Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 567 ต่ำช้าไร้ยางอาย
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 567 ต่ำช้าไร้ยางอาย
“ถ้าไม่อยากตายก็หุบปากซะ”
จั่วอู๋เต้าพูดอย่างเลือดเย็น
สายตาที่น่าขนลุก เหมือนปีศาจร้ายที่ออกมาจากขุมนรก ทำให้ในใจของคนจากตระกูลผู้ดีเย็นเฉียบขึ้น
ตอนนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เหตุใดจั่วอู๋เต้าถึงเริ่มช่วยเหลือเย่เซิ่งเทียน?
“หรือว่าเย่เซิ่งเทียนจะทำสำเร็จ?”
ขุนหลวงหยางทาวที่ซ่อนตัวอยู่ภายในฝูงชนตาสว่างขึ้น ภายในแววตามีความหวังเกิดขึ้น
เดาจากท่าทีของจั่วอู๋เต้า ที่กำลังปกป้องเย่เวิ่งเทียน
นั่นหมายความว่า พวกเขาเห็นความหวังในตัวเย่เซิ่งเทียนที่จะปรุงยาออกมาได้สำเร็จ?
ถ้าหากว่าการคาดเดานี้ถูกต้องล่ะก็ ถ้างั้น……
ทันใดนั้นเอง สายตาของหยางทาวมองไปที่ตัวแทนของเจ็ดตระกูลเก่าก่อย่างแปลกใจ
พวกเฮงซวย เกรงว่าจะหาเหาใส่หัวแล้ว
มาดูกันว่าพวกเขาจะตายกันยังไงเถอะ
คนที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเช่นนี้ ยังมีหร่วนซื่อสงและกัวปิงด้วย
แต่จุดที่หร่วนซื่อสงให้ความสนใจกลับไม่เหมือนกัน เพราะว่าเขามองไปที่กลุ่มคนที่วุ่นวาย พบว่ามีไอ้สองคนนั้นที่ทำตัวแปลกไปเล็กน้อย
คนแรกคือหญิงวัยกลางคน แต่ว่าทำไมดูแปลกขนาดนั้น โดยเฉพาะรอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงวัยกลาง ทำให้เขาเกิดความรู้สึกคลื่นไส้ เหมือนกับความคลื่นไส้ตอนเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของไอ้แก่กัวปิง
ในเวลาเดียวกัน อีกคนหนึ่งคือชายวัยกลางคน ดูมันธรรมดา แต่ว่ากลับมีน่าเกรงขามในตัว ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนธรรมดาเลยแม้แต่น้อย
หรือว่าสองคนนี้คือกัวปิงและขุนหลวง?
หร่วนซื่อสงเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นโดยอัตโนมัติ
เพราะว่าพวกเขาทั้งสามคนสนิทกันมาก
“เป็นไปไม่ได้มั้ง? พวกเขาสองคนก็แอบมางั้นเหรอ? เผื่อมีปัญหา ฉันต้องแอบจำไว้ก่อน”
ดังนั้น หร่วนซื่อสงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างเงียบๆ เปิดกล้องถ่ายวิดีโอ มุ่งเป้าที่หยางทาวและกัวปิงที่ปลอมตัวมา
ไม่ว่าเขาจะใช่หรือไม่ ก็ถ่ายเก็บไว้ก่อน เผื่อจะใช้ได้ในวันหลัง
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
ขณะนี้ โก้วหวยลูบเครา แล้วก็พยักหน้าไม่หยุด ชื่นชมไม่หยุดปาก สายตาเป็นประกาย
“นี่ นี่ เหมือนกับการที่ฉันควบคุมพิษในร่างกายได้ไม่มีผิดเพี้ยน”
หมอพิษหูชิงหนิวอุทานอย่างตกใจ ราวกับว่าเห็นลู่ทางที่ดีกว่าแล้ว
แต่ในตอนนี้ สสมุนไพรที่อยู่ในเตาทั้งหมดได้กลายเป็นยาที่ข้นเหนียว บนหน้าผากของเย่เซิ่งเทียนมีเม็ดเหงื่อเกิดขึ้น
ในขั้นตอนของการหลอมยาสำเร็จแล้ว ในขั้นตอนถัดไปนั่นก็คือรวมยา!
