Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 1097 ไม่บำเพ็ญก็ได้
เย่เซิ่งเทียนโมโหแทบบ้าแล้ว เขาเดาได้แต่แรกว่าตาเฒ่าหลินไม่ได้ตาย แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอหน้ากันรูปแบบนี้
ผู้นำฟ้าสยบกับผู้เฒ่าเทียนจีบูชาตัวเองทั้งเป็น ในใจเย่เซิ่งเทียนมีเพียงเคารพเลื่อมใส
เพราะเขาทำไม่ได้ แต่เขาก็จะไม่คิดไปขัดขวาง
สำหรับเขานั้น ทุกอย่างนี้กลายเป็นสภาพนี้ บรรดาผู้พิทักษ์ชะตาเหล่านี้มีหน้าที่รับผิดชอบเยอะมาก เป็นพวกเขาปล่อยปละละเลยมหาพญาเทพไปทำทุกอย่างนี้
ถึงแม้ในอดีตพวกเขาจะเคยขัดขวาง แต่ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ สรวงสวรรค์กำเริบเสิบสานหนักขึ้น ตระกูลพิทักษ์ใหญ่ๆ แทบจะกลายเป็นคนของสรวงสวรรค์กันหมด กลายเป็นไส้ศึกของโลกชูร่าแล้ว
นี่ล้วนเป็นผลลัพธ์ที่พวกเขาปล่อยปละละเลย
ดังนั้นพวกเขาอยากบูชาตนเองทั้งเป็น เปิดหลักธรรมอีกครั้ง เย่เซิ่งเทียนจะไม่ขัดขวาง
แต่ตาเฒ่าหลินต่างออกไป นั่นเป็นอาจารย์ของเขา เป็นเสมือนญาติของเขา
เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร แต่ยากจะยอมรับให้ตาเฒ่าหลินบูชาตนเองทั้งเป็นตามไปด้วย
“ตาเฒ่าหลิน แม่งเอ๊ยจะทำอะไร? ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้! มันธุระอะไรของคุณ! คุณกลับมาเดี๋ยวนี้เลย!”
เย่เซิ่งเทียนโกรธจัดเหมือนเบ้าตาจะแตกออก ทะเลสายฟ้าทางนั้นก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ราวกับหายนะของวันสิ้นโลก โหมกระพือเข้ามาทั่วทุกที่
เมฆดำที่มืดครึ้มทั่วท้องฟ้า เสมือนเป็นโม่หินชี้ชะตาขนาดใหญ่ บดขยี้เข้ามา
“ไอ้หนู ฉันเคยแพ้มาครั้งหนึ่งแล้ว หลบซ่อนไปทั่วมานานหลายปีขนาดนี้ ขี้ขลาดมาหลายปีขนาดนี้ วันนี้ฉันอยากมีหน้ามีตาสักครั้ง”
นักพรตหลินหัวเราะเสียงดัง เสียงดังสะเทือนท้องฟ้า ดูไม่เหมือนกำลังกระโจนไปตาย แต่ว่าไปชุมนุมกัน
“กลับมา! คุณกลับมาเดี๋ยวนี้เลย!”
เย่เซิ่งเทียนคลุ้มคลั่งแล้ว น้ำตาไหลพราก ดวงตาแดงจัด มีเส้นเลือดฝอยเต็มไปหมด
เขาพุ่งไปทางนั้นแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
จะต้องดึงตาเฒ่าหลินกลับมาให้ได้
เขาสูญเสียญาติพี่น้องไปหลายคนแล้ว วันนั้นเห็นบิดาตายอย่างอนาถอยู่ตรงหน้าด้วยตาตนเอง
ซีเอ๋อร์หายตัวไปเขายังไม่รู้
จนถึงปัจจุบันนี้มารดายังถูกขังไว้ที่สรวงสวรรค์
คุณปู่ที่รู้สึกผิดในใจ ดูแลซือซืออยู่ลำพังคนเดียว รอเขากลับบ้าน
แม่ยายก็แบกรับการโจมตีที่ใหญ่หลวงไม่ไหว ล้มป่วยแล้ว
ตอนนี้ ถ้าตาเฒ่าหลินเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกคน ชาตินี้เขาคงไม่มีทางผ่านพ้นไปได้
เย่เซิ่งเทียนกลายเป็นคนบ้าโดยแท้จริง ใช้ความเร็วอันไวที่สุดพุ่งเข้ามา อยากจะขัดขวางนักพรตหลิน ดึงเขากลับมา
“เสี่ยวเย่!”
