Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 615 ข่มขู่คุณเย่ คุณคิดว่าตนเองเป็นใคร
เฉินซือเลี่ยงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นายหญิงของฟ้าสยบของพวกเขาเกือบจะถูกเพย์บอยโง่เขลาเหล่านี้หมิ่นเกียรติแล้ว!
แล้วยังเป็นเมืองโมตูที่เขาเป็นคนรับผิดชอบอยู่!
นี่เป็นความอัปยศสำหรับเขาเฉินซือเลี่ยง!
เป็นความอัปยศสำหรับฟ้าสยบ!
เขายังไม่โอกาสที่จะเปิดเผยสถานะของตนเองต่อเย่เซิ่งเทียน ก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นก่อน แล้วต่อไปเขาจะเผชิญหน้ากับเย่เซิ่งเทียนอย่างไร และเขาจะอยู่ในฟ้าสยบได้อย่างไร?
“แม่งฉิบหาย แกกำลังรนหาความตาย!”
ปกติเฉินซือเลี่ยงเป็นคนที่มีความยับยั้งใจ แต่ขณะนี้เขาโกรธจนพูดจาหยาบคาย!
แม้แต่ตอนที่ตระกูลไป๋ล่วงเกินเย่เซิ่งเทียนและหวางซี เขาก็ยังไม่โกรธมากขนาดนี้!
โชคดีที่สัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ยังไม่ได้ลงมือ มิฉะนั้นไม่กล้าจินตนาการผลที่จะตามมา!
“คุณเย่ โปรดยินยอมให้ผมฆ่าสัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ด้วยเถอะ!”
ตอนนี้ซ่งหยวนลี่ตระหนักได้ว่าเขาทำผิดใหญ่หลวงขนาดไหน!
ถึงแม้ว่าตระกูลซ่งจะสามารถบีบบังคับตระกูลหลี่ที่อยู่เบื้องหลังหวางซีได้ แต่นึกไม่ถึงว่าเขยแต่งเข้าที่ไม่เอาถ่านในสายตาของเขา จะทำให้เฉินซือเลี่ยงให้ความเคารพมากขนาดนี้!
ในที่สุดเขาก็คิดได้
สถานะของเย่เซิ่งเทียนที่เขาตรวจพบ เป็นเพียงสถานะผิวเผินเท่านั้น เพื่อให้คนอย่างพวกเขาได้เห็น!
สถานะที่แท้จริงของเย่เซิ่งเทียน ไม่ใช่คนที่เขาสามารถยั่วยุได้!
ตอนนี้ เขารู้สึกได้ถึงร่องรอยของความกลัวอยู่ในส่วนลึกในใจ
ร่องรอยของความกลัวนี้ค่อย ๆ เข้าครอบงำหัวใจของเขา แม้กระทั่งมือและขาทั้งคู่ที่เจ็บปวด ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกแล้ว
คราวนี้เขาสร้างปัญหาแล้ว เป็นปัญหาที่ใหญ่หลวง!
แม้แต่ตระกูลซ่ง ก็อาจไม่สามารถปกป้องเขาได้!
“ปล่อยผมไปเถอะ ผมรู้ตัวว่าผิดแล้ว ผมลุ่มหลง หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องโลกีย์ ผมยินดีที่จะชดใช้ ปล่อยผมไปเถอะ คุณเย่ ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว ผมยอมรับผิด ผมถึงจะเป็นคนที่ไม่เอาถ่านจริง ๆ ผมเป็นคนโง่เขลา ปล่อยผมสักครั้งเถอะ”
ซ่งหยวนลี่รู้สึกกลัวแล้ว
“เป็นราชาไม่ใช่หรือ? แกเป็นกฎหมายไม่ใช่หรือ? แกเป็นเทพเจ้าไม่ใช่หรือ? แกยังรู้จักความกลัวด้วยเหรอ?”
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ในที่สุดเย่เซิ่งเทียนก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“อาศัยอำนาจของตระกูลซ่งรังแกภรรยาของผมใช่ไหม? การโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว ก็สามารถแบล็กลิสต์บริษัทภรรยาของผมใช่ไหม? มาสิ ทำให้ผมเห็นว่าตระกูลซ่งของแกแข็งแกร่งเพียงใด และภูมิหลังของตระกูลซ่งของแกยิ่งใหญ่เพียงใด!”
คำพูดเหล่านี้ ทำให้หัวใจของซ่งหยวนลี่จมดิ่งสู่ก้นบึ้ง และรู้ว่าเย่เซิ่งเทียนไม่ปล่อยตนเองไปอย่างแน่นอน เขากัดฟันและกล่าวว่า “คุณเย่ การที่ผมคิดชั่วกับภรรยาของคุณนั้นมันเป็นความผิดของผม แต่ตอนนี้เรื่องมันยังไม่เกิด มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดเท่านั้น คุณจำเป็นต้องบีบบังคับผมขนาดนี้เชียวเหรอ? ”
“ถึงแม้ผมจะไม่รู้สถานะที่แท้จริงของคุณ แต่ตระกูลซ่งของผมก็ใช่ว่าจะรังแกได้ง่าย ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซ่งคือตระกูลกู่ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลเก่าแก่ ผมหวังว่าคุณจะคิดไตร่ตรองสักนิด ต่อหน้าผมแล้วพลังอำนาจของคุณอาจไม่ธรรมดา แต่ต่อหน้าตระกูลกู่แล้ว คุณไม่สามารถถือเป็นอะไรได้!”
“อ้อ? จริงเหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนยิ้มแล้ว
ดวงตาเต็มไปด้วยการเสียดสี
เดิมทีเขาคิดจะไปที่ตระกูลกู่อยู่แล้ว แต่นึกไม่ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซ่งจะเป็นตระกูลกู่ น่าสนใจจริง ๆ
“ผมจะต้องไปตระกูลกู่อย่างแน่นอน แต่คืนนี้ผมขอจัดการเรื่องที่แกรังแกภรรยาของผมก่อน”
ซ่งหยวนลี่รู้สึกสิ้นหวังและคำรามอย่างบ้าคลั่ง “เย่เซิ่งเทียน แกต้องฆ่าให้สิ้นซากหรือ? ถ้าแกฆ่าฉันแล้ว มันจะมีผลดีกับแกอย่างไร! เมียของแกเป็นเพียงผู้หญิงที่หน้าตาสวยคนหนึ่ง ซึ่งทำให้คนอื่นรู้สึกดีกับเธอมันก็เป็นเรื่องปกติ และฉันก็ยังไม่ได้ทำสำเร็จ แกจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?”
“ถ้าตอนนี้แกปล่อยฉันไป ตระกูลซ่งยินดีที่จะชดเชยและขอโทษ ถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตระกูลซ่งจะยังคงสนับสนุนตระกูลหลี่เพื่อเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองโมตูแต่ถ้าแกฆ่าฉัน ตระกูลซ่งก็จะไม่ยอมรามือ!”
เพี๊ยะ!
เฉินซือเลี่ยงตบหน้า ซ่งหยวนลี่อีกครั้ง ทำให้ใบหน้าของเขามีแต่รอยแตกและเต็มไปด้วยเลือด และกล่าวด้วยความโมโหว่า “ข่มขู่คุณเย่ แกคิดว่าตนเองเป็นใคร?”