Mars เจ้าสงครามครองโลก - ตอนที่ 61 ปล่อยผมไปเถอะ
“ได้ค่ะ”
เมื่อรั่วรั่วเห็นหวางซีมาถึงแล้ว เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของหวางซี จางชาวตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ปกติหวางซีเป็นคนที่สุภาพอ่อนโยน ดูเหมือนรังแกได้ง่าย
ตอนนี้เธอแข็งกระด้างขึ้นมา ยังให้ตนเองไสหัวออกไปอีก?
จางชาวกล่าวด้วยความไม่พอใจทันทีว่า “ประธานหวาง กรุณาพูดจาสุภาพกับผมหน่อย การที่ผมเรียกคุณว่าประธานหวางนั้นเป็นการให้เกียรติคุณ ถ้าผมไม่ให้เกียรติคุณแล้ว คุณก็ไม่ใช่ตัวอะไร? อย่าคิดว่าทุกคนไม่รู้เรื่องแย่ ๆ ของคุณ คุณคิดว่าคุณเป็นคนดีหรือ?”
พนักงานคนอื่น ๆ มองไปที่หวางซีทันที สงสัยว่าหวางซีจะทำอย่างไรต่อไป
จางชาวดูถูกเหยียดหยามเธอขนาดนี้ ถ้าเธอรับมือไม่ได้แม้แต่จางชาวแล้ว หวางซีก็จะไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรอีก
หวางซีรู้สึกโมโหและกำลังจะพูด แต่ถูกเย่เซิ่งเทียนที่อยู่ข้างหลังหยุดไว้ก่อนและกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ ขยะแบบนี้ไม่คุ้มที่คุณจะไปรู้สึกโมโห ผมจะจัดการเอง”
“แม่งเอ๊ยคุณด่าใคร? เชื่อไหมว่าผมจะหาคนมาจัดการคุณ”
เดิมจางชาวเป็นอันธพาลเก่าอยู่แล้ว และมีนิสัยอันธพาลอยู่แล้ว
ปกติแล้วพนักงานคนอื่นก็จะกลัวเขาเล็กน้อย
ตอนที่หวางซีเข้าครอบครองบริษัทหัวหยวน เธออยากจะไล่จางชาวออก แต่เธอกลัวว่าจะทำให้พนักงานคนอื่นผิดหวัง ตำหนิว่าเธอไม่นึกถึงความรู้สึกเก่า ๆ ดังนั้นเธอจึงเก็บเขาไว้ก่อน
คนอื่น ๆ ไม่ได้พูดอะไร พวกเขาทั้งหมดกำลังรอดู
เย่เซิ่งเทียนรู้ว่าถ้าหวางซีต้องการสร้างศักดิ์ศรี เขาต้องจัดการจางชาวเสียก่อน
จางชาวชี้ไปที่เย่เซิ่งเทียนและด่าแช่งว่า “แม่งฉิบหาย ไอ้สารเลว คุณกำลังพูดกับใคร? คุณก็คือสามีไร้ประโยชน์ของหวางซีใช่ไหม? คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองถูกสวมเขาไปกี่คนแล้ว แม่งฉิบหายคุณยังมีหน้ามาเทียบผมอีก ผมคิดว่าคุณอยากหาเรื่องอยากโดนตี…..”
กรอบแกรบ
เย่เซิ่งเทียนเตะเข่าจางชาวทันที
ขาของจางชาวหักทันที
“อ๊ากกกก……”
จางชาวรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จับขาและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวก เสียงร้องนั้นทำให้คนอื่นรู้สึกชาหนังศีรษะ
ซู่
พนักงานคนอื่น ๆ ตกตะลึง
นี่คือสามีของหวางซี?
ทำไมเขาถึงโหดร้ายขนาดนี้? เตะขาของจางชาวหักโดยตรง
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว โชคดีที่เมื่อสักครู่พวกเขาไม่ได้ต่อต้านหวางซี มิเช่นนั้นจุดจบของตนเองก็จะเป็นเช่นนี้
“คุณรับเงินจากใคร?”
เย่เซิ่งเทียนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
จางชาวเจ็บปวดจนเหงื่อแตก ใบหน้าขาวซีดและดวงตาดุร้าย “คุณ คุณกล้าทำร้ายผม คุณตายแน่นอน และบริษัทห่วยแตกของพวกคุณก็อย่าหวังว่าจะอยู่เป็นสุข……”
กรอบแกรบ
เย่เซิ่งเทียนไม่พูดอะไรมาก และเหยียบขาอีกข้างของจางชาวเบา ๆ จนหัก
บ้าคลั่งเกินไปแล้ว!
เขากล้าได้อย่างไร?
เมื่อชายอ้วนวัยกลางคน เห็นภาพนี้ ขาของเขาสั่นสะท้านและเขาก็กลอกลูกตา
เขาเป็นหัวหน้าคนงาน และรู้ว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างนั้นมืดเพียงใด
ขอเพียงแค่เงินถึง ไม่ต้องกล่าวว่าถูกทำร้ายจนพิการ ถึงแม้ถูกทำร้ายจนตาย มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีจางชาวก็เป็นอันธพาลอยู่แล้ว
แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เพื่อนในหมู่บ้านเดียวกันพูด เขากำทำตัวดุดันขึ้นมาอีกครั้ง
ตนเองกำลังทำงานให้ตระกูลหมิงอยู่ ขอเพียงแค่บริษัทหัวหยวนเสียชื่อเสียง ตนเองจะมีความดีความชอบใหญ่ และตนเองจะได้รับเงินห้าแสน
“คุณ คุณกำลังพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”
จางชาวเจ็บปวดจนหน้าบิดเบี้ยว และสีหน้าของเขาดุร้ายมาก
เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “งั้นคุณไปตายเถอะ”
ทันใดนั้น จางชาวรู้สึกถึงความกลัวจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ
ราวกับว่ามีมีดที่สามารถตัดคอของเขาได้ทุกตลอดเวลา
เขารู้สึกเพียงว่าแค่ตนเองพูดคำว่าไม่รู้อีก เย่เซิ่งเทียนจะฆ่าตนเองโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน
จางชาวรีบอ้อนวอนขอความเมตตา “ผมพูด ผมจะพูด ปล่อยผมไปเถอะ ผมยินดีที่จะพูด”
รั่วรั่วและคนอื่น ๆ คิดว่าจางชาวมีความลับที่ซ่อนอยู่หรือ?
เย่เซิ่งเทียนมองเขา รัศมีสังหารในดวงตาของเย่เซิ่งเทียนทำให้ทุกคนตัวสั่นสะท้าน
“ไอ้หลี่ ไอ้หลี่ ให้ผมมาก่อกวนในบริษัท!”
จางชาวพูดออกมาจนหมดทุกอย่าง