Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 498 ผู้นำแห่งฟ้าสยบ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 498 ผู้นำแห่งฟ้าสยบ
“เซิ่งเทียน ในอนาคตคุณต้องไม่ใช้ตัวตนของเจ้าเทพแทนอย่างง่ายดาย ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นปัญหาถ้าเปิดเผยออกไป”
หวางซีดูกังวล
หากเป็นผู้หญิงทั่วไป ในเวลานี้เธอคงต้องการให้ทุกคนในโลกรู้ว่า สามีของตัวเองคือตัวแทนของเจ้าเทพ!
แทบอดไม่ได้ที่จะใช้ความสัมพันธ์นี้มาสร้างรายได้ที่มากขึ้น
แต่หวางซีนั้นแตกต่างออกไป เธอก็ขาดเงิน แต่เธอก็ยิ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเย่เซิ่งเทียนมากกว่า
เจ้าเทพคือคนแบบไหน? ตัวแทนของเขาจะเป็นได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
สามารถมาเป็นตัวแทนของเจ้าเทพได้ มันจะต้องอดทนต่อความทุกข์ทรมานมากเพียงใด จึงจะสามารถบรรลุข้อความต้องการดังกล่าวได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หวางซีก็รู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
“นอกจากนี้ คุณลองคุยกับเจ้าเทพได้ไหมว่า เราไม่เป็นตัวแทนนี้แล้ว ฉันกลัวจริงๆ เลยว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะพาแม่และซือซือ ไปเก็บขี้เถ้ากระดูกของคุณ และกลายเป็นครอบครัวของผู้พลีชีพ”
ขณะที่พูด น้ำตาของหวางซีก็ได้ไหลลงมา
แน่นอนว่า วีรบุรุษได้รับเกียรติอย่างยิ่ง
แต่คนในครอบครัวของวีรบุรุษต้องทนทุข์กับความเจ็บปวดและการตายจากกันมากเกินไป
เย่เซิ่งเทียนเช็ดน้ำตาให้หวางซีด้วยความตื่นตระหนก และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่เป็นไร เมื่อเกิดอันตรายจริงๆ ไม่ต้องให้ฉันออกหน้าหรอก ฉันก็แค่รับผิดชอบโชว์การแสดงเท่านั้น”
คำพูดนี้หวางซีไม่เชื่อโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
แต่เธอก็รู้ดีว่า ถึงศักดิ์ศรีของการเป็นทหาร
เขาทำได้เพียงกอดเย่เซิ่งเทียนอย่างแน่นหนา
ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ไป๋เหวินเซวียนออกมาจากตระกูลหลี่ เขาก็รีบไปหาเฉินซือเลี่ยง
เพราะเขาไปขอโทษเย่เซิ่งเทียนและหวางซี นี่เป็นโอกาสที่เฉินซือเลี่ยงมอบให้กับเขา หากเย่เซิ่งเทียนและหวางซีไม่ยอมรับ เฉินซือเลี่ยงก็จะกำจัดตระกูลไป๋โดยไม่ลังเล!
“พญาบู๊เฉิน คุณเย่และคุณนายซี ยอมรับคำขอโทษของฉันแล้ว”
ไป๋เหวินเซวียนพูดโดยเสียงเบา ไม่กล้าที่จะหายใจแรงๆ เลย
เฉินซือเลี่ยงตบหน้าไป๋เหวินเซวียน และกล่าวว่า “ในเมื่อคุณเย่ให้อภัยคุณแล้ว ฉันก็จะไว้ชีวิตตระกูลไป๋ของพวกเจ้า”
ไป๋เหวินเซวียนกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณพญาบู๊เฉิน ขอบคุณพญาบู๊เฉิน”
เฉินซือเลี่ยงเยาะเย้ยว่า “คนที่คุณควรจะขอบคุณคือคุณเย่! ไปให้พ้น!”
ไป๋เหวินเซวียนยังจะกล้าชะลอสักที่ไหน เขารีบจากไปอย่างรวดเร็ว
เฉินซือเลี่ยงปาดเหงื่อที่เย็นออกจากหน้าผากของเขา และพูดด้วยสียงอาฆาตว่า “ไอ้ลูกศิษย์เนรคุณซุนหลงกล้าที่จะลงมือกับเทียนจวินไปฆ่ามันซะ!”
