Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 1506 บ้าคลั่ง
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1506 บ้าคลั่ง
เหย้ซูหลิงมองดูข้อความจากมือถือ สีหน้าของเขาแสดงรอยยิ้มขมขื่นออกมา
เธอรู้ตัวดี เย่เซิ่งเทียนแสดงความไม่พอใจออกมาและคิดจะแตกหักกับเธอ
ก่อนหน้านี้ตกลงกันแล้ว ทางฝั่งเย่เซิ่งเทียนลงมือต่อสู้ ทางฝั่งตระกูลเหย้ก็จะลงมือด้วย
แต่เย่เซิ่งเทียนเกือบจะโดนสังหาร แต่ตระกูลเหย้ไม่ยอมปรากฏตัว สุดท้ายคนที่ช่วยชีวิตเขาก็คือหวางซี
เย่เซิ่งเทียนสูญเสียคนรักของตัวเองไป
อนาคตข้างหน้า เย่เซิ่งเทียนอาจจะร่วมมือกับตระกูลเหย้ แต่เขาไม่เชื่อใจตระกูลเหย้อีกแล้ว
“ไอ้อู๋ นายคิดว่าตระกูลเหย้ทำเรื่องเลวๆแต่กลับอยากได้ชื่อเสียงดีๆ มันเป็นเรื่องที่ตลกมากๆใช่ไหม?”
เหย้ซูหลิงหัวเราะออกมาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็มีน้ำตาไหลออกมา
ไอ้อู๋ถอนหายใจ เขาไม่รู้จริงๆว่าควรพูดอะไรออกมา
เรื่องนี้เป็นความผิดของตระกูลเหย้
ในเมื่อไม่ได้คิดที่จะลงมือ ตอนนั้นก็ไม่ควรรับปากเย่เซิ่งเทียน
ถ้าไม่ใช่หวางซีปรากฏตัวช่วยเหลือ เย่เซิ่งเทียนคงโดนเหล่าจู่ตระกูลเซียวสังหารไปแล้ว
ครั้งนี้เย่เซิ่งเทียนลงมือสังหารตระกูลเซียว เขายอมที่จะร่วมมือกับตระกูลระดับสองอย่างตระกูลจง แต่ไม่ยอมร่วมมือกับตระกูลเหย้ มันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว
“เขาใช้วิธีนี้เพื่อเตือนตระกูลเหย้ ถึงแม้ไม่มีตระกูลเหย้ เขาก็สามารถฆ่าล้างตระกูลเซียวได้!”
เหย้ซูหลิงลูบหน้าท้องอันใหญ่ของตัวเอง ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจมากๆ
ถ้าตอนนั้นตระกูลเหย้ยอมปรากฏตัวและขัดขวางเหล่าจู่ตระกูลเซียวเอาไว้ ถึงแม้จะช่วยเขาไม่ได้ แต่เย่เซิ่งเทียนก็คงซาบซึ้งในน้ำใจของตระกูลเหย้อย่างแน่นอน
แต่ตระกูลเหย้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย!
“คุณหนู ตระกูลเราก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน เพราะถ้าตระกูลเหย้เคลื่อนไหว มันจะเกิดเรื่องใหญ่มากๆตามมา”
ไอ้อู๋พูดปลอบใจ
เหย้ซูหลิงเช็ดน้ำตาและพูด:”ไม่ต้องหาข้อแก้ตัวให้ตระกูลเหย้ ฉันเข้าใจดี ตระกูลเหย้ไม่ยอมลงมือ เพราะรู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนไม่คู่ควรให้ลงมือมากกว่า”
จากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่ความหมายของเธอก็คือ ครั้งนี้ตระกูลเหย้ของพวกเราประเมินคนๆนี้ต่ำจนเกินไป
“นายคิดว่าเขาจะทำอะไรต่อจากนี้? เขาฆ่าล้างตระกูลเซียวและสังหารเทพแล้ว มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ร่างกายของเขามีมวลสารทิพย์แล้ว สรวงสวรรค์ไม่ปล่อยเขาอย่างแน่นอน ตอนนี้เขาจะหนีไปไหนได้? ถึงแม้ครั้งแรกไม่ลงมือ เพราะคิดว่าเย่เซิ่งเทียนไม่คู่ควร แล้วครั้งที่สองละ? ถ้าครั้งที่สองพวกเราลงมือช่วยเขา……”
