Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 518 ใจคอโหดเหี้ยม
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 518 ใจคอโหดเหี้ยม
ไม้หน้าสามในมือของหลี่เซียงไซว่ เขาตีไปที่ปากของหลี่หลาน ทันใดนั้นเธอก็มีเลือดไหลซิบ จนปากเหวอะ
“ห้ามตีแม่นะ หลี่เซียงไซว่ แกมันไอ้สัตว์เดรัจฉาน!แม่ฉันเป็นพี่สาวแกนะ!”
หวางซีโกรธจนตัวสั่นเทา คิดไม่ถึงว่าแม่ลูกคู่นี้จะโหดเหี้ยมขนาดนี้!แต่เธอถูกมัดอยู่ ดิ้นไปไหนไม่ได้ด้วยซ้ำ
“พวกแกกำลังรนหาที่ตาย!ฉันขอสาบานเลยว่า ฉันหัวเวิ่นยีจะทำให้พวกแกตกนรกสิบแปดชั้น!”
หัวเวิ่นยีที่ขาหักทั้งสองข้าง เป็นครั้งที่สองที่อยากฆ่าคนคนหนึ่ง
ครั้งแรก นั่นก็คืออยากฆ่าคุณท่านฟาง ในตอนที่ฟางหยวนหายตัวไป
ตอนนี้ ยังมาทำร้ายแม่ยายของอาจารย์ ต่อหน้าของเขาอีก เขาเป็นลูกศิษย์ จะให้ไม่โกรธได้ยังไง!
“พวกลุงเป็นคนร้าย ห้ามตีคุณยายของหนูนะคะ พวกคุณเป็นคนชั่ว”
ซือซือพุ่งเข้ามาผลักหลี่เซียงไซว่ออก
“ยัยสัตว์เดรัจฉานเอ้ย ไปตายซะเถอะ!”
หลี่เซียงไซว่ถีบซือซือจนกระเด็น ซือซืออายุยังไม่ถึงสี่ขวบ จะทนต่อแรกเตะของหลี่เซียงไซว่ได้อย่างไร ทันใดนั้นตัวของเด็กน้อยก็กระแทกลงกับพื้น ร่างล้มลง จากนั้นก็สลบไป
“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน พวกแกมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน แม้แต่เด็กก็ไม่ปล่อย!พวกแกมันสมควรตาย พวกแกมันสมควรตาย!”
นี่เป็นครั้งแรกที่หัวเวิ่นยีรู้สึกเสียใจ ที่เหตุใดตอนนั้นเขาเรียนรู้แค่วิชาการแพทย์แต่ไม่ได้ศึกษาวิชาการต่อสู้
ถ้าเขามีวิชาทั้งการแพทย์และการต่อสู้ วันนี้คงจะสามารถปกป้องคนในครอบครัวของอาจารย์
“หลี่เซียงไซว่ แกต้องไม่ตายดี แกกล้าทำร้ายลูกสาวฉัน รอเซิ่งเทียนกลับมา เขาไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!พวกแกมันเศษสวะ ฆ่าคุณตาของฉัน ตอนนี้แม้แต่เด็กสามขวบพวกแกก็ไม่ปล่อย”
หวางซีตะคอกด้วยความโกรธ น้ำตาเปื้อนเต็มใบหน้า สูญเสียซึ่งความอ่อนโยนในเวลาปกติไป
แม่และลูกสาวของเธอ ถูกคนทำร้ายขนาดนี้ แต่เธอกลับไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
“เหอะๆ แกคิดว่าทำไมฉันไม่ยึดมือถือแกไปงั้นหรอ?ก็เพราะว่าอยากให้แกโทรให้ไอ้สวะเซิ่งเทียนไง!รอพวกแกอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ฉันก็จะส่งพวกแกลงนรกไปพร้อมกัน!ฉันมันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น บอกว่าจะฆ่าแกทั้งครอบครัวก็ต้องฆ่าทั้งครอบครัว”
หลี่เซียงไซว่ไม่สนใจแม้แต่น้อย เขาหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
“แม่คะ ปล่อยซือซือไปเถอะ เธอยังเด็ก ยังไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย ไม่จำเป็นต้องลงมือกับเธอหรอก”
