Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 861 พญาดำ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 861 พญาดำ
“พญาดำ เพื่อเย่เซิ่งเทียนคนเดียว ถึงกับลงมือด้วยตัวเอง ให้ความสำคัญเขามากเกินไปรึเปล่า?เรื่องเล็กๆแบบนี้ มอบให้เป็นหน้าที่ของหนึ่งใน12 เทวดา ก็พอแล้ว”
ชายสวมชุดคลุมยาวสีขาว บนใบหน้าสวมหน้ากากไว้ บนหน้ากากสีขาวมีตัวเลข“สิบ”ถามอย่างสงสัย
ชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีดำส่ายหัวและพูดว่า “แกไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าพวกแกจะเก่งกว่าเย่เซิ่งเทียน แต่ไม่สามารถทำให้เย่เซิ่งเทียนรู้สึกกดดันหรือสิ้นหวัง และไม่สามารถทำให้เลือดเทพอย่างที่สองในร่างกายของเขาให้ปะทุขึ้นมาได้”
ชายที่สวมหน้ากากสีขาวถามอย่างไม่เข้าใจว่า“พญาดำครับ ทำไมถึงไม่ลงมือตรงๆเลยล่ะครับ?จากความสามารถของนาย ขืนลงมือไป เย่เซิ่งเทียนไม่มีโอกาสได้รู้สึกตัวด้วยซ้ำ”
พญาดำอธิบายอย่างอดทน“คนสิ้นหวังคนหนึ่ง บางครั้งอาจไม่ต้องแสดงพละกำลัง แต่เป็นการวางแผนใช้วิธี พลังที่แสดงในครั้งเดียวนั้นทรงพลังเกินไป และอาจบดขยี้เย่เซิ่งเทียนตรงๆ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ”
“จุดประสงค์ของเทพอาวุโสทั้งห้าก็คือทำให้เลือดเทพอย่างที่สองในร่างกายของเย่เซิ่งเทียนปะทุขึ้นมาให้ได้ ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีสกปรก ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง หลังจากนั้นก็ทำให้เขารู้สึกอยากแก้แค้น เพื่อปลุกเร้าเลือดเทพ”
“ในการทดลองครั้งก่อนของเรา การทำให้ตัวทดลองสิ้นหวังเกินไปหรือได้รับความกดดัน ไม่สามารถกระตุ้นเลือดเทพออกมาได้ ความสิ้นหวังจะต้องมีความหวังเล็กน้อย รอเขาปีนป่ายขึ้นมาได้ แล้วก็ค่อยๆตัดความหวังของเขา นี่เป็นสิ่งที่ทรมานคนมากที่สุด”
ชายสวมหน้ากากรู้สึกขนลุกซู่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การไร้ความหวัง แต่เป็นการให้ความหวังทีละเล็กละน้อย แล้วสุดท้ายก็ดับความหวังนั้นไป มันเป็นการทำร้ายจิตใจคนคนหนึ่งมาก เป็นการทำลายคนคนหนึ่งไปเลย
พญาดำหัวเราะ“รู้รึยังว่าทำไมฉันถึงต้องมาด้วยตัวเอง?แกไม่สามารถควบคุม12 เทวดาได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการควบคุม ถ้ามันมากเกินไปเย่เซิ่งเทียนก็จะถูกบดขยี้จนตาย หากน้อยเกินไปก็จะไม่สามารถกระตุ้นเลือดเทพในกายของเขาออกมาได้ อีกเดี๋ยวให้เหล่าทหารไปก่อน จากนั้นค่อยให้ผู้พิทักษ์ออกโรง แล้วนายก็ค่อยลงมือ เข้าใจไหม?ถ้าผู้พิทักษ์ได้ออกโรง เย่ห้าวต้องตายแน่ และในตอนที่นายลงมือ เหล่าลูกน้องหอมังกรเทพของเย่เซิ่งเทียนต้องตายให้หมด”
ทูตเทพหมายเลขสิบพยักหน้า
เขาไม่เพียงแต่เห็นใจเย่เซิ่งเทียน
ถ้าเขาเผชิญหน้ากับความยากเข็ญระดับนรก คงไม่อาจยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้
แต่เย่เซิ่งเทียนเติบโตขึ้นมาในสถานการณ์ที่สิ้นหวังตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงตอนนี้เขายังสามารถรักษาสติไว้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ถ้าป็นเขา คงจะพังไปนานแล้ว
ไม่น่าแปลกใจที่พญาดำต้องการลงมือด้วยตนเอง พวกเขาไม่สามารถควบคุมระดับนี้ได้จริงๆ
หลายพันปีก่อน สรวงสวรรค์ได้บ่มเพาะตัวทดลองนับไม่ถ้วน และเย่เซิ่งเทียนก็เป็นคนแรกที่คลุกคลานมาจากความสิ้นหวังอันใหญ่หลวง
ถึงแม้เย่หลงในตอนนั้นจะต้องพบกับความสิ้นหวัง แต่ก็ดีกว่าเย่เซิ่งเทียนเล็กน้อย
ในขณะเดียวกัน
เจียงลั่วเสินอดีตจอมพลขมวดคิ้ว ภายในใจเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ
เย่จิงหงรู้จักจอมพลอย่างเขาดี จึงเอ่ยถามว่า“พี่ครับ มีปัญหาอะไรหรอครับ?”
เจียงลั่วเสินพูดอย่างระมัดระวังว่า“มันดูผิดปกติน่ะ ฉันรู้สึกไม่สบายใจ อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น พวกนายจับตาดูหวางซีกับซีซีให้ดีนะ นั่นเป็นดวงใจของเซิ่งเทียนเชียวนะ ห้าวเอ๋อร์ นายไปรับหวางซีพวกเขานะ อารักขาพวกเขากลับไป ฉันจะคอยสุ่มดู”
เย่ห้าวพยักหน้าหงึกหงัก
เดิมทีเขาอยากไปเยี่ยมหวางซีกับซีซีอยู่แล้ว เขาชอบซีซีมาก ดูบ๊องๆหน่อย เหมือนกับเขาตอนเด็กมาก ไม่ใช่เด็กแก่เรียน
เพียงเพราะเย่เซิ่งเทียนกลับมา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าไป
เขากลัวจะพบเจอกับลูกชาย