Mars เจ้าสงครามครองโลก - บทที่ 640 การเลือกของเปาเจิ้น
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 640 การเลือกของเปาเจิ้น
ตระกูลเปา
ใบหน้าของเปาเจิ้นซับซ้อนเล็กน้อย เขารู้สึกกระสับกระส่าย
งานแต่งงานของเปาจี้จู่ลูกชายของเขากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเขาได้เชิญเย่เซิ่งเทียนกับหวางซีมาด้วย
เพราะเย่เซิ่งเทียนได้สร้างความประทับใจให้กับเขา เมื่อตอนอยู่ที่การประชุมวิชาการทางการแพทย์แห่งเมืองโมตู
หลังจากนั้นเขาก็ไปเยี่ยมเยียนเย่เซิ่งเทียนและหวางซีที่ตระกูลหลี่โดยเฉพาะ เมื่อพิจารณาจากสัญชาตญาณของเขาแล้ว เขารู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนไม่ใช่คนธรรมดา
เพียงแต่ไม่ว่าเขาจะสืบอย่างไร สิ่งที่เขาสืบพบแสดงให้เห็นว่าเย่เซิ่งเทียนเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีสถานะใด ๆ
เป็นทหารปลดประจำการ เป็นเขยแต่งเข้า และมีความสามารถในการต่อสู้
แต่เขามักจะรู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ลักษณะท่าทาที่สงบเยือกเย็น การกระทำที่ดุดัน และรัศมีสังหารที่คมชัดในดวงตา ทำให้เขารู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนต้องมีสถานะที่ลึกซึ้งอีก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะสืบไม่พบข้อมูลที่เขาต้องการ แต่เขาก็ยังไปที่ตระกูลหลี่ เชิญเย่เซิ่งเทียนและหวางซีมาร่วมงานแต่งงานของลูกชายตนเอง สร้างรากฐานที่ดีก่อน ถ้าเย่เซิ่งเทียนมีสถานะอื่นจริง ๆ เขาก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีก่อน
อีกอย่าง ถึงแม้ว่าเย่เซิ่งเทียนไม่มีสถานะอื่น ๆ เขาก็ไม่เสียเปรียบ เพราะบริษัทหัวหยวนของหวางซีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลี่ ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ได้รับประโยชน์จากความร่วมมือทำงาน
เปาเจิ้นเป็นนักธุรกิจที่เฉลียวฉลาดมาก เก่งในการสร้างเส้นสาย เป็นนักธุรกิจอย่างแท้จริง ในสายตาของเขานั้นมีแต่ผลประโยชน์เท่านั้น
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เขาก็ให้ความสนใจกับผลประโยชน์มากที่สุด
คนธรรมดาแต่งงานต้องเสียเงินอย่างแน่นอน โดยเฉพาะตระกูลเศรษฐี ถ้าไม่เสียเงินเป็นล้านหรือหลายสิบล้าน ก็อายที่จะบอกว่าตนเองแต่งงาน
แต่เปาเจิ้นล่ะ? งานแต่งงานของลูกชายที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่เพียงไม่เสียเงินสักแดงเดียว แต่ยังสามารถหาเงินได้อีกด้วย โดยมีภาพโฆษณาต่าง ๆ ไปทุกที่ และแม้แต่ถ้วยชาที่เตรียมไว้สำหรับแขกก็ยังพิมพ์โฆษณาผลิตภัณฑ์ด้วย
เพียงแค่ค่าโฆษณานี้ ก็สามารถสร้างรายได้หนึ่งหรือสองร้อยล้านแล้ว!
แต่ตอนนี้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะข่าวจากเมืองโมตูทำให้เขาตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ซ่งหยวนลี่ลูกชายคนโตของตระกูลซ่งถูกเย่เซิ่งเทียนฆ่าตาย และได้ยินมาว่าเย่เซิ่งเทียนกับหวางซีและคนอื่น ๆ ถูกตระกูลหลี่ไล่ออกจากตระกูลแล้ว
เปาเจิ้นรู้ว่าตระกูลซ่งนั้นไม่ธรรมดา เพราะมีตระกูลกู่ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลเก่าแก่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่มีตระกูลใดที่สามารถล่วงเกินตระกูลซ่งได้ แต่ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนฆ่าซ่งหยวนลี่ตาย ตระกูลซ่งไม่ยอมรามืออย่างแน่นอน
หากเย่เซิ่งเทียนและหวางซีมาร่วมงานแต่งของลูกชาย มันจะกลายเป็นการล่วงเกินตระกูลซ่ง หากเป็นเพียงแค่ตระกูลซ่ง เปาเจิ้นจะไม่ใส่ใจ แต่ตระกูลซ่งมีตระกูลกู่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งทำให้เขารู้สึกลำบากใจมาก
ด้านหนึ่ง เขาต้องการทำความรู้จักกับเย่เซิ่งเทียนก่อน เพราะเขาเชื่อว่าเย่เซิ่งเทียนไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
อีกด้านหนึ่ง เขาไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ที่แย่กับตระกูลซ่ง และทำให้ตระกูลกู่ขุ่นเคือง
แม้แต่ฝันเขาก็อยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ็ดตระกูลเก่าแก่
ดังนั้นตอนนี้เขาจึงสั่นคลอนเล็กน้อย
“ตระกูลเปาของผม ตอนนี้เป็นผู้ค้าผลิตภัณฑ์ยาอันดับหนึ่งของเจียงหนาน ตระกูลไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่ขาดอำนาจและพลัง ถ้าไม่มีอำนาจ ถึงจะมีเงินมากขนาดไหนก็ไม่ใช่ของตนเอง แต่ถ้าผมสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ็ดตระกูลเก่าแก่ได้ ตระกูลเปาก็จะมีทั้งอำนาจและพลัง”
“แต่เย่เซิ่งเทียนเป็นคนที่เหนือคน ผมมั่นใจว่าเขาเป็นคนที่สามารถสร้างอำนาจและบารมีได้อย่างรวดเร็ว ถ้าตอนนี้ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ต่อไปเขาจะจดจำน้ำใจของผมไว้”
“ผมไม่อยากจะละทิ้งเย่เซิ่งเทียนและตระกูลกู่ แล้วผมควรทำอย่างไรดี?”
เปาเจิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดกับตนเองว่า “ถ้าอย่างนั้นโยนเหรียญตัดสินใจเถอะ ถ้าออกหัวผมจะเลือกตระกูลกู่ แต่ถ้าออกก้อยผมก็จะเลือกคบค้าสมาคมกับเย่เซิ่งเทียนต่อไป”
เปาเจิ้นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หยิบเหรียญออกมาแล้ววางบนฝ่ามือและอธิษฐาน แล้วโยนมันขึ้นไป
“เชี่ย”
เมื่อเห็นผลลัพธ์สุดท้าย ทำให้เปาเจิ้นตกตะลึง
มันไม่ได้ออกหัวหรือออกก้อย แต่เหรียญตั้งตรง
“แม่งฉิบหาย นี่ควรจะนับอย่างไร? เป็นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?”