หลี่เซียงหลันมองดูด้วยความตกใจ เธอเห็นว่าซือซือถูกน้องชายของตัวเองเตะจนสลบ จึงอดนึกถึงลูกของตัวเองไม่ได้
ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดหลี่หลานกับหวางซี แต่ก็ไม่อยากลงมือทำร้ายซือซือ
“จริงด้วยครับคุณแม่ ไม่จำเป็นต้องลงมือกับนังเด็กนี่หรอกครับ คนที่ล่วงเกินเราก็มีแค่นังพวกหลี่หลาน”
มู่ซิ่วหลินมองดูด้วยหัวใจที่สั่นเทา เขาเองก็มีความโหดเหี้ยม แต่เขาก็ไม่ลงมือกับเด็กคนหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกคนแรกของเขากับหลี่เซียงหลัน ก็ได้ตายจากไปในตอนอายุสามขวบ ถึงแม้ว่าลูกคนที่สองตอนนี้จะอายุสิบแปดแล้ว แต่ก็ยังคงร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่าย มักจะต้องใช้ยาเพื่อยืดอายุนานหลายปี
มองดูซือซือถูกทำร้าย เขาก็นึกถึงลูกของตัวเอง จึงรู้สึกอดไม่ได้
“หึ!ใจอ่อนไม่จัดการอะไรให้เด็ดขาด!ถ้ารากหญ้าไม่ถูกรากถอนออกไป ลมฤดูใบไม้ผลิก็พัดและงอกใหม่ ในเมื่อจะลงมือ ก็ต้องจัดการฆ่าให้หมด หรือจะเก็บเธอไว้ รอให้เธอมาแก้แค้นตอนโต?”
เจี่ยงหมิ่นไม่อ่อนไหวง่ายๆ เธอเงื้อมือขึ้นตบไปที่หน้าของหลี่เซียงหลันและมู่ซิ่วหลิน พลางกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า”ในเมื่อพวกแกใจอ่อนจัดการอะไรไม่เด็ดขาด งั้นก็ดี วันนี้ฉันจะรักษาอาการเหล่านี้ของพวกแกเอง!ไม่อย่างนั้น จะทำการใหญ่ได้อย่างไร?มู่ซิ่วหลิน ไปซะ ไปจัดการเจ้าเด็กนี่ให้ตาย”
“ห้ะ?คุณแม่ครับ ผะ……ผมลงมือไม่ได้หรอกครับ ซือซือเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง คุณแม่ปล่อยเธอไปเถอะครับ ผมขอร้องล่ะ”
มู่ซิ่วหลินตกใจจนรีบคุกเข่าลงกับพื้น
หลี่หลานถ่มน้ำลายปนเลือดออกมา แล้วตะโกนด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว”เจี่ยงหมิ่น ไอ้คนชั่ว นังหน้าไม่อาย แกมันรนหาที่ตาย!แกรู้ไหมว่าเซิ่งเทียนเป็นใคร เขาเป็นถึง……”
เพี๊ยะ!
ไม้หน้าสามในมือของหลี่เซียงไซว่ฟาดไปที่ปากของหลี่หลานอีกครั้ง เขาพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า”เป็นใครหรอห้ะ?มันก็เป็นแค่เขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงไม่ใช่หรอ?มันก็แค่รู้จักคนมากหน่อย?เก๋ามากงั้นหรอ?จะเก๋าขนาดไหนจะสู้พ่อฉันได้ไหม?วันนี้ฉันจะส่งพวกแกลงนรก ไปเฝ้าตาแก่หลี่กั๋วหรง!คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่อะไรกัน ก็แค่ผู้หญิงหยำฉาที่อยากได้ผู้ชายจนเนื้อตัวสั่น!เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกแกแม้แต่นิดเดียว จะบอกอะไรให้นะ พ่อฉันคือเซี่ยหมิงหลี่เว้ย!”
“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน พวกแกมันเป็นพวกสัตว์เดรัจฉาน!เจี่ยงหมิ่น นังผู้หญิงหยำฉา ฉันให้โอกาสเธอมาตลอด แต่เธอกลับลอบทำร้ายตระกูลหลี่ของฉัน!”
ทันใดนั้น หลี่กั๋วหรงก็ผลักประตูเข้ามา มาปรากฏต่อหน้าทุกคน