Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 908 ผมขาวเหมือนหิมะ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 908 ผมขาวเหมือนหิมะ
เย่เซิ่งเทียนเป็นลมแล้ว
ซึ่งทำให้ทุกคนตกใจกันหมด
ไม่มีใครคิดเลย ว่าเย่เซิ่งเทียนจะเป็นลม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจียงลั่วเสินกับกัวปิงและคนอื่นๆ แม้ว่าแดนของเย่เซิ่งเทียนคือแดนเหนือโลกีย์ แต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงมาถึงแดนลอยเมฆแล้ว
เย่เซิ่งเทียนที่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่คิดว่าจะเป็นลมได้ พูดออกไปใครจะไปเชื่อล่ะ?
เย่จิงหงและคนอื่นๆรีบเข้ามาทั้งหมด หร่วนซื่อสงเริ่มดูแลในพื้นที่ต่อ ให้คนบางส่วนหลีกไป และออกคำสั่งให้ปิดข่าว หากใครกล้าเผยแพร่ออกไป ฆ่าสถานเดียว
อาการของเย่เซิ่งเทียน เป็นความลับสุดยอดของประเทศต้าเซี่ยในปัจจุบัน
ก่อนที่ตัวตนของเจ้าเทพของเย่เซิ่งเทียนจะเปิดเผย คนที่รู้ตัวตนของเขา ทั้งประเทศต้าเซี่ยมีเพียงแค่ขุนหลวง กัวปิงและคนของหร่วนซื่อสงทั้งสามคน แม้แต่อดีตจอมพลเจียงลั่วเสินก็ยังไม่รู้เลย
ตอนนี้แม้ว่ามีหลายคนรู้แล้ว แต่อาการของเย่เซิ่งเทียน ยังคงเป็นความลับสุดยอด
รู้ความจริงเรื่องหนึ่ง แพร่กระจายออกไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“ทุกคนเป็นคนฉลาด ฉันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก พวกคุณสามารถเข้าร่วมงานศพได้ ล้วนแล้วเป็นคนที่ควรค่าแก่การเชื่อใจ ฉันเชื่อว่า พวกคุณจะไม่แพร่งพรายสถานการณ์ที่นี่ออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการสลบของเจ้าเทพเย่”
ดวงตาที่เย็นชาของหร่วนซื่อสงกวาดมองไปรอบๆ ผู้คนรีบพยักหน้า
ใครไม่รู้ คนเจ้าเล่ห์อย่างหร่วนซื่อสงดูนิ่งสงบ แต่ในความจริงมีโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่ใช่คนที่ใจดีเลย
“ถ้ามีใครกล้าปล่อยข่าวออกไป ตราบใดที่สืบค้นเจอ ก็จะถูกตัดสินมีความผิดฐานกบฏ และมีโทษประหารชีวิต”
ทุกคนตกใจจนตัวสั่น รีบบอกกล่าวว่าตัวเองไม่มีทางปล่อยข่าว อีกอย่างยินดีที่จะลงนามข้อตกลงที่จะเก็บรักษาความลับไว้
หร่วนซื่อสงโบกมือ “ข้อตกลงรักษาความลับก็ช่างมันเถอะ ฉันเชื่อว่าพวกคุณจะไม่ปล่อยข่าวออกไป แยกย้ายเถอะ พวกคุณเข้าร่วมงานศพได้ ฉันขอขอบคุณพวกคุณทั้งหลายแทนเจ้าเทพเย่ด้วย ต่อไปพวกเราทั้งสองฝ่ายยังมีโอกาสร่วมงานกันอีก ขอเพียงแค่พวกคุณไปทำหน้าที่อันพึงกระทำ พวกเราก็ไม่มีทางหยุดพวกคุณจากการหารายได้หรอก”
เมื่อเตือนคนเหล่านี้เสร็จแล้ว หร่วนซื่อสงก็ไม่สนใจพวกเขาว่าพวกเขาจะพูดออกไปหรือไม่
ถ้าปล่อยข่าวออกไปจริงๆ ก็หาง่ายแล้ว
และในตอนนี้ เย่เซิ่งเทียนยังคงสลบอยู่
หัวเวิ่นยีร่วมมือกับหกหมอเทวดาแห่งหอรักษา ให้ทุกคนหลีกทาง และเริ่มตรวจร่างกายของเย่เซิ่งเทียน
เย่เซิ่งเทียนสลบไปในครั้งนี้ แม้แต่หยางทาวก็ตกใจเช่นกัน
เขาเดิมทีเขาไม่ได้มาเข้าร่วมงานศพเย่ห้าว เมื่อรู้ว่าเย่เซิ่งเทียนเป็นลม เขารีบวางงานในมือและวิ่งเข้ามาหาเลย
“ขุนหลวง”
ผู้คนรีบทักทาย
หยางทาวโบกมือและกล่าวว่า “เสี่ยวเย่เป็นยังไงบ้าง? ทำไมจู่ ๆถึงเป็นลมไปได้?”