“ครับ”
เสียงดังมาจากความมืดข้างหลังเขา
เฉินซือเลี่ยงถอนหายใจอย่างลับๆ รู้สึกโชคดีอยู่ในใจ
โชคดีที่ตัวเองจำแหวนของเทียนจวินได้ ไม่อย่างนั้นตัวเองต้องตายอย่างไรยังไม่รู้เลย
ในบรรดาฟ้าสยบ มีเพียงผู้ที่ได้รับการยอมรับและสืบทอดจากเทียนจวินรุ่นก่อนเท่านั้น ถึงจะสามารถเป็นจ้าวแห่งฟ้าสยบรุ่นใหม่ได้
และแหวนบนนิ้วมือของเย่เซิ่งเทียน ก็คือสัญลักษณ์แสดงสถานะความเป็นเทียนจวิน
แหวนของเทียนจวิน เป็นขุมทรัพย์ทางจิตวิญญาณ มีเพียงผู้ที่ได้รับการสืบทอดและการยอมรับจากรุ่นก่อนๆ ของเทียนจวินเท่านั้น จึงจะสามารถทำให้แหวนของเทียนจวินยอมรับเจ้าของได้ มิฉะนั้น จะไม่มีทางใส่แหวนของเทียนจวินไว้บนนิ้วคนนั้นได้ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร
ในเวลาเดียวกัน หลังจากที่กลายเป็นจ้าวแห่งฟ้าสยบ มีเพียงตายไปแล้วเท่านั้นถึงจะสามารถถอดแหวนของเทียนจวินออกได้!
ดังนั้นเมื่อเขาเห็นแหวนบนมือของเย่เซิ่งเทียนเป็นครั้งแรก เฉินซือเลี่ยงก็รู้แล้วว่า เย่เซิ่งเทียน ก็คือเทียนจวินคนใหม่แห่งฟ้าสยบ!
เป็นเจ้านายของเขา!
เพียงแต่ว่า เย่เซิ่งเทียนไม่ได้รู้จักใครในฟ้าสยบเลยแม้แต่คนเดียว
ชายชราเสียชีวิตอย่างเร่งรีบ และยังไม่ทันได้บอกวิธีการใช้งานของแหวนวงนี้ได้ก็เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นเฉินซือเลี่ยงจึงต้องยอมจำนน เย่เซิ่งเทียนยังคงคิดว่าเฉินซือเลี่ยงดูออกตัวตนของเขาในฐานะที่เป็นเจ้าเทพ เขาจึงไม่ได้ใส่ใจเลย
“เซิ่งเทียน การนัดหมายห้าวันของหอรักษาคุณต้องไปให้ได้หรือ?”
หวางซีอยากจะห้ามเย่เซิ่งเทียน ไปแข่งขันกับพวกคนบ้าของสมาคมทางการแพทย์เหล่านั้น
แม้แต่เย่เซิ่งเทียนเองก็บอกว่าโอกาสในการชนะนั้นไม่มากนัก และหวางซีก็ยิ่งไม่เชื่อว่าเย่เซิ่งเทียนจะชนะได้
เย่เซิ่งเทียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และกล่าวว่า “ต้องไปอยู่แล้ว ฉันเคยสัญญากับท่านอาจารย์ว่า จะช่วยเขาแก้ปัญหานี้ มิฉะนั้นชายชราจะตายตาไม่หลับ”
หวางซีขมวดคิ้วและกล่าวว่า “หรือว่า คุณไปขอเจ้าเทพสักหน่อย ดูว่าจะสามารถขอให้เจ้าเทพออกมาควบคุมสักหน่อย เพื่อที่ไอ้พวกสมาคมทางการแพทย์จะไม่กล้าทำอะไร”
เย่เซิ่งเทียนหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่จำเป็น ฉันมีวิธีการของฉัน อีกอย่าง หากเอาชนะในครั้งนี้ได้ คุณอยากจะทำธุรกิจเภสัชกรรม มันก็จะราบรื่นมากขึ้น”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน พี่เลี้ยงของตระกูลหลี่ก็เดินเข้ามาและพูดว่า “คุณหนูซี ท่านเขย เสี่ยเปามาหาพวกคุณ”
“เสี่ยเปาคนไหน?”
หวางซีงุนงง เธอเพิ่งมาที่นี่ และไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นี่เลย
“เขาเป็นเสี่ยเปาเปาเจิ้นผู้ค้าขายยารายแรกในเมืองเจียงหนาน”
“เขามาที่นี่ทำไม? เรารีบไปดูกันเถอะ”
หวางซีประหลาดใจอย่างยิ่ง เปาเจิ้นเป็นผู้ค้ายาอันดับหนึ่งในเจียงหนานเลยทีเดียว แต่ตัวเองไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาเลย เขาจะมาเยี่ยมได้อย่างไร?