดจึงออกไปด้วยความโกรธและไม่เต็มใจ
เมื่อได้ยินพิธีกรพูดดังนั้น สีหน้าของถวนจื่อเปลี่ยนไปชัดเจน แม้เมื่อครู่บอกเจียงหยุนเอ๋อตลอดว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แต่ในใจเขาเบื้องลึกต้องมีความรู้สึกอะไรบ้างแน่นอน
ในตอนนี้ เมื่อเห็นว่าตัวเองมีทีมใหม่ที่สามารถเข้าร่วมได้ ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนในทีมเดียวกันต่างเป็นคนที่ตัวเองนับถือความสามารถ เขาก็ยิ่งดีใจยิ่งขึ้นไปอีก
ถวนจื่อรู้ดี ทั้งหมดนี้เป็นเพราะมีลี่จุนถิงคอยช่วยเหลือตัวเองอยู่ ก็รีบหันหน้ากลับไปมองลี่จุนถิงทันที ตาทั้งสองข้างเบิกโพลงข้างนิ่ง รอยยิ้มเจิดจ้าอยู่บนใบหน้า พลางเอ่ยกับลี่จุนถิง “คุณพ่อ ขอบคุณมากครับ!”
เจียงหยุนเอ๋อคาดไม่ถึงเลยว่าลี่จุนถิงจะทำเพื่อถวนจื่อได้ถึงขนาดนี้ เมื่อได้ยินถวนจื่อเรียกลี่จุนถิงอย่างนี้แล้ว พลันเริ่มหน้าแดงใบหูแดงขึ้นมา
เมื่อเห็นถวนจื่อตะโกนเรียก “พ่อ” ต่อหน้าลี่จุนถิง ใบหน้าเจียงหยุนเอ๋อเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้น ถึงแม้จะคาดเดาได้แต่แรกที่ลี่จุนถิงเรียกซู่จี้งยี้มาเพราะต้องมีแผนการอะไรบางอย่างแน่ๆ แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องใช้เงินมากมายขนาดนี้เพื่อสร้างทีมใหม่ให้กับถวนจื่อ และยังใช้ชื่อของถวนจื่อตั้งเป็นชื่อกลุ่มอีกด้วย
เจียงหยุนเอ๋อมองดูลี่จุนถิงพลางนิ่งไปชั่วขณะ จึงเอ่ยปากถาม “ทำไมคุณถึงทำอะไรเยอะมากมาย…เพราะอะไร?”
ลี่จุนถิงยิ้มพลางมองไปยังถวนจื่อที่ยังคงตื่นเต้นยินดีอยู่ แล้วเอ่ยขึ้น “คุณค่าของถวนจื่อ ยังมากกว่าเงินปริมาณนี้ ที่สำคัญที่สุดคือ ลูกของฉัน ต้องเป็นคนเลือกคนอื่น จะให้ใครมาเลือกเขาได้อย่างไร?”
เมื่อเห็นลี่จุนถิงไม่เพียงไม่ปฏิเสธคำพูดของถวนจื่อ กลับยังให้เขาพูดต่อไป ทันใดนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มหวั่นใจขึ้นมา
เมื่อก่อนถวนจื่อเอาแต่เรียกลี่จุนถิง”คุณพ่อ” เพราะเคยทำงานร่วมกันมาก่อน ลี่จุนถิงก็เคยปลอมเป็นแฟนและสามีของตัวเอง เพราะอย่างนั้นถวนจื่อจึงมีความเคยชินแบบนี้ แม้ในตอนเริ่มแรกเจียงหยุนเอ๋อเหมือนจะเคยตำหนิมาแล้ว แต่ต่อมาก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก
แต่ว่าในตอนนี้ ลี่จุนถิงกลับพูดออกมาเองว่าถวนจื่อเป็นลูกของเขาอย่างนี้?
หรือเขาจะชอบถวนจื่อขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว?
เธอไม่ค่อยเข้าใจที่ลี่จุนถิงพูดออกมาอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ทำได้แต่เพียงมองเขาและถวนจื่อพูดคุยกันต่อไป
“คุณพ่อ พ่อจะจ่ายเงินมากมายขนาดนั้นสร้างทีมใหม่จริงๆ เหรอ?” ถวนจื่อเงยหน้ามอง ใบหน้าปรากฏร่องรอยความสงสัยและไม่แน่ใจ แม้ตัวเขาจะรู้ว่า ลี่จุนถิงร่ำรวยมาก แต่เพียงแค่ฟังดูเขาก็รู้แล้วว่าบ้านของเขาต้องรับผิดชอบไม่ไหวแม้แต่เหรียญเดียว
ลี่จุนถิงพยักหน้าอย่างสบายๆ “แน่นอน เธอคิดว่าฉันเป็นคนพูดแล้วคืนคำอย่างนั้นเหรอ?”
“แต่ว่า…” ถวนจื่อเริ่มจะสับสนขึ้น “นั่นเป็นเงินมหาศาลทีเดียว ไม่อย่างนั้น… ผมเอารางวัลที่ได้จากการแข่งครั้งนี้ให้พ่อ แม้จะเป็นจำนวนเงินแค่สองแสน แต่นั่นคือเงินจำนวนมากที่สุดที่บ้านพวกเราจะสามารถใช้ให้ได้แล้ว”
ที่ถวนจื่อพูด เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ติดปัญหาอะไร แม้ว่าบ้านพวกเขาต้องการใช้เงินจำนวนนี้มาก แต่อย่างไรลี่จุนถิงก็ช่วยพวกเขาเอาไว้มากในครั้งนี้ จะเอาเงินสองแสนนี้ให้กลับไปนับเป็นการตอบแทนไม่นับเป็นอะไร
ลี่จุนถิงยักคิ้วขึ้น ราวกับรู้สึกประหลาดที่ถวนจื่อเอ่ยคำอะไรอย่างนี้ออกมาได้ “เธอจะถามอะไรคุณแม่ของเธอหน่อยเหรอ?”
ถวนจื่อมองไปทางเจียงหยุนเอ๋อแวบหนึ่ง แล้วหันหน้ากลับมา พลางเอ่ยขึ้น “คุณพ่อ ผมรู้ว่าคุณแม่ต้องสนับสนุนให้ผมทำอย่างนี้”
ดูถวนจื่อที่มีความรับผิดชอบแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อแย้มยิ้มขึ้น รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาอย่างมาก
ลี่จุนถิงตบหัวถวนจื่อเบาๆ แล้วพูดขึ้น “ฉันพูดไปแล้วหนิ?เธอเป็นลูกของฉัน ถ้าฉันไม่คอยพยุงเธอ หรือเธอหวังจะให้ใครทำอย่างนั้น?รางวัลนี้เป็นรางวัลที่เธอใช้ความสามารถได้มา เพราะอย่างนั้นเธอต้องเก็บเอาไว้ให้ดี รู้รึเปล่า?”
เมื่อเห็นความตั้งใจมั่นของลี่จุนถิง ถวนจื่อก็ไม่ได้ยืนกรานต่อไป เพียงแต่เอ่ยขอบคุณลี่จุนถิง “ขอบคุณครับ คุณพ่อ!ผมชอบพ่อจริงๆ เลย!”
คำสารภาพของถวนจื่อมาอย่างปัจจุบันทันด่วนทำให้มุมปากของลี่จุนถิงกระตุกขึ้นเล็กน้อย แรงฝ่ามือที่ลูบบนหัวถวนจื่อกลับอ่อนโยนขึ้น