Mars เจ้าสงครามครองโลก - ตอนที่ 68 บนตัวคุณนั้นเหม็นมาก
“ไอ้สารเลว เขาจ่ายเงินค่าแรงให้พวกคุณแล้ว พวกคุณก็คิดที่จะไปทันที พวกคุณไม่อายแต่พวกเราอาย”
คนแก่คนหนึ่งที่ด่าด้วยความไม่พอใจ “ตอนนี้พวกเขาไปหาหลี่เทียนหมิง เพื่อระบายความโกรธให้กับพวกเราแล้ว พวกคุณยังเย็นชาอยู่ที่นี่อีก พวกคุณยังเป็นคนอยู่อีกหรือเปล่า?”
“เอาล่ะ เอาล่ะ อย่าทะเลาะกันอีกเลย ฟังผมพูด” เจ้าห้ากล่าวว่า “คนที่อยากไปก็ไป ส่วนคนที่อยากอยู่ต่อก็อยู่ต่อ การที่พวกเราออกมาทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ๆ แล้วจะมาโวยวายทำไม?”
ฝั่งนี้ ความคิดเห็นของแรงงานนั้นแตกต่างกัน มีคนออกไป และมีคนอยู่ต่อ
อีกฝั่งหนึ่ง หลี่หยางและหลี่อู่พาเย่เซิ่งเทียนไปถึงอาณาเขตของหลี่เทียนหมิงแล้ว
หลี่เทียนหมิงเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ที่สุดในเมืองเฉียนถัง เมื่อก่อนเขาเริ่มต้นทำธุรกิจลากหินทรายให้คนอื่น และเขานั้นมีคนจำนวนมากอยู่ในมือ
ศตวรรษก่อนหากต้องการหาเงินได้มาจากธุรกิจลากหินทรายนั้น ต้องอาศัยการต่อสู้เป็นหลัก
หลี่เทียนหมิงสามารถเปลี่ยนธุรกิจจากลากหินทราย ไปเป็นผู้รับเหมาใหญ่ที่สุดในเมืองเฉียนถังได้ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าห้าและคนอื่น ๆ จะกลัวเขา
เมื่อพวกเขามาถึงศูนย์อาบน้ำ หลี่หยางและหลี่อู่กลัวว่าจะถูกคนอื่นมองเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงรีบชี้ด้วยความลับ ๆ ล่อ ๆ “หลี่เทียนหมิงอยู่ข้างใน”
“พวกคุณไปรับเงินค่าแรงแล้วกลับบ้านเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้ทำให้พวกเขาลำบากใจ นี่เป็นวิถีชีวิตของคนที่อยู่เบื้องล่าง และไม่คุ้มที่จะแสดงบทบาทเล็ก ๆ เช่นนี้ได้
“ขอบคุณ ขอบคุณ คุณเป็นคนดีมาก คุณเป็นคนดีจริง ๆ”
หลี่หยางและหลี่อู่ร้องไห้ด้วยความดีใจ เมื่อสักครู่พวกเขารู้สึกตกใจจนร้องไห้ ตอนนี้กางเกงของพวกเขายังเปียกอยู่
หลังจากที่สองคนกล่าวจบ พวกเขาก็วิ่งหายไปทันที
เกาเจี๋ยกล่าวว่า “คุณผู้ชาย เศษสวะอย่างหลี่เทียนหมิงนั้นไม่คุ้มที่คุณจะลงมือด้วยตนเอง ให้เสี่ยวเกาเป็นคนไปจัดการเองเถอะ”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างมีความหมายว่า “เข้าไปข้างในพร้อมกันเถอะ ผมก็อยากรู้ว่าน้ำที่นี่จะลึกแค่ไหน?”
