Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 796 การยุแหย่
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 796 การยุแหย่
ทันใดนั้น การต่อสู้ครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้น!
รอยหมัดและรอยฝ่ามือโบกสะบัดไปมา เงาคนวาบไปมา แล้วรวมตัวกัน
ฝั่งหยู่ไห่ มีคนเหนือโลกีย์สิบเอ็ดคนลงมือพร้อมกัน แต่เห็นได้ชัดว่าสู้เย่เซิ่งเทียนไม่ได้
แม้ว่าฝั่งเย่เซิ่งทียนจะมีแค่คนห้าคน แต่พลังกลับเหมือนรุ้งกินน้ำ ไม่ได้เห็นพวกหยูไห่อยู่ในสายตาเลย
กู่ชางหลงกับมู่หุนล้วนเป็นผู้กล้าเหล่าแก่ เมื่อหยูไห่อยู่ต่อหน้าพวกเขาทั้งสองคน ไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาหรอก
กัวปิงสู้กับคนสองคน สิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจก็คือ ความสามารถของเหล่าอินไม่อ่อนแอเลย เมื่อเผชิญหน้ากับคนเหนือโลกีย์ทั้งสองคน เขาไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย
รูปแบบการต่อสู้ดุเดือดมาก เมื่อเผชิญหน้ากับคนเหนือโลกีย์ทั้งสองคน ถูกเขากดขี่
และในเวลานี้ เย่เซิ่งเทียนกลับจับตาหยูไห่คนเดียว เมื่อสักครู่เขาอยากทำให้ไอ้แก่นี่ตาย
เขายังคงออกคำสั่งอยู่ข้างนอก ท่าทางเหมือนเสร็จเขาแน่ๆ ตอแหลทำไมเนี่ย!
“ไอ้แก่ เมื่อกี้ตอแหลจนพอใจแล้วใช่ไหม?คิดว่าจะจัดการฉันได้สินะ?”
เย่เซิ่งเทียนซัดหมัดไปที่หยูไห่ เมื่อครู่ถ้าไม่ได้ฝ่ามือมังกร ก็จะถูกไอ้แก่นี่ลากจนตาย
“เย่เซิ่งเทียน อย่าคิดว่าฉันกลัวแกนะ ตอนนี้ยังไม่ถึงท้ายที่สุด พวกแกอาจจะไม่ชนะก็ได้”
หยูไห่โมโห เย่เซิ่งเทียนเป็นคนรุ่นหลัง ตอนนี้กำลังไล่ทำร้ายเขาอยู่ ถ้าไม่ได้กลัวว่ากลัวพวกกู่ชางหลงว่าจะลงมือกับเขา คงไม่ต้องถูกเย่เซิ่งเทียนกดขี่แบบนี้
“จะชนะหรือไม่ชนะค่อยว่ากัน กูก็จะขอฆ่ามึงก่อน!”
เย่เซิ่งเทียนฝ่ามือออกไป หยูไห้ไม่สามารถหลบได้ จึงต้องกระทบกับฝ่ามือ พลังมหาศาลทำให้เขาตกใจมาก
กล้ามเนื้อของเย่เซิ่งเทียนทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้
ทำไมถึงมีแรงเยอะขนาดนี้?
แต่แล้วก็ไม่รอให้เขาได้คิดอะไร เย่เซิ่งเทียนก็ยกเข่าแล้วกระแทกไปที่หน้าอกของเขา แล้วชนหัวเข้ากับหัวของอีกฝ่าย
เป็นวิธีการต่อสู้ที่ไม่คิดชีวิต
หยูไห่รีบขวางไว้ แล้วกล่าวออกไปว่า“เย่เซิ่งเทียน ฉันเองก็ถูกบีบให้หมดหนทางเหมือนกัน ตอนแรกฉันไม่อยากลงมือแก แกกับฉันไม่เคยมีความแค้นกัน ทำไมถึงไม่เปลี่ยนจากสงครามการต่อสู้เป็นสันติภาพ?เชื่อฉันเถอะ ถึงพวกแกจะต่อสู้เก่ง แต่ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีไม่ได้ต่อกรง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นเบื้องหลังของตระกูลเก่าแก่ผู้ดียังมีตระกูลลี้ลับ เราร่วมมือกัน ถึงจะมีโอกาสชนะ”
ใบหน้าของเย่เซิ่งเทียนเต็มไปด้วยคราบเลือด แล้วหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง พลางกล่าวตำหนิว่า“ไอ้แก่ แอบส่งเสียงมาขอร้องให้ฉันปล่อยไปงั้นหรอ?แกกำลังหักหลังเพื่อนร่วมทีมงั้นหรอ?ก็ได้ ขอแค่แกช่วยฉันฆ่าคนเหนือโลกีย์หนึ่งคนของฝั่งพวกแก ฉันก็จะยอมเชื่อแกเหมือนกัน”
หยูไห่ตกใจเป็นกันใหญ่ สีหน้าเปลี่ยนไป
เขาคิดไม่ถึง เย่เซิ่งเทียนจะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป
เขาคิดว่าจากความสามารถของตัวเอง ขอแค่ตนยินยอมที่จะขอความช่วยเหลือ เย่เซิ่งเทียนจะยอมรับอย่างแน่นอน
แต่คิดม่ถึงว่า เย่เซิ่งเทียนจะเปิดเผย
เมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็จะกลายเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์!
