Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - ตอนที่ 708
ตอนแรกเวียร์จะพาลี่จุนซินไปพักที่อพาร์ตเมนต์ของเขา แต่พ่อกับแม่ของเขาไม่ยอม พวกเขาเอาแต่บอกว่าจะให้ลี่จุนซินกลับไปพักที่บ้านกับพวกเขา
“เวียร์ แกจะไม่กลับไปก็ได้ แค่ลี่จุนซินกลับไปพร้อมกับพวกเราก็พอแล้ว”
เมื่อเวียร์ได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูกไปใหญ่ เขารู้ว่าพ่อกับแม่ชอบลูกสาว แต่ไม่นึกว่าจะชอบถึงขั้นนี้ และเขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่คงคิดว่าถ้าให้ลี่จุนซินกลับไปพักที่บ้าน เขาก็ต้องตามไปแน่นอน
อีกอย่างลี่จุนซินก็คงไม่ปฏิเสธพวกเขา เพราะยังไงเวียร์ก็อยู่กับเธอที่ประเทศจีนมาเกือบครึ่งปีแล้ว น้อยครั้งมากที่เขาจะกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้าน ฉะนั้นเธอไม่ควรปฏิเสธ ดีซะอีกจะได้ถือโอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์อันดีกับแม่ของเขาให้สนิทสนมกันมากขึ้น
ที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่อังกฤษทั้งสามก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันอยู่แล้ว จะมีก็แค่ตอนที่พ่อกับแม่กลับมาทริปเที่ยวเท่านั้นแหละถึงจะนึกได้ว่ายังมีลูกชายคนนี้อยู่ จากนั้นก็มาเยี่ยมเขา
“ก็ได้ๆ ไปกันเถอะ ผมกลับบ้านไปกับพ่อและแม่ก็ได้แล้วนี่นา”
ลี่จุนซินกับเวียร์พักผ่อนอยู่ที่บ้านได้สองวัน แม่ของเวียร์กลัวว่าลี่จุนซินจะไม่ชอบอาหารตะวันตกก็เลยตั้งใจจะเชิญพ่อครัวที่ทำอาหารจีนได้มาทำกับข้าวให้พวกเขาทาน
ลี่จุนซินบอกซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าไม่เป็นไร แม่ของเวียร์จึงล้มเลิกความคิดนี้
“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะคุณป้า หนูค่อนข้างชินกับการทานอาหารตะวันตก ถ้าเกิดว่าคุณป้าอยากกินอาหารจีนล่ะก็ หนูลองทำให้ทานได้นะคะ ถ้าพวกท่านไม่รังเกียจ”
“หนูอุตส่าห์จะทำให้ทาน พวกเราจะรังเกียจได้ยังไง”
ลี่จุนซินเรียกเวียร์ออกไปซื้อของด้วยกัน เธอเลือกซื้อวัตถุดิบจำนวนหนึ่งเพื่อจะเอากลับไปทำอาหารจีนให้พ่อกับแม่ของเวียร์ทาน
ทั้งสองเลือกวัตถุดิบอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างพิถีพิถันอยู่นานถึงจะเลือกซื้อวัตถุดิบที่ต้องการได้ครบทั้งหมด หลังจากกลับถึงบ้านลี่จุนซินก็รีบจัดการทำกับข้าวออกมาสองสามอย่างและทำซุปไก่หนึ่งหม้อ
เธอเอาหม้อต้มซุปไก่จากจีนมาด้วย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะเอามาหรอก แต่โม่เสี่ยวฮุ่ยเป็นคนบังคับให้เธอเอามาด้วย หล่อนบอกว่าเอาไปเผื่อไว้ ถ้ามีโอกาสจะได้ทำซุปไก่ให้แม่สามีลองชิมดู เพื่อพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าอาหารจีนของเราก็อร่อยไม่แพ้อาหารตะวันตกของพวกเขา
อีกอย่างที่ให้เอามาก็เพราะหล่อนกลัวว่าเธอจะกินอะไรไม่ได้ตอนอยู่ที่นั่น
ดูสิมาถึงไม่นานก็ได้ใช้แล้ว ลี่จุนซินรู้สึกทึ่งกับการคาดการณ์ล่วงหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ยจริงๆ
