Mars เจ้าสงครามครองโลก - ตอนที่ 227 หวางซีหยั่งเชิง
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เย่เซิ่งเทียนนอนอยู่ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่รอบ ๆ ปาก
เขาลืมตาขึ้น ซือซือกำลังนั่งอยู่บนท้องของเขา เอาเท้าตนเองใส่เข้าไปในปากของเขา และหัวเราะคิกคัก
“คุณพ่อ อย่านอนอีกเลย ลุกขึ้นได้แล้ว”
ซือซือตะโกนเสียงดัง
เย่เซิ่งเทียนกอดซือซือไว้ในอ้อมแขน จูบเธอแล้วกล่าวว่า “เจ้าตัวแสบ วันนี้เป็นวันเสาร์ หนูตื่นเช้าขนาดนี้ทำไม?”
ขนตายาวของซือซือขยับ เธอเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า “คุณพ่อ หนูอยากเล่นสกี หนูอยากออกไปเล่น คุณครูเป็นคนสั่ง”
หวางซีเดินเข้าไปและกล่าวด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ “คุณครูมอบหมายการบ้าน ให้เด็กแต่ละคนไปหาใบไม้ที่แตกต่างกันสี่สิบชนิด เพื่อให้พวกเขารู้จักใบไม้แต่ละชนิด”
“ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ คุณครูเป็นคนสั่งค่ะ”
ซือซือพยักหน้าถ้วยความภาคภูมิใจ
“เอาล่ะ เอาล่ะ พ่อจะพาลูกไป ซีเอ๋อร์ วันนี้คุณไม่ต้องไปทำงาน ไปหาใบไม้เป็นเพื่อนลูกกันเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวด้วยความปวดหัว
ทุกวันนี้คุณครูก็เป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่มอบหมายการบ้าน ความจริงแล้วเป็นการมอบหมายงานให้ผู้ปกครอง
ตอนนี้ยังไม่เป็นไร ซือซือยังเรียนแค่ชั้นอนุบาล ถ้าขึ้นประถม เดาว่าทุกครั้งที่ครูมอบหมายการบ้าน ที่บ้านต้องเกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน
“คุณพ่อ เร็วเข้า”
ซือซือหรี่ตาด้วยความเหยียดหยาม “หนูเป็นเด็กแต่ยังตื่นเช้า พ่อโตขนาดนี้แล้ว ยังตื่นสายอีก หน้าไม่อาย”
หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว ครอบครัวของเย่เซิ่งเทียนสามคนก็ออกเดินทาง
ยังดีที่เป็นเมืองเฉียนถัง ถ้าอยู่ทางเหนือ ฤดูหนาวเช่นนี้จะไปหาใบไม้ได้จากที่ไหน?
“ความหมายของประธานหรันคือให้หมิงซื่อกรุ๊ปรวมเข้ากับบริษัทหัวหยวน เพื่อรวมเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ลุงรองมีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน คุณคิดว่าอย่างไร?”
หวางซีถามหยั่งเชิง ประเด็นสำคัญเพื่อดูทัศนคติของเย่เซิ่งเทียนที่มีต่อตระกูลหมิง
ตระกูลหมิงนั้นล้มละลายไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทำให้คนทั่วเมืองเฉียนถังตกตะลึง
ตอนนี้ทุกคนต่างคอยดูว่าหมิงซื่อกรุ๊ปจะเปลี่ยนไปอย่างไร และตอนนี้มีคนกำลังจับตามองอยู่ไม่น้อย แต่ยังไม่กล้าเคลื่อนไหว
เย่เซิ่งเทียนเห็นต้นแปะก๊วยเป็นทุ่ง และไม่ได้พูดอะไร
หวางซีกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านใหญ่ตระกูลหมิงและหมิงฮุยตายไปแล้ว ฉันรู้ว่าคุณนั้นยังเกลียดชังตระกูลหมิง แต่ตระกูลหมิงนั้นยังมีผู้บริสุทธิ์อยู่อีกมากมาย นอกจากนี้ ตระกูลหมิงยังเป็นญาติทางฝ่ายแม่ของพวกเรา และฉันจะพิจารณาเรื่องของลุงรอง คุณคิดว่าอย่างไร?”
เย่เซิ่งเทียนมองเธออย่างเย็นชาและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผมไม่สนิทกับเขา”
หวางซีรู้สึกจำใจ รู้ว่าคำพูดของตนเองนั้นทำให้เขาไม่พอใจอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ยอมรับได้ แต่ตนเองทำเช่นนั้นไม่ได้
ตนเองในฐานะภรรยาของเขา ควรจะช่วยเขาจัดการเรื่องพวกนี้ และบางเรื่องนั้นตนเองต้องเป็นคนออกหน้าเท่านั้น
เขาไม่ยอมรับหมิงหวงเป็นลุงรองได้ แต่ตนเองไม่ยอมรับไม่ได้
หวางซีเชื่อว่าวิญญาณแม่สามีที่อยู่บนสวรรค์ สนับสนุนให้เธอทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน
“ฉันคิดว่าไม่ควรรวมบริษัทหัวหยวนและหมิงซื่อกรุ๊ปเข้าด้วยกัน ให้ลุงรองเป็นคนดูแลบริหารหมิงซื่อกรุ๊ป ส่วนฉันจะตั้งใจดูแลบริหารบริษัทหัวหยวน อีกอย่าง ฉันเพิ่งวางแผนที่จะร่วมงานกับตระกูลอู๋ เพื่อสร้างภาพยนตร์ นอกจากนี้ ช่วงสองวันนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งมาที่บริษัทตลอด โดยบอกว่าเธอเป็นพนักงานขายรถให้คุณ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หวางซีเหลือบมองเย่เซิ่งเทียน คิดไตร่ตรองแล้วกล่าวว่า “ช่วงนี้ฉันได้ยินมาว่านักลงทุนต่างประเทศมาที่เมืองเฉียนถัง ว่ากันว่าเป็นลูกชายของเศรษฐี ทุกคนต้องการสร้างความสัมพันธ์กับเขา พวกเราไปผูกความสัมพันธ์กับเขาดีไหม? หรือว่าจะช่างมัน จัดการเรื่องที่อยู่ในมือให้ดีก่อน”
เย่เซิ่งเทียนมองหวางซีและกล่าวอย่างสงบ “คนที่มากับลูกชายเศรษฐีคือหวางเอี๋ยน”
หวางซีตัวแข็งทื่อและสีหน้าเคร่งขรึมทันที “ฉันไม่สนว่าเธอจะทำอะไร แต่ถ้าเธอกล้ารังควานครอบครัวของพวกเรา คราวนี้ฉันจะไม่ขัดขวางคุณอีก”