“อย่าฟังเขาเหลวไหล เขากำลังยุแหย่นะ”
หยูไห่ถึงกับร้อนรน ยืนกรานไม่ยอมรับ
ไม่อย่างงั้นถึงเย่เซิ่งเทียนจะไม่ได้ฆ่าเขา คนของฝั่งเขาไม่มีทางปล่อยเขาไปหรอก
“ไอ้แก่ ไม่มีแม้แต่ความกล้า ยังอยากให้ฉันเชื่อใจแกงั้นหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเป็นกระบวนท่าธรรมดา แต่กลับเป็นท่าไม้ตายของเขา
หยูไห่รู้สึกสับสน ทันใดนั้นก็ถูกเย่เซิ่งเทียนกดดัน จนถอยหลังไปเรื่อยๆ
“พวกแกยังคิดจะก่อเรื่องวุ่นวายอีกงั้นหรอ?หยูไห่ไอ้หมาแก่ไม่รู้จักตาย อยากจะยกธงยอมแพ้ เมื่อกี้พูดกับฉัน จะเปลี่ยนจากสงครามเป็นความสันติ ไอ้พวกโง่ ถูกคนขายไปแล้วยังช่วยคนอื่นนับเงินอีก!”
เดิมทีเย่เซิ่งเทียนเหมือนจะสลายจิตวิญญาณการต่อสู้ของคู่ต่อสู้ และระงับขวัญกำลังใจของคู่ต่อสู้
คิดไม่ถึงว่าหยูไห่จะทำท่ามึนงงเช่นนี้
ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนเชื่อ ด้วยวิธีนี้ ทุกคนจึงระแวดระวัง
บางครั้งการพังทลายความเชื่อมั่น ก็เป็นเรื่องเล็กมากๆ
พูดตรงๆก็คือ ไม่มีใครอยากตาย
กลายเป็นคนเหนือโลกีย์ มีใครบ้างไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ?
แม้ว่าพวกเขาจะสงสัยว่าอาจจะเป็นความตั้งใจของเย่เซิ่งเทียน แต่ภายในใจของเขากลับมีความคิดบางอย่าง
ถ้าสิ่งที่เย่เซิ่งเทียนพูดเป็นเรื่องจริงล่ะ?
ในเวลานี้เอง กู่ชางหลงพูดอย่างเรียบเฉย“หยู่ไห่ เย่เซิ่งเทียนไม่อยากปล่อยแกไป ดังนั้นแกเลยมาขอร้องฉันอย่างงั้นหรอ?ตอนนั้นฉันเห็นว่าแกไม่ใช่คนดีอะไร เป็นแค่คนขี้ขลาด ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ เป็นไปตามคาดแกมันก็เป็นแค่คนขี้ขลาด”
เมื่อกู่ชางหลงพูดออกไป คนอื่นๆก็ถึงกับโกรธ มีบางคนเฝ้าระวัง แล้วกล่าวตำหนิไปด้วย“หยูไห่ แกจะหักหลังฉันอย่างงั้นหรอ?เมื่อกี้ฉันสัมผัสได้ว่ามีเสียงนี้ดังขึ้น!”
เย่เซิ่งเทียนฟาดหมัดไปที่หัวของหยูไห่ แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน“ไอ้โง่ พึ่งรู้อย่างงั้นหรอ?หยูไห่หักหลังพวกแกไปแล้ว!”