หวางซีรู้สึกแย่จนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
เย่จิงหงพูดด้วยสีหน้าเศร้าใจ “พวกหมอเทวดาหัวอยู่ข้างใน แผลเก่าของเด็กคนนั้นยังไม่หายดี และต้องการให้ตัวเองเป็นประธานในพิธีงานศพพ่อของเขาเป็นการส่วนตัวด้วย……โธ่”
ไม่พูดอะไรเยอะ ทุกคนก็เข้าใจ
นี่คือแผลเก่ากำเริบ บวกกับความเศร้าที่มากเกินไป เจ็บปวดไปจนถึงก้นลึกของหัวใจ
ไม่เช่นนั้นด้วยความแข็งแกร่งของเย่เซิ่งเทียนในตอนนี้ จะเป็นลมไปได้อย่างไร
ทุกคนต่างก็กระวนกระวายใจอยู่ด้านนอก
ถ้าหากเกิดเรื่องกับเย่เซิ่งเทียน แผนทุกอย่างก็จะพังลง
เย่เซิ่งเทียน คือความหวังของพวกเขากลุ่มนี้
แบกรับความคาดหวังของพวกเขาอยู่
“สรวงสวรรค์ชาติหมา”
จ้าวกั๋วจู้ด่าออกมาประโยคหนึ่ง เพียงแค่ทนไม่ได้ที่ตัวเองมีความแข็งแกร่งไม่พอ ไม่สามารถทำลายสรวงสวรรค์ได้
“ซีเอ๋อร์ คุณไม่ต้องกังวลใจเกินไป ด้วยความแข็งแกร่งของเซิ่งเทียน ไม่มีทางเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นหรอก ยิ่งกว่านั้นยังมีหัวเวิ่นยีและพวกเขาอยู่”
หยางทาวปลอบใจหวางซี และเข้าไปกอดซือซือ
ซือซือเบะปากน้อยๆไม่พูดไม่จา ทำให้คนรู้สึกปวดใจ
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ หัวเวิ่นยีถึงจะออกมา ทันใดนั้นก็ถูกผู้คนรายล้อมทันที
“ท่านหัว อาการของเย่เซิ่งเทียนเป็นอย่างไรบ้าง?”
หวางซีพูดประโยคหนึ่งออกมา พร้อมเสียงร้องไห้
หยางทาวและคนอื่นๆต่างก็รอคอยตาปริบๆ
หัวเวิ่นยีกล่าวอย่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อาจารย์หญิง ท่านอาจารย์ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เพียงแค่เสียใจมากเกินไป จนทำให้ปวดหัว อีกทั้งยังมีแผลเก่าที่ยังไม่หายดี ซึ่งทำให้เขาสะเทือนใจ จึงส่งผลให้เป็นลมไป
หวางซีถามอย่างระมัดระวังว่า “ฉันขอเข้าไปดูได้ไหม?”
หัวเวิ่นยีกล่าว “อาจารย์ต้องการการพักผ่อนในตอนนี้ อาจารย์หญิงคุณเข้าไปคนเดียวก็ได้ ส่วนคนอื่นๆรอก่อนนะครับ”
หวางซีอดใจไม่ไหวที่จะเข้าไป แต่เมื่อเห็นฉากของเย่เซิ่งเทียน เธอเกือบจะใจสลาย
สิ่งแรกที่เธอเห็น คือทั้งหัวของเย่เซิ่งเทียนเป็นสีขาวเต็มไปหมด