เหย้เฟิงและเย่ม่อคนตระกูลเหย้เหล่านั้น ร้อนใจกันอย่างยิ่ง กลับไม่มีทางขัดขวาง
ผู้เฒ่าเทียนจีพวกเขาสามคนเปิดหลักธรรมอีกครั้ง คือค้นหาโอกาสเพื่อทั้งโลกมนุษย์ นี่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่พอจะเอาชนะโลกชูร่า
โศกเศร้าเคล้าอารมณ์ฮึกเหิมอย่างยิ่ง
กลับได้เพียงเป็นเช่นนี้
ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขาเหล่านี้ละก็ คงยินยอมไปทำเหมือนกัน เปิดหลักธรรมออกอีกครั้งเพื่อมวลชนในโลกมนุษย์
แต่พวกเขาไม่มีความสามารถอันนั้น
เย่เซิ่งเทียนแบกรับความหวังของพวกเขาทุกคนเอาไว้ ถ้าตายอยู่ในหายนะสายฟ้า ยังสามารถมีใครเดินไปถึงขั้นแบบเย่เซิ่งเทียนนี้ได้อีก?
“เจ้าเด็กเวร แกไสหัวกลับไปเดี๋ยวนี้ แกเป็นความหวังของพวกเราทุกคน ไสหัวกลับไป! ไม่ง่ายที่ฉันจะได้มีหน้ามีตาสักครั้ง อย่ามาขัดขวางฉัน ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอา!”
มองเห็นเย่เซิ่งเทียนคลุ้มคลั่ง มาถึงทางนี้แบบไม่สนใจชีวิต นักพรตหลินร้อนใจแล้ว ตะโกนด่าไม่หยุด
แม้กระทั่งตบออกไปทีหนึ่ง อยากจะขัดขวางเจ้าเด็กโง่คนนี้
“เย่เซิ่งเทียน อย่าใช้อารมณ์จัดการปัญหา!”
ผู้หญิงงดงามที่ตัดขาดจากโลกภายนอกคนนั้น ผู้นำฟ้าสยบ เอ่ยปากนิ่งๆ บนตัวเธอก็เต็มไปด้วยเลือดสด
บนใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยรอยแตกร้าว มาพร้อมความสวยที่น่าสังเวช
ผู้เฒ่าเทียนจีถอนหายใจทีหนึ่ง เอ่ยปากแบบยากลำบาก “เย่เซิ่งเทียน นี่คือชะตากรรมของพวกฉันเหล่านี้ นายขัดขวางไม่ได้”
“ชะตากรรมบ้าบอคอแตกอะไร!”
เย่เซิ่งเทียนตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ต่อยฝ่ามือนั้นของนักพรตหลินจนกระจาย กระโดดตัวเข้าไปในทะเลสายฟ้า ยื่นมือไปจับนักพรตหลิน อยากจะพาเขาออกไป
เขารู้ว่า ตนเองทำขนาดนี้มันเห็นแก่ตัวอย่างมาก
แต่ว่ารอบนี้ เขาก็อยากเห็นแก่ตัวสักครั้ง
เขาบำเพ็ญตน เดิมคือเพื่อช่วยชีวิตมารดา เพื่อแก้แค้น เพื่อปกป้องคนข้างกายตนเอง
ถ้าแม้แต่คนข้างกายตนเองยังปกป้องไม่ได้ หลักธรรมบ้าบอนี้ ไม่บำเพ็ญก็ได้!
เขาจับแขนของนักพรตหลินเอาไว้ ตวาดใส่ “คุณกลับไปเดี๋ยวนี้เลย!”