Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่954 ตระกูลเซียวไม่มีอะไรลำบากมัง?
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่954 ตระกูลเซียวไม่มีอะไรลำบากมัง?
เสียงในอารมณ์ตื่นเต้นของเย่เซิ่งเทียนดังมาจากข้างนอก ฟังดูเหมือนเด็กน้อยกำลังจะไปแจ้งข่าวดีอวดตัวกับผู้ใหญ่
เซียวเทียนเฉิงพอได้ยินเสียงนี้เข้า ตัวสะท้านขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว มือสองข้างเกิดอาการสั่นน้อย ๆ
ปากของเหล่าเฟิงก็ออกอาการกระตุก ความจริงแล้ว เย่เซิ่งเทียนตั้งแต่ห้าวันก่อนก็ขอทรัพยากรมาแล้ว เขาจงใจดึงช้ามาห้าวัน
ที่ตั้งใจไว้คือจะให้เย่เซิ่งเทียนมีสำนึกในใจบ้าง
ไม่คิดว่าเวลาแค่เพียงห้าวัน เย่เซิ่งเทียนกลับจัดการรวมผสานห้าธาตุเสินฉางสำเร็จได้!
ก็แค่เลยไปห้าวันเท่านั้น
เหล่าเฟิงอออกอาการงง สงสัยตัวเองจดจำวันเวลาผิด หรือนี่ผ่านไปแล้วห้าปี?
ต่อให้เป็นตัวประหลาดอัจฉริยะที่สุดของตระกูลลี้ลับ ปรากฏเป็นอันดับหนึ่งขึ้นบอร์ดยอดคนวัยฉกรรจ์ ความเร็วในการฝึกวิชาก็ไม่เร็วได้ขนาดนี้มัง?
นี่แค่ห้าวันเองนะ
“สำเร็จ สำเร็จแล้ว?”
เหล่าเฟิงไม่กล้าไปมองสีหน้าของเซียวเทียนเฉิง เขาเชื่อว่าเจ้าบ้านในนาทีนี้ ในใจก็ต้องคิดแบบเดียวกับเขา
กำลังกลัวจะได้ยินเสียงเย่เซิ่งเทียน
การกระทบกระแทกคนมันเรื่องหนึ่ง ประเด็นสำคัญคือ เย่เซิ่งเทียนมีความต้องการใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก
“ท่านลุง ท่านเฟิง พวกท่านเป็นอะไรไป?”
เย่เซิ่งเทียนแสร้งทำเป็นตะลึง ปั้นสีหน้าเหมือนสงสัยไม่เข้าใจ
เท็จจริงแล้วเขาไม่ได้ใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองไปถึงขนาดนั้น เดือนหนึ่งอย่างมากก็ใช้ไปสักหนึ่งล้านล้าน ที่เหลือมานั้นเขาก็อมเก็บเอาไว้เป็นส่วนตัว
“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ ๆ เทียนเอ๋อร์ นายทำสำเร็จแล้วจริง ๆ หรือนี่?ตอนนี้เข้าถึงแดนวิมานฟ้าแล้วสิ?”
เซียวเทียนเฉิง เปลี่ยนสีหน้า แต่มือที่ไพล่อยู่ข้างหลังยังคงสั่นอยู่
“ใช่ครับ ท่านลุง”
พูดจบ เย่เซิ่งเทียนสีหน้าส่อแววไม่พอใจมองไปที่เหล่าเฟิง พูดว่า “ห้าวันก่อนฉันก็ใกล้จะหลอมเสินฉางทั้งห้าได้แล้ว ผมไปหาท่านเฟิงขอทรัพยากรเพ่ม ไม่คิดว่าตั้งห้าวันแล้วยังไม่ส่งไปให้”
แดนฉ่องทิพย์ ยังแบ่งออกเป็นแดนวิมานฟ้ากับแดนหลอมวิญญาณ
รวมผสานเสินฉางทั้งห้าสำเร็จแล้ว ฝึกฝนแปรสภาพเข้าสู่วิมานฟ้า ก็คือแดนวิมานฟ้า
แดนสลายวิญญาณ ก็คือเสินฉางทั้งห้าธาต่นั้นได้บ่มเพาะห้าจิตวิญญาณผสานรวมกัน แปรสถานะเป็นวิญญาณเทพ
เหล่าเฟิงด้วยใบหน้าที่เคอะเขิน ไม่รู้จะหาอะไรมาชี้แจงได้
เขาจะรู้ได้ไง เวลาสั้น ๆ เพียงห้าวัน เย่เซิ่งเทียนก็สามารถผสานรวมห้าธาตุเสินฉางได้?