เหย้ซูหลิงส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น
เธอไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนในตระกูลเหย้ได้อยู่แล้ว
เพียงแต่ความสัมพันธ์ของเธอกับเย่เซิ่งเทียนคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว
บางทีการเจอกันครั้งหน้า เย่เซิ่งเทียนคงมาเพื่อถอนหมั้น
เหย้ซูหลิงพูดพึมพำ:”สิ่งที่ไม่ใช่ของเรา ยังไงมันก็ไม่ใช่ของๆเรา ถึงแม้ฉันจะพยายามคว้ามันเอาไว้ แต่มันกลับไม่ใช่ของๆฉัน หวางซียอมเสี่ยงอันตรายเพื่อเย่เซิ่งเทียน สุดท้ายเธอหายตัวไป แต่ฉันกลับทำไม่ได้ ฉันเทียบหวางซีไม่ได้จริงๆ ฉันไม่คู่ควรกับเย่เซิ่งเทียน ฉันไม่คู่ควรกับเย่เซิ่งเทียนจริงๆ ตระกูลใหญ่ๆอย่างพวกเรานั้นมองเห็นแค่ผลประโยชน์เท่านั้น มันดูตลกมากๆ”
ไอ้อู๋ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เหย้ซูหลิงไม่ได้ไประบายความในใจกับเหย้ม้อ
ในเวลาเดียวกัน เย่เซิ่งเทียนก็เจอปัญญามากมาย
หลังจากฆ่าล้างตระกูลเซียวแล้ว เขาก็สัมผัสได้ทันทีว่ามีคนไล่ตามเขาอยู่
ไม่ต้องถามก็รู้ คนพวกนี้น่าจะเป็นไอ้เฒ่าแดนทะลุเทพพวกนั้นอย่างแน่นอน
พวกเขาต้องการมวลสารทิพย์ในร่างกายของเขา
คนพวกนี้ เพื่อกลายเป็นเทพ พวกเขากลายเป็นคนบ้าคลั่งไปแล้ว
ไม่ได้มีแค่ไอ้เฒ่าจากสรวงสวรรค์เท่านั้น
คนของตระกูลลี้ลับก็บ้าคลั่งไปแล้วเช่นกัน
เพื่อฝึกฝนถึงแดนเทพ พวกเขารอมาหลายพันปีแล้ว พวกเขาอดทนมาหลายพันปีแล้ว
พวกเขารอการทดลองจากสรวงสวรรค์สำเร็จ
มิฉะนั้น แค่สรวงสวรรค์เพียงฝ่ายเดียว จะสามารถปราบปรามสำนักต่างๆได้นานขนาดนี้เหรอ?
สรวงสวรรค์ทำเรื่องเลวร้ายโหดเหี้ยมมากๆ การที่ไม่มีใครออกมาต่อสู้กับสรวงสวรรค์ เรื่องนี้มันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว
เหย้ม้อพูดได้น่าฟังมากๆ แต่เขาทำทุกอย่างก็เพื่อกลายเป็นเทพ
สรวงสวรรค์บ้าคลั่งไปแล้ว ตระกูลลี้ลับก็บ้าคลั่งไปแล้วเช่นกัน
ไม่มีใครเป็นคนดีเลย
พวกเขาต่างอยากจะได้เย่เซิ่งเทียนที่เป็นหนูทดลองและใกล้จะสำเร็จไว้ในกำมือของตัวเอง
“เด็กหนุ่ม พวกเราต้องเพิ่มความเร็วขึ้นอีก มีหลายๆคนไล่ตามพวกเรามาแล้ว”
วิญญาณหอคอยขมวดคิ้วและพูด
ผลเสียที่ตระกูลเซียวโดนฆ่าล้างนั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว
คนเหล่านี้กำลังรอมวลสารทิพย์ที่อยู่ในร่างกายของเย่เซิ่งเทียน
ตอนนี้การทดลองของสรวงสวรรค์สำเร็จแล้ว พวกเขาไม่บ้าคลั่งได้ยังไง?
ใครก็อยากจะได้มวลสารทิพย์ก่อนสรวงสวรรค์อยู่แล้ว
ใครๆก็อยากจะเป็นเทพ
“เด็กหนุ่ม แกหนีไม่รอดอยู่แล้ว”
ในเวลานี้ มีเสียงที่เย็นชามากๆดังขึ้น มีชายชราชุดดำขวางทางเขาเอาไว้
แดนทะลุเทพ!