อย่างที่พูด การที่จะทำให้ยาที่ข้นเหนียวในเตากลั่นยารวมตัวกันกลายเป็นรูปทรงของยาเม็ด
ในขั้นตอนนี้จะต้องอาศัยทักษะในการควบคุมไฟในระดับสูงมาก!
ถ้าไฟแรงเกินไปยาที่ข้นเหนียวก็จะไม่จับตัวเป็นเม็ด ถ้าไฟอ่อนจนเกินไปก็จะไปไม่ถึงจุดที่ยาจะแข็งตัว
ดังนั้นการที่จะควบคุมไฟอย่างไร จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
สมาคมทางการแพทย์ในตอนนี้ เนื่องจากวิชาควบคุมไฟได้สูญหายไปนานแล้ว ดังนั้นการปรุงยาเช่นนี้สำหรับพวกเขาแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะพวกเขาไร้หนทางในการควบคุมไฟ
ดังนั้นหมอเทวดาทั้งหกจึงไม่เชื่อว่าเย่เซิ่งเทียนจะสามารถปรุงยาตัวเดียวกันนั้นขึ้นมาได้ ก็เพราะว่าพวกเขารู้ดีกว่าใคร โดยเฉพาะยาที่มีประสิทธิภาพดี ก็ยิ่งต้องการการควบคุมไฟที่แม่นยำ
แต่ว่าตอนนี้วิชาควบคุมไฟได้สูญหายไปนานแล้ว ก็เหมือนกับในบันทึกหลู่ปันที่ศาสตร์มหัศจรรย์บางอย่างในนั้นได้สูญหายไปนานแล้ว ไม่มีใครสามารถทำได้ ที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบันก็เป็นตำราที่ดัดแปลงมาตามราชวงศ์
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งต้องห้าม!
ของของบรรพบุรุษแบบนั้น ไม่ใช่แค่ว่าไม่มีอยู่ แต่สาบสูญไปแล้ว
ในวันนี้เย่เซิ่งเทียนแสดงวิชาควบคุมไฟอีกครั้ง หกหมอเทวดาจะไม่ตกใจได้ยะงไง?
“จะสำเร็จแล้วใช่ไหม?”
เผยชุนชิวกลืนน้ำลายหนึ่งอึก เป็นกังวลมากกว่าเย่เซิ่งเทียนเสียอีก
“กำลังจะปิดผนึกเตา หลังจากปิดผนึกเตาแล้ว ก็ต้องอาศัยความสามารถที่แม่นยำของหมอที่มีต่อการควบคุมไฟและความเข้าใจที่มีต่อฤทธิ์ยา”
ตอนที่โก้วหวยพูด มืแทั้งสองข้างก็สั่นพร่า
ปิดผนึกเตา!
นี่เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการปรุงยา อีกทั้งยังเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุด!
ปิดผนึกเตา ก็เพื่อที่จะทำให้ฤทธิ์ยาทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ภายในเม็ดยา ป้องการการสูญเสียของฤทธิ์ยา
หมอที่ปรุงยาในตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะปิดผนึกเตาได้ แต่ว่ากำรเลียนแบบเพียงภำยนอกแบบผิวเผินเท่านั้น ทำมั่วซั่ว
“ปิดผนึกเตาแล้ว? ได้เด็กเวรนั่นคงจะไม่ได้ทำสำเร็จจริงๆหรอกใช่ไหม? ยอมให้มันทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด! ขอแค่ขัดจังหวะตอนมันปิดผนึกเตา มันก็จะไม่มีทางทำสำเร็จได้!”
ตัวแทนตระกูลกู่พูดด้วยสายตาที่ชั่วร้ายว่า: “คงไม่ไ้ด้จะใช้โอกาสนี้ นำเอายาเม็ดที่แอบซ่อนไว้แต่แรกมาใส่ใว้ข้างในหรอกใช่มั้ย? แกเล่นมายากลหรือไง?”
คนจากตระกูลผู้ดีเหมือนมีแสงสว่างขึ้นทันที
ข้อแก้ตัวที่ดี!
“ไม่ผิดแน่ พวกเราต้องตรวจสอบเตากลั่นยา!”
ตัวแทนตระกูลซุนพูด
ขอแค่ขัดจังหวะตอนปิดผนึกเตาได้ เย่เซิ่งเทียนก็จะไม่มีทางทำสำเร็จได้!!!