Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 572 ถ่วงเวลา
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 572 ถ่วงเวลา
คำพูดนั้นของเย่เซิ่งเทียน ทำให้ทุกคนรวมถึงเผยชุนชิวตกตะลึง
การปิดผนึกเตา นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการปรุงยา ถ้าหากล่าช้าแม้แต่นิดเดียว ล้วนจะส่งผลกระทบต่อฤทธิ์ของยา
คนจากตระกูลเก่าแก่ผู้ดียกเรื่องการตรวจสอบเตากลั่นยาขึ้นมาพูด ก็แสดงว่าต้องการจะขัดขวางการปิดผนึกของเย่เซิ่งเทียน จิตใจชั่วร้ายถึงขีดสุด!
นี่มันเป็นกับดักชัดๆ แต่ว่าแผนการโจ่งแจ้งแบบนี้ ถ้าหากว่าพวกเขาออกหน้า ไม่ให้คนจากตระกูลเก่าแก่ผู้ดีตรวจสอบเตา คนพวกนั้นก็ทำอะไรไม่ได้
แต่ว่าตอนนี้เย่เซิ่งเทียนยอมตกลงให้พวกมันมาตรวจสอบ ก็เข้าทางแผนการของคนพวกนั้น
เผยชุนชิวพูดอย่างร้อนรนว่า: “ท่านอาจารย์เย่ ไม่ได้นะ การปิดผนึกเตาเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ถ้าช้าไปแม้เพียงนิดเดียวฤทธิ์ยาก็จะคลาดเคลื่อน!”
จ้าวป้ากัดฟันแล้วพูดว่า: “ท่านเย่ ไม่ได้เด็ดขาด พวกมันก็เป็นแค่แมลงส่งกลิ่นเหมือนโฉ่ฝูงหนึ่ง ยกให้พวกข้าทั้งเก้าคนจัดการก็ได้แล้ว ท่านได้โปรดอย่าหยุดการปิดผนึกเตาเลย”
หวังหลิงเป็นกังวลขึ้นมา ยิ่งพูดไม่ออกเข้าไปอีก ทำได้เพียงมองไปในสายตาของคนจากตระกูลเก่าแก่ผู้ดี ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
เดิมทีแล้วหกหมอเทวดาที่เคยมีความเกลียดชังต่อเย่เซิ่งเทียน หลังจากที่เห็นกระบวนท่ามือในการปรุงยาของเย่เซิ่งเทียนแล้ว ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็ถูกดึงดูดความสนใจเอาไว้
เพียงแค่สามารถเรียนรู้กระบวนท่ามือปรุงยาที่หายสาบสูญไปหลายพันปีพวกนี้ ความเกลียดชังที่เคยมีต่อหัวเว่นยี พวกเขาก็สามารถปล่อยวางลงได้
พวกเขาทั้งหก เดิมทีก็มีนิสัยแปลกประหลาดไม่สามารถคาดเดาได้เยี่ยงคนธรรมดา
พวกเขาทั้งหก ล้วนเป็นคนที่ยอมถวายแม้กระทั่งชีวิตเพื่อทักษะทางการแพทย์
ตอนนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็จะปล่อยโอกาสนี้ทิ้งไปไม่ได้
“ท่านอาจารย์เย่ ท่านปิดผนึกเตาต่อเถิด ผมจะไปเชือดพวกมันให้!”
หูชิงหนิวพูดด้วยความโกรธแค้น
คำพูดของหกหมอเทวดาทำให้คนจากตระกูลผู้ดีตกตะลึงไม่หยุด ยังไงก็คิดไม่ออก ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนฝั่งไปแล้วล่ะ?
แต่ว่าตอนนี้พวกเขาก็ถูกสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมดต้อนให้จนมุม ถ้ายอมแพ้ในตอนนี้ คนจากตระกูลเก่าแก่ผู้ดีก็จะไม่สามารถรักษาหน้าไว้ได้
สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้ายอมแพ้ตอนนี้ ก็แปลว่า ตระกูลเก่าแก่ผู้ดีได้พ่ายแพ้ให้กับขุนหลวงหยางทาวแล้ว!
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้สนใจหกหมอเทวดา ยังคงใช้สายตาเย็นชามองไปที่คนจากตระกูลผู้ดีเหล่านั้นต่อ
ตัวแทนตระกูลกู่กัดฟัน เรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับอีก จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นว่า: “ดูซิ ว่าแกยังจะเล่นลูกไม้อะไรได้อีก!”
ตัวแทนตระกูลเซียวพูดอย่างร้ายกาจว่า: “อย่าคิดนะ ว่าหลอกหกหมอเทวดาได้แล้ว แกจะรอดตัว พวกเราจะไม่ยอมให้คนเจ้าเล่ห์อย่างแกรอดไปได้!”
ตัวแทนตระกูลผู้ดีคนอื่นๆ ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ใครๆก็รู้ การแข่งขันของทั้งสองฝ่ายมาถึงจุดที่ดุเดือดที่สุดแล้ว ใครถอยต้องตาย
จางหลิงหยุนพูดอย่างได้ใจว่า: “นี่เป็นแกตกลงเองนะ พวกเราไม่ได้บังคับแกนะ!”
คำพูดที่ไร้ยางอายพวกนี้ ทำให้หมอบางคนของสมาคมทางการแพทย์รู้สึกรังเกียจขึ้นมา สำหรับหมอคนนึงแล้ว การปิดผนึกเตาเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการปรุงยา
ตรวจสอบเตากลั่นยาในตอนที่กำลังปิดผนึกเตา เดิมทีแล้วนี่เป็นสิ่งที่พวกเขาเสนอขึ้นมา แต่ว่าตอนนี้กลับมาปัดความรับผิดชอบ ชั่วร้ายมากจริงๆ
“ฉันมาตรวจสอบเอง”
ตัวแทนตระกูลซุนทำราวกับว่าเห็นหนทางของชัยชนะ ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ใช่หมอ แต่ก็รู้ดีว่าถ้าหากทำให้การปิดผนึกเตาล่าช้าแล้วล่ะก็ เย่เซิ่งเทียนก็อย่าได้คิดว่าจะสามารถปรุงยาที่มีฤทธิ์เหมือนกับที่อยู่ในกล่องนั้นออกมาได้
“ฉันขอดูด้วย”
คนจากตระกูลเก่าแก่ผู้ดีคนอื่นๆรีบพูดอย่างอดใจรอไม่ไหว
แต่ว่า พวกเขาตั้งใจที่จะถ่วงเวลา ชักช้ารำไร ทำให้การปิดผนึกเตาของเย่เซิ่งเทียนล่าช้าออกไปเรื่อยๆ
“เอ๊ะ? นี่ใช่ไหมเนี่ย?”
“เหมือนจะมีปัญหานิดหน่อยนะ”
“ว้าว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นขั้นตอนก่อนการปิดผนึกเตาเลยนะเนี่ย”
คนจากตระกูลเก่าแก่ผู้ดีส่งเสียงเซ็งแซ่ขึ้นมา ดูยังไงก็ไม่เหมือนการตรวจสอบเตากลั่นยาเลยสักนิด แต่เป็นการขัดขวางการปิดผนึกของเย่เซิ่งเทียน
“พวกแก ดูละเอียดแล้วรึยัง!”
เผยชุนชิวพูดอย่างเกรี้ยวกราด คนพวกนี้ทำตัวอ้อยอิ่ง นี่มันไม่เหมือนท่าทางของคนที่กำลังจะตรวจสอบเลยสักนิด
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ยาหม้อนี้ก็จะเสียแน่ๆ!