Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 1067 ดูดซับหมอกดำ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1067 ดูดซับหมอกดำ
เย่เซิ่งเทียนเดินอยู่ในหมอกควัน
อีกหลายสิบเมตรก็จะถึงประตูเมืองแล้ว
เขากำลังครุ่นคิดอยู่ บนโลกมนุษย์มีต้าเต๋า ถ้างั้นในโลกชูร่าก็น่าจะมีเหมือนกัน
ต้าเต๋าของโลกชูร่าคืออะไรกันแน่?
สามารถเอาเข้าไปในหนังสือแห่งโชคของเขาได้ไหม?
เย่เซิ่งเทียนเดินไปด้วยและครุ่นคิดไปด้วย
ถึงแม้เขาไม่ค่อยเข้าใจโลกชูร่า แต่เรื่องที่เขาสามารถยืนยันได้ก็คือ ในโลกชูร่าต้องมีต้าเต๋าอย่างแน่นอน
หมอกดำพวกนี้ น่าจะมีพลังต้าเต๋าบางอย่าง เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่เข้าใจพลังของมันเท่านั้น
“ด้านในหมอกดำพวกนี้ มีพลังแห่งความตายอยู่ หรือว่ามันจะเป็นหลักธรรมแห่งความตาย? ต้าเต๋าอันนี้จะศึกษาและฝึกฝนมันสำเร็จได้ยังไง?”
เย่เซิ่งเทียนคิดไม่ออกจริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้ใจร้อน
ศึกษาและเข้าใจต้าเต๋าก็ต้องอาศัยความโชคดีเหมือนกัน
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูเมือง เย่เซิ่งเทียนรีบเก็บซ่อนพลังของตัวเองทันที
ดูเหมือนคนของตระกูลโม่จะมั่นใจในตัวเองมากๆ ไม่มีใครอยู่เฝ้าตรงนี้เลย ดังนั้นประตูเมืองก็เลยเปิดออก
เย่เซิ่งเทียนพุ่งไปยังจวนเจ้าเมือง
หมอกดำที่อยู่ในเมือง มันหนากว่าด้านนอก เขาสามารถมองเห็นบ้านเรือนแค่รางๆเท่านั้น
“ถ้าฉันสามารถดูดซับหมอกดำพวกนี้เข้าไปในหนังสือแห่งโชค มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไหม?”
เย่เซิ่งเทียนใจกล้ามากๆและอยากจะลองดู เขาอยากจะดูดซับหมอกดำเข้าไปด้านในหนังสือแห่งโชค
คนอื่นๆกลัวหมอกดำพวกนี้มากๆและไม่กล้าให้มันสัมผัสโดนร่างกาย
แต่เขากลับดูดซับหมอกดำพวกนี้เข้าไปในร่างกาย
เรื่องนี้อันตรายมากๆ ถ้าเหย้เฉินและคนอื่นๆอยู่ตรงนี้ พวกเข้าไม่ให้เย่เซิ่งเทียนทำแบบนี้อย่างแน่นอน
มันเหมือนกับการฆ่าตัวตายชัดๆ
เมื่อเย่เซิ่งเทียนคิดได้ก็ทำทันที
การบำเพ็ญเซียน มันคือการฝืนกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์
มีเรื่องบางเรื่อง ถ้าไม่ลองทำจริงๆ ก็คงไม่รู้ผลลัพธ์ของมันอยู่แล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เซิ่งเทียนก็เริ่มดูดซับหมอกดำทีละนิด
หลักธรรมแห่งจักรพรรดิเตรียมพร้อมที่จะต้านรับหมอกควันพวกนี้
ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เขาก็จะหยุดการดูดซับทันที
เขาดูดซับหมอกดำเล็กน้อยเข้าไปในจิตสมอง
เมื่อหมอกดำปรากฏตัวในจิตสมอง ในชั่วพริบตา มันตอบสนองอย่างรวดเร็วราวกับน้ำเย็นที่เทลงไปในน้ำมันร้อนๆ
พลังทิพย์ที่อยู่ในจิตสมองกับหมอกดำพวกนี้เหมือนกับหยินและหยาง เมื่อพวกมันเข้าใกล้กันก็ปะทุพลังออกมาและไม่สามารถหลอมรวมเข้ากันได้
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วทันที
พลังทิพย์ที่อยู่ในจิตสมอง มีพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม มันคือตัวแทนแห่งพลังก่อเกิด
ส่วนหมอกดำพวกนี้ มันเต็มไปด้วยพลังแห่งความตายและพลังแห่งสูญสลาย
“ก่อเกิด……ตาย……”
เย่เซิ่งเทียนบ่นพึมพำและเข้าสู่การรู้แจ้งทันที ในสมองของเขามีพลังแห่งความเป็นและความตายปรากฏ
“ก่อเกิดคือหยาง ความตายคือหยิน พลังหยินหยางเหรอ?”