ลี่จุนซินทำกับข้าวมาเต็มโต๊ะ แม่ของเวียร์รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นกับข้าวเริ่มทยอยถูกยกออกมาวางบนโต๊ะ จากนั้นก็พูดชมลี่จุนซินไม่หยุด
“โห จุนซิน หนูเก่งเกินไปแล้ว เวียร์ได้แต่งงานกับหนูคงจะมีความสุขมากแน่ๆ”
พอลี่จุนซินเห็นหล่อนพูดชมขนาดนี้ก็รู้สึกดีใจมาก“คุณป้าลองทานดูสิคะว่ารสชาติเป็นยังไง หนูไม่ได้ทำกับข้าวเองมานานมากแล้ว ตอนนี้ฝีมือคงตกไปนิดหน่อย”
แม่ของเวียร์เริ่มชิมอาหารทุกจาน ความรู้สึกดีๆที่มีต่อลี่จุนซินเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“จุนซิน อาหารที่หนูทำอร่อยมากเลย ทำไมหนูเก่งขนาดนี้เนี่ย”
ลี่จุนซินถูกหล่อนชมจนไม่รู้จะทำตัวยังไงและไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่ยิ้มออกมา
ทั้งสี่คนทานข้าวมื้อค่ำกันอย่างมีความสุข กินกันจนเกลี้ยง พอลี่จุนซินเห็นจานทุกใบหมดเกลี้ยงก็รู้สึกดีใจมากขึ้นไปอีก
ส่วนวันอื่นๆพ่อกับแม่ของเวียร์ได้พาทั้งคู่ไปเยี่ยมญาติๆและเพื่อนฝูงพร้อมกับนำข่าวการหมั้นของทั้งคู่ไปบอกทุกคนด้วย
ทั้งสองใช้เวลาอยู่ที่อังกฤษราวๆหนึ่งอาทิตย์ ก่อนที่จะเดินทางกลับแม่ของเวียร์ก็ถามขึ้นว่าเมื่อไหร่จะได้ไปเจอครอบครัวของเธอ
ลี่จุนซินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไหนๆพวกเขาก็มาถึงนี่แล้ว ถ้างั้นตอนเดินทางกลับก็พาพ่อกับแม่ของเวียร์กลับไปด้วยเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา อีกอย่างก็มีกำหนดวันหมั้นแล้วด้วย
“ถ้างั้นคุณป้ากับคุณลุงกลับไปพร้อมกับพวกเราเลยไหมคะ จะได้ถือโอกาสนี้ไปเจอกับครอบครัวของหนูด้วย จากนั้นก็พักอยู่ที่นั่นสักระยะ รอให้หนูกับเวียร์หมั้นกันเสร็จแล้วค่อยเดินทางกลับ”
“นอกจากนี้คงอีกระยะหนึ่งกว่าจะถึงวันหมั้น เพราะงั้นหนูกับเวียร์พาคุณป้ากับคุณลุงไปเที่ยวเล่นในประเทศจีนก่อนได้นะคะ”
เดิมแม่ของเวียร์ชอบวัฒนธรรมของทางตะวันออกมากอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อได้ยินว่าลี่จุนซินจะพาพวกเขาไปเที่ยวเล่นในประเทศจีนก่อนจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที หลังจากที่คุยกับพ่อของเวียร์อยู่ครู่หนึ่งทั้งสองก็ตกลงที่จะกลับประเทศจีนไปพร้อมกับพวกเขา
ลี่จุนซินเห็นพวกเขาตอบตกลงแล้วก็รีบโทรหาโม่เสี่ยวฮุ่ยเพื่อบอกพวกเขาไว้ล่วงหน้า
“แม่คะ กลับจีนครั้งนี้ ครอบครัวของเวียร์จะกลับมาพร้อมกับพวกหนูด้วย เดี๋ยวหนูส่งข้อมูลเที่ยวบินไปให้นะคะ จากนั้นแม่ก็ช่วยวางแผนล่วงหน้าไว้ให้หน่อย”
วันรุ่งขึ้นโม่เสี่ยวฮุ่ยพาทั้งครอบครัวออกไปรับพ่อกับแม่ของเวียร์ที่สนามบิน ซึ่งแม้แต่กุ่นกุ่นเจ้าน้อยและถวนจื่อที่ง่วงจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้นก็ออกไปด้วย
ทันทีที่ทุกคนเจอหน้ากัน พวกผู้ใหญ่ต่างก็ทักทายคุยกันอย่างสุภาพอยู่พักหนึ่ง พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน คุยกันอย่างออกรสออกชาติ
แต่เนื่องจากพวกเขามาถึงดึกเกินไป ลี่จุนถิงจึงทำได้แค่ส่งพวกเขาไปที่อพาร์ตเมนต์เวียร์แล้วกลับบ้านเลย
