Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 1025 เอาชีวิตไปเล่นกับพวกแก
เย่เซิ่งเทียนดูข้อมูลที่เหย้ซูหลิงส่งมา ไม่ได้ลดความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลเหย้เลย
ดูสามสี่ตระกูลในข้อมูล นัยน์ตาของเย่เซิ่งเทียนเผยเจตนาฆ่าออกมา
คนเหล่านี้และตระกูลที่อยู่เบื้องหลัง ตัวเองและไม่เคยมีความเกลียดชังกับพวกเขามาก่อน
และก็ไม่เคยคิดที่จะเกิดความขัดแย้งอะไรกับพวกเขาเลย
คนเหล่านั้นทำอะไร เขาก็ไม่อยากจะสนใจ และก็ขี้เกียจจะสนใจ
เขาแค่คิดอยากจะช่วยแม่กลับบ้าน!
แค่คิดอยากให้คนในครอบครัวปลอดภัย!
แต่ว่า คนเหล่านี้ ต่างก็บีบบังคับเขา!
ไม่ให้เขามีชีวิตที่ดี!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เริ่มเถอะ ดูว่าใครจะเล่นใครตาย!
ในเมื่อพวกแกอยากจะฆ่าฉัน งั้นก็ไม่มีอะไรให้น่าพูดคุย พวกแกถูกฉันทำลายตระกูล พวกแกก็สมควรแล้ว!
ถ้าหากพวกแกอยากจะทะเลาะ งั้นเราก็ทะเลาะ!!
ในเมื่อพวกแกอยากจะบีบบังคับฉัน งั้นก็ได้ พวกเราก็ทะเลาะกันพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินไปเลย!
อย่างมากก็แค่พินาศด้วยกัน!
ตายด้วยกันแล้วถือว่าอะไรล่ะ!
เย่เซิ่งเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ว
หนิงเจ๋อฮ่าวที่อยู่ข้างๆ สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าบนตัวของเย่เซิ่งเทียนที่เปล่งออกมาอย่างเข้มข้น ตกตะลึงในใจ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมบนตัวของเทียนจวิน จู่ๆถึงได้ระเบิดเจตนาฆ่าที่น่ากลัวออกมาเช่นนี้?
เย่เซิ่งเทียนมองไปยังหนิงเจ๋อฮ่าว พูดถามว่า : “เหล่าหนิง ถ้าหากทรัพยากรคุณเพียงพอ ตำราฝึกฝนที่เหมาะสม คุณต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะถึงแดนทะลุเทพ?”
หนิงเจ๋อฮ่าวตกใจ เกือบน้ำตาไหลแอบเต็มหน้า
เวลาแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าเทียนจวินยังไม่ลืมเขา!
ถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่ติดตามเย่เซิ่งเทียนช้าที่สุด
“คุณสมบัติของข้าน้อยก็ยังถือว่าใช้ได้ เพียงแค่ไม่ค่อยเข้าใจแดนเหล่านั้นที่อยู่เหนือกว่าแดนลอยเมฆเท่าไหร่ หากดูตามสถานการณ์ที่ดีที่สุดแล้ว ก็ต้องใช้เวลา10ปีนะ”
หนิงเจ๋อฮ่าวสูดลมหายใจเข้าลึกแล้ว
ตัดสินใจว่าแม้ว่าจะพยายามสุดชีวิตชรานี้ ก็จะต้องยกระดับแดนขึ้นสูง
10 ปี เป็นเวลาที่สั้นที่สุดที่เขาคาดการณ์แล้ว
แถมยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ราบรื่นอย่างมาก
“นานเกินไปแล้ว!”
เย่เซิ่งเทียนส่ายหน้า เขาไม่มีเวลารอนานขนาดนั้น
แม้ว่าเขาจะรอได้ แต่แม่ล่ะ?
