Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 737 เพื่อลงโทษเธอ
เจียงเย่เฉิงหยุดชะงัก จากนั้นพูดต่อ
“หลังจากจดทะเบียนสมรส แม่ของลูกเพิ่งบอกกับพ่อว่าเธอตัดขาดความสัมพันธ์กับครอบครัวแล้ว ดังนั้นพ่อเองก็ไม่เคยเจอคนในครอบครัวของแม่ของลูก หลายปีที่ผ่านมานี้พวกเขาเองก็ไม่เคยมาหาแม่ของลูก หลังจากนั้นพ่อก็ค่อยๆลืมเรื่องนี้”
“หลังจากแต่งงาน พ่อเองก็ได้ถามแม่ของลูกถึงเรื่องในครอบครัวของเธอ แต่แม่ของลูกกลับไม่ยอมพูดเลยสักครั้ง ทุกครั้งจะบอกกับพ่ออย่างขอไปที ในตอนหลัง พ่อจึงไม่ได้ถามอีก”
หลังจากเจียงเย่เฉิงพูดจบ เจียงหยุนเอ๋อหัวเราะในลำคอ แววตาที่มองเจียงเย่เฉิงเปี่ยมไปด้วยการดูถูก
“หึ ตอนนั้นแม่ของหนูที่เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมารักกับคุณ สร้างครอบครัวไปพร้อมกับคุณโดยเริ่มจากศูนย์ ผ่านความยากลำบากมากมายไปพร้อมกับคุณ แต่สุดท้าย คุณทำแบบนี้กับเธอ”
“แม่ของหนูตาบอดจริงๆ การที่ได้เจอคุณคือเรื่องโชคร้ายที่สุดในชีวิตของแม่”
เจียงเย่เฉิงไม่มีคำโต้แย้ง ก้มหน้าลง ถอนหายใจ เขาทำผิดต่อซูม่านลีจริงๆ
หลังจากเจียงหยุนเอ๋อพูดจบ ไม่อยากจะเสวนาอะไรกับเขาอีก หลังจากตำหนิเขาไปหนึ่งประโยค หมุนตัวหันหลังเดินไปหาลี่จุนถิง ขึ้นรถแล้วออกไป
เจียงเย่เฉิงมองดูแผ่นหลังของเจียงหยุนเอ๋อที่ไร้ซึ่งเยื่อใย แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิด
หลังจากเจียงหยุนเอ๋อออกมา ขึ้นรถแล้วบอกกับลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงครุ่นคิด รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
“หยุนเอ๋อ ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา อีกทั้งกิริยาวาจาของคุณแม่ยายก็ไม่เหมือนคนที่มาจากครอบครัวธรรมดา ผมคิดว่าจะตามสืบตัวตนที่แท้จริงของคุณแม่ยาย”
“ค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ผมส่งคุณกลับบ้านก่อน เดี๋ยวผมไปสืบที่บริษัท คุณกลับไปพักผ่อนให้เต็มที่ วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ คุณแม่ยายต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”
ตอนนี้ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย แม้ว่าจะถูกลักพาตัวไปแล้ว จากในละคร ตอนนี้คนร้ายต้องส่งข่าวมาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่คนพวกนั้นต้องการไม่น่าจะใช่เงิน
ถ้าอย่างนั้นเพราะอะไรถึงจับตัวเธอไปกันแน่? ไม่ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะคิดยังไงก้คิดไม่ออก แต่เธอเชื่อคำพูดคำนั้นของลี่จุนถิง “ไม่มีข่าวคราวคือข่าวคราวที่ดีที่สุด”
ในสถานการณ์แบบนี้ เธอล้มลงไม่ได้เด็ดขาด อีกทั้งที่บ้านยังมีลูกอีกสองคน จะให้อารมณ์ของเธอส่งผลกระทบต่อลูกไม่ได้ โดยเฉพาะถวนจื่อ
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นถวนจื่อจึงไม่ไปโรงเรียน อีกทั้งหลังจากเจียงหยุนเอ๋อบอกกับลี่จุนถิงเมื่อคราวที่แล้ว ถวนจื่อก็ออกจากโรงเรียนที่มีการสอนระบอบทหารแล้ว ย้ายไปเรียนโรงเรียนธรรมดาทั่วไป
ถึงแม้จะบอกว่าเป็นโรงเรียนธรรมดา แต่เด็กๆที่นั่นล้วนเป็นลูกคนรวย
เจียงหยุนเอ๋อกลับถึงบ้าน เห็นถวนจื่อนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความว่านอนสอนง่าย เฝ้ากุ่นกุ่นเจ้าน้อยเอาไว้ จากนั้นก็คอยเล่นกับน้อง โม่เสี่ยวฮุ่ยนั่งอยู่ข้างๆคอยมองสองพี่น้องเล่นกัน
เธอเห็นภาพนี้ รู้สึกชื่นใจ
ได้ยินเสียงเปิดประตู โม่เสี่ยวฮุ่ยเงยหน้าขึ้น เห็นเจียงหยุนเอ๋อกลับมา ก็รีบพาเจียงหยุนเอ๋อมานั่งที่โซฟา
“หยุนเอ๋อ วันนี้รู้สึกยังไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่ไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่เวียนแล้วค่ะ แม่คะ เมื่อคืนอนหลับไปหนึ่งคืน วันนี้ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยพยักหน้า ส่งยิ้มให้เจียงหยุนเอ๋อ อ้าปาก รู้สึกมีเรื่องอยากจะพูดกับเจียงหยุนเอ๋อ แต่ก็ไม่กล้าพูด
“แม่คะ ถ้าแม่อยากจะพูดอะไรก็พูดเถอะค่ะ ระหว่างเราสองคน ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล”
เจียงหยุนเอ๋อสังเกตเห็นสีหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ย จึงพูดขึ้น
โม่เสี่ยวฮุ่ยลังเลพักหนึ่ง แต่ก็พูดออกมา “หยุนเอ๋อ เมื่อวาน……ขอโทษจริงๆนะ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่……”
“แม่คะ ไม่เป็นไรค่ะ นี่ไม่ใช่ความผิดของแม่ แม่เองก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น อีกอย่างหนูรู้ว่าแม่เองก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
โม่เสี่ยวฮุ่ยยังไม่ทันพูดจบ เจียงหยุนเอ๋อก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“แม่คะ แม่ไม่ต้องโทษตัวเองจริงๆนะคะ” เจียงหยุนเอ๋อยิ้มแล้วบอกกับโม่เสี่ยวฮุ่ย เธอพยายามปลอบโยนโม่เสี่ยวฮุ่ย ไม่อยากให้เธอโทษตัวเองเพราะเรื่องนี้
โม่เสี่ยวฮุ่ยรู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้โทษเธอจริงๆ แต่ภายในใจของเธอไม่สามารถผ่านเรื่องนี้ไปได้
หลังจากลี่จุนถิงไปถึงบริษัท ก็สั่งให้ซู่จี้งยี้สืบเรื่องตัวตนที่แท้จริงของซูม่านลีทันที
ผลสุดท้ายเมื่อตรวจสอบจึงพบว่า ความเป็นจริงแล้วตัวตนที่แท้จริงของซูม่านลีไม่ได้เป็นอย่างที่เจียงเย่เฉิงพูด อธิบายได้ว่าตอนที่ซูม่านลีคบกับเจียงเย่เฉิง ก็ปกปิดสถานะที่แท้จริงของครอบครัวตนเอาไว้แล้ว
