Mars เจ้าสงครามครองโลก - ตอนที่ 52 หวางหงหมดสติเช่นกัน
นายหญิงใหญ่หวางพุ่งเลือดออกมาเต็มปากด้วยความสิ้นหวัง และหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของอาสะใภ้สาม
เธอไม่สามารถหักล้างคำพูดของเกาเจี๋ยได้
ที่นี่เป็นที่ดินของเกาเจี๋ยแล้ว
เขาคิดจะทำอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น!
ขอเพียงแค่ไม่ย้ายสุสานบรรพบุรุษและหอบรรพบุรุษของตระกูลหวาง ก็ไม่มีปัญหาอะไร
“นี่……….จะฝังคนตายโหงเข้ามาในสุสานบรรพบุรุษของตระกูลหวางหรือ?”
สีหน้าของคนตระกูลหวางโศกเศร้า
“พวกเรา พวกเราขัดขวางไม่ได้แล้ว”
มีคนกล่าวด้วยความโมโหว่า “ถ้ารู้ว่ายังไงก็ต้องนำเถ้ากระดูกเข้ามาฝัง แล้วยังใช้วิธีนี้ที่ทำให้ตระกูลหวางต้องขายหน้า มันจะดีเสียกว่าถ้าจะตกลงตั้งแต่ตอนแรก”
“ขายหน้าจริง ๆ ทะเลาะอยู่ที่นี่ตั้งนาน แต่พวกเราไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องนี้เลย แล้วพวกเราจะยืนทำอะไรอยู่ที่นี่อีก? ใครอยากขายหน้าก็อยู่ไปเถอะ ผมไปล่ะ!”
“ไม่รู้จริง ๆ นะว่านายหญิงใหญ่กับครอบครัวลูกชายคนโตดูแลตระกูลกันอย่างไร ถูกคนอื่นขายแล้วยังช่วยเขานับเงินอีก วันนี้ตระกูลหวางกลายเป็นตัวตลกโดยสิ้นเชิง!”
คำพูดประโยคนี้ ผ่านเข้าหูนายหญิงใหญ่หวางเหมือนสายลม
เดิมทีเธอนั้นรู้สึกตัวแล้ว แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงที่แสดงความไม่พอใจ ทำให้เธอโมโหจนหมดสติไปอีกครั้ง
“หลีกไป”
เกาเจี๋ยดึงหวางหงออกไปด้านข้าง
หวางหงดูเหมือนจะสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว และไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
เขาทำสิ่งนี้ด้วยตนเอง เขาเซ็นสัญญาด้วยตนเอง และเงินจำนวนสองร้อยล้านก็โอนเข้าบัญชีของเขาด้วย
ตอนนี้เขามีสิทธิ์ยุ่ง?
เว้นแต่เขาจะกลับคำ แล้วคืนเงินสองร้อยล้านให้เกาเจี๋ย
เพียงแต่ มันขึ้นอยู่กับว่าเกาเจี๋ยยินดีที่จะรับคืนหรือไม่
ใบหน้าของหวางหงร้อนเผ่าและเขารู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก
เขาถูกคนอื่นหลอก แต่เขายังรู้สึกซาบซึ้งคนอื่น
ตั้งแต่ต้นจนจบนี่คือหลุมพราง!
แต่เสียใจตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร?
ทำได้แค่เฝ้ามองเถ้ากระดูกของน้องรองถูกฝังในสุสานของบรรพบุรุษ!
หวางหงก้มศีรษะลง ความเกลียดชังและความโหดเหี้ยมปรากฏอยู่ในแววตา
เขาเป็นคนที่มีหน้ามีตาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เพียงแต่ ตอนนี้มันกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว!
เป็นตัวตลก!
ทุกคนต่างมองเขาเป็นตัวตลก!
คอยดู พวกคุณทุกคนคอยดู
รอจนกว่าโครงการเมืองใหม่ของผมจะเสร็จสิ้น
เมื่อตระกูลหวางกลายเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง ผมจะให้พวกคุณได้เห็นดีกัน!
ความแค้นนี้ ผมต้องล้างแน่นอน!
หวางหงสาบานอยู่ในใจ
นี่คือความอัปยศที่สุดในชีวิตของเขา!
เขาไม่สามารถยอมรับความอัปยศนี้ได้!
“ภัยพิบัติที่เกิดจากตนเองนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”
เย่เซิ่งเทียนที่ไม่พูดมาตลอด ตอนที่เดินผ่านหวางหงและนายหญิงใหญ่หวาง เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถ้าคุณเป็นคนก่อภัยพิบัติเอง ก็อย่าโทษคนอื่นที่ไม่ปฏิบัติต่อคุณเหมือนคน”
“เย่เซิ่งเทียน!!!”
หวางหงโกรธจนกำหมัดไว้แน่น
ลูกตากลายเป็นสีแดง
แทบรอไม่ไหวที่จะฉีกเย่เซิ่งเทียนเป็นชิ้น ๆ
“อย่าเอะอะโวยวาย อย่ารบกวนจิตวิญญาณของพ่อตาผม ผมกลัวว่าเขาจะไปทวงความยุติธรรมกับพวกคุณ”
หลังจากเย่เซิ่งเทียนกล่าวจบ เขามองเกาเจี๋ยและกล่าวเบา ๆ ว่า “ขับไล่คนตระกูลหวางที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปให้หมด”
คนตระกูลหวางที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง?
หวางหงโกรธเป็นอย่างมาก ขณะที่เขากำลังจะพูดก็ถูกลูกน้องของเกาเจี๋ยผลักออกไป
“รีบออกไป อย่าทำให้พวกเราต้องเสียเวลา นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกคุณมาได้”
ลูกน้องพวกนั้นขับไล่คนของตระกูลหวางออกไปจนหมด
เหมือนกับการกวาดขยะ
“อ้อ อีกอย่าง ผมจะไม่ย้ายสุสานและหอบรรพบุรุษของตระกูลหวาง แต่ผมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ นั่นหมายความว่าป้ายวิญญาณของพ่อตาคุณเย่จะถูกวางไว้ที่หอบรรพบุรุษของตระกูลหวาง ขอเพียงแค่คุณเย่เต็มใจ จะทำอะไรก็ได้”
เกาเจี๋ยกล่าวเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
พู่
หวางหงกระอักเลือด
เขาโกรธจนกระอักเลือด!
ถ้าไม่ใช่เพราะมือของคนตระกูลหวางรับร่างของเขาได้รวดเร็ว เขาคงจะหงายหลังไปแล้ว