หนิงเจ๋อฮ่าวสีหน้าอึดอัดใจครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
10ปีนี้ สำหรับเขาแล้วเป็นเวลาที่เร็วที่สุดแล้ว
เขามั่นใจ แม้ว่าทั้งตระกูลลี้ลับ ผู้ที่สามารถทะลวงถึงแดนทะลุเทพได้โดยใช้เวลา10ปี ก็น้อยมาก
แน่นอนว่า ไม่นับสัตว์ประหลาดอย่างเย่เซิ่งเทียน
สีหน้าของหนิงเจ๋อฮ่าวค่อนข้างประหลาดใจ ถูกเย่เซิ่งเทียนโจมตีเล็กน้อยแล้ว
ครึ่งปีก่อน เย่เซิ่งเทียนและเขาล้วนเป็นแดนเหนือโลกีย์ทั้งคู่
แต่หลังจากนั้นครึ่งปี เย่เซิ่งเทียนกลับว่ากลายเป็นแดนทะลุเทพแล้ว!
ปิศาจแบบนี้ เป็นแบบที่หมื่นปีก็ยังไม่มีแบบนั้น!
ไม่มีใครเทียบได้!
เย่เซิ่งเทียนพูดต่อ : “ถ้าหากว่าฉันมอบเลือดเทพให้คุณบางส่วนล่ะ?”
หนิงเจ๋อฮ่าวสั่นคลอนไปทั้งตัว มองเย่เซิ่งเทียนอย่างเหลือเชื่อ
ไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
เทียนจวินจะมอบเลือดเทพให้เขา!
นั่นเป็นสิ่งของที่ทางฝั่งสรวงสวรรค์นั่นล้วนแต่ต้องการ!
คิดไม่ถึงว่าจะให้ตัวเอง?
นี่……
หนิงเจ๋อฮ่าวคุกเข่าลงตรงนั้น พูดเสียงสั่นว่า : “เทียนจวิน ต่อไปชีวิตนี้ของฉัน ก็จะเป็นของคุณ!”
เย่เซิงเทียนพูดอย่างหงุดหงิดว่า : “ลุกขึ้นมาเถอะ ฉันไม่ต้องการชีวิตของคุณ และก็ไม่มีประโยชน์ คุณบอกฉันมา เลือดเทพที่ฉันมอบให้คุณ และมอบข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์การบำเพ็ญตนให้คุณ คุณใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะทะลวงถึงแดนทะลุเทพได้!”
หนิงเจ๋อฮ่าวค่อนข้างอึ้ง เรื่องนี้เขาไม่ทราบจริงๆ
“ข้าน้อย ข้าน้อยไม่รู้”
เพราะว่าเขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลย
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า : “ฉันให้คุณได้มากสุดหนึ่งปี ถ้าหากภายในหนึ่งปี คุณยังทะลวงแดนทะลุเทพไม่ได้ ฉันก็ทำได้เพียงทิ้งคุณแล้ว ฉันไม่มีเวลารอพวกคุณมากมายขนาดนั้น ฉันให้เวลาพวกคุณได้มากสุดเพียงหนึ่งปี!นี่คือขีดจำกัดของฉัน!”
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้ว
หนึ่งปี นี่เป็นเวลาที่ยาวนานที่สุด
เขาไม่รู้ว่าแม่จะยืนหยัดได้นานแค่ไหน!
แต่สรวงสวรรค์ใหญ่เกินไป อาศัยพละกำลังของคนเพียงคนเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้เลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนไม่ขาดเลือดเทพ
เลือดเทพตระกูลเหย้กับเลือดเทพเผ่าซวนหยวน ตื่นจากภวังค์โดยสิ้นเชิง
ตอนี้เขาพบว่า เลือดเทพช่วยกระตุ้นศักยภาพของร่างคนได้ ถึงขั้นเสริมสร้างคุณสมบัติของคนๆหนึ่งให้แข็งแกร่ง
อย่าว่าเลือดกี่หยดเลย ขอเพียงแค่ทำลานสรวงสวรรค์ ช่วยแม่ออกมาได้ แม้ว่าเนื้อของเขาช่วยให้คนที่อยู่ข้างกายเหล่านี้ยกระดับผลฝึกตนได้ เขาก็ยอมทุ่มเทออกไปอย่างไม่ลังเล!
สรวงสวรรค์บีบจนเขาถึงทางตันแล้ว เขาก็ใช้วิธีการที่บ้าคลั่งยิ่งกว่า มาทำลายสรวงสวรรค์!
โหดเหี้ยมกว่าไม่ใช่เหรอ?บ้าคลั่งยิ่งกว่าใครไม่ใช่เหรอ?