สมองของเย่เซิ่งเทียนเข้าใจทันที พลังหยินหยาง มันเป็นทิศทางที่ถูกต้องแล้ว
แล้วจะหลอมรวมมันได้ยังไง?
จะต้องแบ่งจิตสมองเป็นสองอันเหรอ?
เขาครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นๆเลย
ถ้าแบ่งเป็นสองอัน อันไหนควรเป็นจิตสมองตัวหลัก?
“ไม่สนใจแล้ว ลองดูหนังสือแห่งโชคก่อน”
เย่เซิ่งเทียนส่ายหัวและคิดไม่ออกจริงๆ
ถ้าไม่มีคนชี้แนะ เขาคงต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง
ไม่มีประสบการณ์ที่ทำสำเร็จและให้เขาได้เรียนรู้ มันเป็นเรื่องที่ปวดหัวจริงๆ
เขาค่อยๆดูดซับหมอกดำเข้าไปด้านในของหนังสือแห่งโชค
หนังสือแห่งโชคไม่ได้ตอบสนองใดๆเลย มันเหมือนกับพวกตะกละ หมอกดำเข้ามาเท่าไหร่ มันก็ดูดซับทั้งหมด
แต่เรื่องที่น่าแปลก็คือ หนังสือแห่งโชคไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเลย
“หมอกดำไม่พอเหรอ?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เซิ่งเทียนก็ดูดซับหมอกดำจำนวนมากเข้ามา
หนังสือแห่งโชคเหมือนกับหลุมดำ มันไม่ตอบสนองอะไรเลย
เย่เซิ่งเทียนกัดฟันตัวเองและดูดซับอย่างบ้าคลั่ง
เขาก็อยากจะรู้เหมือนกัน หนังสือแห่งโชคสามารถดูดซับหมอกดำได้เท่าไหร่กันแน่
ในเวลานี้ ด้านนอกเมือง
เหย้เฉินพูดด้วยความกังวลใจ:”ทำไมมันถึงเงียบอย่างนี้?”
เหย้เฟิงพูดอย่างช้าๆ:”รอไปก่อน เด็กหนุ่มคนนั้นแปลกประหลาดมากๆ ในเมื่อเขาสามารถรับมือหมอกดำได้ พวกเราก็รอไปก่อน”
เหย้หมิงพูดด้วยความโมโห:”แม่งเอ๊ย พวกเราช่วยอะไรไม่ได้เลย มันเป็นอย่างที่เด็กหนุ่มคนนั้นพูดจริงๆ พวกเราหลับใหลมาหลายพันปี จนตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเราไร้ประโยชน์จริงๆ!”
เหย้เฉินถอนหายใจและพูด:”ถ้าสมัยนั้นพวกเรายอมสู้ตาย มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะคนทรยศมีเยอะมากๆ หลังจากผนึกสวรรค์แล้วก็ไม่มีเทพอีก ตอนนี้ทุกคนบ้าไปแล้ว การบำเพ็ญเซียน ไม่ใช่เพิ่มพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งเหรอ? ถึงแม้เป็นเทพไม่ได้ แต่ทางฝั่งโลกชูร่ายังมีโอกาสเป็นเทพได้ คนบ้าพวกนี้ก็ทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
จู่ๆเหย้เฟิงก็พูดอย่างเคร่งขรึม:”อีกห้าตระกูลก็ทรยศแล้วเหรอ?”
ทั้งสามคนสบตากัน สีหน้าของพวกเขาแย่มากๆ
มีตระกูลพิทักษ์ปกป้องทั้งหมดเจ็ดตระกูล ตระกูลเย่โดนฆ่าล้างในสมัยนั้นไปแล้ว
ตอนนี้ยังเหลืออยู่หกตระกูล นอกจากตระกูลเหย้แล้ว ถ้าอีกห้าตระกูลกลายเป็นพวกทรยศทั้งหมด สำหรับพวกเขาแล้วมันคือหายนะชัดๆ
“พวกเจ้าดูสิ ดูเหมือนหมอกดำค่อยๆหายไปใช่ไหม?”
เหย้เฟิงที่จ้องมองดูดหมอกดำตลอดเวลา จู่ๆเขาก็เอ่ยปากพูด