Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 754 แตกตื่นมากเกินไปแล้ว
เช้าตรู่วันที่สอง หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อตื่น ก็พบว่าลี่จุนถิงนั้นไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ แล้ว เลยลงไปถาม ว่าฟ้ายังไม่สว่างเลย ลี่จุนถิงกับชิงโม่ก็ออกไปแล้ว
เมื่อคืน อันที่จริงทั้งสองคนไม่ได้ปรึกษาหารืออะไรกัน เพียงแค่วิเคราะห์สถานการณ์ในตอนนี้นิดหน่อย แล้วก็คาดเดาว่าอาเธอร์จะไปซ่อนอยู่ที่ไหน
แต่ว่าเมื่อผ่านการโดนล้อมมาครั้งหนึ่ง ความระแวงของอาเธอร์ก็ต้องมากขึ้นแน่นอน อยากจะจับเขาอีกครั้งมันน่าจะยากมากขึ้น แต่ว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะลี่เจี้ยนหวากับลี่หุยยังอยู่ในมือของพวกเขา
ถึงแม้ลี่จุนถิงจะไม่ได้สนใจพวกเขาแล้ว แต่อาเธอร์จะต้องกลับมาหาพวกเขาแน่นอน จะให้อาเธอร์กลับมาหาพวกเขานั้น พวกเขาโจมตีด้วยตัวเองยังจะดีเสียกว่า
ตอนนี้ที่มาในการหลอกถามพวกอาเธอร์ได้ มีเพียงคนที่พวกเขาจับมาไม่กี่คนเท่านั้น
ตอนที่ฟ้ายังไม่สาง ซู่จี้งยี้ก็ส่งข้อความให้พวกเขา บอกว่าคนที่จับมานั้นฟื้นแล้ว ดังนั้นลี่จุนถิงกับชิงโม่เลยรีบไปที่ฐานทัพอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ลี่จุนถิงกับชิงโม่ไป ยังเอาข้าวเช้าไปให้พวกซู่จี้งยี้ด้วย ลี่จุนถิงไม่ได้รีบไปหาคนเหล่านั้นเท่าไหร่ แต่ถามสถานการณ์ของพวกซู่จี้งยี้ก่อน
“ซู่จี้งยี้ เมื่อคืนพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง?”
“ตอนแรก ตอนที่พากลับมา คนเหล่านั้นยังสลบอยู่ พวกคุณส่งข่าวมาบอกให้เราจับตามองพวกเขาเอาไว้ ตอนนั้นพวกเขาถึงจะฟื้นขึ้นมา”
“เหมือนกับที่พวกคุณพูดจริงๆ ด้วย หลังจากที่พวกเขามีสติกลับมาแล้ว ก็จะกัดถุงยาพิษเพื่อฆ่าตัวตายจริงๆ ดีที่พวกคุณบอกทัน เราเลยเตรียมของที่ป้องกันการกัดเอาไว้ ก่อนจะยัดปากพวกเขา”
“จากนั้นเราก็อ้าปากของพวกเขาค้างเอาไว้ได้ แล้วก็เอาห่อยาพิษในปากของพวกเขาออกมา แต่ว่าเกรงว่าพวกเขาจะกัดลิ้นตายอีก เลยปิดปากของพวกเขาเอาไว้”
“เราทำแผลภายนอกให้พวกเขาแล้ว หลังจากที่ปิดปากพวกเขาแล้ว พวกเขาก็ตื่นตระหนกกันมาก เราเลยฉีดยาเพื่อระงับความรู้สึกกับยานอนหลับให้พวกเขา จนเมื่อตอนที่พวกเขาเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา เราก็รีบบอกพวกคุณเลย”