ถึงแม้สิ่งที่สืบทราบจะไม่มาก แต่ลี่จุนถิงมั่นใจได้ว่าซูม่านลีไม่ใช่ลูกของครอบครัวธรรมดาทั่วไปแน่นอน ถ้าไม่ใช่ครอบครัวที่มีชื่อเสียง ก็ต้องเป็นครอบครัวที่มีฐานะอย่างมาก
หลังจากลี่จุนถิงสืบรู้ ภายในใจของเขาก็รู้สึกเป็นห่วงเจียงหยุนเอ๋อ จึงกลับไปที่บ้าน
โม่เสี่ยวฮุ่ยและเจียงหยุนเอ๋อกำลังกินมื้อเที่ยง ลี่จุนถิงก็กลับมาแล้ว เจียงหยุนเอ๋อแปลกใจอย่างมาก แต่โม่เสี่ยวฮุ่ยและถวนจื่อกลับไม่รู้สึกแปลกใจ
เพราะทั้งสองรู้ว่าลี่จุนถิงรักเจียงหยุนเอ๋อมากแค่ไหน ถึงแม้เจียงหยุนเอ๋อจะรู้ว่าลี่จุนถิงรักตนมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะรักมากขนาดนั้น
หลังจาสกกินมื้อเที่ยงเสร็จ โม่เสี่ยวฮุ่ยพาถวนจื่อไปนอนกลางวัน เจียงหยุนเอ๋ออุ้มกุ่นกุ่นเจ้าน้อยไปที่ห้องของตน
หลังจากลี่จุนถิงเคลียร์งานที่ห้องหนังสือเสร็จ เจียงหยุนเอ๋อป้อนนมให้กุ่นกุ่นเจ้าน้อยเสร็จแล้ว กำลังกล่อมเธอนอน
ทันทีที่ลี่จุนถิงเข้ามา เจียงหยุนเอ๋อรุ้ว่าเขามีเรื่องจะพูดกับตน หลังจากเธอดุแลกุ่นกุ่นเจ้าน้อยเสร็จ ก็ตามลี่จุนถิงไปนั่งที่โซฟา
เจียงหยุนเอ๋อนั่งลง ลี่จุนถิงดึงมือเธอไป จับเล่น
“วันนี้ผมได้ข้อมูลมานิดหน่อย แต่ไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ว่าสามารถมั่นใจได้ว่าคุณแม่ยายไม่ใช่เด็กที่เกิดในครอบครัวธรรมดา”
“ความเป็นจริงฉันเองก็รู้สึกว่าไม่ใช่เหมือนกันค่ะ ในความทรงจำของฉัน แม่เป็นคนที่มีสง่าและมีการศึกษา อีกทั้งตอนเด็กๆท่านยังเคยสอนฉันเล่นเปียโน อีกทั้งท่านยังเล่นได้เก่งมาก”
“จากการเล่นเปียโนเป็น แม่ของฉันก็ไม่เหมือนเด็กที่มาจากครอบครัวธรรมดา”
เจียงหยุนเอ๋อเอียงคอ นึกถึงภาพตอนเด็กๆที่แม่สอนตนเล่นเปียโน ตอนนั้นมีความสุขมากจริงๆ
“ผมเดาด้วยความใจกล้า ในเมื่อตอนนี้คนที่จับตัวไปไม่ส่งข่าวมาให้เรา ถ้าอย่างนั้นมีความเป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาก็คือคนในครอบครัวของคุณแม่ยาย?”
“คนในครอบครัว?” เจียงหยุนเอ๋อไม่เข้าใจอย่างมาก “ในเมื่อเป็นคนในครอบครัว ทำไมถึงไม่นัดแม่ออกไปเจอกันดีๆหรือไม่ก็มาหาแม่ ทำไมต้องลักพาตัวด้วยคะ?”
“แต่ว่าตอนนั้นคุณแม่ยายทำลับหลังคนในครอบครัว ท่านขโมยทะเบียนบ้านแล้วหนีออกมาไม่ใช่เหรอครับ?”
“แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นลักพาตัวรึเปล่าคะ?” เจียงหยุนเอ๋อยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย “จุนถิง คุณว่าพวกเขาจะทำอะไรแม่ฉันไหมคะ”
เจียงหยุนเอ๋อเป็นห่วงซูม่านลีอย่างมาก ถ้าหากพวกเขาลงโทษซูม่านลีเพราะตอนนั้นแอบหนีออกมาล่ะ? แต่เรื่องก็ผ่านไปหลายปีแล้ว ทำไมเพิ่งมาหาตอนนี้
“วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ผมจะคิดหาวิธี”