งานนี้กลับกลายเป็นว่าเซียวเทียนเฉิงเข้ามาช่วยแก้ต่างให้เหล่าเฟิง “คุณก็อย่าไปโทษท่านเฟิงเลย หลายวันนี้ฉันได้จัดให้เขาไปทำเรื่องอื่นอยู่ นั่นเป็นส่วนที่ข้ามองข้ามไปเอง”
พูดมาถึงจุดนี้ เซียวเทียนเฉิงถามไปด้วยความปวดหัวว่า “งั้นเที่ยวนี้คุณต้องการเท่าไหร่?ยังต้องสองล้านล้านหรือ?”
เย่เซิ่งเทียนพูดไปด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ท่านลุง ฉันคิดว่าเที่ยวนี้จะต้องเก็บตัวปลีกวิเวกอยู่ในสมาธิครึ่งเดือน ในครึ่งเดือนนี้ ฉันก็จะสามารถผสานห้าจิตวิญญาณ ฝึกให้ได้ถึงวิญญาณเทพ จนไปถึงสุดสมบูรณ์ที่แดนฉ่องทิพย์ ฉะนั้น ครั้งนี้ขอให้ฉันสิบล้านล้าน ฉันก็จะไม่ต้องรบกวนท่านเฟิงอีก ทั้งยังร่นเวลาลงไปได้อีกมาก ๆ
สีหน้าเย่เซิ่งเทียนเต็มไปด้วยความจริงใจ ท่าทีแสดงให้เห็นว่าไม่มีพิษไม่มีภัย
“สิบล้านล้าน?ไม่ใช่สองล้านล้านหรือ?”
เหล่าเฟิงให้รู้สึกเข่าอ่อน แทบจะล้มลงทั้งยืน
เซียวเทียนเฉิงก็สะท้านผวาเช่นเดียวกัน เพียงแต่ดูดีกว่าเหล่าเฟิงหน่อย
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างมั่นเหมาะเหมือนเป็นการให้สัญญาว่า “ท่านเฟิง ฉันรู้สภาพร่างกายของฉันเองชัดเจนดีมาก ทุกครั้งที่ไปหาท่านเพื่อขอทรัพยากรเพิ่ม ทุกครั้งก็ต้องถูกยืดเสียเวลาไปหลายวัน เพื่อประหยัดเวลา ครั้งนี้จึงได้ขอทีเดียวสิบล้านล้านเพื่อฉันจะได้ปลีกวิเวกอยู่ในสมาธิสักครึ่งเดือน ถึงเวลาฉันออกจากสมาธินั้น ก็อยู่ในแดนฉ่องทิพย์ขั้นยอดแล้ว!”
พูดจบ เย่เซิ่งเทียนก็เกาหัวเหมือนรู้สึกไม่สบายใจ ยิ้มแห้ง ๆ อย่างขวยเขิน มองไปที่เซียวเทียนเฉิงพูดว่า “ท่านลุง ท่านเห็นด้วยอย่างที่ฉันพูดไหม?นี่ฉันยังคิดจากจุดต่ำสุดเสียอีก เห็นท่านลุงท่านดีกับข้ามากขนาดนี้ ฉันก็ไม่เคยจะใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย”
“คุณลุงท่านหากว่าลำบากใจ ก็ให้ฉันไว้สองล้านล้านแล้วกัน ส่วนฉันก็จะพยายามประหยัดให้มากที่สุด แต่ถ้าไปตามนี้ คาดว่าการฝึกวิชานี้จะช้าลงไปอีกมาก แต่ยังไงในส่วนสามทิพย์ญาณนั้นคงผสานเข้ากันได้สำเร็จ แต่ทว่าสำหรับตระกูลใหญ่โตอย่างตระกูลเซียวขนาดนี้ ฉันรู้สึกไม่น่าจะมีอะไรลำบากมัง จริงไหม ท่านลุง?”
เซียวเทียนเฉิงอออกอาการปากกระตุกอย่างเห็นชัด
เย่เซิ่งเทียนแอบยิ้มอย่างหนาวเยือกอยู่ในใจ
ไม่ดูดจนตระกูลเซียวแห้งซูบไป ก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าเย่เซิ่งเทียน
ทำไมฉันต้องบอกพวกคุณด้วย ตอนนี้ฉันผสานรวมสี่จิตวิญญาณไว้เสร็จสมบูรณ์แล้ว?