“คุณลุงคุณป้าครับ คืนนี้พักผ่อนกันให้เต็มที่ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมารับไปที่บ้านนะครับ”
“ไม่ต้องลำบากหรอก พรุ่งนี้ให้เวียร์พาพวกเราไปก็ได้แล้ว”
“ใช่ๆจุนถิง เดี๋ยวพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า นายรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันพาพวกเขาไปเอง”
เวียร์พูดสมทบ
ลี่จุนถิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเห็นด้วย“งั้นเอาแบบนี้ก็ได้ นายพักผ่อนให้เต็มที่แล้วกัน ฉันขอตัวกลับก่อน ส่วนคุณลุงกับคุณป้าก็พักผ่อนให้เต็มที่นะครับ ถ้ามีอะไรให้โทรหาผมได้เลย”
ระหว่างทางกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลี่ ลี่จุนซินก็ได้เล่าเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ที่นู่นให้โม่เสี่ยวฮุ่ยฟังทั้งหมด โม่เสี่ยวฮุ่ยรู้สึกว่าลูกสาวของตัวเองโชคดีมากๆเลยที่ไปที่ไหนก็มีแต่คนรักและเอ็นดู
และหลังจากที่ได้ยินลี่จุนซินเล่าถึงท่าทีของครอบครัวของเวียร์ที่ปฏิบัติต่อเธอ หล่อนก็รู้สึกว่าถ้าลูกสาวได้แต่งงานไปจะต้องไม่ถูกแม่ยายรังแกแน่ๆ
“ดีจังเลย ถ้าเป็นแบบนี้ลูกสาวสุดที่รักของฉันก็จะไม่มีปัญหาเรื่องแม่ยายกับลูกสะใภ้แล้วน่ะสิเยี่ยมจริงๆ”
“ที่ต่างประเทศไม่ค่อยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเหมือนประเทศจีนหรอก นี่แม่คิดว่าทุกคนจะเหมือนแม่ที่เป็นแม่ยายตัวร้ายเหรอ”
“ฉันจะเป็นแม่ยายตัวร้ายไปได้ยังไง ฉันดีต่อเจียงหยุนเอ๋อมากนะ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยเหลือบมองเจียงหยุนเอ๋อและพบว่าบนใบหน้าของเธอยังคงมีรอยยิ้มอยู่ เธอไม่แสดงท่าทีอาการโกรธแค้นอะไรออกมาเลย เพราะงั้นความรู้สึกผิดในใจของหล่อนจึงเริ่มล้นทะลักออกมาอีกครั้ง
“ถึงแม้……ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันจะทำให้หยุนเอ๋อลำบาก แต่ฉันก็กลับตัวกลับใจแล้วนี่นา”
เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้สึกน้อยใจหรือเสียใจอะไรแล้วเมื่อได้ยินทั้งสองพูดถึงเรื่องในอดีต ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว และตอนนี้เธอก็มีความสุขมากที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ซึ่งแค่นี้มันก็พอแล้วสำหรับเธอ
“ช่างมันเถอะค่ะพี่ เรื่องในอดีตมันก็คือเรื่องในอดีต ตอนนี้แม่ดีกับฉันมาก แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว”
ลี่จุนซินตีเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ“นี่ฉันอุตส่าห์พูดช่วยให้เธอได้ประโยชน์นะ ยังไม่สำนึกบุญคุณฉันอีก”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มให้ลี่จุนซินเพื่อเป็นการขอบคุณ“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันไม่ต้องการหาประโยชน์อะไรระหว่างพวกเรา ปล่อยเรื่องที่มันเกิดขึ้นในดีตผ่านไปเถอะ อย่าไปยึดติดกับมันเลย แถมคุณแม่ก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเองผิด แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างมีความสุขหรอกค่ะ”