Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 919 เลี้ยงลูกแทนผู้ชายคนอื่น
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 919 เลี้ยงลูกแทนผู้ชายคนอื่น
พูดจบ เหย้ซูหลิงก็หัวเราะเบาๆและพูดว่า “เขามีผู้หญิงคนอื่นแล้ว งั้นเรื่องการหมั้นนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลก ฉันเหย้ซูหลิง หรือจะไปเป็นเมียน้อยให้เขา? หวางซีหญิงสาวธรรมดาคนนั้น ก็คู่ควรใช้สามีคนเดียวกับฉันงั้นเหรอ?
“ฉันจะไม่ให้เย่เซิ่งเทียน รู้เรื่องนี้ไปตลอดกาล วันนั้นเขาเกิดมีความสัมพันธ์กับใคร ฉันก็จะให้เขาทุกข์ทรมานไปทั้งชีวิต เหอะ คู่หมั้นว่าที่สามีของฉันเหย้ซูหลิง คิดไม่ถึงว่าจะมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น ไม่อาจให้อภัยได้ ฉันจะให้ในใจของเขา เหลือที่ไว้ให้ฉันที่หนึ่งตลอดไป ฉันจะกลายเป็นหนามทิ่มแทงในใจเขา”
ไอ้อู๋ถามอย่างไม่เข้าใจว่า “คุณหนู งั้นคุณจะยังให้เขามาอีกเหรอ? คิดจะร่วมมือกับเขางั้นเหรอ?”
เหย้ซูหลิงยิ้มอย่างชั่วร้ายและกล่าวว่า “ทำไมจะไม่ล่ะ? ไม่เห็นจะส่งผลกระทบอะไรสักหน่อย ยิ่งฉันมีผลกระทบกับเขามากเท่าไหร่ ในอนาคตเขาก็จะทนทุกข์มากขึ้นเท่านั้น”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเหย้ซูหลิง ไอ้อู๋อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน รู้สึกเจ็บปวดใจกับเย่เซิ่งเทียนแล้ว
คุณมาหาใครไม่หา ดันต้องมาร่วมมือกับคุณหนู นี่เป็นการพาตัวเองไปตายไม่ใช่หรือ?
ไอ้อู๋นับวันยิ่งมองไม่ทะลุปรุโปร่ง กับคุณหนูคนนี้แล้ว
แม้ว่าเป็นเพราะเย่เซิ่งเทียนมีภรรยาและลูกแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะหมั้นอีก งั้นทำไมยังต้องไปยั่วยุเย่เซิ่งเทียนด้วย?
หรือว่าจะหึง?
นี่ก็ไม่สามารถโทษเย่เซิ่งเทียนได้ เขาไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ
ตอนแรกคุณหนูไปเรียนโรงเรียนที่เย่เซิ่งเทียนอยู่ อยู่ห้องเดียวกันมา 3 ปี กลับไม่เคยคุยกันเลยสักประโยคเดียว
ถ้าคุณสนใจจริงๆ งั้นตอนแรกทำไมคุณถึงเย็นชาขนาดนั้น ครองตำแหน่งหนึ่งในใจตั้งแต่แรกไม่ดีเหรอ? ทำให้เย่อเซิ่งเทียนชอบตั้งแต่แรกไม่ดีเหรอ?
ตอนนี้คนเขามีภรรยามีลูกหมดแล้ว คุณกลับมาหึงหวง ไม่เข้าใจจริงๆว่าคุณหนูคนนี้คิดอะไรอยู่
ไอ้อู๋รู้สึกเห็นอกเห็นใจเย่เซิ่งเทียน ที่คุณหนูถูกเรียกว่าแม่มด ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลนะ
เหย้ซูหลิงเขียนหนังสือต่อ “ได้สิ งั้นคุณก็มา แต่ว่า ฉันมีข้อแม้ คุณและภรรยาของคุณยังไม่ได้แต่งงานใหม่ใช่ไหม?”
เย่เซิ่งเทียนอีกฝั่งหนึ่งตกตะลึง แม่มดคนนี้คิดอะไรไม่ดีขึ้นมาอีกล่ะ?
ก็ถามอย่างระมัดระวังว่า “เหมือนว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณหรอกมั้ง?”
เหย้ซูหลิงตอบกลับ “ฉันท้อง คุณต้องรับผิดชอบ”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างกลัดกลุ้มว่า “คุณท้องแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน? คุณก็ไปหาพ่อของเขาสิ อย่ามาพูดจาเรื่อยเปื่อยเรื่องพวกนี้กับฉัน แค่ประโยคเดียว สรุปว่าจะร่วมมือกันไหม”
เหย้ซูหลิงตอบ “พ่อของเขาเป็นผู้ชายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิง เป็นชายชั่ว เจ้าเทพเย่ผู้ยิ่งใหญ่ คุณใจกว้างขนาดนั้น และก็เคยมีประสบการณ์มีลูกมาก่อน สามารถดูแลลูกแทนฉันได้ ถ้าคุณรับปาก ไม่ใช่ว่าจะร่วมมือกันไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นคุณและหวางซียังไม่ได้แต่งงานใหม่ จะกังวลอะไร?”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวปฏิเสธโดยตรง “สมองฉันเพี้ยนหรือสมองคุณเพี้ยนเหรอ? ให้ฉันเลี้ยงลูกแทนผู้ชายคนอื่น? เปลี่ยนเงื่อนไข ฉันก็ไม่ใช่ว่าจำเป็นจะต้องมาหาคุณสักหน่อย”
เหย้ซูหลิงตอบกลับ “ไม่รับปากก็ช่างเถอะ ในเมื่อคุณสามารถหาคนอื่นให้ร่วมมือได้ งั้นก็ไปหาคนอื่นสิ ให้คุณช่วยเขาดูแลลูก นี่ก็ให้เกียรติคุณแล้ว ฉันก็เห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของฉัน ในขณะเดียวกันก็เห็นว่าคุณค่อนข้างซื่อสัตย์ จึงให้โอกาสคุณสักครั้ง”
เย่เซิ่งเทียน “……”
เห็นได้ชัดว่าเหย้ซูหลิงกำหนดแล้วว่าจะต้องเป็นเขา รู้ว่าเขาไม่มีช่องทางอื่นในการเข้าตระกูลลี้ลับ
แต่เงื่อนไขที่ปีศาจสาวคนนี้เสนอ คิดไม่ถึงว่าจะให้เขาเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กในครรภ์ ผู้ชายคนไหนจะรับไหว?
แต่ถ้าหากไม่รับปาก แล้วจะเข้าตระกูลลี้ลับได้ยังไง?
อีกอย่าง ถ้าหากมีเหย้ซูหลิงคอยช่วย ธุระในหลายๆเรื่องก็จะสะดวกขึ้นมาก
“แม่มดคนนี้ แน่ใจแล้วว่าฉันทำได้เพียงไปหาเธอ!”
เย่เซิ่งเทียนสีหน้าเคร่งขรึม
หรือจะต้องรับปากเธอจริงๆ?