Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 535 ฟ้าสยบ
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 535 ฟ้าสยบ
“คุณหนู เซี่ยหมิงหลี่กับราชาบู๊ทั้งสองคนนั้นถูกเย่เซิ่งเทียนฆ่าตายแล้ว คาดว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของเย่เซิ่งเทียนน่าจะเป็นระดับเซียนบู๊ และเป็นความแข็งแกร่งเซียนบู๊ระดับสูงอีกด้วย”
ไอ้อู๋กล่าวด้วยความระมัดระวัง
สามารถฆ่าราชาบู๊ตายด้วยกระบวนท่าเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่เซียนบู๊ทั่วไปไม่สามารถทำได้
ต้องเป็นเซียนบู๊ชั้นยอดเท่านั้น
“เซียนบู๊ชั้นยอดเหรอ? ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่เคยมีข่าวว่ามีเซียนบู๊ชั้นยอดปรากฏอยู่ในกองทัพ ตามหลักแล้วฉันควรจะรู้ เว้นเสียแต่ทางการจะปกปิดเอาไว้”
เหย้ซูหลิงขมวดคิ้ว ด้วยความสามารถในการสืบข่าวของตระกูลเธอแล้ว แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่ามีเซียนบู๊อย่างเย่เซิ่งเทียนอยู่ในกองทัพ ซึ่งมันไร้เหตุผลสิ้นดี
“หรือว่าเป็นคนที่ติดตามเจ้าเทพที่ลึกลับคนนั้น?”
“คุณหนู มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเจ้าเทพของประเทศต้าเซี่ย เขาได้ก่อตั้งหอมังกรเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในพลังลึกลับที่สุดของประเทศต้าเซี่ย นับตั้งแต่เจ้าเทพคนนั้นก่อตั้งหอมังกรเทพแล้ว พลังการต่อสู้ระดับสูงของประเทศต้าเซี่ยเพิ่มสูงขึ้นมาก สิ่งน่ากลัวที่สุดคือพวกเราไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร?”
ไอ้อู๋กล่าวด้วยความหวาดกลัว
เจ้าเทพของประเทศต้าเซี่ยเป็นคนที่ลึกลับมาก และไม่มีใครรู้สถานะตัวตนที่แท้จริงของเขา
และไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากไหน?
ดูเหมือนว่าบุคคลนั้นจะปรากฏขึ้นมาจากกลางอากาศ ยิ่งใหญ่อย่างกะทันหัน และก่อตั้งหอมังกรเทพอย่างรวดเร็ว แล้วพวกเขาสกัดกั้นพลังทั้งหมดของตระกูลผู้ดี ตระกูลเก่าแก่และตระกูลลึกลับอยู่ภายนอก
ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้คิดที่จะส่งสายลับเข้าไป แต่ทุกครั้งก็ล้มเหลวโดยไม่มีข้อยกเว้น
คราวที่แล้วตอนที่เย่เซิ่งเทียนสร้างความโกลาหลวุ่นวายที่ตระกูลเย่ ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้รับข่าวใด ๆ
ว่ากันว่าตัวแทนของห้าตระกูลผู้ดีที่ไปอวยพรวันเกิดให้เย่จิงหง และพวกเขาทั้งหมดถูกเจ้าเทพของประเทศต้าเซี่ยสั่งฆ่าตายจนหมด
ไม่มีข่าวที่เป็นรูปธรรมออกมา
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขากังวล
ตระกูลผู้ดี ตระกูลเก่าแก่ และตระกูลลึกลับต้องการควบคุมอำนาจทางโลกฆราวาสอย่างลับ ๆ ตอนนี้ถูกคนเปิดเผยข้อมูลออกมาเล็กน้อย
และคนที่เผยข้อมูลออกมาเล็กน้อย ก็คือเจ้าเทพที่ลึกลับของประเทศต้าเซี่ย ซึ่งเขามักจะสวมหน้ากากมหาเทพ
เหย้ซูหลิงยิ้มด้วยความไม่แยแสและกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องปกติ เจ้าเทพของประเทศต้าเซี่ย ตอนนี้เขาเป็นผู้ที่มีพลังการต่อสู้สูงสุดในโลก แต่คนเหล่านั้นยังไม่ปรากฏตัวออกมา……ถ้าต้องการกำจัดอิทธิพลของตระกูลผู้ดี ตระกูลเก่าแก่ และตระกูลลึกลับมันไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้ทุกที่ของประเทศต้าเซี่ยได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด ฮ่า ๆ….. เอาละ ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอจับตามองตระกูลหลี่ให้ดี ให้หลี่เย็นหรานดำเนินการทีละขั้น เย่เซิ่งเทียนเจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอก เมื่อเบาะแสถูกเปิดเผย ก็จะกระตุ้นทำให้เขาเกิดความสงสัย”
ไอ้อู๋รีบกล่าวว่า “คุณหนู วางใจเถอะ ทุกอย่างวางแผนเรียบร้อยแล้ว”
เหย้ซูหลิงเลียริมฝีปากสีแดงเซ็กซี่ของตนเองและกล่าวเบา ๆ ว่า “ฉันต้องการดูว่าเขาทำลายเกมนี้ได้อย่างไร? ส่งเซียนบู๊มาที่นี่สองคน เพราะถ้าเซียนบู๊แค่คนเดียวอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เซิ่งเทียน เธอก็ระวังให้มาก ๆ อย่าให้เย่เซิ่งเทียนสงสัยเธอ ฉันสงสัยว่าเขาอาจมองออกว่าเธอเป็นผู้หญิง ดังนั้นช่วงนี้อย่าปรากฏตัวออกมา”
“คุณหนู เป็นไปไม่ได้มั้ง? ฉันไม่ได้เปิดเผยช่องโหว่ใด ๆ”
ไอ้อู๋ส่ายศีรษะและไม่เชื่อ เธอกับหลี่กั๋วหรงรู้จักกันมาสามสิบปีแล้ว แต่อีกฝ่ายยังไม่สามารถรู้สถานะตัวตนของเธอเลย
เธอได้พบเย่เซิ่งเทียนเพียงครั้งเดียว ดังนั้นอีกฝ่ายจะมองออกได้อย่างไร
“ระวังอย่าทำพลาด อย่าดูถูกเย่เซิ่งเทียน เขาสามารถมีชีวิตกลับมาจากตระกูลเย่ได้ แล้วยังทำให้ตระกูลเย่พยายามถึงคนมาเป็นพวก เขาไม่ใช่คนธรรมดา ฉันสงสัยว่าเจ้าเทพผู้ลึกลับของประเทศต้าเซี่ย อาจจะเป็นคนฝึกเขาด้วยตนเอง”
เหย้ซูหลิงระมัดระวังตัวมาก
ไอ้อู๋พยักหน้าแล้วกล่าวอีกครั้ง “คุณหนู ฉันเพิ่งสืบพบว่าเฉินซือเลี่ยงแห่งสำนักแปดเก็ก เมืองโมตูเป็นคนของฟ้าสยบ”
“ฟ้าสยบ?”
สีหน้าของเหย้ซูหลิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย และกล่าวเบา ๆ ว่า “อย่าตื่นตระหนก อย่าสร้างความขัดแย้ง ถึงแม้ว่าฟ้าสยบจะไร้ผู้นำ แต่องค์กรนั้นลึกลับมาก”
ไอ้อู๋สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นึกถึงบางสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง และหุบปากทันที