เกาเจี๋ยรู้สึกตกใจ เจ้าเทพต้องการปรับปรุงเมืองเฉียนถัง ดังนั้นเขาจึงโค้งคำนับและกล่าวว่า “ครับ”
กองกำลังในทุกสถานที่นั้นเชื่อมโยงกัน และเมืองเฉียนถังก็ไม่มีข้อยกเว้น
ตระกูลหมิงเป็นหนึ่งอภิมหาอำนาจสี่ใหญ่หนึ่งมืด นี่เป็นสรรพนามรวมของตระกูลใหญ่หลายตระกูลแห่งเมืองเฉียนถัง
อย่างไรก็ตาม ภายใต้แต่ละตระกูล กองกำลังต่าง ๆ ถูกพันธนาการ และมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะจัดการ
ถ้าไม่ระวังตัว มันก็จะล้มไปทั้งกระดาน
ศัตรูที่อยู่ในสนามรบนั้นสามารถมองเห็นได้
ศัตรูของที่นี่ไม่สามารถมองเห็นได้
ในสนามรบ พบศัตรูแล้วฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง
ที่นี่ผลประโยชน์ของทุกฝ่ายจะต้องสมดุล
เล่าจื๊อเคยกล่าวไว้ว่า การปกครองประเทศใหญ่เหมือนทอดปลาตัวน้อยๆ ฟังแล้วนั้นเหมือนเป็นเรื่องที่ง่าย แต่เมื่อทำแล้วจะพบว่าเป็นเรื่องยากมาก
เหตุผลที่เย่เซิ่งเทียนไม่ได้กำจัดตระกูลหมิงโดยตรง นั่นเป็นเพราะกิ่งก้านมากเกินไป
การทำลายตระกูลหมิงเป็นเรื่องง่าย แต่ผลที่ตามมาของเมืองเฉียนถังหลังการทำลายล้างแล้ว ต้องได้รับการจัดการอย่างดี
เมืองใหม่เป็นของขวัญที่เขาเตรียมไว้สำหรับหวางซี
แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นเหยื่อล่ออีกด้วย
เย่เซิ่งเทียนพาเกาเจี๋ยเข้าไปในศูนย์อาบน้ำ ตาของพนักงานต้อนรับที่ส่งกลิ่นน้ำหอมแรง ๆ ออกมาจากร่างกายเป็นประกายทันที เธอจ้องไปที่เย่เซิ่งเทียนและถามว่า “กี่ท่านค่ะ? คุณต้องการแพ็คเกจอะไร?”
เย่เซิ่งเทียนกำลังคิดอยู่ว่า ซือซือเรียกร้องจะกินสุกี้หม้อไฟมาหลายวันแล้ว และเมื่อปัญหาได้รับการแก้ไข เขาจะพาครอบครัวไปทานสักครั้ง
เขากล่าวกับตนเองว่า “อืม กินสุกี้หม้อไฟ”
“ห๊ะ? กิน กินสุกี้หม้อไฟ?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา พนักงานต้อนรับรู้สึกตกตะลึง
มาศูนย์อาบน้ำเพื่อกินสุกี้หม้อไฟ?
คุณเจตนาจีบฉันใช่ไหม?
เกาเจี๋ยที่อยู่ข้างหลังตกตะลึง และกว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองนั้นก็ใช้เวลาไปนาน
หรือว่าเจ้าเทพเจตนา?
ถูกต้อง ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน
เหมือนกับถามว่า “แตงโมลูกนี้สุกไหม”
ดังนั้นเขาจึงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณผู้ชายบอกว่ากินสุกี้หม้อไฟ คุณไม่ได้ยินหรือ?”
พนักงานต้อนรับยิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังจีบตนเองอยู่ และแม้แต่นักแสดงก็หามาแล้ว
ชายหนุ่มคนนี้หล่อจริง ๆ และรูปร่างหน้าตาของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหนุ่มน้อยพวกนั้น แต่เขาดูไม่ได้อ่อนโยนเหมือนผู้หญิง กลับมีความรู้สึกกล้าหาญและสง่างาม มีความรู้สึกเหมือนจิวยี่กลับชาติมาเกิด
“พี่สุดหล่อ คุณกำลังจีบฉันหรือ?”
หลังจากนั้น พนักงานต้อนรับก็เอนตัวมาด้านหน้า และใช้นิ้วชี้แตะไปที่คางของเย่เซิ่งเทียนอย่างยั่วยวน
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “อยู่ห่างผมหน่อย บนตัวคุณนั้นเหม็นมาก”