ลี่จุนถิงพยักหน้า เพื่อบอกให้เขารีบกินข้าวเช้า
“รีบกินเถอะ กินเสร็จแล้วพาพวกเราไป คุณไปถามก่อน ถ้าเกิดไม่ยอมพูดอะไรค่อยให้ฉันออกไป”
ซู่จี้งยี้รับคำสั่ง ก่อนจะก้มหัวลงแล้วเริ่มกินข้าวของตัวเอง
หลังจากที่กินเสร็จ ซู่จี้งยี้ก็ไปถามคนเหล่านั้น แต่ว่าคนเหล่านั้นเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมตอบอะไร ไม่ว่าซู่จี้งยี้จะพูดอย่างไร พวกเขาก็ไม่สนใจเขาเลย
ซู่จี้งยี้ยังไหล่ใส่เลนส์กล้องอย่างจนปัญญา ตอนนี้ลี่จุนถิงเข้าใจดีแล้ว เลยให้ซู่จี้งยี้ออกมา
“ซู่จี้งยี้ คุณเอาชายที่อยู่ตรงกลางนั้นออกมา แล้วปิดตาของเขา ก่อนจะพามาที่ห้องของเรา”
ซู่จี้งยี้รับคำสั่ง จากนั้นก็ออกไปกำชับให้คนพาคนคนนั้นออกมา
ซู่จี้งยี้พากลับมาทั้งหมดสามคน มีเพียงคนตรงกลางเท่านั้นที่เงยหน้าขึ้นมามองตอนที่ซู่จี้งยี้พูด พลางปรายตามองทีมของตัวเองที่อยู่ข้างๆ ทั้งสอง ดังนั้นลี่จุนถิงเลยคิดว่าคนคนนี้ใจไม่นิ่ง เขาอาจจะเปิดเผยอะไรออกมาก็ได้
อันที่จริงคนที่ถูกพาตัวไปนั้นรู้สึกประหลาดใจมาตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้อาเธอร์ออกจะเป็นคนที่สงบ ดีกับพวกเขามาก แต่หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับคุณนายเบ็ตตี้ อาเธอร์ก็อารมณ์รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แถมบางทียังระบายอารมณ์กับคนของตัวเองด้วย
ตอนแรกพวกพ้องที่เข้ามาอยู่ในองค์กรของเขา ก็ถูกอาเธอร์ทรมานจนตายไปหมดแล้ว พวกพ้องเหล่านี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมากับเขาทั้งนั้น ดังนั้นเขาเลยไม่พอใจอาเธอร์มาก เขาอยากจะแก้แค้นให้พวกพ้องมาตลอด เพียงแต่หาทางเข้าหาอาเธอร์ไม่ได้เลย
เมื่อเขาถูกพาออกมาคนเดียว ในใจของเขาก็ตื่นกลัว เขาหวังว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาส ที่ได้ล้มอาเธอร์ลง
เมื่อเขาถูกปิดตา ทีมข้างๆ เขาก็เพิ่งจะมีสติ และใช้สายตาเตือนเขา แต่ว่าเขากลับไม่ได้รับ เลยทำได้เพียงเตือนเขาเสียงเบา
ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องนั้น ลี่จุนถิงก็รอเขาอยู่ข้างในตั้งนานแล้ว
หลังจากที่ที่ปิดตาของเขาถูกดึงออกแล้ว ยังไม่ทันมองเห็นคนที่อยู่ข้างหน้าได้ชัด ก็ได้ยินเสียงขึ้นมาก่อน
“คุณชื่ออะไร?”
เขาลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “บลัคก์” เพราะนี่เป็นความหวังเดียวของเขาแล้ว
เมื่อบลัคก์ชินกับแสงในห้องนี้แล้ว ก็พบว่าคนข้างหน้านั้นคือลี่จุนถิง ก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก
หลังจากที่ลี่จุนถิงได้ยินเขาตอบคำถามของตัวเองแล้ว ก็รู้ทันทีว่าครั้งนี้น่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าเพื่อให้มั่นใจว่าบลัคก์จะช่วยเขา ลี่จุนถิงเลยตัดสินใจขู่เขาสักหน่อย
“บลัคก์ ฉันหวังว่าคุณจะร่วมมือกับฉัน ถ้าเกิดคุณไม่ร่วมมือด้วย สิ่งที่รอคุณอยู่ก็คือตรงนี้”
ลี่จุนถิงพูดไปพลางเอามือกดปุ่มในมือ จากนั้นกำแพงด้านหลังของเขาก็เปิดออก ข้างในนั้นมีอุปกรณ์ลงโทษแขวนอยู่มากมาย ทั้งแบบโบราณจนถึงปัจจุบัน
ลี่จุนถิงหยิบสิ่งที่คล้ายกับสว่านออกมา ก่อนจะแกว่งไปมาด้านหน้าบลัคก์ เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองเขา บลัคก์ก็คิดว่าของของเขามันน่ากลัวมาก ไม่น้อยไปกว่าอาเธอร์เลยแม้แต่น้อย
เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าเรื่องมันมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็ถอยไม่ได้แล้ว
“ของเหล่านี้ของฉัน ไม่มีทางถึงตายหรอกนะ แต่ว่ามันจะทำให้คุณเหมือนตายทั้งเป็น ดังนั้น……”
ยังไม่ทันรอให้ลี่จุนถิงพูดจบ บลัคก์ก็รีบพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง “ร่วมมือด้วย ฉันยินดีจะให้ความร่วมมือ”
หลังจากที่ได้ฟังบลัคก์ตอบ ลี่จุนถิงก็ยิ้มขึ้น “ไม่เลวเลย ชิงโม่คุณมาถามเถอะ”
เมื่อพูดจบ ลี่จุนถิงก็ไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆ ให้ชิงโม่มาถามเขา ตอนที่ชิงโม่ยืนอยู่ตรงหน้าบลัคก์ ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันเปลี่ยนไปเร็วเสียเหลือเกิน
ชิงโม่นั่งลงบนเก้าอี้ด้านหน้าบลัคก์ ก่อนจะหยิบกระดาษและปากกาออกมา กระแอมให้โล่งคอ แล้วจึงเริ่มถาม
“บลัคก์ ขอแค่คุณตอบตามความจริง เราจะไม่ทำร้ายคุณแน่นอน คำถามแรก บอกฐานที่อยู่ของอาเธอร์ที่คุณรู้มาให้หมด”
ถึงบลัคก์จะอยากบอกเขา แต่ว่าเขารู้เพียงแค่ไม่กี่ที่เท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นทีมที่คอยปกป้องอาเธอร์ แต่ว่าเขาไม่ได้ถูกจัดให้ไปอยู่ข้างกายอาเธอร์เลย ดังนั้นเขาเลยรู้เพียงไม่กี่ที่ในเมืองนี้ แต่รอบๆ เมืองนั้นเขาก็ไม่รู้แล้ว
“ขอโทษด้วย คุณผู้ชาย ฉันรู้เพียงในเมืองนี้เท่านั้น รอบๆ เมืองฉันไม่รู้จริงๆ”
“ไม่เป็นไร คุณบอกที่ที่คุณรู้มาก็พอแล้ว”
ชิงโม่เองก็คิดถึงปัญหานี้ แต่ว่าตอนนี้รู้เพียงในเมืองนี้ก็พอแล้ว
บลัคก์บอกที่ที่ตัวเองรู้ให้ชิงโม่ฟัง “ฉันบอกสถานที่ที่รู้ให้พวกคุณหมดแล้ว แต่ว่าในเมืองนี้ยังมีที่อื่นๆ อีกนะ แต่ว่าฉันไม่รู้แล้วจริงๆ”
“โอเค คำถามที่สอง ลี่หุยถูกขังอยู่ที่ไหนคุณรู้ไหม”
คำถามนี้แน่นอนว่าบลัคก์ไม่รู้อยู่แล้ว เพราะอดอร์ฟเป็นคนคุมลี่หุย มีเพียงคนที่ติดตามพวกเขาไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้
ชิงโม่เห็นว่าเขาตอบไม่ได้ ก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจ