Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 857 มักจะมีขยะจำพวกหนึ่ง
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 857 มักจะมีขยะจำพวกหนึ่ง
หลี่หลานตบบ่าของเย่เซิ่งเทียนแล้วพูดว่า“ลูก ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เคยเจอแม่นายมาก่อน แต่ฉันเชื่อนะว่า แม่ของนายจะต้องคิดเหมือนกับฉัน ถึงตัวเองจะต้องลำบากหน่อย ก็ต้องให้นายได้มีชีวิตที่ดี พ่อแม่ทั้งโลกก็เหมือนกันหมดแหละ คาดหวังว่าลูกของตัวเองจะอยู่อย่างปลอดภัย ฉันรู้นะว่า บางเรื่องนายจำเป็นต้องไปทำ แต่รับปากฉันได้ไหม นายจะดูแลตัวเองให้ดี”
เย่เซิ่งเทียนดวงตาแดงก่ำ พยักหน้าอย่างหนักแน่น
หวางซีบ่น“แม่คะ ดูแม่สิ กว่าเราจะมีโอกาสได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันมันไม่ง่ายเลยนะคะ ทำบรรยากาศอึดอัดทำไมกัน?เซิ่งเทียนไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย เขารู้จักแยกแยะค่ะ”
ซีซีที่อยู่ข้างๆรีบพยักหน้ากล่าว“จริงด้วยค่ะๆ แม้แต่หนูเองก็ไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะคะ”
หลี่หลานทั้งโกรธและขำ“กินน่องไก่เธอไปเถอะ ยัยจิ๋วใจดำจริงๆ แก่แดดจริงๆ”
“แบร่ๆๆ”
ซีซีทำหน้าผี หลังจากนั้นก็จัดการกับน่องไก่ด้วยสีหน้าจริงจัง
มองดูซีซีกินอย่างเอร็ดอร่อย เย่เซิ่งเทียนกับหวางซีอดมองตากันไม่ได้ ในสายตาของพวกเขาสามารถดูออก สามีภรรยาคู่นี้ต่างกำลังบอกว่า“เด็กคนนี้จะต้องได้รับการถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจากคุณแน่ๆ ตอนเด็กฉันไม่ได้เป็นแบบนี้”
เด็กคนนี้ทำอะไรไม่เก่งสักอย่าง แต่เรื่องกินต้องยกให้ที่หนึ่งเลย
หลังจากกินเสร็จ ทั้งครอบครัวก็พากันไปดูหนัง
นี่เป็นช่วงเวลาที่หาได้ยาก และเป็นเวลาที่เย่เซิ่งเทียนยากจะหาโอกาสได้พักผ่อนเช่นกัน
ดังนั้นทุกคนจึงหวงแหนมันมาก
จากนี้ไป อาจจะไม่มีเวลาได้อยู่กับคนในครอบครัวมากขนาดนี้แล้ว
และทางด้านหยางทาว ก็รู้ว่าต่อจากนี้ไปเย่เซิ่งเทียน อาจจะไม่มีเวลาแม้แต่จะได้กลับบ้าน ดังนั้นเขาจึงไม่ติดต่อเย่เซิ่งเทียน และไม่ให้คนอื่นๆติดต่อเขาเช่นกัน
เรื่องของทางด้านอเม เขาจะแอบสั่งการให้หอมังกรเทพไปเจรจาเอง
หนังที่ดูกันก็คือเรื่อง《ยุทธการทะเลสาบฉางจิน》
เมื่อพวกเขาเห็นประติมากรรมน้ำแข็ง ดวงตาของทุกคนก็แดงก่ำ
ตอนนั้น ต้าเซี่ยจนมากจริงๆ และลำบากข้นแค้นมาก
หลี่หลานเช็ดน้ำตาแล้วกล่าวว่า“คนรุ่นก่อนได้ทนทุกข์ทรมานจากรุ่นสู่รุ่นมาหลายชั่วอายุคน เพื่อให้เรามีความเป็นอยู่ที่ผาสุก โลกใบนี้ไม่สงบสุขอย่างที่คิด ที่อยู่อย่างสงบสุขคือต้าเซี่ยของเรา นี่คือสิ่งที่คนรุ่นก่อนสู้เพื่อให้ได้มันมา เซิ่งเทียน นายเองก็เป็นนักรบ อีกทั้งตำแหน่งยังสูงส่ง ดังนั้นภาระหน้าที่ของนายจึงใหญ่หลวง นายจะทำอะไรก็รีบไปทำเถอะ ฉันจะคอยสนับสนุนนายเอง ฉันกับซีเอ๋อร์จะเฝ้าดูแลครอบครัวนี้เอาไว้เป็นอย่างดี ความสงบสุขที่แลกมาด้วยชีวิตของบรรพบุรุษจะไม่มีวันสูญหายไปในมือของเรา”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างยิ้มๆ“คุณแม่ครับ ผมทราบดีครับ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับ คนอย่างเราๆจะต้องปกปักรักษาบ้านเมืองนี่เอาไว้อยู่แล้ว สถานการณ์ในอดีต จะไม่มีทางเกิดขึ้นซ้ำรอยแน่นอน เราจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด”
ในเวลานี้เอง มีเสียงที่แหลมเสียดแก้วหูขึ้นมา“นี่มันเวอร์เกินไปรึเปล่า?คนปกติที่ไหนจะถูกแช่แข็งเป็นไอติมแบบนี้?มีสามัญสำนึกหน่อยสิ?หนังในประเทศทำไมยิ่งอยู่ยิ่งไร้สาระแบบนี้ นอกจากส่งเสริมความรักชาติและทำละครจักรๆวงๆ ทำอะไรไม่เป็นแล้วรึไง?ยังคงเป็นหนังของอเมสนุกกว่า”
“เมื่อไรจะถ่ายทำหนังให้มันดูสมจริงกว่านี้?ที่เราชนะได้ในตอนนั้น ไม่ได้พึ่งพาคนที่แข็งตายพวกนี้หรอกนะ แต่เพราะชาวอเมริกันไม่ต้องการต่อสู้กับสงคราม อีกทั้งที่เราชนะมาได้ ก็เพราะกำลังคน ล้มตายกันไปจำนวนมาก”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลี่หลานก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ทันที เธอลุกขึ้นมาชี้ไปที่วัยรุ่นคนนั้น“ยังมีจิตสำนึกกันอยู่บ้างไหม?รู้จักประติมากรรมน้ำแข็งไหม ประวัติศาสตร์นั่นเป็นเรื่องจริง!อีกอย่าง อะไรที่เรียกว่าอาศัยคนจำนวนมาก?พูดอะไรผ่านสมองหน่อยไหม?ไม่รักประเทศไม่ส่งเสริม เรารักประเทศจะส่งเสริมหน่อยจะเป็นอะไรไป?วัยรุ่นสมัยนี้ พูดอะไรน่าเกลียดจริงๆ?”